ตอนที่ 1702 ถงหลินอยู่ที่ไหน

Alchemy Emperor of the Divine Dao

เหล่าคนที่เพิ่งเข้ามายังห้องโถงต่างพูดคุยกันถึงเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ที่ตนเองพบเห็น

ถงหลินช่างบ้าระห่ำยิ่งนักที่กล้าพลอดรักกับสตรีกลางแจ้งในอาณาเขตของจ่างซุนเหลียง!

ชะตากรรมของถงหลินถูกตัดสินแล้วว่าจบไม่สวย ทุกคนเลิกให้ความสนใจต่อเขาและเริ่มพูดคุยกับสหายที่แต่ละคนต่างไม่ได้พบเจอมานานหรือไม่ก็สานสัมพันธ์กับมิตรสหายใหม่ เมืองจันทราหม่นแสงนั้นมีอาณาเขตที่กว้างใหญ่ไพศาล ในเวลาปกติพวกเขาทุกคนจึงไม่ค่อยมีโอกาสได้พบหน้ากัน

จักรพรรดินีได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ทุกคนต่างมาล้อมรอบนางเพื่อสร้างความประทับใจหรือไม่ก็สอบถามข้อมูลว่ามาจากขุมอำนาจใด

จักรพรรดินีไม่แยแสจนหลิงฮันต้องทำหน้าที่เป็นคนพูดคุยกับคนอื่นๆให้แทน แน่นอนว่าเขาย่อมไม่พูดจาล่วงเกินใดๆเพราะคนเหล่านี้อาจจะมีประโยชน์ในอนาคต ยิ่งกว่านั้นคือหากไม่ถูกคุกคามก่อนเขาย่อมไม่ไปคุกคามใคร

หลังจากผ่านไปราวๆครึ่งชั่วโมง ในที่สุดจ่างซุนเหลียงก็มาถึง

“จ่างซุนเหลียงมาถึงแล้ว!” เสียงใครคนหนึ่งเอ่ยกล่าว ทันใดทั่วทั้งห้องโถงก็เงียบสงบ

รุ่นเยาว์สวมมงกุฎสีม่วงผู้หนึ่งก้าวเดินเข้ามาจากทางประตู เขาเป็นชายหนุ่มที่มีดวงตาปราดเปรื่องราวกับดวงตะวัน

ด้านหลังของเขาคือชายหนุ่มผมแดงที่ก้มโค้งเดินตามมาด้วยสีหน้าเลื่อมใสราวกับจ่างซุนเหลียงที่อยู่ด้านหน้าไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นพระเจ้า

“คารวะทายาท!” ทุกคนคุกเข่าลงหรือไม่ก็ลุกขึ้นยืนผสานมือคารวะ

บุคคลตรงหน้าพวกเขาคือราชาไร้เทียมทานที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดในขุมอำนาจสองดาว ต่อให้เป็นอัจฉริยะจากขุมอำนาจสามดาวก็ใช่ว่าจะเทียบชั้นจ่างซุนเหลียงได้

แน่นอนว่าหลิงฮันกับจักรพรรดินีไม่คุกเข่าหรือทำการคารวะใดๆ ต่อหน้าจอมยุทธระดับเดียวกันพวกเขาจำเป็นต้องลดศักดิ์ศรีของตัวเองด้วย?

เรื่องนี้ทำให้ผู้คนรอบข้างรู้สึกกระอักกระอ่วน หากจ่างซุนเหลียงโมโหขึ้นมาจะทำอย่างไร?

“ทุกคนทำตัวตามสบาย!” จ่างซุนเหลียงกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติ เขายื่นมือขึ้นมาเผื่อบ่งบอกให้ทุกคนนั่งลงและกวาดสายตามองหลิงฮันกับจักรพรรดินี มุมปากของเขาเผยรอยยิ้มพร้อมกับกล่าว “ธิดาหล่วนซิง!”

จักรพรรดินีไม่แม้แต่ชำเลืองมองอีกฝ่าย นางพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการทักทาย

จ่างซุนเหลียงไม่คิดมาก เขายิ้มอย่างเป็นมิตรและกล่าว “เอาล่ะ ข้าได้เตรียมสุราเล็กๆน้อยๆเอาไว้แล้ว เชิญทุกคนดื่มได้ตามอัธยาศัย”

เขากวาดสายตามองฝูงชนก่อนจะขมวดคิ้ว ที่นั่งในห้องโถงที่ตระเตรียมถูกนั่งแทบจะหมดทุกที่แล้วเหลือไว้เพียงที่เดียว

ที่ของถงหลิน…

ทั้งๆที่เขามาถึงแล้วแต่ถงหลินกลับยังไม่ปรากฏตัว นี่อีกฝ่ายคิดว่าตนเองเหนือชั้นไปกว่าเขารึไง?

จ่างซุนเหลียงเผยสีหน้าไม่พอใจและกล่าว “ถงหลินอยู่ที่ไหน?”

พรวด!

ใครบางคนที่กำลังดื่มสุราเข้าปากเผลอสำลักออกมา

เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

จ่างซุนเหลียงจ้องมองไปยังชายหนุ่มผมแดงด้านข้าง ชายหนุ่มผมแดงเข้าใจทันทีและพยักหน้าอย่างเคารพ เขาก้าวเดินออกไปไถ่ถามข้อมูลก่อนที่ใบหน้าจะแปรเปลี่ยนเป็นตกตะลึง

ถงหลินกำลังพลอดรักกับสตรีอยู่ที่พุ่มหญ้ากลางแจ้ง!

