ตอนที่ 1692 วางแผน

Alchemy Emperor of the Divine Dao

คำพูดของอีกฝ่ายไม่ได้เสแสร้ง

หลิงฮันพยักหน้าและกล่าว “ดื่มน่ะไม่มีปัญหา แต่สตรีคงไม่จำเป็น”

“ฮ่าๆ ดื่มกันแค่สองบุรุษจะไปสนุกอะไร?” ต้วนจวินฮึดฮัด “หรือเจ้าจะไม่เคยมีสตรีเคยเข้าหาจึงรู้สึกเขินอาย? ไม่ต้องกังวล พี่ชายคนนี้รับประกันว่าเจ้าจะต้องชอบแน่”

ต้วนเหวินที่ดูอยู่จากแท่นสูงทนไม่ไหวและกระแอมออกมาเบาๆ หากเจ้าแพ้ก็ทำตัวให้เหมือนคนแพ้หน่อย เจ้าจะไปชวนคนอื่นดื่มกินเที่ยวสตรีทำไม?

แต่ไม่ว่าอย่างไรหลิงฮันก็เป็นเมล็ดพันธุ์ที่คู่ควรแก่การรับเข้าตระกูลเป็นอย่างมาก เพราะงั้นการที่ต้วนจวินสร้างมิตรภาพกับหลิงฮันจึงถือว่าเป็นเรื่องดี

การประลองมาถึงจุดสิ้นสุด ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่ากลุ่มที่คว้าชัยชนะและมีสิทธิได้ไปเข้าร่วมการประลองยุทธในเมืองจันทราหม่นแสงจะเป็นกลุ่มจากกองกำลังสำรอง

แต่เดิมจุดประสงค์ที่ให้กองกำลังสำรองเข้าร่วมการประลองคัดเลือก เป็นเพราะต้องการให้ครบสี่กลุ่มเพื่อความยุติธรรมเท่านั้น

ทางด้านสามตระกูลใหญ่เรื่องพูดคุยกันถึงเรื่องของหลิงฮัน ตระกูลล้งและตระกูลต้วนต้องการให้หลิงฮันเข้าร่วมกับพวกตน ในขณะที่ตระกูลติงปรึกษากันอย่างเคร่งเครียดว่าจะจัดการหลิงฮันหรือซื้อตัวหลิงฮันให้เข้าร่วมกับพวกเขาดี

ท้ายที่สุดเสียงข้างมากก็เอนไปทางฝั่งจัดการหลิงฮัน ด้วยเหตุผลที่ว่าตระกูลติงและหลิงฮันนั้นมีความบาดหมางกันอย่างรุนแรง ต่อให้พวกเขาจะสนใจในตัวหลิงฮันขนาดไหนก็คงไม่อาจแย่งชิงมาจากตระกูลต้วนหรือตระกูลล้งได้ เพราะงั้นแทนที่จะปล่อยเมล็ดพันธุ์เช่นนี้ไว้สู้จัดการทิ้งไปเลยดีกว่า

อย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วคือเม่าไต้ การปรากฏตัวของเม่าไต้ได้ส่งผลต่อความสมดุลของสามตระกูลใหญ่ ไม่ว่าเขาจะเข้าร่วมกับตระกูลไหนอำนาจของตระกูลนั้นก็จะโดดเด่นเหนือกว่าอีกสองตระกูล

และไม่ต้องสงสัยเลยว่าตราบใดที่หลิงฮันเติบโตยิ่งกว่านี้ เขาจะก่อให้เกิดคลื่นลูกใหม่ที่รุนแรงยิ่งกว่า!

แค่คิดถึงวันนั้นในอนาคตภายภาคหน้า ตระกูลติงก็ไม่อาจนิ่งเฉย

“อย่างลืมว่าเม่าไต้มีบุตรสาวที่ยังไม่ได้แต่งงานอยู่คนหนึ่ง” ติงหู่คือคนที่สนับสนุนให้จัดการหลิงฮันมากที่สุด “เมื่อไม่กี่วันก่อน เม่าไต้ได้สั่งย้ายข้าออกจากหน้าที่ดูแลกองกำลังสำรองและเรียกเจ้าหนูนั่นเข้าพบ”

“หืม ที่เจ้าอยากบอกคือเม่าไต้ถูกใจเจ้าหนูนั่นและคิดจะตบแต่งบุตรสาวให้เขา?” สมาชิกตระกูลติงคนอื่นตะลึง

เหล่าผู้อาวุโสตระกูลมองหน้ากันด้วยสีหน้าจริงจัง

“เม่าไต้คืออัจฉริยะที่มีศักยภาพสามดาวครึ่ง ด้วยระยะเวลาไม่ถึงร้อยล้านปีเขาคงสามารถบรรลุระดับโลกียนิพพานสี่นิพพานได้สำเร็จ!”

