ตอนที่ 1158: การดำรงอยู่ที่ทรงพลัง (2)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1158: การดำรงอยู่ที่ทรงพลัง (2)

ปราณดาบสีทองที่รุนแรงปรากฏขึ้นอย่างฉับพลัน แสงของมันวิ่งผ่าอากาศอย่างไม่ชะลอช้าแม้แต่น้อย ปราณดาบยาวกกว่า 100 เมตรโอบล้อมเข้าใส่มนุษย์ทุกคนที่อยู่แถวนั้น

ในเวลาเดียวกันใบมีดสีเงินขนาดมหึมาก็พุ่งข้ามอากาศมาอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า มันพุ่งเข้าหาผู้เชี่ยวชาญของมนุษย์คนอื่นที่อยู่ในพื้นที่อื่น

อุณหภูมิโดยรอบเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับความร้อนที่พุ่งขึ้นมาอย่างพรวดพราด ทันใดนั้นเปลวเพลิงสีขาวที่ระเบิดขึ้นมาแสงดังพุ่งข้ามอากาศมา ผู้เชี่ยวชาญนับไม่ถ้วนกลัวที่จะอยู่ใกล้มัน พวกเขาทั้งหมดหวาดกลัวมัน

รุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่เข้าโจมตีพร้อมกัน พวกเขาเผชิญหน้ากับศัตรูทุกทิศทาง ด้วยอาวุธพลังงานดั้งเดิมของพวกเขาทำให้พวกเขาป้องกันเซียนราชานับไม่ถ้วนได้

แม้ว่าเซียนราชาจะไม่ทรงพลังเท่ากับวิญญาณแค้นแต่พวกเขามีสติปัญญา พวกเขารู้วิธีที่จะทำงานร่วมกันและพวกเขาก็รู้ทักษะลับโบราณเป็นจำนวนมากทั้งยังมีทักษะระดับเซียน การเผชิญหน้ากับพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายกว่าการเผชิญหน้าวิญญาณแค้น

เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของรุยจินและการโจมตีของของเฮยยู่ เซียนราชาทั้งหมดก็เริ่มที่จะโจมตีร่วมกันโดยทันที พวกเขาทั้งหมดใช้การโจมตีของพวกเขาไปที่ปราณดาบและใบมีดแสงในเวลาเดียวกัน

ไม่มีผู้เชี่ยวชาญคนไหนเป็นเซียนจักรพรรดิในหมู่มนุษย์ แต่การโจมตีจากเซียนราชาหลายสิบคน หรือแม้กระทั่ง 100 คน ก็ไม่ได้ด้อยกว่าเซียนจักรพรรดิคนหนึ่ง มันดูเหมือนว่าจะเกินกว่าการโจมตีของเซียนจักรพรรดิ แม้ว่าเซียนจักรพรรดิจะมาเอง เขาก็ทำได้แค่หลบเลี่ยงเท่านั้น

พร้อมกับเสียงที่ดังสนั่น การโจมตีของรุยจินและเฮยยู่ ที่มาจากอาวุธพลังงานดั้งเดิมถูกป้องกันโดยเซียนราชาทั้งหมด

อาวุธพลังงานดั้งเดิมนั้นทรงพลัง แต่เซียนจักรพรรดินั้นสามารถป้องกันมันได้ เซียนจักรพรรดิอาจจะแค่บาดเจ็บสาหัสเท่านั้นถ้าหากโดนมัน

ความเชื่อมั่นของผู้เชี่ยวชาญจากมนุษย์เพิ่มขึ้นหลังจากที่ป้องกันการโจมตีของรุยจินและเฮยยู่ได้ ความกลัวภายในของพวกเขาลดลง พวกเขาพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามไม่มีใครกล้าสัมผัสกับกำแพงไฟของหงเหลียน ทุกคนต่างอ้อมมันไป

