มิติผีไร้แดนนั้นมันคือดินแดนที่ปกคลุมไปด้วยพลังหยางไม่มีนักยุทธเผ่ามนุษย์คนใดจะกล้ามาเหยียบ
ตำนานกล่าวกันว่าที่แห่งนี้เดิมทีเคยเป็นสนามรบในยุคโบราณที่มียอดฝีมือมากมายตายลง
จากนั้นวิญญาณตายโหงทั้งหลายและซากร่างไร้วิญญาณต่างก็ได้ผ่านการดูดซับพลังหยินนานหลายปีจนกลายเป็นยอดฝีมือผีเต๋าและศพเต๋าไป
และสุดท้ายสนามรบโบราณนั้นมันจึงได้เปลี่ยนแปลงกลายเป็นมิติผีไร้แดน
ที่แห่งนี้มันมียอดฝีมือผีอยู่มากมายอย่างที่ระดับเทพสวรรค์นั้นมีให้เห็นได้ทั่วไป
ตัวเย่หยวนนั้นได้เดินเข้ามาถึงยังเมืองผีเฟิงตูและทำให้เหล่าผีทั้งหลายต้องหันหน้ามามองที่ตัวเขาแทบจะพร้อมๆ กัน
“อะ มนุษย์งั้นเรอะ! ไม่ได้กินมนุษย์มาเสียนานปี! ไม่นึกเลยว่าวันนี้กลับจะมีคนเดินเอาร่างกายตนมาส่งถึงปากประตูเช่นนี้”
“หึๆ กลิ่นหอมเสียจริง! เลือดมันต้องหวานมากแน่!”
“อย่าได้มาแย่งข้า! เจ้ามนุษย์นี้เป็นของข้า!”
…
เมื่อเหล่าผีเต๋าระดับหกทั้งหลายเห็นเย่หยวนพวกมันก็ต่างน้ำลายไหลย้อนเหมือนได้เห็นอาหารอันโอชะ
มนุษย์นั้นคืออาหารสำหรับผีๆ ทั้งหลาย
ตูม!
เย่หยวนซัดคลื่นพลังออกมาจากร่างกายพร้อมด้วยคลื่นพลังของพิภพโกลาหลทำลายเหล่าผีเต๋าทั้งหลายจนไม่เหลือแม้แต่เศษเสี้ยว
เรื่องนี้ทำให้สีหน้าของผีที่อยู่ใกล้ๆ ตัวอื่นต่างซีดขาวลงอย่างมากมองดูเย่หยวนด้วยท่าทางอยากหนีเต็มทน
“เจ้า มานี่!” เย่หยวนเดินเข้าไปชี้หน้าศพเต๋าระดับหกตัวหนึ่งที่มีใบหน้าขาวซีด
เจ้าศพเต๋าตัวนี้เป็นผีจากซากศพทำให้มีหน้าต่างไม่ต่างจากมนุษย์นัก แต่บนใบหน้าของมันนั้นย่อมจะขาวซีดเพราะไม่มีเลือดใดๆ หล่อเลี้ยง
แต่ในเวลานี้ด้วยความกลัวที่มีล้นใจ ใบหน้าที่ขาวซีดอยู่แล้วของมันนั้นกลับยิ่งขาวลงกว่าเดิม
“ผ-ผู้อาวุโส มีคำสั่งใดหรือ?”
เย่หยวนถามขึ้น “ข้ามาหาผีเทพสวรรค์ขวังต้าว เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาอยู่ที่ใด?”
เมืองผีเฟิงตูนั้นเป็นเมืองผีระดับจักรพรรดิ กินพื้นที่กว้างใหญ่อย่างไร้สิ้นสุดโดยมีสามค่ายสำนักกองกำลังแก่งแย่งชิงอำนาจกันอยู่
สามค่ายสำนักนี้ล้วนแล้วแต่จะถูกตั้งขึ้นมาโดยผีระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์สิ้น โดยประกอบด้วยคฤหาสน์น้ำฮวยเยือก คฤหาสน์น้ำฮวยไพศาลและคฤหาสน์ข้ามน้ำฮวย
ผีเทพสวรรค์ขวังต้าวนั้นเคยบอกไว้ว่าตัวเขารับใช้จักรพรรดิเทพสวรรค์คังซูแห่งคฤหาสน์น้ำฮวยไพศาล
ผีศพตัวนั้นจึงได้ตอบกลับมา “ผีเทพสวรรค์ขวังต้าว? เขา… เวลานี้เขาถูกขังอยู่ในคฤหาสน์น้ำฮวยเยือก!”