“เจ้าหนูนั่นเองก็มีศักยภาพสามดาวครึ่งเช่นกัน แต่จากความรู้สึกของข้า ในตอนทดสอบเจ้าหนูนั่นคงยังไม่ได้เอาจริง ศักยภาพแท้จริงของเขาเหนือกว่าที่เผยให้เราเห็น”

“หากหลิงฮันแต่งงานกับบุตรสาวของเม่าไต้จริง ในอนาคตตระกูลเม่าจะมีนิรันดร์สี่นิพพานอยู่ถึงสองคนและระบบอำนาจของเมืองธุลีจันรทราจะต้องถูกเขียนขึ้นใหม่”

แม้จะเป็นตระกูลใหญ่อย่างตระกูลติงก็มีนิรันดร์สี่นิพพานอยู่เพียงคนเดียวซึ่งก็คือติงเหยาหลง แม้ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของตระกูลติงจะมีนิรันดร์สี่นิพพานเกิดขึ้นมาไม่น้อย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทะลวงผ่านระดับแบ่งแยกวิญญาณได้และสิ้นชีพด้วยบาปเคราะห์แห่งสวรรค์

ในดินแดนแห่งเซียน เวลาคือสิ่งที่ล้ำค่ามาก ต่อให้จะกลายเป็นนิรันดร์และมีอายุขัยไร้ขีดจำกัด แต่หากไม่สามารถยกระดับพลังบ่มเพาะให้สูงขึ้นได้ ท้ายที่สุดก็จะถูกสวรรค์และปฐพีคร่าชีวิตไป

“เม่าไต้มีศิษย์อยู่คนหนึ่ง ศิษย์คนนั้นดูมีความสนใจในตัวบุตรสาวของเท่าไต้เป็นอย่างมาก” จู่ๆติงเหยาหลงก็เอ่ยขึ้นมา

“ท่านประมุข หรือท่านต้องการทำให้ศิษย์ของเม่าไต้และบุตรสาวของเขาแต่งงานกัน?” ติงหู่กล่าวถามอย่างสุภาพ หากใช้วิธีนี้ก็จะสามารถขัดขวางความสัมพันธ์ของหลิงฮันกับเม่าไต้ได้

ติงเหยาหลงยิ้มเจ้าเล่ห์และกล่าว “ไม่ใช่ เราจะทำให้หลิงฮันกับบุตรสาวของเม่าไต้มีความรู้สึกดีๆต่อกัน”

โอ้!

เหล่าผู้อาวุโสมองหน้ากันด้วยสีหน้ามึนงง นี่ประมุขไม่กลัวว่าหลิงฮันกับเม่าไต้กลายเป็นตระกูลเดียวกันหรือย่างไร

‘แปะ แปะ แปะ’ ใครบางคนปรบมือและหัวเราะ “เป็นแผนการที่ยอดเยี่ยม ท่านประมุขปราดเปรื่องยิ่งนัก!”

ผู้อาวุโสคนอื่นๆมองไปยังชายที่ปรบมือ นี่เจ้าอยากประจบจนต้องแสดงออกอย่างหน้าด้านๆเช่นนั้นเลย?

ชายผู้นั้นอธิบาย “ปัจจัยหลักของแผนการคือศิษย์ของเม่าไต้ที่หลงรักบุตรสาวของเม่าไต้ หากพวกเราทำให้หลิงฮันใกล้ชิดกับบุตรสาวเม่าไต้ได้ พวกเจ้าคิดว่าจางชงจะทำอย่างไร?”

