“หะ? เป็นเจ้ารึ!” เทพสวรรค์ห่าวหลินสั่นสะท้านไปทั้งใจเมื่อได้ยินคำของเย่หยวนนั้น
มันมิใช่ว่าเขาไม่เชื่อ แต่เย่หยวนนั้นยังมีอายุที่น้อยจนเกินจะเชื่อได้
พวกเขาทั้งหลายนั้นย่อมจะคิดว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางนั้นไปโดนจักรพรรดิเทพสวรรค์หนุ่มเผ่ามนุษย์ทำร้ายเอา
ใครจะไปคิดว่าอีกฝ่ายกลับจะเป็นแค่เด็กหนุ่มเทพสวรรค์!
ที่สำคัญไปกว่านั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางยังกลับมาพร้อมด้วยบาดแผลสุดสาหัส
กว่าพันปีก่อนนั้นเย่หยวนจะมีความสามารถใด? มีหรือที่จะทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางบาดเจ็บได้สาหัสปานนั้น?
นี่มันคือคนระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์เชียวนะ?
จักรพรรดิเทพสวรรค์นั้นมีพลังชีวิตที่เหนือล้ำชีวิตคนทั่วไปมากทำให้ไม่อาจจะฆ่าสังหารลงได้ง่ายๆ
แต่ตอนที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางกลับมาถึงเมืองนั้นตัวเขาแทบจะไม่ต่างจากคนต่างไปแล้วแม้แต่น้อย
เทพสวรรค์ก็ทำร้ายจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้จนสาหัสปานนั้น?
หากพวกเขาได้รู้ว่าในเวลานั้นเย่หยวนยังไม่ได้เป็นเทพสวรรค์ใดๆ เขาอยู่เพียงแค่อาณาจักรลายพระเจ้าที่มีพลังเทียบเท่าอาณาจักรนภาสวรรค์แล้ว ไม่รู้ว่าคนทั้งหลายนี้จะแสดงสีหน้าอย่างไรออกมา
เย่หยวนจึงกล่าวตอบไป “อะไร? ไม่เชื่อหรือ? เช่นนั้นก็ลองไปเรียกเจ้านายของเจ้าออกมาสิ!”
ฟุบ!
วินาทีนั้นเองมันได้สีเงาดำพุ่งทะยานออกไปจากยอดเขาสูงสุดของเมือง บินหนีไปยังฝั่งตรงข้ามที่พวกเย่หยวนอยู่
นั่นทำให้เย่หยวนต้องเผยอยิ้มออกมาพร้อมก้าวเท้าออกไปถึงที่หมายในพริบตา!
ในวินาทีนั้นเย่หยวนได้เข้ามาถึงก่อนทั้งๆ ที่ออกตัวหลัง ปิดหน้าทางหนีของเจ้าเงาหมอกดำนี้ไว้
“แนวคิดแห่วห้วงมิติ!” ดวงตาของเหล่าปีศาจเบิกกว้างอย่างตกตะลึง
“เจ้าเด็กนรก รนหาที่ตายแล้ว!” ภายในหมอกดำนั้นมันเกิดเสียงร้องลั่นขึ้นมา
คลื่นพลังรุนแรงหนักหน่วงพุ่งเข้าใส่ตัวเย่หยวนในทันที
นี่มันคือคลื่นพลังของคนระดับเทพสวรรค์ขั้นปลาย!
แม้ว่าจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางนั้นจะยังไม่ได้ฟื้นตัวสมบูรณ์ แต่เขาก็กลับมามีพลังบ่มเพาะถึงระดับเทพสวรรค์ขั้นปลายแล้ว
ภาพนี้มันทำให้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้าง
“น้องเย่ ระวัง!” เทพสวรรค์เจาหยวนร้องบอกขึ้นมา
เหล่าเทพสวรรค์ฝ่ายปีศาจจึงยิ้มตอบ “หึๆ เจ้าโง่เง่า!”
