ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 919 ผู้ฝึกมรรคากระบี่สำนักเต๋าอันดับหนึ่งหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

พอได้ฟังคำตอบของจักรพรรดิน้ำพุหลง เกาฉิงก็พลันงงงวย “เป็นไปได้อย่างไร”

“บูรพาจารย์ยังกล่าวว่า ในด้านวิชากระบี่ท่านย่าทวดในตอนนั้นเป็นคลื่นลูกหลังกลบคลื่นลูกหน้าไปแล้ว”

จักรพรรดิน้ำพุหลงยิ้มไม่กล่าววาจา

เกาเสวี่ยโพที่อยู่ด้านข้างเอ่ยอย่างเอื่อยเฉื่อยว่า “ตอนที่ท่านปู่น้อยของเจ้ายังเคลื่อนไหวอยู่บนโลกซ้อนโลก คนมอบฉายา ‘เทพกระบี่น้อย’ ให้แก่เขา เจ้าทราบใช่หรือไม่”

เกาฉิงพยักหน้า “เจ้าค่ะ หลานทราบ”

เกาเสวี่ยโพว่า “เมื่อมี ‘เทพกระบี่น้อย’ เช่นนั้นก็ย่อมมี ‘เทพกระบี่’ แล้ว”

“นี่…” เกาฉิงค่อยๆ เข้าใจ “ท่านปู่กำลังบอกว่า…”

เกาเสวี่ยโพเอ่ย “เก้านพเคราะห์แห่งเขาคุนหลุนในโลกซ้อนโลกโด่งดังไปทั่วใต้หล้า เรื่องนี้เจ้าเองก็ทราบ ในหมู่พวกเขามีอยู่คนหนึ่งที่ถูกยกย่องให้เป็นผู้ที่ฝึกมรรคากระบี่สำนักเต๋าอันดับหนึ่งหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่”

เกาฉิงเบิกตาโพลง

หลงเสวี่ยจี้ที่อยู่ด้านข้างกล่าวอย่างสงบนิ่งว่า “ราชันพระศุกร์ มีอีกนามหนึ่งว่า เทพกระบี่”

เขาดูใจลอยอยู่บ้าง “น่าเสียดายที่ไม่เคยเห็นความน่าเกรงขาม และวิชากระบี่ของเขาด้วยตาตัวเอง”

จักรพรรดิน้ำพุหลงเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “กระบวนท่ากระบี่ของศิษย์พี่ใหญ่ ข้าล้วนถ่ายทอดให้เจ้าไปหมดแล้ว แต่ว่าความน่าเกรงขามของเขา ข้าไม่มีวิธีชี้แนะผู้เยาว์อย่างพวกเจ้าจริงๆ”

หลงเสวี่ยจี้ได้ยินก็หัวเราะ

เกาฉิงปั้นสีหน้าสงสัยใคร่รู้ “แม้จะทราบว่าท่านปู่ทวดมาจากโลกซ้อนโลก แต่ก่อนหน้านี้กลับไม่ทราบว่า ราชันพระศุกร์เป็นศิษย์พี่ของท่าน”

จักรพรรดิน้ำพุหลงพูดด้วยรอยยิ้มราบเรียบว่า “โลกซ้อนโลกในปัจจุบันก็มีน้อยคนที่รู้เช่นกัน”

เกาฉิงพยักหน้า ความสนใจเปลี่ยนกลับมาเรื่องเดิมอย่างรวดเร็ว “ในตอนนั้นท่านปู่ทวดและท่านย่าทวดแพ้ให้แก่ราชันพระศุกร์จริงๆ หรือ อีกอย่าง ที่ว่าเป็นผู้ฝึกมรรคากระบี่สำนักเต๋าอันดับหนึ่งหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่…”

นางหน้านิ่วคิ้วขมวด

กระบวนท่าที่สืบทอดกันในสายเหนือพิสุทธิ์ ไม่ได้มีแค่สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนเท่านั้น

