บทที่ 758

หานเหม่ยฉิงก็ชื่นชมว่า “ไม่คิดเลยว่า อาหารพวกนี้ คุณยังจำได้อีก บอกตามตรง บางอย่างฉันก็จำไม่ได้แล้ว”

พูดไป หานเหม่ยฉิงก็พูดอีกว่า “จริงๆ แล้วอาหารซูหางบ้านฉันก็อร่อยมาก แต่ไม่รู้ทำไมพอหลังจากมาเรียนที่จินหลิงแล้ว ฉันก็ชอบอาหารของจินหลิงมากกว่า”

เซียวฉางควนก็ยิ้มพูดว่า “ผมยังจำได้ว่า ตอนนั้นคุณบอกว่าอยากจะทำอาหารซูหางให้ผมได้ลองชิมดู แต่เสียดาย…………”

พอพูดถึงจุดนี้ เซียวฉางควนก็รีบถามว่า “เอ่อเหม่ยฉิง เมื่อครู่ที่เราคุยกันว่าจะไปทำกับข้าวที่บ้านผม คุณคิดว่าอย่างไร? บอกตามตรง ว่าผมได้รอมาหลายปีแล้ว แม้แต่ฝันผมก็อยากจะทำมันให้เป็นจริง!”

พอหานเหม่ยฉิงได้ยินดังนั้น ในใจก็ยิ่งซาบซึ้ง ดังนั้นเธอก็เลยพูดว่า “ฉันน่ะไม่มีปัญหาหรอก แต่ไม่รู้ว่าพอลจะมีเวลาหรือเปล่า”

พูดจบ เธอก็หันไปมองแล้วถามพอลว่า “ลูกแม่ คืนนี้ลูกมีเรื่องอะไรที่ต้องจัดการหรือเปล่า? ถ้าไม่มี พวกเราไปกินข้าวที่บ้านคุณลุงเซียวเป็นไง? จะได้ไปทำความรู้จักลูกสาวของคุณลุงเซียวด้วย”

พอลก็พยักหน้ายิ้มพูดออกมาเลยว่า “แบบนั้นก็ดีเลยสิครับแม่”

พอเซียวฉางควนได้ยินดังนั้น ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที

แล้วรีบพูดว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็ตกลงเลยนะครับ เหม่ยฉิง คืนนี้คุณอยากจะทำเมนูอะไร? ”

เหม่ยฉิงยิ้มพูดว่า “ไอ้หยา คุณจะให้ฉันบอกตอนนี้ ฉันก็คิดไม่ออกในทันทีเลยหรอกนะ………..”

พูดจบ เธอก็เหมือนคิดอะไรออก แล้วยิ้มพูดว่า “เอาอย่างนี้ เดี๋ยวพวกเราเพิ่มเพื่อนในวีแชทกันก่อน เดี๋ยวรอฉันคิดออก แล้วจะบอกคุณในวีแชท แล้วก็รบกวนคุณไปตลาด เพื่อซื้อวัตถุดิบและเครื่องปรุง แล้วก็ คุณก็ส่งที่อยู่ของบ้านคุณมาด้วย ประมาณ5โมงครึ่ง เดี๋ยวฉันกับลูกชายจะไปหาคุณ”

เซียวฉางควนก็หยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างตื่นเต้น เปิดวีแชทหน้าสแกนคิวอาร์โค้ดของตนเองขึ้นมา แล้วพูดว่า “เหม่ยฉิง เดี๋ยวผมสแกนคุณ”

ทั้งสองคนไมได้ติดต่อกันมา20กว่าปี แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของเซียวฉางควน เหม่ยฉิงก็ขอมาจากเพื่อนเก่าเหมือนกัน ดังนั้น ทั้งสองคนไม่เคยเป็นเพื่อนกันในวีแชท

ยุคสมัยนี้ วีแชทนั้นสำคัญกว่าเบอร์ติดต่อแล้ว

เบอร์ขอคุณนั้น พนักงานส่งของ พนักงานส่งอาหาร หรือแม้แต่พวกโฆษณาขายของหรือพวกหลอกลวงก็รู้กันหมด แต่วีแชทที่เพิ่มกัน ก็มีแต่เพื่อนของคุณ หรือไม่ก็คนที่คุณรู้จัก

ดังนั้น ถ้าได้เพิ่มวีแชทกัน ก็ถือว่าเป็นการติดต่อกันอย่างเป็นความลับมากขึ้น

ยิ่งกว่านั้น พอเพิ่มวีแชทกันแล้ว ก็จะสามารถเห็นหน้าโพสของเพื่อนคุณ สามารถเห็นรูปภาพหรือคลิปวิดีโอของฝั่งตรงข้าม หรือการเคลื่อนไหวต่างในชีวิต

ถ้าหากว่าอีกคนสนใจในอีกคนล่ะก็ ก็จะอดไม่ได้ที่จะดูการเคลื่อนไหวในหน้าโพสวีแชทของอีกคนได้ทันที

ในตอนนี้ ความคิดของหานเหม่ยฉิงและเซียวฉางควนนั้น เหมือนกันไม่มีผิด

พอเห็นทั้ง2คนเพิ่มวีแชทกัน พอลก็ควักโทรศัพท์ของตนเองออกมาด้วย แล้วพูดกับเย่เฉินอย่างมีมารยาทว่า “คุณเย่ครับ พวกเราก็เพิ่มวีแชทกันด้วยสิครับ เผื่อเอาไว้ติดต่อกัน”

จริงๆ แล้วเย่เฉินไม่ชอบเพิ่มวีแชทคนแปลกหน้า แต่ในเมื่อพอลก็เอ่ยปากขึ้นมาก่อน ตนเองก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ ดังนั้นก็เลยเปิดหน้าสแกนของโทรศัพท์ของตนเอง แล้วพูดว่า “โอเค เดี๋ยวผมสแกนคุณ”

หลังจากทั้ง2คนเพิ่มวีแชทกันแล้ว พอลก็ถามเย่เฉินอย่างสงสัยว่า “ไม่ทราบว่าคุณเย่ทำงานที่ไหนหรือครับ? ”

เย่เฉินก็ยิ้มพูดว่า “ผมไม่ได้ทำงานที่ไหนหรอกครับ ผมอยู่ที่บ้านเฉยๆ งานปกติทั่วไปก็คือ ทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ซื้อกับข้าว ทำกับข้าว”

พอลได้ยินดังนั้น ก็อึ้งไป แต่ก็ไม่ได้เห็นสายตาหรือสีหน้าที่ดูถูกเย่เฉินออกมาเลย กลับยิ้มพูดว่า “คุณเย่ครับ ชีวิตแบบนี้มันดูว่างสบายดีนะครับ บอกตามตรงผมอิจฉาอยู่เหมือนกัน!”