จะอย่างไรม้าเจ็บมันก็ยังตัวใหญ่กว่าลา ไม่ว่าตัวเขานี้จะได้รับบาดเจ็บมามากมายปานใดแต่สุดท้ายเจี่ยวชางก็ยังเป็นจักรพรรดิเทพสวรรค์!
แม้ว่างเวลาแค่พันกว่าปีนี้มันจะไม่อาจช่วยให้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางฟื้นตัวได้สมบูรณ์ แต่มันก็มิใช่ทุกผู้คนจะจัดการเขาลงได้
ทางเย่หยวนนั้นก็ยืนนิ่งพร้อมกล่าวคำพูดหนึ่งขึ้น
“หยุด!”
เวลาหยุดนิ่งลง!
มิติปิดตาย!
“มังกรนอกรีตครองมิติ!”
ด้วยคำพูดเฉื่อยชานั้นมันก็เกิดเงาร่างมังกรฟ้าขึ้นมากระทืบเท้าลงใส่เงาหมอกดำนั้น
ตูม!
ความเร็วที่เจ้าหมอกดำนี้ถูกซัดไปมันเร็วกว่าตอนที่คิดหนีมาก!
กรงเล็บมังกรนี้มันซัดร่างของเจ้าหมอกสีดำจนไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูทางเข้าเขา!
เย่หยวนค่อยๆ ก้าวเดินตามมาจนถึงที่หน้าประตูท่ามกลางสายตาเบิกกว้างของผู้คนทั้งสองฝั่ง
“นี่มัน… นี่… เกิดอะไรขึ้น?” เหล่าเทพสวรรค์เผ่าปีศาจต่างไม่อาจเข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้
เย่หยวนไม่ตายหรือ?
ทำไมท่านเจี่ยวชางกลับเป็นฝ่ายโดนซัดมาแทนเล่า?
เทพสวรรค์เจาหยวนหรี่ตาลงพร้อมสูดหายใจเข้าลึก “นั่นมันคำบัญชาเต๋าสวรรค์! ในวินาทีนั้นเขาได้หยุดห้วงมิติเวลาลง!”
เหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายต่างต้องสูดหายใจเข้าไปด้วยความหวาดกลัวตามๆ กัน
หลังจากที่เย่หยวนกลับมาเขาได้แสดงฝีมือการโอสถจนทำให้ผู้คนต้องกราบไหว้
แต่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยจะได้แสดงฝีมือยุทธการต่อสู้ต่อสายตาผู้คนเลย
วันนี้เมื่อเขาใช้ทักษะเทวะภายในออกมาพร้อมๆ กันมันจึงทำให้คนทั้งหลายได้แต่ต้องอ้าปากค้าง
เพราะสองพลังทักษะเทวะภายในของเผ่ามังกรนี้มันเหนือล้ำจนเกินสามัญสำนึกของคนทั้งหลาย!
เทพสวรรค์ห่าวหลินกล่าวขึ้น “แนวคิดแห่งห้วงมิติ หยุดเวลา ทำลายค่ายกลระดับแปด… นี่มัน… เจ้าบ้านี่มันเป็นตัวอะไรกันแน่?”
“บ้าน่า! นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร! เวลาแค่พันกว่าปี! เหตุใดเจ้าจึงได้พัฒนาขึ้นมาได้ปานนี้?” เจ้าหมอกดำนั้นร้องถามขึ้นมา
เสียงของมันนี้เปี่ยมไปด้วยความตกตะลึงและหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด
เมื่อคิดย้อนกลับไปถึงวันนั้นที่เขาแปลงเป็นถังเหยียนลอบเข้าไปในโลกใบน้อยของจอมเทพนิรันดร์ เย่หยวนยังเป็นแค่นภาสวรรค์ตัวน้อยไร้ค่าใด
ในวันนั้นเย่หยวนเป็นเพียงแค่มดปลวกในสายตาของเขา!
