ตอนที่ 1170: ข้าต้องมีแรงจูงใจ

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1170: ข้าต้องมีแรงจูงใจ

เจี้ยนเฉินยังคงอยู่ในวัตถุเซียน ตอนนี้ตระกูลเจียงหยางไม่ได้ปลอดภัยอีกต่อไป มันอันตรายอย่างยิ่ง การอยู่ในนี้ทันใดนั้นมันก็กลายเป็นเหมือนกับอยู่ในคุก เขาไม่มีทักษะลับเพื่อเปิดประตูมิติ

ตระกูลเจียงหยางเงียบเป็นพิเศษในวันนี้ กลุ่มคนจำนวนมากขังตัวเองอยู่ในห้องอย่างเงียบ ๆ เพื่อบ่มเพาะ พลังงานที่หนาแน่นของโลกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไปจนยอดเขาไม่กี่แห่งหรือที่อยู่อาศัยไม่มาก จากระยะไกลมีหนุ่มสาวไม่กี่คนที่กระจัดกระจายขณะที่ฝึกฝนทักษะการต่อสู้และมีไม่กี่คนที่ปลีกวิเวก

ทันใดนั้นคนที่ดูซื่อตรงก็โผล่ขึ้นมาจากโถงกลางศักดิ์สิทธิ์ การปรากฏตัวของเขาถูกกลืนหายไป ดังนั้นเขาจึงดูธรรมดาราวกับชายแก่ปกติ

เขาเป็นหนึ่งในผู้ผู้อาวุโสสูงสุดทั้ง 7 เจียงหยางชิงหยุน

เจียงหยางชิงหยุนปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ ที่ประตู ดวงตาของเขามีแสงน้อย ๆ ออกมา เขามองไปรอบ ๆ ก่อนที่ให้ความสนใจบนยอดเขาที่เจี้ยนเฉินได้ปลีกตัวออกมา หลังจากที่ลังเลเล็กน้อยพร้อมกับประกายในแววตาของเขาแล้วเขาก็เคลื่อนไหว เขาบินไปที่ถ้ำด้วยความเร็วที่มากอย่างยิ่งขณะที่เขาไปเงียบ ๆ

เขามาถึงด้านนอกของถ้ำในพริบตา เขาจ้องมองสิ่งกีดขวางที่เจี้ยนเฉินวางเอาไว้ที่ทางเข้าอย่างสงบก่อนที่จะยิ้มราวกับเห็นเรื่องตลก ด้วยการเคลื่อนไหวของเขาอย่างรวดเร็ว เขาก็ใช้ทักษะลับผนึกของเขา เขาจัดการผ่านสิ่งกีดขวางและมันดูเหมือนว่าเขาจะเคลื่อนย้ายได้พริบตาและเข้าไปในถ้ำโดยไม่เป็นปัญหา

สุดท้ายความเข้าใจของเจี้ยนเฉินเกี่ยวกับความลึกลับของโลกก็อยู่แค่เพียงเซียนผู้คุมกฎทั่ว ๆ ไป สิ่งกีดขวางเหล่านี้เมื่ออยู่ต่อหน้าเจียงหยางชิงหยุนที่อยู่ในขั้นสูงสุดของเซียนราชาและมีทักษะลับมากมาย สิ่งเหล่านี้พลันไร้ค่า

ในถ้ำสลัว ๆ มีวัตถุเซียนขนาดเท่ากำปั้นลอยอยู่กลางอากาศและประกายสีทองวิบวับ มันส่องสว่างและหดดับทำให้ถ้ำดูสลัว ๆ

เจียงหยางชิงหยุนมาอยู่ด้านหน้าและยืนไพล่หลัง เขาจ้องมองมันด้วยความสนใจและขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาบ่นกับตัวเองว่า ข้าไม่คิดว่าไอ้ตัวน้อยนี่จะฉลาดนัก ซ่อนตัวเองในหอคอยเล็ก ๆ นี้เพื่อฟื้นฟู สิ่งนี้จะทำให้ข้าไม่อาจได้ผลไม้เซียนจากเขา

เจียงหยางชิงหยุนค่อนข้างไม่เต็มในที่จะหยุดอยู่แค่นี้ เขาเดินไปรอบ ๆ วัตถุเซียนขณะที่ใบหน้าของเขาค่อย ๆ หมองหม่น เขาพูดว่า หอคอยแข็งแกร่งมาก มีเพียงเซียนจักรพรรดิเท่านั้นที่จะทำลายมันได้ ข้าไม่อาจทำอะไรกับเขาได้หากว่าเขาซ่อนตัวอยู่ในนั้น ข้าจะทำอย่างไรดี ?