ตอนนี้วิญญาณแค้นเริ่มน้อยลงเรื่อย ๆ ทรายทองมีประสิทธิภาพอย่างมาก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการต่อสู้กับวิญญาณแค้นอย่างมากและสามารถฆ่ามันได้อีกมากมาย เมื่อวิญญาณใช้พลังหมดไป มันก็ไม่อาจกลับคืนสู่สภาพเดิมได้และกลายเป็นแค่หมอกควันก่อนที่จะลอยหายไปในรังมรณะ หลังจากผ่านไปอีกหลายปีกว่าที่พวกมันจะหวนคืนมาได้

แน่นอนว่าวิญญาณแค้นส่วนน้อยที่หนีออกไปได้

วิญญาณแค้นจะไม่ตายภายในรังมรณะ

หงเหลียน ปล่อยค่ายกลสังหาร ! รุยจินตะโกนออกมาก่อนที่จะดึงสิ่งที่เขาได้เตรียมมาก่อนหน้านี้ เขาโยนมันออกไปและมันก็ถูกเปิดใช้งานกลางอากาศ มันแผ่ปราณที่ทรงพลังจนทำให้รัศมีรอบ ๆ กว่า 1,000 เมตรบิดเบี้ยว เซียนราชาทั้งหมดที่อยู่ที่นั่นหายไปและติดอยู่กับมิติรอบ ๆ ตัว

หงเหลียนขมวดคิ้วและใคร่ครวญ เราได้เตรียมค่ากลเหล่านี้เพื่อจัดการวิญญาณแค้นโดยเฉพาะ เราเปลี่ยนหลายอย่างและแทนที่จะเอาไปใช้กับวิญญาณแค้น หากเราใช้กับมนุษย์เหล่านี้ ข้อดีของค่ายกลสังหารก็แทบไม่อาจใช้ได้ มันไม่อาจปิดกั้นพวกเขาได้นาน อย่างไรก็ตามหงเหลียนไม่ลังเลแม้ว่านางจะพูดอย่างนี้ นางโยนค่ายกลสังหารไปยังเซียนราชา 30 คนที่ติดอยู่ภายใน ใกล้ ๆ มีเซียนราชากว่าร้อยคนที่อยู่ในนั้น มีค่ายกลสังหาร 2 อัน ทำให้พวกเขาเผชิญแรงกดดันไม่มาก

เฮยยู่ไม่มีค่ายกล เขาสังหารกลุ่มมนุษย์ตามรายทางด้วยมีดยาวของเขา เลือดเจิ่งนองไปทุกที่ ไม่มีใครสามารถต่อสู้กับเฮยยู่ได้ เว้นแต่ว่าเขาจะเป็นเซียนราชาที่อยู่ในขั้นสูงสุด ถึงอย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่ยากที่จะรับการโจมตีของเฮยยู่

เซียนราชาถูกเหวี่ยงกระเด็นลอยไปมาโดยเฮยยู่ ขณะที่เฮยยู่อาละวาดในกลุ่มของพวกขา มันเป็นเรื่องยากที่จะให้พวกเขาหลายสิบคนร่วมมือกันและใช้การโจมตีที่สุดยอด

รุยจินมองไปยังเจี้ยนเฉินและพูดว่า ค่ายกลสังหารเหล่านี้จะไม่ส่งผลต่อมนุษย์มากนัก พวกเขาจะถูกปลดปล่อยออกมาอีกไม่นาน เจี้ยนเฉินตามพวกเรามา เราจะฆ่าคนที่ขวางทาง

เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างดุดัน แผนของพวกเขาสามารถปรับให้สอดประสานต่อการเปลี่ยนแปลงได้ เดิมทีพวกเขาวางแผนที่จะให้เถี่ยต้าจัดการพวกเขาหลังจากที่ได้รับผลไม้เซียน แต่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากของมนุษย์มาที่นี่ ตอนนี้เจี้ยนเฉินทำได้เพียงให้เถี่ยต้าอยู่ในวัตถุเซียนเพื่อปกป้องตัวเขา

รุยจิน, หงเหลียนและเฮยยู่ เปิดทางไปด้านหน้า พวกเขาฆ่าเซียนราชาที่พุ่งเข้าใส่พวกเขาขณะที่เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้ยืนรอบ ๆ เหมือนกัน เขาถือยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ ในขณะที่ต่อสู้กับเซียนราชา 5 คน ที่อยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 7 และคนอื่น ๆ อยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 6 วัตถุเซียนลอยอยู่เหนือหัวของเขาเพื่อป้องกันการโจมตีเข้ามาเป็นครั้งคราว