เขานั้นคือจักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่ เขาย่อมไม่คิดสนใจเย่หยวนน้อยๆ นี้
เวลานั้นความสนใจทั้งหมดของเจี่ยวชางมันได้พุ่งเป้าไปที่จอมเทพนิรันดร์สิ้น
แต่เวลานี้เวลาผ่านไปแค่พันกว่าปี นอกจากเย่หยวนจะก้าวขึ้นมาถึงระดับเทพสวรรค์ได้แล้ว เขายังมีพลังมากพอที่จะทำร้ายเทพสวรรค์ขั้นปลายได้ง่ายๆ!
การพัฒนาระดับนี้สัตว์ประหลาดใดๆ มันก็คงไม่อาจเทียบได้!
เพราะสุดท้ายแล้วเจ้าเด็กนี้มันก็แค่มดปลวกที่คลานออกมาจากโลกใบน้อยของจอมเทพนิรันดร์เท่านั้น!
แต่เวลานี้เจ้ามดตัวนี้มันกลับกระทืบจักรพรรดิเทพสวรรค์อย่างเขาลงด้วยเท้า!
เย่หยวนจ้องมองดูที่หมอกดำนั้น “เจี่ยวชาง เรื่องราวของเราคงได้สะสางกันในวันนี้แล้ว!”
แต่จู่ๆ มิติก็เกิดสั่นไหวปรากฏให้เห็นหลายเงาร่างของผู้คนบนท้องฟ้าของเขาราบเพลิง
และเหล่าคนทั้งหลายนี้ต่างล้วนเป็นเทพสวรรค์สิ้น!
ส่วนคนที่นำหน้ามานั้นแต่งกายด้วยชุดคลุมสีดำ มีร่างกายกำยำไม่น้อยพร้อมด้วยคลื่นพลังในระดับของจักรพรรดิเทพสวรรค์!
เมื่อได้เห็นเช่นนั้นฝ่ายเทพสวรรค์มนุษย์ก็ต้องหน้าซีดขาวลง
เพราะไม่มีใครคิดฝันว่าทางเผ่าปีศาจจะเรียกยอดฝีมือมากมายปานนี้ออกมาได้ง่ายๆ
เวลานี้กำลังของทั้งสองฝ่ายมันได้พลิกกลับแล้ว!
“ฮ่าๆๆ… เด็กน้อย เจ้าคิดว่าจักรพรรดิผู้นี้จะยอมตายง่ายๆ หรือ? ในเมื่อเจ้าเดินมาหากับดักด้วยตัวเองแล้ว จักรพรรดิผู้นี้ก็จะส่งเจ้าไปหาเฒ่านิรันดร์มันเอง!” ภายในหมอกดำนั้นจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชางหัวเราะลั่นขึ้นมา
“เฮยหยาง ช่วยข้าสังหารมันที!” เจี่ยวชางร้องบอกจักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้มาถึงนั้น
ทางเฮยหยางเองก็หันหน้าไปหาเย่หยวนแต่ไม่ได้ลงมือใดๆ พร้อมจ้องมองดูเย่หยวนอย่างนิ่งงัน
ไม่นานนักเขาก็กล่าวถามขึ้นมา “เจ้าหนุ่ม เจ้า… คือบรรพกาลราตรี?”
เย่หยวนหรี่ตาลงตอบกลับไป “เจ้าคือเจ้าโถงโลหิตมรณะ?”
เย่หยวนนั้นเข้าใจได้จากชุดของคนทั้งหลายนี้ว่ามันคงเป็นคนของโถงโลหิตมรณะที่เขาแฝงตัวเข้าไปตอนที่ลอบเข้าไปในเผ่าปีศาจ!
ตอนนั้นตัวเขายังไม่ได้มีความรู้มากมาย คิดไปเสียว่าโถงโลหิตมรณะทั้งหมดสิ้นนั้นมันอยู่ใต้การควบคุมดูแลของจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวชาง
เขานั้นไม่เคยนึกฝันมาก่อนเลยว่าแท้จริงแล้วโถงโลหิตมรณะจะมีจักรพรรดิเทพสวรรค์คนอื่นๆ คอยดูแลอยู่!