เจี้ยนเฉินที่ซึ่งตอนนี้นั่งอยู่ในโถงหลักของวัตถุเซียน ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดอย่างยิ่ง

วัตถุเซียนได้ยอมรับเขาเป็นเจ้านายดังนั้นความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนเหล่านี้ได้พัฒนาขึ้นระหว่างเขากับวัตถุเซียน เขาเข้าใจสถานการณ์ด้านนอกได้เป็นอย่างดีผ่านจิตวิญญาณของวัตถุเซียนแม้ว่าเขาจะอยู่ด้านใน เจี้ยนเฉินเริ่มให้ความสนใจกับทุกการเคลื่อนไหวของเจียงหยางชิงหยุนเมื่อเขาเข้ามาในถ้ำ

ฮึ่ม ข้าไม่คิดเลยว่าเจียงหยางชิงหยุนจะตื่นเต้นและมาหาข้าอย่างรวดเร็ว ข้าแค่สงสัยว่าจะมีกี่คนกันที่หมกมุ่นอยู่กับผลไม้เซียน เจี้ยนเฉินสงสัยพร้อมกับมองออกมาอย่างเย็นชา หากเขาไม่ได้ซ่อนตัวอยู่ในวัตถุเซียนล่วงหน้า เขาอาจจะต้องตกอยู่ในกำมือของเจียงหยางชิงหยุน

เจียงหยางชิงหยุนเดินออกไปด้านนอกสักพักก่อนที่จะกัดฟันในที่สุด เขาพูดอย่างเย็นชาว่า ในเมื่อไอ้เด็กเหลือขออยู่ในหอคอย ข้าจะเอามันออกไป ข้าจะหาวิธีที่จะเปิดมันได้อย่างช้า ๆ ในอนาคต

เมื่อนั้นเจียงหยางชิงหยุนก็เก็บวัตถุเซียนทันที การแสดงออกของเขาก็เปลี่ยนไป เขามองออกไปด้านนอกก่อนที่ตรงไปยังกำแพงถ้ำภายในพริบตา เขาหายไปอย่างเงียบ ๆ ภายในหิน

หลังจากนั้นไม่นาน เจียงหยางชิงจูริก็มาถึงเช่นกัน เขาผ่านสิ่งกีดขวางด้วยทักษะลับเหมือนกับเจียงหยางชิงหยุน เขาเดินไปรอบ ๆ วัตถุเซียนสักพักก่อนที่การแสดงออกของเขาจะเปลี่ยนไปในที่สุด เขารู้สึกถึงการมาของใครบางคนก่อนที่เขาจะซ่อนตัวในภูเขา

คนที่สามคือเจียงหยางหยวนเจิ้งหัว เขารู้ทักษะลับบางอย่างเช่นกัน ม่านพลังของเจี้ยนเฉินก็ไร้ประโยชน์กับเขา

เมื่อเห็นวัตถุเซียนลอยอยู่เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย อย่างไรก็ตามการปรากฏตัวที่ทรงพลังทั้งสองก็ปรากฏขึ้นด้านนอก คราวนี้เป็นเจียงหยางซูหยวนเซียวและเจียงหยางซูเซียว ที่บินมาในเวลาเดียวกันที่เจี้ยนเฉินพักอยู่ อย่างไรก็ตามพวกเขาแตกต่างจากสามคนก่อนหน้านี้ที่ปิดบังตัวเอง พวกเขาบินอย่างอาจหาญและทำให้ทุกคนในตระกูลเงยหน้ามองพวกเขา

