บทที่ 1087 ซื่อสัตย์

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1087 ซื่อสัตย์!

“ใครนะ?”

ประโยคนี้ออกมา ดลธีเองก็แปลกประหลาดใจมากจริงๆ ด้วย “ทำไมจู่ ๆ ถึงไปตรวจสอบเธอ? ท่านประธานทราบอะไรมาแล้วงั้นเหรอ?”

บอดี้การ์ดชุดดำ : “คงจะใช่ เขาให้พี่ไปสืบหามาว่าผู้หญิงคนนี้ล้มลงยังไง?”

เขานำคำพูดทุกถ้อยคำเหล่านั้นที่แสนรักพูดกับเขาเมื่อสักครู่บอกให้แก่ชายคนนี้

ดลธีฟังแล้วถึงจะเข้าใจ

หลังจากที่เดือนใจเกิดเรื่องพิมเจ้าก็ไม่ได้ไปที่เดอะวิวซีอีกเลยจริงๆ ตอนนั้นเขาก็เคยไปถามคนมาแล้ว พวกเธอก็บอกว่า เธอล้มลงตอนที่ไปตามหาตัวเดือนใจ

จากนั้น เขาก็ไม่ได้สนใจแล้ว

ไม่เพียงแต่เขาไม่สนใจ คนของทั้งเดอะวิวซี ก็ไม่มีใครเก็บมาใส่ใจด้วย

รวมทั้งไชยันต์

แต่ตอนนี้ แม้แต่แสนรักเองก็รู้แล้วว่าเธอล้มลง งั้นแสดงว่าอะไรล่ะ?

อันที่จริงคือง่ายมาก เมื่อคนคนหนึ่งคิดอยากจะปิดบังตัวเอง บ่อยครั้งที่การกระทำของเธอก็ถี่ขึ้นมากกว่าปกติ

เพราะว่าความกลัวและกังวลในหัวใจ เธอก็ยิ่งจะต้องแสดงหลักฐานให้คนเหล่าได้เห็นว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ เธอคิดว่า ยิ่งบอกคนเยอะเท่าไหร่ เธอก็จะยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้น

แต่เธอหารู้ไม่ว่า ยิ่งเธอตั้งใจมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คนเกิดความสงสัยมากยิ่งขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอโง่ถึงขั้นที่ว่ามาหาเส้นหมี่ และข้างกายของเส้นหมี่ ยังมีแสนรักซึ่งเป็นคนที่มีไอคิวสูงมากที่คนต่างพากันตกใจกลัวไปทั่วทั้งเมืองหลวง

ในที่สุดดลธีก็เข้าใจแล้ว ทันใดนั้น เขาทั้งตกใจทั้งโกรธจนด่าแม่ออกมา!

“คนสารเลวนี่ นายคอยดูนะ ฉันจะไปหิ้วหล่อนออกมาเดี๋ยวนี้ จากนั้นค่อยกลับมาคุยกับนายต่อ”

“……”

“อ่อใช่ กระต่ายขาวตัวน้อย นายไปอยู่ข้างกายท่านประธานได้อย่างไร? นายเมื่อก่อนตอนที่ดราก้อน แชนท์สลายตัว ท่านประธานไม่ใช่แนะนำนายให้ไปอยู่ที่สถาบันวิจัยแล้วเหรอ? ทำไมนายถึงออกมาอีกแล้ว?”

ใกล้จะวางสายแล้ว ในสายโทรศัพท์ผู้ชายคนนี้ก็ยังถามด้วยความอยากรู้ขึ้นมาอีกหนึ่งประโยค

บอดี้การ์ดชุดดำไม่อยากคุยกับเขาแล้วจริงๆ

ใบหน้าขาวหมดจดของเขาดูไม่พอใจ แล้วกดวางสายอย่างไม่ลังเลใจ

ดังนั้น เขาจึงไม่ได้ยินอีกหนึ่งประโยคที่ดลธีพูดเรื่อยเปื่อยอยู่ว่า อย่าให้เขาไปทะเลาะ การทะเลาะไม่เหมาะกับเขา

ก็ใช่ ใครจะหาเรื่องใส่ตัวที่จะพาคนคนหนึ่งในกรุ๊ปนักฆ่าที่รับผิดชอบเพียงแค่วิจัยพัฒนายาพิษและอาวุธออกไป คนประเภทนี้ แม้แต่ธนากรเองก็ไม่พาไปหรอก!

แต่คราวนี้แสนรักกลับพาไป

เฮลิคอปเตอร์บินประมาณสามชั่วโมง ในที่สุด ข้างล่างของเบื้องหน้าเห็นเป็น ทะเลทรายโกบี ที่ดูสุดลูกหูลูกตา ยังมีบ้านเรือนที่มีอยู่ประปราย

“ท่านประธานครับ พวกเราถึงเรียบร้อยแล้วครับ”

หลังจากที่บอดี้การ์ดชุดดำก็มองเห็นแล้วจากทางด้านหลัง ก็เตือนขึ้นหนึ่งประโยค

แสนรักพยักหน้า

ไม่นานเฮลิคอปเตอร์ก็ลงจอดบนสถานที่ที่บนพื้นที่ธงสีแดงขนาดใหญ่อันหนึ่งปักอยู่ สักครู่ หลังจากที่ใบพัดหยุดลงแล้ว แสนรักพวกเขาก็ลงมา ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่สวมชุดพื้นเมืองเดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“ประธานแสนรัก ในที่สุดคุณก็มาถึงแล้ว ลำบากคุณแล้วครับ”

“เปล่าครับ”

แสนรักทักทายอย่างเรียบง่าย

บอดี้การ์ดชุดดำก็ลงมาด้วยแล้ว แต่ตอนที่เขากำลังถือสมุดบันทึกธุรกิจเล่มนั้นของแสนรักอยู่ จากนั้นเขายังยื่นปากกาสีดำด้ามหนึ่งให้กับแสนรักด้วย

แสนรัก : “………..”