พวกเขาทั้งสี่กลายเป็นศัตรูของส่วนรวมในสายตาของทุกคน พวกเขาได้รับการโจมตีจากทุกทิศทาง, ทักษะลับโบราณต่าง ๆ และทักษะการโจมตีระดับเซียน อย่างไรก็ตามการโจมตีก็พยายามทำร้ายรุยจิน, หงเหลียนหรือเฮยยู่ เนื่องจากพวกเขาสวมชุดเกราะพลังงานดั้งเดิม วัตถุเซียนยังช่วยป้องกันเจี้ยนเฉินจากการโจมตีด้วยทักษะการต่อสู้ 2 ทักษะเมื่อพวกเขาเริ่มลงมือโจมตี

ด้านหลังกลุ่มคนมีชายชรา 5 คนนั่งอยู่กลางอากาศด้วยเทคนิคลับ จากนั้นพวกเขาก็ชี้มาที่เฮยยู่จากระยะไกลและพลังงานก็แผ่ขยายออกมา มันยากเกินที่จะสัมผัสได้

ทันใดนั้นใบหน้าของเฮยยู่ก็เปลี่ยนไปขณะที่เขาต่อสู้ เลือดไหลออกมาจากมุมปากของเขาและเขาก็ตัวสั่นเล็กน้อย ใบหน้าของเขาซีดเซียว

เฮยยู่ เกิดอะไรขึ้น ? รุยจินถามทันทีที่สัมผัสถึงความผิดปกติของเฮยยู่ เขาเต็มไปด้วยความตกใจ

มันเป็นพิษ ผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงวางยาพิษข้า พวกเขาทำให้มันแทรกซึมเข้ามาในร่างกายของข้าตรง ๆ เป็นทักษะที่ยอดเยี่ยมนัก เฮยยู่อธิบายด้วยน้ำเสียงต่ำ ๆ ใบหน้าของเขาดำคล้ำขณะที่เลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากของเขาเป็นสีดำ

เจี้ยนเฉินประหลาดใจอย่างมากเมื่อมาถึงข้างเฮยยู่ เขาใช้วัตถุเซียนเพื่อปกป้องตัวเองขณะที่เขาใช้พลังเซียนธาตุแสงแผ่พุ่งเข้าไปยังร่างกายเฮยยู่

เฮยยู่โบกมือแล้วพูด มันไม่มีปัญหา พิษแรงเกินไป แต่ร่างกายของข้าก็ไม่ใช่ธรรมดา ๆ ข้าสามารถทนมันได้อีก 2-3 วัน

เจี้ยนเฉินก็รู้ว่าตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมารักษาพิษของเฮยยู่ เขาพูดว่า ผู้อาวุโสเฮยยู่ เมื่อเราออกมาจากที่นี่แล้วข้าจะใช้พลังเซียนธาตุแสงเพื่อขจัดพิษของท่านออกไปให้หมด

ใกล้ด้านหลังของฝูงชน ชายชราทั้งห้าที่ปล่อยพิษออกมานั้นยืนขึ้นในเวลาเดียวกัน หนึ่งในนั้นพูดกับทหารผ่านศึกทั้งห้าจากเมืองทหารรับจ้างใกล้ ๆ เราได้ใช้พิษทลายสวรรค์เพื่อทำร้ายหนึ่งในคนเหล่านั้นแล้ว มันถึงคราวที่พวกเจ้าทั้งห้าต้องเคื่อนไหวแล้ว

ชายชราทั้งห้าจากเมืองทหารรับจ้าง พวกเขายืนอยู่เป็นรูปด้าวห้าแฉก ทันใดนั้นพวกเขาก็แผ่พลังงานออกมาจากร่างกายของพวกเขา พวกเขาทั้งห้ากลายเป็นเสาแสง 5 สายที่พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า