เจียงหยางหยวนเจิ้งหัวรู้สึกประหลาดใจ เขาไม่อาจออกจากถ้ำได้ทันเวลา ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่น เขาทำแบบเดียวกับเจียงหยางชิงหยุนและเจียงหยางชิงจูริ เขาใช้ทักษะลับหลอมรวมเข้าไปในหินที่อยู่รอบ ๆ และลบตัวตนของเขาไปอย่างสมบูรณ์

เจียงหยางซูเซียวและเจียงหยางซูหยวนเซียวมาถึงด้านนอกถ้ำพร้อมกัน พวกเขาบินอยู่ห่างจากปากทางเข้าถ้ำ 10 เมตรและจ้องมองเข้ามา อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้รั้งเท้าเลย

ดูเหมือนว่าเซียงเทียนจะยังคงพักฟื้นอยู่ ข้าสงสัยว่าเมื่อไหร่เข้าจะฟื้นตัวเต็มที่ เจียงหยางซูเซียวพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ

เซียงเทียนเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงระดับ 7 แล้ว เขาสามารถควบคุมพลังเซียนธาตุแสงได้ดี ดั้งนั้นแม้ว่าเขาจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ข้าเชื่อว่าเขาจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ทำไมเจ้าไม่ไปรอที่โถงบรรพบุรุษก่อน ข้าจะอยู่ที่นี่และรอให้เซียงเทียนออกมา เจียงหยางซูหยวนเซียวพูด

เจียงหยางซูเซียวลังเลเล็กน้อยก่อนที่จะพยักหน้า เอาล่ะ หยวนเซียวเจ้าอยู่ที่นี่ ข้าจะกลับไปที่โถงบรรพชนก่อน

เจียงหยางซูเซียวหันไปมองรอบ ๆ และออกไปทิ้งให้เจียงหยางซูหยวนเซียวอยู่ด้านหลัง เขาพบพื้นราบและนั่งลง ม่านพลังที่เจี้ยนเฉินทำไว้อยู่ห่างจากด้านหน้าของเขา 3 เมตร

เจี้ยนเฉินพึมพำในวัตถุเซียน ในบรรดาผู้อาวุโสสูงสุดทั้งเจ็ด มี 3 คนที่พยายามทำบางอย่างกับข้า ตอนที่ข้ากำลังฟื้นตัว แต่โชคดีที่เจียงหยางซูหยวนเซียวและเจียงหยางซูเซียวมาถึงทันเวลา หรือไม่งั้นวัตถุเซียนต้องถูกพวกเขาทั้งสามคนเอาไปเป็นแน่

ตอนนี้ขณะที่เจียงหยางซูหยวนเซียวดูแลอยู่ด้านนอกถ้ำ พวกเขาจะไม่กล้าทำอะไร เขาทำเช่นนี้เพราะรู้ว่าทั้งสามคนเข้าไปในถ้ำแล้วและมาเพื่อป้องกันพวกเขา หรือว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ ?

ข้ายังไม่อาจไว้ใจพวกเขาได้…

เจี้ยนเฉินทิ้งความคิดเข้าข้างตัวเองออกไป เขาหายตัวไปจากวัตถุเซียนอย่างเงียบ ๆ และปรากฏตัวขึ้นในถ้ำสลัว ตอนนี้เขาไม่อาจอยู่ที่นี่ได้อีกต่อไปแล้วเพราะมันง่ายมากที่เขาจะตกเป็นเหยื่อของแผนการของคนอื่น เขาอาจปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาด้วยความกล้าหาญ บางทีเขาอาจจะหยุดไม่ให้พวกเขาแสดงออกในที่สาธารณะได้ด้วยความหวังว่าพวกเขาจะไม่ลงมือกับเขาง่าย ๆ

เจี้ยนเฉินเก็บวัตถุเซียนและออกมาด้านนอกราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาพบกับเจียงหยางซูหยวนเซียวที่นั่งอยู่ด้านนอกและมีความประหลาดใจบนใบหน้าของเขาทันที เขาถามว่า ปู่ทวด ทำไมท่านถึงมาที่นี่ ท่านมาหาข้าเพราะมีเรื่องเร่งด่วนบางอย่างหรือ ?