“เขาต้องสังหารเจ้าหนูนั่นแน่นอน!” ใครบางคนเอ่ยตอบ มีข่าวลือว่าจางชงนั้นจะทะลวงผ่านระดับโลกียนิพพานเมื่อหุบเหวสืบสานนิพพานเปิดออก

“ฮ่าๆๆ!” เหล่าผู้อาวุโสหัวเราะ พวกเขาไม่สนว่าเม่าซูอวี่ที่เป็นเหยื่อของแผนการนี้จะรู้สึกอย่างไร ในสายตาของพวกเขาเพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายแล้ว ต่อให้ต้องเสียสละคนของตนเองก็ไม่ใช่ปัญหา ยิ่งเม่าซูอวี่เป็นคนนอกด้วยแล้ว พวกเขายิ่งไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ

“เพื่อรับประกันว่าแผนการจะสำเร็จ รอให้จางชงบรรลุระดับโลกียนิพพานสำเร็จก่อนค่อยเริ่มแผน”

……

ด้วยคำขอร้องอย่างหนักแน่นของหลิงฮัน จักรพรรดินีจึงได้รับอนุญาติให้ติดสอยห้อยตามเขาไปยังเมืองจันทราหม่นแสงด้วย

จะไม่ให้พานางไปด้วยได้อย่างไร? ตอนนี้หลิงฮันกับตระกูลติงมีปัญหาไม่ลงรอยกัน หากเขาออกจากเมืองไปเพียงคนเดียวแล้วตระกูลติงมีแผนชั่วร้ายกับจักรพรรดินีล่ะ? ต่อหน้านิรันดร์ระดับโลกียนิพพาน ไม่ว่าจักรพรรดินีจะเป็นอัจฉริยะแค่ไหนก็ไม่อาจต้านทานไหว

หลิงฮันไม่ต้องการให้เกิดเรื่องที่ทำให้เขาต้องรู้สึกเสียใจไปชั่วชีวิต ต่อให้จักรพรรดินีต้องกลายเป็นทหารหนีทัพ เขาก็จะพานางเข้าสู่หอคอยทมิฬไปเมืองจันทราหม่นแสงกับเขา

ต้วนจวินพาหลิงฮันไปกินดื่มตามขาด อีกฝ่ายเรียกสตรีงดงามจากตระกูลเล็กๆในเมืองมาด้วยหลายสิบคน

หลิงฮันปฏิเสธเหล่าสตรีไปตรงๆ ความจริงแม้เขาจะเป็นบุรุษที่บ้าตัณหา แต่หลังจากได้ลิ้มรสเสน่ห์ของจักรพรรดิมาแล้ว เขาจะยังมีความรู้สึกใดๆต่อสตรีคนอื่น?

ต้วนขวินเองก็เป็นคนดีเป็นอย่างมาก อีกฝ่ายมีนิสัยตรงไปตรงมาและตะกละเหมือนกับหลิงฮัน เพราะงั้นทั้งคู่จึงคุยกันถูกคอและกินดื่มกันสนุกสนาน

หลังจากเตรียมการเป็นเวลาสิบวัน สมาชิกทั้งสิบคนของกองกำลังสำรองก็ออกเดินทางสู่เมืองจันทราหม่นแสงภายใต้การนำของล้งเกาเฟย

พวกเขาเดินทางโดยเรือลำมหึมาเนื่องจากการเดินทางด้วยขานั้นกินเวลานานเกินไป ที่นี่คือดินแดนแห่งเซียน ความเร็วของจอมยุทธระดับสร้างสรรพสิ่งยังไม่เพียงพอ

เรือที่พวกเขานั่งมีขนาดใหญ่โตด้วยความยาวหมื่นฟุตและกว้างหลายพันฟุต เพียงแต่เมื่อล่องลอยอยู่ในแม่น้ำที่กว้างใหญ่ราวกับมหาสมุทร ความใหญ่โตของเรือจึงไม่ได้ดูแล้วน่าตกตะลึงอะไร

คลื่นยักษ์ที่ซัดกระหน่ำซัดใส่ตัวเรือส่งผลให้เรือสั่นไหว ใบหน้าของหลิงฮันเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อสัมผัสได้ถึงอำนาจของคลื่นน้ำเนื่องจากว่ามันมีอำนาจเพียงพอที่จะคุกคามกายหยาบของเขา!