“ขัง?” เย่หยวนขมวดคิ้ว
ศพเต๋าตนนั้นจึงพยักหน้ารับตอบกลับมา “หลายวันก่อนนั้นคฤหาสน์น้ำฮวยเยือกได้เข้าโจมตีคฤหาสน์น้ำฮวยไพศาลและทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตขึ้นมาในเมืองผีเฟิงตู ตัวผีเทพสวรรค์ขวังต้าวนั้นพลาดท่าถูกอีกฝ่ายจับไปและทางคฤหาสน์น้ำฮวยไพศาลก็เสียอาณาเขตไปหลายถนน”
เย่หยวนมองดูด้วยดวงตาหรี่เล็ก “นำทางไป”
ศพเต๋าตนนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะถาม “ไปที่?”
เย่หยวนตอบกลับมาด้วยใบหน้าเรียบเฉย “คฤหาสน์น้ำฮวยเยือก!”
นั่นทำให้เจ้าศพเต๋าต้องสั่นสะท้านไปทั้งกาย “ผู้อาวุโส คฤหาสน์น้ำฮวยเยือกนั้นมียอดฝีมือมากล้ำ แค่นับเหล่าเทพสวรรค์เองก็มีมากมายแล้ว! แค่ท่านคนเดียว…”
เย่หยวนขมวดคิ้วลงพร้อมกล่าวด้วยน้ำเสียงแฝงความไม่พอใจ “นำทางไป!”
ศพเต๋าตัวนั้นไม่อาจขัดได้แต่ต้องตอบรับด้วยเสียงสั่น “ขอรับ!”
เจ้าผีตนนั้นนำทางมาด้วยกายที่สั่นเทาก่อนที่สุดท้ายเย่หยวนจะเดินมาถึงจวนใหญ่แห่งหนึ่งที่กินพื้นที่ไม่น้อย
ส่วนที่ด้านหน้าจวนนั้นมันเขียนไว้ด้วยอักษรใหญ่โตว่า ‘คฤหาสน์น้ำฮวยเยือก!’
เย่หยวนรู้ดีว่าเหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ของมิติผีไร้แดนนี้คงไม่คิดออกมาง่ายๆ
ตราบเท่าที่จักรพรรดิเทพสวรรค์ไม่ออกโรงเองแล้วด้วยกำลังของอาณาจักรพิภพโกลาหลขั้นกลางของเขาในเวลานี้มันย่อมจะป้องกันตัวเองจากเทพสวรรค์ใดๆ ได้สิ้น
ที่สำคัญจักรพรรดิเทพสวรรค์ทั้งสามของเมืองผีเฟิงตูนี้มันก็เป็นเพียงแค่ผีอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาว
ต่อให้อีกฝ่ายจะออกหน้าเองเย่หยวนก็ยังพอมีปัญญาเอาตัวรอดได้
“เอ๋? มนุษย์!”
เมื่อยามเฝ้าคฤหาสน์น้ำฮวยเยือกเห็นเย่หยวนพวกเขาก็ต้องเบิกตากว้าง
เย่หยวนเดินก้าวเข้าไปถามทันที “ข้านั้นมาเพื่อเอาตัวผีเทพสวรรค์ขวังต้าวไป!”
ยามทั้งสองหันมองหน้ากันพร้อมหัวเราะลั่นขึ้น
“เอาตัวผีเทพสวรรค์ขวังต้าวไป? เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครมาจากไหนกัน?!”
“เป็นเด็กที่น่ากินจริงๆ! เลือดมันคงหวานมากแน่”
“เด็กน้อย ในเมื่อเจ้ามาถึงที่แล้วก็อย่าได้คิดจะจากไปเลย เวลานี้จงอยู่เป็นอาการให้เราเสียเถอะ!”