แต่ว่าสี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียนคือผลสำเร็จที่ยอดเยี่ยมที่สุดของมรรคากระบี่สำนักเต๋า สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์มาโดยตลอด

ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน มียอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ระดับสุดยอดของมรรคากระบี่สายเหนือพิสุทธิ์โผล่มาอย่างต่อเนื่อง

หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์แต่ละรุ่นโด่งดังขึ้นด้วยมรรคากระบี่ สั่นสะท้านใต้หล้า

ในสายตาของเกาฉิงแล้ว กษัตริย์ลี้ลับซึ่งเป็นย่าทวดของตนเอง คือผู้ฝึกฝนมรรคากระบี่อันดับหนึ่งของโลก

แม้ว่าโลกซ้อนโลกจะยังมีกษัตริย์กระบี่ ซึ่งเป็นยอดฝีมือที่ถูกเรียกเป็นกษัตริย์ก็ตาม

เรื่องที่ปู่น้อยหลงเสวี่ยจี้พกกระบี่เล่มหนึ่งเคลื่อนไหวอยู่ในโลกซ้อนโลก โดยไม่มีคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกัน เหมือนกำลังพิสูจน์ถึงเรื่องนี้

เกาเสวี่ยโพเอ่ยว่า “ในตอนนั้นราชันพระศุกร์มายังมรกตท่องฟ้าเพื่อท่านพ่อ ได้ประกระบี่กับท่านแม่ สุดท้ายเป็นท่านแม่พ่ายแพ้”

สีหน้าของเขาซับซ้อนเล็กน้อย “นี่เป็นท่านแม่บอกเล่าด้วยตัวเอง ในด้านมรรคาวิชากระบี่ ที่แล้วมาท่านแม่ไม่เคยพ่ายต่อผู้ใด ทว่ากลับแพ้ภายใต้กระบี่ของราชันพระศุกร์จากการต่อสู้ในครั้งนั้นจริงๆ”

“แต่ว่าทั้งสองสู้กันเพียงครั้งเดียว ในหลายปีมานี้วิชากระบี่ของท่านแม่เองก็รุดหน้าขึ้น นางยังรู้สึกเสียดายที่ไม่อาจสู้กับอีกฝ่ายได้อีกมาโดยตลอด”

เกาฉิงห่อปาก สีหน้าไม่พอใจนัก

เกาเสวี่ยโพมองหลานสาวของตัวเอง กล่าวอย่างแช่มช้าว่า “แม้แต่ท่านแม่ยังพ่าย ผู้สืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์อย่างพวกเราย่อมเสียหน้า”

“โชคดีที่ในตอนนั้นมรกตท่องฟ้ายังมีอีกคน…”

เกาฉิงปลุกปลอบจิตใจขึ้นมา ถามด้วยความสงสัยว่า “ไม่ใช่บอกว่าตอนนั้นบูรพาจารย์ได้รับบาดเจ็บ จึงเข้าฌานมาโดยตลอดหรอกหรือ นอกจากนี้…อืม…”

หากพูดกันแค่เรื่องวิชากระบี่ กษัตริย์ลี้ลับในตอนนั้นความจริงเหนือกว่าคนรุ่นก่อนแล้ว แต่ก็ยังคงแพ้ให้แก่ราชันพระศุกร์

“คนที่พี่ใหญ่ว่า ไม่ใช่บูรพาจารย์” หลงเสวี่ยจี้ยามนี้เอ่ยขึ้น “แต่เป็นท่านอาจารย์อาเล็กของพวกเรา หรือก็คือศิษย์น้องเล็กของย่าทวดของเจ้า”

เกาฉิงกะพริบตา เข้าใจโดยพลัน ปรบมือร้องว่า “ท่านอาเล็กกำลังพูดถึงท่านอาจารย์อาทวดที่เป็นจักรพรรดิหลินจือม่วงในตำนาน และได้ชื่อว่าจักรพรรดิกระบี่ผู้นั้นกระมัง”