นี่เจ้าต้องไม่ได้พบเห็นสตรีมากี่ร้อยปีกัน ถึงได้หิวกระหายเช่นนี้?

ชายหนุ่มผมแดงรีบกลับไปกระซิบข้างหูจ่างซุนเหลียง

สีหน้าของจ่างซุนเหลียงแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราดจนแทบจะทุบโต๊ะ

เจ้าตัวบัดซบถงหลินกล้าพลอดรักกับสตรีในสวนของเขา? ไม่ใช่ว่านี่เปรียบเสมือนกาารหักหน้าเขาอย่างโจ่งแจ้งรึไง? บังอาจนัก!

เพียงแต่ว่าจ่างซุนเหลียงกลับยังไม่ลงมือใดๆ เขาพยายามระงับอารมณ์และเอ่ยทักทายทุกคนในห้องโถง

เขาคือทายาทที่จะได้รับสืบทอดตำแหน่งประมุขในอนาคต แน่นอนว่าเขาต้องควบคุมสถานการณ์ให้ได้ เขาเปลี่ยนหัวข้อพูดคุยเพื่อทำให้ผู้คนลืมเรื่องของถงหลินอย่างรวดเร็ว

จ่างซุนเหลียงรู้สึกสนใจจักรพรรดินีเป็นอย่างมาก เพราะอย่างไรนางก็เป็นเพียงราชารุ่นเยาว์คนเดียวที่มีพรสวรรค์ทัดเทียมกับเขา ยิ่งกว่านั้นสถานะของนางยังดูลึกลับเป็นอย่างมาก เป็นไปได้ว่านางจะมาจากขุมอำนาจที่ทรงพลังสักแห่ง!

“แม่นางหล่วนซิง หลังจากนี้ข้าอยากจะชวนแม่นางไปศึกษาวรยุทธด้วยกัน ไม่ทราบว่าแม่นางคิดอย่างไร?” จ่างซุนเหลียงกล่าวรุกจักรพรรดินีตรงๆไม่อ้อมค้อม

จักรพรรดินีคร้านจะแยแส บางทีหากจ่างซุนเหลียงกล่าวว่าต้องการประลองกับนาง นางอาจจะรู้สึกสนใจ

หลิงฮันหัวเราะและกล่าว “ภรรยาข้าไม่ค่อยชอบยุ่งเกี่ยวกับคนแปลกหน้า หากพี่ชายจ่างซุนต้องการ ข้าสามารถไปแทนนางได้”

เจ้าน่ะรึจะมาแทน?

จ่างซุนเหลียงเผยท่าทางไม่สบอารมณ์ คำที่หลิงฮันพูดว่า ‘ภรรยาของข้า’ ทำให้เขารู้สึกปวดใจขึ้นมาทันที

เขานึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้พร้อมกับหันหน้าไปกล่าวกับชายหนุ่มผมแดงด้วยสัมผัสสวรรค์ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาก็หันไปกล่าวกับทุกคนด้วยรอยยิ้ม “ไหนๆพวกเราก็รวมตัวกันแล้ว มาจัดงานประลองเล็กๆกันเสียหน่อยเป็นอย่างไร?”

“ตามที่ทายาทต้องการ” ทุกคนรีบพยักหน้า แน่นอนว่าพวกเขาย่อมไม่กล้าปฏิเสธ

“หลิงฮัน ข้าขอท้าประลองเจ้า!” ชายหนุ่มผมแดงรีบลุกขึ้นยืนและตะโกนใส่หลิงฮัน

หลิงฮันประหลาดใจ เขาพยายามทำตัวไม่โดดเด่นและมาที่นี่เพียงเพื่อดูเหล่าอัจฉริยะรุ่นเยาว์ของเมืองจันทราหม่นแสงแท้ๆ แต่จู่ๆกลับมีคนมาท้าประลองเขาเสียได้?

ฮึ่ม… เพราะวันก่อนเขาไม่ตอบโต้อะไร จึงคิดว่าจะรังแกเขาได้ง่ายๆงั้นรึ?

“ตกลง” หลิงฮันพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม

“ชื่อหลง ระวังตัวด้วย อย่าได้ลงมือจนมีคนตาย” จ่างซุนเหลียงกล่าวกับชายหนุ่มผมแดง

ชายหนุ่มผมแดงเข้าใจสิ่งที่จ่างซุนเหลียงต้องการจะสื่อ ตราบใดที่ไม่สังหารอีกฝ่ายเขาก็สามารถลงมือโจมตีได้ไม่ยั้งตามใจชอบ เขาพยักหน้าและกล่าวตอบ “ขอรับ”

ชายหนุ่มผมแดงทะยานร่างออกจากห้องโถงและกล่าว “หลิงฮัน ออกมาสู้กัน!”

หลิงฮันเคี้ยวอาหารในปากให้เสร็จก่อนจะจิบสุราเล็กน้อยและกล่าวกับจักรพรรดินี “ภรรยาข้า เดี๋ยวข้ากลับมา”

จักรพรรดินีพยักหน้าและเป็นฝ่ายแหงนหน้าจูบหลิงฮัน

เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนรู้สึกริษยาจนแทบจะบ้าคลั่ง จักรพรรดินีที่ตอนแรกพวกเขาต่างคิดว่านางมีนิสัยเย็นชาและหยิ่งยโสกลับแสดงท่าทีอ่อนโยนกับหลิงฮัน!

ไอ้คนบัดซบแสนโชคดี… ไปตายซะ!