พูดจบยามทั้งหลายนั้นก็พุ่งตัวเข้ามาคิดฉีกร่างเย่หยวนออกเป็นชิ้นๆ
เย่หยวนได้แต่หัวเราะพร้อมกระทืบเท้าส่งคลื่นลมอันดุดันพุ่งออกมาจากใต้เท้า
ปัง ปัง ปัง…
ยามทั้งหลายนั้นตัวแตกตายลงกลายเป็นแค่ฝุ่นผงทันที
พร้อมๆ กันนั้นคลื่นสายลมมันก็ไม่ได้หยุดลงแต่พุ่งทะลวงเข้าไปสู่ด้านในของคฤหาสน์น้ำฮวยเยือกแทน
หลังจากสังหารยามทั้งหลายแล้วเย่หยวนก็เดินเข้าไปในจวนนั้น
เจ้าศพเต๋าผู้นำทางมานั้นต้องเบิกตากว้าง เดิมทีเขาคิดว่าเย่หยวนจะมาเจรจาใดๆ ไม่นึกว่ามาถึงก็จะลงมือฆ่าสังหาร
บ้าไปแล้ว
คฤหาสน์น้ำฮวยเยือกนั้นเป็นกองกำลังของจักรพรรดิเทพสวรรค์!
ต่อให้จะเป็นเทพสวรรค์ที่เก่งกาจปานใดมันก็คงไม่มีใครกล้าบ้าบุกเข้าไปตรงๆ เช่นนี้หรอกมิใช่หรือ?
ดีจริงๆ เจ้าเด็กคนนี้มันโอหังนัก!
เย่หยวนสร้างความปั่นป่วนขนาดนั้นตั้งแต่หน้าประตูเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายย่อมจะสัมผัสได้ทันที
เวลานี้มันปรากฏผีเต๋าอีกตนมาหยุดลงที่ตรงหน้าเย่หยวน “เด็กมนุษย์ เจ้าคิดจะมาทำตัวเช่นนี้ในคฤหาสน์น้ำฮวยเยือก คิดรนหาที่ตายหรือ?!”
เย่หยวนนั้นมองดูที่อีกฝ่ายก่อนจะกล่าวออกมา “ปล่อยตัวผีเทพสวรรค์ขวังต้าวออกมาแล้วข้าจะไป”
อีกฝ่ายจึงได้แต่ต้องหัวเราะ “เจ้าคิดว่าตนเองเป็นใครมาจากไหน คิดสั่งให้เทพสวรรค์ผู้นี้ทำแล้วเทพสวรรค์ผู้นี้ก็ต้องทำตามคำเจ้าหรือ? เช่นนั้นแล้วคฤหาสน์น้ำฮวยเยือกจะยังมีหน้าไปพบใครได้?”
เย่หยวนตอบกลับไป “เจ้าเข้าใจผิดหรือไม่? ข้าไม่ได้มาเจรจา ข้าแค่บอก! หากเจ้าไม่คิดทำตามที่ข้าบอก ข้าก็จะเดินหน้าเข้าไปหาเขาเอง!”
ผีเต๋าตัวนั้นไม่อาจจะมองพลังที่แท้ของเย่หยวนได้แจ่มชัดนักแต่เขานั้นเห็นว่าเย่หยวนยังเป็นหนุ่มน้อย ต่อให้จะก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้มันก็คงไม่สูงล้ำนัก
เพราะฉะนั้นเขาจึงหัวเราะออกมาพร้อมปล่อยลมเย็นเยือกใส่เย่หยวน
เย่หยวนยกมือขึ้นมาวาดตราและหมุนฝ่ามือหนึ่งครั้งก่อนจะร้องบอก “ผนึก!”
ค่ายกลฉับพลัน!
ผีเต๋าเทพสวรรค์ตนนั้นถูกเย่หยวนผนึกลงในค่ายกลทันทีอย่างไม่อาจจะขยับกายได้อีก
เวลานี้เย่หยวนได้พลังดั่งเดิมกลับคืนมาและพัฒนาไปอีกขั้น แน่นอนว่าพลังของมหาค่ายกลร้อยสำนักผนึกเก้าสวรรค์เองก็จะพัฒนาขึ้นไปอย่างเหนือล้ำด้วยเช่นกัน
การจัดการกับเทพสวรรค์สองดาวใดๆ นี้มันย่อมจะง่ายอย่างไม่ต้องออกแรงเสียด้วยซ้ำ
ผีเต๋าเทพสวรรค์ตนนั้นต้องเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง ไม่นึกไม่ฝันว่ายังไม่ทันได้ทำอะไรตัวเขาก็จะถูกเย่หยวนผนึกลงเสียแล้ว
เวลานี้ไม่ว่าจะใช้กำลังเท่าใด เขาก็ไม่อาจจะขยับร่างกายได้!