เฮยหยางส่ายหัวออกมาเมื่อได้ยิน “โถงโลหิตมรณะนั้นมันมีอยู่ในทุกที่ที่มีเผ่าปีศาจ มันยิ่งใหญ่กว่าที่เจ้าคิดไปมาก จักรพรรดิผู้นี้เองก็เป็นแค่หนึ่งในเจ้าโถงย่อยของโถงโลหิตมรณะเพียงเท่านั้น มันเป็นเจ้าต่างหาก! เวลาแค่สองพันปีนี้เจ้ากลับบรรลุขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ขั้นกลางได้ มันน่ากลัวเสียจริงๆ!”
เย่หยวนนั้นลอบหนีออกมาจากโถงโลหิตมรณะพร้อมด้วยโถงบัลลังก์ม่วงนั้นมันได้ทำให้ทางโถงโลหิตมรณะเริ่มออกตามล่าตัวเขา
เรื่องราวเช่นนี้มันย่อมจะเป็นแค่เรื่องน้อยๆ ในสายตาของเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งหลาย ไม่จำเป็นต้องคิดสนใจใด
แต่นามของบรรพกาลราตรีที่ทำให้ทำนองแห่งยอดเต๋าดังขึ้นได้พร้อมเปลี่ยนโถงโอสถปีศาจของเมืองหลวงคาโปนให้พัฒนาไปอย่างมากล้นมันน่าสนใจ
เรื่องราวนี้มันทำให้เกิดความแตกตื่นไปทั่วทั้งโถงโอสถปีศาจแห่งโถงโลหิตมรณะไม่น้อย หลังจากนั้นแม้จะเป็นโถงโอสถปีศาจของเมืองจักรพรรดิหรือเมืองหลวงจักรพรรดิก็ยังต้องส่งคนไปเรียนรู้วิชาประสบการณ์ที่โถงโอสถปีศาจแห่งเมืองหลวงคาโปน
เวลานี้เหล่าคนทั้งหลายนั้นได้กลายเป็นสุดยอดนักหลอมโอสถแห่งเผ่าปีศาจ ขึ้นมามีตำแหน่งเหนือล้ำเป็นคนแนวหน้า
หลังจากเวลาผ่านไปกว่าสองพันปี การกระทำน้อยๆ ของเย่หยวนนั้นมันได้เปลี่ยนแปลงวงการโอสถของเผ่าปีศาจไปสิ้น!
แน่นอนว่าเรื่องทั้งหลายนี้มันล้วนเกิดขึ้นหลังจากเย่หยวนหนีออกไปแล้ว
และเพราะว่าเช่นนั้นเองที่ทำให้เฮยหยางสนใจเรื่องราวถึงขั้นเคยขอรูปภาพของบรรพกาลราตรีผู้นั้นไว้ จะได้จดจำรูปร่างของเขาได้
ตอนนั้นที่เย่หยวนแปลงกายเป็นบรรพกาลราตรี ตัวเขาไม่ได้เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาไปมากมาย ทำให้เฮยหยางพอจะจำขึ้นได้ในพริบตา
เย่หยวนจึงยิ้มตอบกลับไป “ข้าก็ไม่นึกเหมือนกันว่าบรรพชนพระเจ้าน้อยๆ คนหนึ่งมันจะทำให้จักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้ยิ่งใหญ่หันมาสนใจได้ เย่ผู้นี้ควรรู้สึกเป็นเกียรติดีหรือไม่?”
แต่เฮยหยางกลับส่ายหัวออกมา “ดูท่าเจ้าในเวลานี้แล้วความสนใจของข้าต่อตัวเจ้ามันจะยังน้อยไปเสียด้วยซ้ำ! จะว่าไปแล้วจักรพรรดิผู้นี้ก็ยังต้องขอบคุณเจ้าในเรื่องที่เกิดขึ้น!”
เฮยหยางนั้นกล่าวถึงความพัฒนาของโถงโอสถปีศาจจนทำให้คนทั้งหลายต้องเบิกตากว้างขึ้นพร้อมๆ กัน
ไม่มีใครคาดฝันว่าเย่หยวนจะเคยได้ผ่านเรื่องราวเช่นนี้มาก่อน
…………………………