ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1096 เขาก็เบลอไปครู่หนึ่ง
ใช่สิ เขาไม่เข้าใจ เขาฝึกฝนพวกเขามาหลายปีขนาดนี้ คนคนนี้ทำไมถึงต้องทรยศเขา?
หากพูดในแง่ของตำแหน่งงาน เขาก็ถือว่าเป็นผู้นำทางและผู้บัญชาการที่ดีที่สุด
หากพูดในแง่ของความสัมพันธ์ พวกเขาก็เป็นพี่น้องที่ร่วมออกรบกันมาหลายปี มิตรภาพยิ่งชีพ แล้วเขาทำไมถึงยังทำแบบนี้?
“หรือจะบอกว่า ไวท์ พาเลซทางนั้นเสนอเงื่อนไขที่แพงกว่าให้นาย? พวกเขารับปากนายว่าอะไร?”
“……”
ไม่มีเสียงตอบรับ
คนที่ชื่อ กองทัพ คนนี้ นอกจากสีหน้าที่ขาวซีดและละอายใจถึงขีดสุด ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลย
ม็อกโกเข้าใจแล้ว
ทันใดนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมา หลังจากดวงตาทั้งคู่ที่แดงระเรื่อปรากฏแววเศร้าเล็กน้อยก็มองไปดูยังรถเรือนจำที่วิ่งเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ ใช้แรงตวัดกริชทหารที่กำอยู่ คนคนนี้ก็ไร้ซึ่งลมหายใจอยู่ในมือเขา
สามารถให้คนที่ใกล้ชิดเขาขนาดนี้มาหักหลังและฆ่าเขา
งั้นเงื่อนไขที่รับปากเขา เกรงว่าจะมีเพียงแค่อย่างเดียวคือให้ตระกูลเทวเทพพินาศลง เขาม็อกโกตายไป จากนั้นคนคนนี้ก็ขึ้นมาแทนในตำแหน่งนี้ของกองทัพ
ม็อกโกเก็บกริชทหารเล่มนี้ ฉีกผ้าตัวหนึ่งบนร่างกายออกมาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก แล้วพันแผลที่ถูกยิงตรงกระดูกไหล่ เขาก็แอบมุดหลบเข้าไปในป่า
“พลตรี นี่คุณ…เป็นอะไร?”
หลังจากที่มาเจอกับทีมย่อยอื่นอีกครั้งแล้ว คนเหล่านี้เห็นว่าเขาได้รับบาดเจ็บ ต่างเผยให้เห็นสีหน้าท่าทางประหลาดใจและโกรธมาก
ม็อกโกโบกมือเพื่อแสดงว่าอย่าให้พวกเขาตื่นตูมกันไปก่อน
“ฝ่ายตรงข้ามค้นพบพวกเราแล้ว พวกเราจำเป็นต้องจบเกมโดยเร็วที่สุด พวกนายสองสามคนไปล่อพวกเขาไปก่อน ฉันจะบุกโจมตีจากทางด้านหลัง”
หลังจากเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงกะทันหัน ม็อกโกจึงต้องปรับใช้แผนการรบที่รวดเร็วที่สุด
กลับคาดคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่พูดจบ สมาชิกทีมย่อยเหล่านี้ก็ตื่นเต้นกันขึ้นมาทันที
“ได้ยังไงกัน? คุณแอบจู่โจมทางด้านหลัง นั่นไม่ใช่เท่ากับรนหาที่ตายเองเหรอ? ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเห็นพวกเราแล้ว ข้างหน้ายังสามารถถอยร่นได้ตลอดเวลา แต่ด้านหลังนั่นเป็นพื้นที่ของพวกเขาแล้ว คุณหลบอยู่แบบนี้ หลังจากที่เจอตัวคุณแล้วก็ไม่ใช่ว่าเปรียบเสมือนลูกไก่ในกำมืองั้นเหรอ?”
“ใช่ พลตรี ทำแบบนี้ไม่ได้เด็ดขาด!”
พวกสมาชิกเหล่านี้คือคนที่ผ่านความเป็นความตายกับม็อกโกมานานหลายปี สำหรับแผนการรบของเขา โดยพื้นฐานแล้วแค่ฟังก็สามารถเข้าใจได้
แต่ม็อกโกกลับไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย
เขายังถึงกับออกคำสั่งในฐานะผู้บัญชาการ : “นี่คือคำสั่ง! พวกคุณรับคำสั่งแล้วไปที่ข้างหน้าเดี๋ยวนี้ มิฉะนั้นจะโทษทางวินัย!”
พวกสมาชิก : “……..”
สุดท้าย พวกเขาก็ต้องถือปืนเดินจากไปอย่างไม่เต็มใจ
ตอนที่เดินไป หนึ่งก้าวก็หันหลังกลับมาถึงสามครั้ง
แต่ม็อกโกไม่ดูเลยสักนิด หลังจากที่เขาไล่ตะเพิดพวกเขาไปแล้ว ทันใดนั้น เขาเองก็พกปืนแอบซ่อนอยู่กลางป่ารก
เขาเปลี่ยนแผนการรบแล้วจริงๆ แต่เขาไม่ได้จะทำแบบที่เขาพวกเมื่อสักครู่จริงๆ แบ่งทหารเป็นสองทีม เขาไปจู่โจมชิงตัวคนจากทางด้านหลัง แผนการจริงๆ ของเขาคือ ไปฆ่าพวกพ่อค้าอาวุธสองสามคนนั้นโดยตรง!
