บทที่ 1188 ตัดหูไปแค่ข้างเดียวก็นับว่าน้อยไปสำหรับเขา + ตอนที่ 1189 ผมเป็นคู่หมั้นของจ้าวเหมย

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1188 ตัดหูไปแค่ข้างเดียวก็นับว่าน้อยไปสำหรับเขา + ตอนที่ 1189 ผมเป็นคู่หมั้นของจ้าวเหมย โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1188 ตัดหูไปแค่ข้างเดียวก็นับว่าน้อยไปสำหรับเขา

โอหยางซานซานชะงักและเริ่มลังเล

เหยียนหมิงซุ่นแค่นเสียงทีพลางตบอีกไม่กี่ที โอหยางซานซานก็ครางเสียงดังขึ้นจากเดิมจนเจ้าตัวตัวงอเหมือนกุ้ง เหยียนหมิงซุ่นเลยปล่อยเธอลงพื้นราวกับโยนถุงกระสอบ

“ฉันจะบอก…ฉันจะบอกหมดเลย…”

โอหยางซานซานไม่สนใจคำเตือนของหวงอวี้เหลียนอีกต่อไป ก่อนเล่าเรื่องค่ำคืนนั้นไปเสียงขาดๆ หายๆ

“เพราะแผนพี่สองกับหานป๋อหย่วนทั้งนั้น พวกเขามักรวมตัวด้วยกันบ่อยๆ หลอกผู้หญิงไปเล่นสนุก หานป๋อหย่วนกับพี่สองอยากเล่นงานจ้าวเหมยเลยหลอกเธอมา หนูไม่รู้อะไรทั้งนั้น…”

เหมยเหมยเดินไปเตะตัวเธอทีหนึ่ง พลางก่นด่า “เธอกำลังคบกับหานป๋อหย่วนไม่ใช่เหรอ? จะไม่รู้ได้ยังไง? เธอเป็นพวกเดียวกับพวกมัน!”

โอหยางซานซานเจ็บจนสะดุ้งวาบ โอดครวญพลางเอ่ยว่า “เปล่า…ฉันไม่ได้คบกับหานป๋อหย่วน คืออู่เยวี่ยต่างหาก…หล่อนต่างหากที่เป็นพวกเดียวกับพวกนั้น…จ้าวเหมยยังเตะเจ้าโลกหานป๋อหย่วนจนใช้งานไม่ได้อีก…อู่เยวี่ยก็โดนเธอจับกรอกยาแล้วถูกคนพวกนั้น…”

ทุกคนสูดปากกันถ้วนหน้าพลางมองไปทางเหมยเหมยอย่างระแวง

หลานสาวตระกูลจ้าวคนนี้เหี้ยมจริงๆ!

เหยียนหมิงซุ่นตบบนตัวเธออีกไม่กี่ทีแล้วพูดขึ้นว่า “เล่าเรื่องที่ร้านน้ำชาวันนี้ด้วย ว่าทำไมฉันถึงตัดหูของโอหยางสยง!”

ทุกคนในที่นี้ต่างตกตะลึง ที่แท้คนที่ตัดหูจริงๆ คือคน ๆ นี้นี่เอง!

หวงอวี้เหลียนอยากไปห้ามลูกสาวแต่กลับถูกจ้าวอิงหัวขวางเอาไว้ จ้าวอิงหัวแสยะยิ้ม “ไม่ต้องรีบ รอลูกสาวเธอพูดจบค่อยไป”

โอหยางซานซานรับสารภาพด้วยเสียงตะกุกตะกัก ความจริงก็ไม่มีอะไรแค่เธออยากหยามจ้าวเหมยแต่กลับเป็นการทำร้ายโอหยางสยงที่มาช่วยหนุนหลังเธอแทน

เมื่อได้ยินว่าโอหยางสยงเรียกอันธพาลนับสิบมาหยามลูกสาวตัวเองกลางวันแสก ๆ จ้าวอิงหัวก็โกรธจนตวัดฝ่ามือและโดนหน้าหวงอวี้เหลียนพอดิบพอดี

โดนตบเข้าจัง ๆ จนหน้าครึ่งซีกของหวงอวี้เหลียนเริ่มบวม

จ้าวอิงหัวตกใจตัวเองไปที เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน แต่ไม่นานเขาก็หาเหตุผลให้ตัวเองได้

“ลูกสาวเธอทำร้ายลูกสาวผม ถือว่าผมตบเธอที่ไม่รู้จักสั่งสอนลูกสาว!”

เหยียนซินหย่าพุ่งเข้ามาตบไปอีกฉาดแล้วด่า “เหมยเหมยของฉันยังปรานีเกินไป น่าจะควักลูกตาลูกสาวเธอไปด้วย!”

เหมยเหมย “…”

พ่อแม่เธอดุดันขนาดนี้กันตั้งแต่เมื่อไร!