บอดี้การ์ดชุดดำ : “ท่านประธาน นี่ไม่ใช่ปากกาธรรมดานะครับ อันนี้ไว้สำหรับท่านไว้ป้องกันตัวครับ ด้ามหนึ่งก็เท่ากับระเบิดหนักห้ากิโลกรัมครับ!”

แสนรัก : “………..”

เป็นครั้งแรกที่เขาจ้องมองปากกาด้ามนี้และชายคนนี้ กลับมาความรู้สึกที่ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี

“โทอิส ในช่วงสองปีนี้นายทำอะไรในสถาบันวิจัย? พวกเขาให้นายวิจัยพัฒนาสิ่งนี้?”

“เปล่าครับ”

โทอิส รีบก้มหน้าลงทันที

“ทุกวันๆ พวกเขาจะให้ผมวิจัยพัฒนายา สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ผมแอบทำวิจัยและพัฒนามาครับ ท่านประธาน ผมรู้ว่าท่านจะต้องกลับมาอย่างแน่นอน ฉะนั้น สองปีมานี้ผมจึงไม่ได้หยุดหย่อน ผมวิจัยและพัฒนาอาวุธกับยาพิษใหม่มากมายหลายชนิด ทรงพลังเป็นอย่างมาก ระเบิดขนาดจิ๋วลูกหนึ่งที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ที่สุด สามารถทำลายเมืองเมืองหนึ่งได้เลย ท่านดูนี่ผมก็พามาด้วยแล้วครับ!!”

ชายหนุ่มคนนี้ค่อนข้างตื่นเต้นมากเลยทีเดียว

หยิบลูกปัดโลหะขนาดเท่าหัวแม่มือเม็ดหนึ่งออกมาจากตัวเขาแล้วชูมันขึ้นตรงหน้าของแสนรัก

แสนรักหรี่ตาทันที

หลังจากที่ถอยหลังไปหนึ่งก้าวตามสัญชาตญาณแล้ว เขาแตะก้อนหินก้อนหนึ่งที่อยู่บนพื้นอย่างแรงไปทางของเล่นชิ้นนี้!

นี่มันคืออะไรกัน?!!

ในสมัยนั้นตอนที่เขาลงทุนลงแรงทั้งหมดเพื่อเสี่ยงดวง รู้ว่าอาจไม่มีไข่ที่คงเหลืออยู่ในรัง ดังนั้นเพื่อรักษาคนที่พรสวรรค์ความสามารถอันโดดเด่นเหล่านั้นของดราก้อน แชนท์ไว้ เขาต้องใช้ความคิดเป็นอย่างมากในการส่งพวกเขาออกไป

ให้พวกเขาได้ไปอยู่ในสถานที่สามารถส่องแสงประกายได้

แต่ตอนนี้ เจ้าคนนี้บอกว่ายังคงวิจัยและพัฒนาระเบิดกับยาพิษ และยังสร้างสิ่งน่ากลัวเม็ดหนึ่งที่สามารถทำลายล้างเมืองเมืองหนึ่งได้อย่างสิ้นเชิง

ความคิดที่จะฆ่าชายคนนี้ให้ตายของแสนรักก็เกิดขึ้นแล้ว

แต่ในเวลานี้ พ่อค้าคนกลางนั้นหันหน้ามา : “ประธานแสนรัก คุณบอกว่าครั้งนี้จะปลอมเป็นคนของบริษัทพวกเราใช่ไหมครับ? งั้นคงต้องรบกวนให้คุณเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยแล้วครับ”

แสนรัก : “………”

เขาได้จ้องมองเขม็งที่บอดี้การ์ดคนนี้หนึ่งที หลังจากที่ใช้นิ้วมือชี้ไปยังลูกปัดเม็ดนั้นในมือของเขา เขาก็หันหลังเดินไป

โทอิสรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

แต่สุดท้ายยังคงเชื่อฟังนำลูกปัดเม็ดนี้ใส่กลับเข้าไว้ในตัวเหมือนเดิม จากนั้นรีบตามไปอย่างรวดเร็ว

ความจริงแล้ว โทอิส อายุยังน้อย ตอนนั้นเป็นเพราะเขาอายุไล่เลี่ยกับปอร์เช่ หน้าตาก็ละม้ายคล้ายคลึงกัน ตอนที่แสนรักกลับมาในประเทศ และปอร์เช่ตัวจริงก็ถูกเขาจับขังไว้ในประเทศ เขาจึงถูกเป็นตัวแทนของปอร์เช่ที่ถูกส่งให้มาอยู่ข้างกายเส้นหมี่ในเวลานั้น