ตำหนักท่องมรกตแห่งเขาหลินจือม่วง สถานที่พำนักของเทวกษัตริย์รัตนวิเศษ บรมครูสายเหนือพิสุทธิ์เมื่อครั้งอดีต

ใช้ชื่อหลินจือม่วงเป็นฉายาจักรพรรดิ อีกทั้งยังถูกยกย่องให้เป็นจักรพรรดิกระบี่ ความแข็งแกร่งในด้านพลัง และความสูงส่งของวิชากระบี่ที่อยู่ในตัวคนผู้นี้แค่คิดก็ทราบแล้ว

เพียงแต่ว่าฉายานี้ บนโลกซ้อนโลกในปัจจุบันก็มีน้อยคนนักที่ทราบ ในมรกตท่องฟ้าเองก็เป็นแค่ตำนานที่เล่าต่อกันมาในบันทึกคัมภีร์ ปกติแล้วทุกคนยากจะนึกถึง

เกาเสวี่ยโพว่า “ตอนนั้น ท่านอาจารย์อาเล็กกำลังเข้าฌาน โชคดีที่ไม่ได้เข้าฌานปิดตาย ราชันพระศุกร์ใช้กระบี่กดดันมรกตท่องฟ้า ผู้อาวุโสทุกท่านจนปัญญา ได้แต่เชิญนางออกฌาน”

เกาฉิงตื่นเต้น “ท่านอาจารย์อาทวดจะต้องเอาชนะราชันพระศุกร์ได้ใช่หรือไม่”

เกาเสวี่ยโพลูบเครา หัวเราะเสียงฝืดขมอย่างหาได้ยาก “ผลลัพธ์ของการต่อสู้ในครั้งนั้นคือเสมอ แต่ว่า…”

“แต่ว่าสุดท้าย ท่านอาจารย์อาเล็กก็ยอมรับว่าแพ้ไปครึ่งกระบวนท่า” หลงเสวี่ยจี้กล่าวต่อ “ท่านแม่กับผู้อาวุโสท่านอื่นต่างก็ยอมรบข้อสรุปนี้”

เกาฉิงร้องขึ้นอย่างไม่ยอมรับ “เพราะเหตุใดกัน”

เกาเสวี่ยโพถอนใจเอ่ยว่า “เพราะว่าการสืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์ของพวกเรา มีสี่กระบี่ลงทัฑณ์เซียนที่เทวกษัตริย์รัตนวิเศษถ่ายทอดให้ จึงเป็นผู้นำในด้านมรรคากระบี่สำนักเต๋ามาหลายปี ทั้งยังปรับปรุงแก้ไขมาเป็นร้อยเป็นพันครั้ง”

“ส่วนราชันพระศุกร์ใช้สติปัญญา ความเพียร และความเชี่ยวชาญของตัวเอง แปลงวรยุทธ์สายหยกพิสุทธิ์ สร้างกระบี่หยกมายาเบิกฟ้าเป็นของตัวเอง เป็นเหตุให้โลกใบนี้ในที่สุดก็มีวิชากระบี่สะท้านโลกที่ได้รับการขนานนามเคียงคู่สี่กระบี่รัตนา”

ต่อให้เป็นยุคเทพนิยายในช่วงปฐมกาลสถาปนาเทพเจ้า ค่ายกลกระบี่ลงทัณฑ์เซียนก็ยังถูกทำลาย กระบี่วิเศษสี่เล่มเช่นกระบี่ลงทัณฑ์เซียน ได้ตกไปอยู่ในมือผู้สืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ของเทวกษัตริย์บรรพกำเนิด

แม้ว่าจะเป็นในประวัติศาสตร์อันยาวนาน สายเอกพิสุทธิ์และสายหยกพิสุทธิ์ก็เคยให้กำเนิดยอดฝีมือผู้ยิ่งใหญ่ด้านมรรคากระบี่มาไม่น้อย