เหยียนหมิงซุ่นตบบนตัวโอหยางซานซานอีกไม่กี่ทีหญิงสาวผู้นี้ก็เงียบไป เจ้าตัวเหมือนเพิ่งถูกล้วงขึ้นมาจากน้ำเพราะสภาพที่เปียกชุ่ม ใบหน้าขาวซีด

หวงอวี้เหลียนแค้นที่สองสามีภรรยาจ้าวอิงหัวกล้าตบหน้าเธอจนเธออับอายขายหน้า ดวงตาฉายแววร้ายกาจชั่ววูบ

รอกลับเมืองจินเธอจะเอาคืนอย่างสาสม!

ขยะอย่างเหอปี้อวิ๋นเธอยังเก็บไว้อยู่แหนะ!

สองแม่ลูกสะใภ้โอหยางทำหน้าละล่ำละลัก พวกเธอรู้เรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังแบบนี้เสียที่ไหน ยิ่งไม่รู้ว่าเบื้องหลังโอหยางสยงเป็นคนเช่นนั้น

แต่พวกเธอก็ปวดใจอยู่ดี!

“ต่อให้สยงเอ๋อร์ของฉันทำผิดไป เธอตบตีระบายอารมณ์หน่อยก็พอ ทำไมถึงต้องควักลูกตากันขนาดนี้ด้วย?” คุณแม่โอหยางสยงทำหน้าขุ่นเคือง

เหมยเหมยมองเธออย่างเย้ยหยัน “ลูกชายคุณคิดจะพังชีวิตฉัน ฉันแค่ควักตาไปข้างเดียวเอง ถือว่าเมตตามากแล้ว!”

“แล้วหูของลูกชายฉันล่ะ? เขากับเธอไม่มีความแค้นส่วนตัวกันสินะ? เธอมีสิทธิ์อะไรมาตัดหูลูกชายฉัน?”

คุณแม่โอหยางสยงหันไปหาเรื่องเหยียนหมิงซุ่นแทน เธอไม่มีข้อแก้ตัวกับจ้าวเหมยแต่ผู้ชายคนนี้เธอคิดว่าเธอมีเหตุผลมากพอ

เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเสียงเบาก่อนกล่าว “ต้องมีความแค้นอยู่แล้ว ผมเป็นคู่หมั้นของจ้าวเหมย โอหยางสยงรังแกเหมยเหมย แค่ผมตัดหูข้างเดียวก็นับว่าปรานีมากพอแล้ว!”

ทุกคนเริ่มให้ความสนใจกันชั่วขณะ ดวงตาเหมือนแสงไฟสปอร์ตไลท์ที่กวาดผ่านตัวเหยียนหมิงซุ่นกับจ้าวเหมย

พ่อหนุ่มคนนี้หน้าตาดีไม่หยอก แต่เขาเป็นคนตระกูลไหนกัน?

…………………………………………….

ตอนที่ 1189 ผมเป็นคู่หมั้นของจ้าวเหมย

ไม่เพียงแค่คนนอกที่ตกตะลึง แม้แต่คนตระกูลจ้าวเองยังตะลึงเช่นกัน จ้าวเหมยมีคู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไร?

คุณปู่จ้าวมองไปทางจ้าวอิงหัวด้วยสายตาสงสัย เขาเคยเจอเหยียนหมิงซุ่นรอบเดียวแถมยังผ่านมาหลายปีแล้วจะจำได้อีกเสียที่ไหน ตอนนี้ก็ยังนึกหน้าไม่ออก

จ้าวอิงหัวสบถด่าในใจยาวเป็นพรวน เจ้าหมอนี่กลับมัดมือชกเสียได้ ที่สำคัญยังเอาเขาได้อยู่หมัดด้วยสิ!

ต่อให้เขาไม่อยากยอมรับขนาดไหนแต่จ้าวอิงหัวก็เลือกจะพยักหน้าอย่างกล้ำกลืน พูดกลั้วหัวเราะ “ผมขอแนะนำให้ทุกคนรู้จักนะ คนนี้ว่าที่ลูกเขยในอนาคตของผม หน้าตาดูดีมีสง่าใช่มั้ยล่ะ ช่างเป็นคู่สร้างคู่สมกับเหมยเหมยของผมจริง ๆ!”

เหยียนหมิงซุ่นอมยิ้มมุมปาก คำชมของว่าที่พ่อตาในอนาคตคนนี้ไม่เลว!

เหยียนซินหย่าดีใจยิ่งกว่า เธอเห็นเหยียนหมิงซุ่นเป็นดั่งลูกชายตัวเองมาตั้งนานแล้ว ณ ตอนนี้เห็นเหยียนหมิงซุ่นปกป้องลูกสาวตัวเองแถมยังดูน่าเกรงขามขนาดนี้ น่าเกรงขามกว่าสามีเธอเยอะเลย!

จ้าวอิงหนานย่อมรู้จักเหยียนหมิงซุ่นดี เธอไม่รู้เรื่องราวของเหยียนหมิงซุ่นยังคิดว่าเขาเป็นเพียงทหารทั่วไป แม้ชื่นชมที่เขามีใจจะปกป้องหลานสาวตัวเองแต่ก็รู้สึกว่าเหยียนหมิงซุ่นวู่วามเกินไป

ตระกูลโอหยางในตอนนี้แม้แต่ตระกูลจ้าวยังไม่กล้าหาเรื่อง เขาเป็นแค่ทหารชั้นผู้น้อยเอาความกล้ามาจากไหน?