เจ้ามนุษย์คนนี้มันเก่งกาจปานนี้ได้อย่างไร?
ไม่นานมันก็ปรากฏผีเต๋าเทพสวรรค์อีกตนขึ้นมาขวางทางเย่หยวนแต่สุดท้ายก็ถูกเย่หยวนผนึกลงในพริบตา!
ส่วนเหล่าผีเต๋าระดับหกทั้งหลายในคฤหาสน์น้ำฮวยเยือกนั้นได้แต่มองดูภาพตรงหน้าด้วยดวงตาที่แทบหลุดออกจากเบ้า
“เจ้าเด็กมนุษย์คนนี้มันเป็นใครกัน? ยังไม่ทันได้เอาจริงใดๆ ก็จัดการเหล่ายอดฝีมือของคฤหาสน์น้ำฮวยเยือกได้กว่าครึ่งแล้ว!”
“เจ้าเด็กคนนี้มันเป็นสุดยอดจอมเทพค่ายกลระดับเจ็ด น่ากลัวเสียจริง! หากมิใช่เพราะเขายังมีปรานีแล้วเหล่าท่านเทพสวรรค์ทั้งหลายของเราคงสลายลงสิ้น!”
“เจ้าเด็กคนนี้มันมาเพื่อหาตัวผีเทพสวรรค์ขวังต้าว! มันกล้าที่จะบุกเข้ามาในคฤหาสน์น้ำฮวยเยือกด้วยตัวคนเดียว! บ้าไปแล้ว! หากท่านฉือจือมาถึงมันต้องตายแน่!”
…
พูดไปมันก็ปรากฏร่างของศพเต๋าใบหน้าซีดขาวขึ้นมาดักหน้าเย่หยวนไว้อีกครั้ง
“เด็กน้อย พอเท่านี้แหละ! เข้าไปมากกว่านี้เจ้าจะได้ตายอย่างไร้ที่กลบฝัง!” ฉือจือร้องบอก
เย่หยวนมองดูที่ผีตรงหน้าพร้อมกล่าว “ก็อย่างที่ข้าบอก ปล่อยตัวผีเทพสวรรค์ขวังต้าวออกมาแล้วข้าจะไป”
เทพสวรรค์ฉือจือเองก็ตอบกลับมาด้วยใบหน้าจริงจัง “ในเมื่อเจ้ารนหาที่ตายแล้ว เทพสวรรค์ผู้นี้ก็จะส่งเจ้าไปเอง! ฮา!”
เขานั้นร้องลั่นขึ้นมาพร้อมพุ่งตัวใส่เย่หยวนทันที
เทพสวรรค์ฉือจือนั้นเป็นผีเทพสวรรค์ที่มีซากร่าง พลังของกายเนื้อเขานี้มันคงมากพอที่จะขึ้นระดับเจ็ดขั้นปลายได้
เหล่าซากศพผีเทพสวรรค์นี้บ่มเพาะกายเนื้อได้อย่างหนักแน่นมีร่างกายแข็งแกร่งพอที่จะต้านทานพลังของสมบัติวิญญาณเทพสวรรค์ได้ง่ายๆ
น่าเสียดายที่อีกฝ่ายมันคือเย่หยวน
ปัง ปัง ปัง…
ในพริบตาคนทั้งสองก็ปะทะกันไปหลายกระบวนท่า
เทพสวรรค์ฉือจือนั้นต้องถอยกลับไปไกลพร้อมมองดูที่ฝ่ามือของตนที่เหมือนมิใช่ของคนอีกต่อไป
เย่หยวนมองดูที่ฉือจือด้วยสายตาผิดหวัง “เจ้าคิดจะมาเทียบกายเนื้อกับข้า?”
เทพสวรรค์ฉือจือได้แต่ต้องมองดูเย่หยวนด้วยท่าทางหวาดกลัว “กายทองคำสัมบูรณ์ระดับเจ็ด!”
…………………………