พูดจบ นายหญิงใหญ่เซียวก็รีบพูดกับเซียวเวยเวยว่า “เวยเวยมานี่ พวกเราลากไปมันไปที่ห้องเลย เอาน้ำเย็นๆ ล้างข้าวที่อยู่บนหัวมันหน่อย!ประเดี๋ยวมันไปแอบกินลับหลังเรา เดี๋ยวมันจะได้เปรียบไป!”
หม่าหลันก็ร้องด้วยความกลัวว่า “ตอนนี้ก็ใกล้จะฤดูหนาวแล้ว!เอาน้ำเย็นมาราดหัวฉัน จะให้ฉันเลยรึไงกัน!”
จางกุ้ยเฟินที่มองเอาสนุกอยู่ข้างๆ ก็พูดเสียงเย็นขึ้นมาว่า “อย่าพูดให้มันมากนักเลยมึงอะ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ นายหญิงใหญ่ไม่เพียงจะเอาน้ำเย็นราดหัวมึง แถมจะเอาน้ำเย็นให้มึงอาบน้ำเลยล่ะ!”
หม่าหลันก็ตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ เธอได้แต่ร้องไห้ แล้วก็ถูกสองย่าหลานลากตนเองไปที่ห้องน้ำ
จากนั้น เซียวเวยเวยก็กดหัวเธอไปที่ก๊อกน้ำสำหรับล้างไม้ถูพื้น แล้วก็เปิดก๊อกน้ำออกจนสุดโดยไม่ลังเล!
น้ำประปาที่เย็นเฉียบชำระล้างมาที่หัวของหม่าหลัน ทำให้ในหัวของเธอขาวโพลน จากนั้นก็เป็นความหนาวเย็นจนเข้ากระดูก หนาวจนตัวสั่นระริก
เธอมองนายหญิงใหญ่เซียวที่ยิ้มเยาะ ทั้งๆ ที่หัวยังเปียกชุ่ม แล้วขอร้องว่า “แม่คะ ฉันขอล่ะ เอาผ้าเช็ดตัวมาให้ฉันเถอะ “ไม่อย่างนั้นล่ะก็หนูคงจะหนาวตายแน่”
นายหญิงเซียวก็ยิ้มพูดว่า “แกน่ะหรืออยากได้ผ้าเช็ดตัว แกคู่ควรด้วยหรือไง? ถ้าเกิดว่าแกหนาวตายไปนะ ก็นับว่าเป็นเรื่องดี แกเองก็ได้ปลอดปล่อย นายหญิงใหญ่อย่างฉันก็ได้แก้แค้น”
พูดจบ เธอก็มองหม่าหลัน แล้วประชดว่า “แกก็ช่วยเอาหน่อยแล้วกัน ตายก็ตายไปเสีย จะได้จบๆ ไป!”
หม่าหลันก็ร้องไห้ล้มลงที่พื้นอย่างใจสลาย นายหญิงใหญ่ก็มองเธออย่างขยะแขยงว่า แล้วพูดกับเซียวเวยเวยว่า “ให้นังชั่วนี่ร้องไห้อยู่ที่นี่แล้วกัน พวกเราไปเถอะ!”
เซียวเวยเวยก็รีบพูดไปเหมือนกันว่า “อีชั่ว!วันแห่งความลำบากของมึงเพิ่งจะเริ่มต้น!ตอนนี้จะจัดการมึงก่อน พอจัดการมึงเสร็จแล้ว กูก็จะไปจัดการอีเซียวชูหรันด้วยอีกคน!”
……
แม้ฝันเซียวชูหรันก็ไม่รู้เลยว่า แม่สุดแปลกของตนเองนั้น กำลังถูกย่าและน้องสาวทรมานจนแทบตาย
เพราะว่าเซียวฉางควนไม่ยอมออกมาตามหาแม่ ดังนั้นเธอก็ได้แต่แยกกับเย่เฉินไปตามหาคนละทาง ทางหนึ่งไปตามหาแถวบ่อน อีกทางไปตามแถวคลินิกศัลยกรรม
เย่เฉินเอากุญแจรถมาจากพ่อตา ตอนที่กำลังจะมุดเข้ารถของพ่อตาเพื่อจะไปตามหาแถวบ่อนนั้น เซียวชูหรันก็มาดึงเขาไว้ แล้วถามเสียงต่ำว่า “เย่เฉิน ฉันถามหน่อย เพื่อนของพ่อที่ว่า เรื่องมันเป็นอย่างไรกันแน่? ”
เย่เฉินก็ถามกลับอย่างสงสัย “คุณภรรยา คุณอยากจะรู้เรื่องอะไรล่ะ? ”
เซียวชูหรันก็ตอบว่า “ฉันอยากจะรู้รูปลักษณ์ภายนอกของเธอ นิสัยท่าทางของเธอ รวมถึงสภาพของครอบครัว ด้านความสัมพันธ์ แล้วก็พอเธอกลับประเทศมา วางแผนจะทำอะไรต่อ”
เย่เฉินก็ตอบไปตามตรงว่า “คุณป้าหานนั้นรูปร่างสะสวยมาก ท่าทางก็สง่างาม นิสัยก็อ่อนน้อมถ่อมตัว แถมยังเป็นคนดีมากๆ ส่วนสภาพครอบครัวของเธอเป็นอย่างไรนั้นก็ง่ายๆ เลย สามีของเธอเสียไปแล้ว ตอนนี้เธอพึ่งพาอาศัยอยู่กับลูกด้วยกันสองคน”
พูดไป เย่เฉินก็รีบเปลี่ยนคำพูดว่า “ไม่ถึงขั้นพึ่งพาอาศัยอยู่กับลูกชายหรอก เพราะสองแม่ลูกคู่นี้เก่งมาก ได้ยินว่าบ้านของพวกเขาทำกิจการสำนักทนายความที่ใหญ่มาก แถมยังบริการให้กับธุรกิจใหญ่ในโลกนี้กว่า500บริษัท ตอนนี้พวกเขาได้ย้ายฐานกิจการมาที่จินหลิงแล้ว อนาคตก็คงจะวางแผนใช้ชีวิตวัยชราที่จินหลิงนี่แหละ”