เจียงหยางซูหยวนเซียวยืนขึ้นและตรวจสอบเจี้ยนเฉินตั้งแต่หัวจรดเท้า เขายิ้ม เซียงเทียนดูเหมือนว่าอาการบาดเจ็บของเจ้าจะหายดีแล้ว มากับข้า ข้ามีเรื่องบางอย่างที่ข้าอยากคุยกับเจ้า

เจี้ยนเฉินพยักหน้าก่อนที่จะติดตามเจียงหยางซูหยวนเซียวไปยังพื้นดินที่ลอยอยู่ อย่างไรก็ตามพวกเขาเข้ามาในโถงกลางศักดิ์สิทธิ์เจี้ยนเฉินก็หยุดและกล่าวว่า ปู่ทวด ทิวทัศน์ที่นั่นค่อนข้างดี ทำไมเราไม่ไปคุยกันที่นั่นล่ะ ? เจี้ยนเฉินบินไปยังสวนใกล้ ๆ โดยไม่รอคำตอบจากเจียงหยางซูหยวนเซียว

มองไปที่เจี้ยนเฉิน เจียงหยางซูหยุนเซียวไม่ได้แสดงความไม่พอใจเลย เขายิ้มน้อย ๆ และพูดพึมพำว่า เด็กคนนี้ค่อนข้างระวังตัว หลังจากนั้นเขาก็บินตามไป

ไม่นานหลังจากนั้นเจียงหยางซูเซียวและเจียงหยางหยวนวูจิและเจียงหยางชิงหยุนเฟิงก็ออกมาจากด้านนอกของโถงกลางศักดิ์สิทธิ์เช่นกันและรวมตัวกันภายในศาลาของสวน

ฮ่าฮ่า เซียงเทียนทำได้ดีมากในครั้งนี้ เจ้าได้รับผลไม้เซียนต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญมากกมายและนำมันกลับมาในสภาพสมบูรณ์…

แน่นอน การกระทำของเซียงเทียนคราวนี้โดดเด่นอย่างมาก การได้รับผลไม้เซียนจะทำให้ตระกูลเจียงหยางโดดเด่น ตอนนี้เรามีผลไม้แล้ว ความแข็งแกร่งของตระกูลเราต้องพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน ไม่นานเซียนจักรพรรดิจะเกิดขึ้นในตระกูลเจียงหยางของเรา เซียงเทียน เจ้าทุ่มเทมาก

ไม่ถูกต้อง มันไม่ได้มีแค่หนึ่ง แต่เป็นเซียนจักรพรรดิ 2 คน เราทุกคนสามารถรับรู้ได้ถึงพรสวรรค์ของเซียงเทียน ข้าเชื่อว่าในเวลาไม่ถึง 100 ปี เซียงเทียนจะกลายเป็นเซียนจักรพรรดิ

เจียงหยางหยวนวูจิและเจียงหยางชิงหยุนเฟิงเยินยอเจี้ยนเฉินจนน้ำท่วมทุ่ง พวกเขาเชยชมเจี้ยนเฉินอย่างต่อเนื่อง

เจียงหยางซูหยวนเซียวและเจียงหยางซูเซียวนั่งเงียบ ๆ บนม้านั่งหินและไม่มีการแสดงออกบนใบหน้าของเขา ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร

ใบหน้าของเจี้ยนเฉินค่อนข้างเหยเก ความหมายที่อยู่เบื้องหลังคำพูดของเจียงหยางวูจิและเจียงหยางชิงหยุนเฟิงเกี่ยวกับผลไม้นั้นไม่ใช่ของเจี้ยนเฉินแต่เป็นของตระกูล

ทำไมชิงหยุน, จูริและเจิ้งหัวไม่มา ? ข้าพึ่งจะบอกเขา เจียงหยางชิงหยุนเฟิงถามทันที

เจียงหยางชิงหยุน, เจียงหยางชิงจูริและเจียงหยางหยวนเจิ้งหัวปรากฏอยู่ที่หน้าประตูโถงกลางศักดิ์สิทธิ์ทันทีที่ถูกพูดถึงและมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

ผู้อาวุโสสูงสุดทั้งเจ็ดของตระกูลเจียงหยางได้มารวมตัวกันในเวลานี้