นำมาครอบครองอยู่ในมือตัวเองไม่ได้ งั้นก็ฆ่าทิ้งเสียก็ไม่ต่างกัน
ม็อกโกใช้ความรวดเร็วที่สุดจนมาถึงด้านหลังของรถเรือนจำ
จริงๆ ด้วย หลังจากมาถึงที่นี่ จากประสบการณ์ในอาชีพของเขา เขาก็ได้กลิ่นบรรยากาศที่อันตรายของที่นี่ได้ทันที
ราวกับว่ามีหมาป่าที่กำลังเผชิญหน้าอยู่กับเสือแล้วแอบดักซุ่มเอาไว้โดยรอบ เขาเพิ่งมาถึง ในป่าที่เงียบสงัดจนเกินไป แม้แต่กลิ่นควันกระสุน เหมือนว่าเขายังได้กลิ่นด้วยซ้ำ
“ติ๋งติ๋ง……..”
มีหยดเลือดไหลหยดลงจากบ่าของเขา
ไม่นานในอากาศก็ได้กลิ่นเลือดคละฟุ้งไปทั่ว
ม็อกโกไม่สนใจ หลังจากที่เขาได้ยินเสียงขบวนรถผ่านไปบนถนนด้านล่างเส้นนั้น เขาก็ก้มตัวลงมา แหวกใบไม้ออกและมองลงไปยังข้างล่าง
ถูกต้อง ด้านหลังของรถเรือนจำ ยังมีรถยนต์คันเล็กทั่วไปสองสามคันวิ่งตามด้วยจริงๆ
ม็ฮกหมอบอยู่ตรงที่เดิมแล้วหยิบปืนไรเฟิลที่ถือมาด้วยออกมา หลังจากที่เขาปรับโฟกัสเสร็จแล้ว ปากกระบอกปืนของเขาก็จ่อตรงไปที่รถตู้ที่ไม่ค่อยสะดุดตาคันนั้นที่อยู่ลำดับที่สามในขบวนรถเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว
“พวกนายว่า หลานของไชยันต์คนนั้นจะเข้าใจว่าพวกเราจะอยู่ในรถเรือนจำคันหน้าคันนั้นจริงๆ ?”
“คงจะใช่แหละ เมื่อสักครู่ ฉันได้ยินปืนมือปืนไรเฟิลของพวกเรายิงปืนแล้ว ฮ่าๆๆๆ…”
“ก็คิดว่าคนตระกูลเทวเทพจะฉลาดสักแค่ไหนเชียว ที่แท้ก็โง่กันทั้งนั้น!”
“ใช่ ฮ่าๆๆๆ….”
เสียงหัวเราะดังสนั่นอีกครั้ง
พวกพ่อค้าอาวุธสองสามคนนี้ที่ปรากฏอยู่ในกล้องเล็งของม็อกโก ถึงแม้ว่าระยะห่างไกลกันเกินไป เขาได้ยินไม่ถนัดว่าเขาพูดอะไรอยู่กันแน่
แต่คนที่เชี่ยวชาญภาษาของหลายสิบประเทศอย่างเขา แว๊บเดียวสามารถดูออกได้ว่าจากริมฝีปากของคนคนนี้ที่พวกเขากำลังหัวเราะเยาะอยู่ ก็คือคนตระกูลเทวเทพของพวกเขา
คำว่าเทพคำนี้เดิมทีคือไม่ว่าภาษาประเทศไหนก็สามารถดูออกได้ง่ายมาก
แววตาของม็อกโกเย็นชาลง จ้องเล็งไปยังคนที่หัวเราะสบายใจคนนั้น กดทริกเกอร์ในมือของเขาเบาๆ
“ปัง—-!”
กระสุนลูกหนึ่ง หลังจากที่เจาะทะลุกระจกกันลมบานนั้นเข้าไปอย่างง่ายดายแล้ว มันก็ยิงทะลุศีรษะของชายคนนั้น
คนอื่น : “……”
ล้วนแต่เงียบกริบกันทั้งหมด
จากในกล้องเล็งนั้นดูราวกับว่าถูกสะกดจุดไว้ คนเหล่านี้ที่กำลังหัวเราะเยาะตระกูลเทวเทพกันอยู่เมื่อสักครู่ ต่างก็นั่งนิ่งไม่ขยับเป็นเวลาสิบกว่าวินาที
ม็อกโกเห็นดังนั้น ลูกกระสุนนัดถัดไปก็ส่งตรงไปทันที
ถ้าเขาจะฆ่าพวกเขา ก็จำเป็นต้องจัดการพวกเขาให้หมดในคราวเดียวในตอนที่พวกเขาผ่านใต้จมูกของตัวเอง