นี่ไม่ใช่การปกป้องเหมยเหมยแต่เป็นการทำร้ายเธอ!

สยงมู่มู่ดูออกถึงความคิดของจ้าวอิงหนานเลยกระซิบชิดหูเธอ “เหยียนหมิงซุ่นในตอนนี้เก่งเชียวล่ะ แม้แต่เฮ่อเหลียนเช่อยังกลัวเขาเลย!”

จ้าวอิงหนานไม่กล้าเชื่อคิดว่าลูกชายตัวเองกำลังพูดเรื่องตลกแค่ล้อเล่น ต่อให้เหยียนหมิงซุ่นเก่งกาจแค่ไหนก็ไม่มีทางก้าวข้ามเฮ่อเหลียนเช่อได้ภายในเวลาสั้น ๆ สามปีหรอก?

หวงอวี้เหลียนตะเบ็งเสียงดัง “แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร? ตระกูลเหยียนของแกแค่ชาวบ้านธรรมดา แกเอาความกล้าจากไหนมาหนุนหลังจ้าวเหมย?”

สามปีนี้เธอสืบประวัติคนรอบตัวจ้าวเหมยมาหมดแล้วแน่นอนรวมถึงเหยียนหมิงซุ่นด้วย เพียงแค่ชาวบ้านธรรมดาเธอเลยหมดซึ่งความสนใจไปเลยทันที

ตอนนี้พอเห็นเหยียนหมิงซุ่นยังกล้าทำร้ายลูกสาวเธอ หวงอวี้เหลียนอยากฆ่าเขาเสียด้วยซ้ำ!

โอหยางซานซานในอ้อมแขนเธอดึงแขนเสื้อหวงอวี้เหลียนอย่างอ่อนแรง เอ่ยเสียงแผ่ว “แม่คะ พี่สองเรียกเขาว่าคุณชายหมิง ไม่ใช่คนธรรมดา”

หวงอวี้เหลียนชะงัก คุณชายหมิง?

เธอกลับเคยได้ยินโอหยางปินพูดถึงมาก่อน ดูเหมือนจะเป็นคนใหญ่คนโตที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่งที่แม้แต่เฮ่อเหลียนเช่อยังไม่กล้าท้าทายอำนาจ แล้วจะกลายเป็นเหยียนหมิงซุ่นได้อย่างไร?

หรือว่าเหยียนหมิงซุ่นเป็นลูกนอกสมรสของผู้มีอำนาจใครสักคน?

ความคิดนี้กลับคล้ายคลึงกับสยงมู่มู่เหลือเกิน

เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยเสียงดังฟังชัด “ผมคือใคร อีกไม่กี่วันเธอก็จะได้รู้ ยังไงซะพวกเธอแค่รู้ไว้ว่าจ้าวเหมยเป็นคนของผมใครคิดจะรังแกเธอ อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ คราวหน้าไม่ใจอ่อนแค่ตัดหูอย่างเดียวแน่!”

ทุกคนตัวสะท้านเฮือก ตัดหูยังเรียกว่าใจอ่อนอีกหรือ?

แล้วแบบไหนเรียกว่าใจเหี้ยม?

หรือว่าต้องตัดน้องชายไปเลย?

คุณปู่จ้าวสีหน้ายากจะคาดเดาพลางเปล่งเสียงพูด “แยกย้ายเถอะ ถึงตระกูลจ้าวเราจะไม่มีอิทธิพลแล้ว แต่ก็ไม่ใช่ใครจะรังแกก็ได้”

คุณแม่โอหยางสยงยังไม่ยอมรามือแต่คุณย่าโอหยางกัดฟันกระชากลูกสะใภ้ตัวเองไป ส่วนสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนเธอไม่แม้แต่จะปรายตามองสักแวบเดียว

ตัวกาลกิณีสองคน เธอรู้แล้วเชียวว่ากลับมาต้องไม่มีเรื่องดีแน่!

กลับไปก็ให้พวกหล่อนไสหัวไปซะ!

อย่าคิดจะกลับมาเป็นตัวซวยให้ลูกหลานเธออีก!

ตัวต้นเหตุของเรื่องไปแล้วคนอื่นจึงแยกย้ายกันกลับไป เหลือเพียงสองแม่ลูกหวงอวี้เหลียนที่เธอต้องคอยพยุงลูกสาวจากไปช้า ๆ

คุณปู่มองเหยียนหมิงซุ่นแวบหนึ่งด้วยสายตามีนัยบางอย่าง พลางกล่าว “เข้ามาก่อนค่อยว่าเถอะ”

“ผมแค่มาส่งเหมยเหมยกลับบ้าน ในเมื่อส่งถึงแล้วก็ขอไม่รบกวนแล้วล่ะกันครับ”

เหยียนหมิงซุ่นกลับปฏิเสธไป

…………………………………………………