บทที่ 762
เขาก็รีบหันหน้ามามองเย่เน แล้วก็ถามอย่างกังวลว่า “เย่เฉิน แกว่าชาตินี้แม่ยายแกจะกลับมาไหม? ”
เย่เฉินก็ถามกลับอย่างอึกอัก “พ่อหวังว่าผมจะพูดว่า ได้ หรือไม่ได้ล่ะครับ? ”
เซียวฉางควนก็นิ่งๆ แล้วพูดอึกอักว่า “เฮ้อ จริงๆ แล้วพ่อรู้ ในใจแกก็เหมือนพ่อ ไม่ค่อยชอบแม่ยายแกเท่าไรนัก ใช่ไหม? ”
เย่เฉินรีบพูดว่า “พ่อครับ ผมไม่ได้พูดคำนี้นะครับ!”
เซียวฉาควนก็รีบตอบว่า “เราคุยกันเอง แกก็ไม่ต้องทำเป็นปกปิดอะไรหรอก เพราะถึงอย่างไรชูหรันก็ไม่อยู่ด้วย เรามีอะไรก็พูดกันตรงๆ ได้ไหม? ”
เย่เฉินก็รู้ความคิดในใจของพ่อตา
ตอนนี้เขาคงอยากจะหาพวก
เพราะว่าเขาไม่อยากให้แม่ยายกลับมา แต่ว่าภรรยาของตนเองก็หวังอย่างมากว่าจะหาแม่ยายให้เจอโดยเร็ววัน กลับบ้านโดยเร็ววัน
ดังนั้น ระหว่างสองพ่อลูกคู่นี้ ก็เกิดความคิดในใจที่ตรงข้ามกัน
สถานการณ์ตอนนี้มัน1:1 ตนเองนั้นกลับเป็นคนที่อยู่ตรงกลาง ดังนั้น ตอนนี้พ่อตาก็เลยจะดึงตนเองเข้าเป็นพวก
เพราะถึงอย่างไร ที่บ้านก็เหลือเพียงแค่3คน ถ้าหากว่ามี2คนที่ไม่อยากให้แม่ยายกลับมา เช่นนั้นความหวังในใจของเขาก็จะมีน้ำหนักมากขึ้น
ดังนั้น เขาก็มองเย่เฉิน แล้วก็เดินเข้ามาเกลี้ยกล่อมว่า “เย่เฉินเอ้ย หลายปีมานี้แม่ยายแกด่าแกทุกวัน แถมยังให้ชูหรันไปหย่ากับแกตั้งหลายครั้ง พ่อเห็นหมดแหละ!บอกตามตรง พ่อที่เป็นพ่อตาแก บางครั้งก็เสียใจแทนแกเลย คนเขาพูดกันว่า ลูกเขยก็เหมือนลูกชาย!แม่ยายแกนะ เคยมองแกเป็นลูกชายไหม? ในใจแม่ยายแก แกไม่เท่าคนนอกเสียด้วยซ้ำ!”
เย่เฉินมองเซียวฉางควนที่มีหน้าตาจริงจัง แล้วก็ตั้งใจพูดว่า “พ่อครับ แม่จะกลับมาได้ไหมนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเราสองคน ว่าจะให้เธอกลับมาได้ไหม ต่อให้พวกเราไม่อยากให้แม่กลับมา เธอก็อาจจะกลับมาในคืนนี้เลยก็ได้ หรือบางทีก็อาจจะกลับมาตบกับคุณป้าในห้องครัว ในตอนที่คุณป้ากำลังทำกับข้าวก็ได้ครับ แม่เองก็มีขาเดิน ถ้าเกิดว่ากลับมาจริงๆ พวกเราก็ห้ามไว้ไม่ได้นะครับ”
จริงๆ แล้วเย่เฉินสามารถจัดการกับหม่าหลันได้ทุกอย่าง แต่ปากก็ได้แต่บอกกับเซียวฉางควนไปแบบนั้น
พอเย่เฉินพูดถึงตรงนี้ สีหน้าของเซียวฉางควนก็เปลี่ยนเป็นความกลัวแปลกๆ เขามองเย่เฉิน แล้วถามเสียงสั่นว่า “ที่แกพูดมา มันคงจะไม่เป็นเรื่องบังเอิญหรอกมั้งนะ? คืนนี้เชิญคุณป้าหานของแกไปกินข้าวที่บ้าน ถ้าเกิดว่าในตอนนั้นแม่ยายแกกลับมา ที่บ้านจะต้องระเบิดแน่นอน จากนิสัยของแม่ยายแก เธออาจจะฆ่าคนก็ได้นะ……..”
เห็นเซียวฉางควนทั้งกลัวทั้งกังวลแบบนี้ เย่เฉินก็รีบพูดปลอบใจว่า “พ่อครับ ผมรู้สึกว่าคืนนี้คงจะยังไม่กลับมาหรอกครับ พ่อเชิญคุณป้าหานมากินข้าวที่บ้านอย่างวางใจเถอะครับ”
เซียวฉางควนกลัวที่เขาพูด แล้วก็ถามว่า “แกรู้ได้ไงว่าวันนี้แม่ยายแกจะไม่กลับมา? เหมือนเมื่อครู่แกบอกว่า แม่แกมีขาเดิน ถ้าเกิดอยู่ดีกลับมา แล้วจะทำอย่างไรกันเล่า? ”
เย่เฉินที่กำลังวุ่นๆ ก็ยิ้มพูดขึ้นมาว่า “พ่อวางใจเถอะครับ ผมรับรอง ว่าคืนนี้ไม่จะยังไม่กลับมาแน่ ถ้าหากว่าคืนนี้แม่กลับมา ผมจะเด็ดเอาหัวผมมาให้พ่อเตะเป็นลูกบอลเลย”
เซียวฉางควนก็รีบพูดว่า “เฮ้อ พ่อไม่เอาหัวของแกหรอก พ่อต้องการให้คุณป้าหานของแกกินข้าวในบ้านของเราอย่างสบายใจ”
พูดจบ เซียวฉางควนก็พูดอีกว่า “พ่อคิดวิธีหนึ่งออก ไอ้ลูกเขย เอ็งต้องช่วยพ่อนะ!”
เย่เฉินก็ยิ้มถามว่า “พ่อว่ามาเลยครับ มีวิธีอะไรครับ? จะให้ผมทำอะไร? ”
เซียวฉางควนก็รีบพูดว่า “ตอนเย็นพอคุณป้าหานของแกมาถึงแล้ว พ่อก็จะปิดประตูรั้วข้างในเสีย ถ้าระหว่างนี้แม่ยายแกกลับมา แกก็ไปรั้งไว้ แกแรงเยอะ ต่อให้ต้องแบก ก็แบกแม่ยายแกออกไป ถ้าแบกไม่ไหว ก็ตีให้แม่ยายแกสลบเลย!ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องห้ามไม่ให้แม่ยายเจอหน้าคุณป้าหานของแกอย่างเด็ดขาด!”