ชายชราทั้ง 5 ได้มาถึงขั้นสูงสุดของเซียนราชามานานแล้ว พวกเขาอยู่ในจุดสูงสุดของการฝึกฝนแล้ว พวกเขาเป็นคนที่อยู่ใกล้กับเซียนจักรพรรดิอย่างมากและทรงพลังมาก

ทั้งห้าได้ใช้ทักษะลับออกมาพร้อมกัน ความปั่นป่วนนั้นทำให้หลาย ๆ คนสังเกตและพวกเขาก็เหลียวมองขึ้นมาทันที

ตระกูลเจียงหยางและผู้อาวุโสสูงสุดจากเมืองทหารรับจ้างยังคงอยู่ห่างออกไป พวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับการต่อสู้เพื่อแย่งชิงผลไม้เซียน เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้จักทักษะลับที่ทั้งห้าใช้ แต่พวกเขาก็เต็มไปด้วยความท้อแท้ที่พวกเขาไม่อาจหยุดยั้งอีกฝ่ายได้

ในตอนนี้การปรากฏตัวของชายชราทั้งห้าได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน การแสดงออกของพวกเขากลายเป็นน่ากลัว แม้กระทั่งพลังงานของทั้งห้าได้รวมกัน มันทำให้ผืนดินสั่นสะเทือนและเซียนราชาจำนวนมากสั่นไหวจากภายใน

เซียนจักรพรรดิ นี่คือการปรากฏตัวของผู้ที่เหนืออย่างเซียนจักรรดิเท่านั้น มันสามารถทำได้…

บางคนอุทาน ชายชราทั้งห้าได้ใช้ทักษะลับในการรวมพลังของพวกเขาด้วยกันจริง ๆ และพลังของมันก็เทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิ โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาได้ยกระดับเป็นเซียนจักรพรรดิด้วยวิธีการนี้ ทำให้คนอื่น ๆ ต่างตกตะลึง

ชายชราทั้งห้าถูกล้อมรอบด้วยพลังงานสีขาวสว่างราวกับพลังงานที่ยิ่งใหญ่ที่น่าหวาดกลัวแผ่ขยายออกมารอบ ๆ ของพวกเขา

พวกเขาทั้งห้าดูเหมือนจะมาเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของเมืองทหารรับจ้าง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะใช้ทักษะลับโบราณที่ทรงพลังมากและพวกเขาก็ได้ยกระดับความแข็งแกร่งจนถึงขีดสุด เซียนราชาคนหนึ่งที่มาจากตระกูลโบราณกล่าว เขาตกใจอย่างมากที่เมืองทหารรับจ้างซ่อนผู้เชี่ยวชาญที่ไม่มีใครรู้จักเหล่านี้เอาไว้

ในเวลานี้พลังงานมหาศาลได้ควบแน่นอย่างรวดเร็วเหนือชายชราทั้งห้า สุดท้ายพลังงานก็หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์ ฉากเบื้องหน้าสดใสและมีชีวิตชีวาอย่างมา มันดูราวกับเป็นอมตะ

โมเทียนหยุน นั่นโมเทียนหยุน เขาเป็นมนุษย์ที่อยู่เหนือผู้ใด โมเทียนหยุน…

ช่างเป็นทักษะลับบโบราณที่ทรงพลังอะไรเช่นนี้ ? มันสามารถสร้างร่างของโมเทียนหยุนได้…

ผู้คนนับไม่ถ้วนตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจ ในช่วงเวลานี้เซียนราชาทุกคนพยายามที่จะรักษาความสงบของพวกเขาแม้ว่าจิตใจของเขาจะอดทน แต่โมเทียนหยุนเป็นที่รู้จักกว้างขวางอย่างมาก แม้ว่าจะผ่านมาหลายล้านปีแล้วโมเทียนหยุนยังคงเป็นดั่งเทพในหัวใจของผู้คนมากมาย

ไม่เพียงแค่นี้มันเป็นเพราะเขาทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์รอดจากการรุกรานของร้อยเผ่าพันธุ์ แต่เขาก็ยังคงเป็นตำนานที่น่าเกรงขามในหมู่มนุษย์ เขาเป็นดั่งเพียงจักรพรรดิหนึ่งเดียวในฐานะมนุษย์