ทว่าหากพูดถึงความสำเร็จด้านมรรคากระบี่ การสืบทอดสายเหนือพิสุทธิ์แข็งแกร่งที่สุดในสำนักเต๋ามาโดยตลอด

สี่กระบี่ลงทัณฑ์เซียน ก็เป็นวรยุทธ์มรรคากระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักเต๋ามาโดยตลอดเช่นกัน

จนกระทั่งการปรากฏตัวของคนผู้หนึ่งและวิชากระบี่อีกชนิดหนึ่ง

ราชันพระศุกร์ และกระบี่หยกมายาเบิกฟ้าของเขา!

จักรพรรดิน้ำพุหลงไม่ได้กล่าววาใจใดมาโดยตลอด เห็นได้ชัดว่าจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

ความทรงจำของเขาได้ย้อนกลับไปเมื่อหลายพันปีก่อน

เงาร่างที่องอาจนั้นหัวเราะอย่างสง่างาม ‘ซิงเฉวียน มาๆๆ วันนี้จะให้เจ้าได้ดูของดี เป็นวิชากระบี่ที่ข้าคิดขึ้นมาเอง!’

อัจฉริยะคนรุ่นหลังที่มีมรรคาวิชากระบี่โดดเด่นที่สุดในสำนักเต๋าสองคน ต่อสู้ตัดสินกันในมิติไร้สิ้นสุดด้านนอกมรกตท่องฟ้า

คนหนุ่มในอารภรณ์สีม่วงฟันกระบี่หนึ่งมา กระบี่เปิดฟ้าดิน

ดรุณีสวมชุดสีขาวขวางกระบี่ไว้กลางอากาศ ทำลายฟ้าขยี้มรรคา

การต่อสู้ระดับสุดยอด ได้แสดงบทประพันธ์ที่ละลานตาที่สุดของมรรคาแห่งวิชากระบี่หลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ออกมา

จักรพรรดิน้ำพุหลงได้เห็นการต่อสู้ที่มีสีสันที่สุดในชีวิตด้วยตาตัวเอง เสน่ห์ของมันยังคงติดอยู่ในความทรงจำ จนถึงวันนี้ ยังคงทำให้เขาตกอยู่ในภวังค์

เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย หลายพันปีมาแล้วก็ยังไม่เคยเห็นอีก

เขารู้สึกตัว มองเกาฉิงที่มีใบหน้าตะลึงลาน กล่าวพร้อมกับหัวเราะว่า “เพราะสาเหตุนี้ ศิษย์น้องเล็กของย่าทวดของเจ้าจึงยอมรับว่าแพ้ไปครึ่งกระบวนท่า จักรพรรดิกระบี่สู้เทพกระบี่ไม่ได้”

“และเป็นเพราะการต่อสู้ครั้งนี้ จึงได้ตัดสินว่าตำแหน่งผู้ฝึกฝนมรรคากระบี่อันดับหนึ่งหลังวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ตกเป็นของผู้ใด”

เกาฉิงเหม่อลอยเพราะเหตุการณ์ที่เหนือจินตนาการของนาง

ครู่ต่อมา เกาฉิงค่อยมองปู่ทวดของตนอย่างน่าสงสารว่า “ท่านปู่ทวด ในเมื่อราชันพระศุกร์ชนะท่านย่าทวด และท่านอาจารย์อาทวดแล้ว เช่นนั้นท่าน…”

จักรพรรดิน้ำพุหลงยิ้มกว้างพร้อมกับเอ่ยว่า “ข้ายังอยู่ได้ ไม่อย่างนั้นจะแต่งกับย่าทวดของเจ้าได้อย่างไร หากข้าไปแล้ว ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเจ้า ไม่มีท่านปู่ของเจ้า ไม่มีท่านปู่น้อยของเจ้า และไม่มีอาเล็กของเจ้าหรอกหรือ”

………………..