ศึกครั้งนี้มันใหญ่หลวงความเสียหายและอาการบาดเจ็บมันก็มากล้ำคนทั้งหลายจึงต้องหยุดพักการเดินทางลง
เย่หยวนนั้นไม่คิดให้มากเรื่องใดๆ กลืนบัวดอกโลหิตลงไปทั้งๆ อย่างนั้น
บัวดอกโลหิตนั้นมันเป็นหนึ่งในสมุนไพรวิญญาณระดับแปดหายาก ภายในดอกมันนี้ผสานพลังงานวิญญาณไว้อย่างหนักแน่น
หากได้เอามันไปหลอมเป็นโอสถแล้วมันย่อมจะกลายเป็นโอสถที่เพิ่มพลังบ่มเพาะให้เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้มาก
บัวดอกโลหิตดอกนี้มันเกิดบานขึ้นมาในบ่อโลหิตอสุราทำให้ภายในของมันนั้นอันแน่นไปด้วยพลังงานผีร้ายอย่างที่มนุษย์ทั่วไปทั้งหลายคมไม่อาจจะกลืนมันลงไปตรงๆ ได้อย่างแน่นอน
เมื่อได้เห็นว่าเย่หยวนกลืนบัวดอกโลหิตลงไปตรงๆ เช่นนั้นเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายก็ต้องหันมามองดูอย่างมึนงง
แต่เย่หยวนก็ไม่คิดสนใจเพราะไม่ว่าจะเป็นพลังงานประเภทใด พลังงานผีร้ายหรือไม่มันก็ล้วนเป็นประโยชน์แก่ตัวเขาสิ้น
ครึ่งวันจากนั้นเย่หยวนก็มีคลื่นพลังพุ่งสูงขึ้นจนถึงอาณาจักรพิภพโกลาหลขั้นกลางสูงสุด ห่างจากขั้นปลายเพียงแค่เส้นผมเท่านั้น
เมื่อได้เห็นเช่นนั้นคนทั้งหลายต่างก็ต้องอ้าปากค้าง
เจ้ามนุษย์คนนี้มันทำลายทุกสามัญสำนึกลงสิ้น
เย่หยวนเดินเข้ามาหาหวู่เจียงที่อยู่ไม่ไกลก่อนจะพบว่าเขาเองก็พัฒนาไปได้ไม่น้อย เวลานี้เขาขึ้นมาอยู่ที่อาณาจักรเทพสวรรค์ขั้นสุดได้แล้วเรียบร้อย
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือเย่หยวนยังสัมผัสได้ว่าเขาคนนี้ยังผลอมซับบัวดอกโลหิตลงไปไม่หมด เหลือพลังของบัวดอกโลหิตอีกมากที่ยังไม่ได้หลอมซับดูดมันเข้าร่างกาย
และเจ้าเศษบัวดอกโลหิตที่เหลือนี้เองมันก็จะช่วยให้เขาทำความเข้าใจได้เต๋าสวรรค์ได้และช่วยเพิ่มโอกาสการบรรลุอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ไปอีกมากโข
เย่หยวนนั้นเข้าใจได้ว่าฝีมือของหวู่เจียงนั้นไม่ธรรมดา
ด้วยบัวดอกโลหิตครึ่งดอกนี้ ในวันหน้าหวู่เตียงคนนี้คงสามารถบรรลุขึ้นอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้อย่างไร้ปัญหาใด
สิ่งนี้มันมีค่ากับหวู่เจียงมากล้ำ!
แต่ตัวเย่หยวนนั้นกลับเป็นดั่งหลุมที่ไร้ก้ม ไม่ว่าจะเติมพลังงานลงไปเท่าไหร่ โอสถทรงพลังมากมายแค่ไหนมันก็ไม่ส่งผลใดๆ มากมาย
“ดูท่าพี่หวู่จะได้ประโยชน์มากกว่าที่ข้าคาดไปมาก ยินดีด้วยพี่หวู่” เย่หยวนยิ้ม
หวู่เจียงนั้นส่ายหัวออกมา “มันเป็นเพราะพี่เย่สิ้นที่ให้สมบัตินี้แก่ข้า!”
เย่หยวนยกมือขึ้นมาโบกปัด “จนป่านนี้เราก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของข่ายเงินแก่นโลหิต แต่เหล่าสัตว์ร้ายในที่นี้มันก็แข็งแกร่งเกินกว่าที่จะรับมือไหวแล้ว เดินหน้าต่อไปมันคงอันตรายจนเกินรับ เราจากกันตรงนี้เถอะ”
หวู่เจียงนั้นผงะไปเล็กน้อยก่อนจะทำหน้าเหมือนอยากพูดอะไรแต่จู่ๆ มันกลับมีเสียงหัวเราะแหลมเล็กเหมือนของเด็กตัวน้อยออกมาจากภายในถ้ำ
“ฮี่ๆๆ…”
สีหน้าของเหล่าเทพสวรรค์ทั้งหลายซีดลงทันทีก่อนจะเห็นว่ามีแสงสีเงินพุ่งผ่านหน้าพวกเขาไป
ฟุบ!
ทุกผู้คนนั้นรู้สึกเหมือนมีลมพุ่งผ่านหน้าไปมุ่งตรงเข้าหาตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยูที่ยังคงนั่งพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ!
จักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยูผู้แข็งแกร่งนั้นไม่ทันจะได้ขัดขืนใดๆ เขาก็ถูกลากตัวหายไปต่อหน้าต่อตาผู้คน
“เนตรสุริยันจันทราเทวะ ทำงาน!”
เย่หยวนหรี่ตาลงมองไปยังทิศทางที่เงาแสงนั้นพุ่งตัวไปด้วยเนตรสุริยันจันทราเทวะก่อนจะพบว่าอีกฝ่ายนั้นมีรูปร่างคล้ายเด็กน้อยอายุเจ็ดถึงแปดขวบที่กำลังคาบตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยูไว้ในปากลากตัวเขาหายเข้าไปลึกในถ้ำ
จักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยูนั้นมีใบหน้าหวาดกลัวอย่างถึงที่สุดแต่เขานั้นถูกเด็กน้อยคนนั้นกัดจนไม่อาจจะมีแรงขัดขืนใดๆ ได้
หวู่เจียงหน้าเปลี่ยนสีทันที “นั่นมัน… คลื่นพลังของข่ายเงินแก่นโลหิต! มันเป็นข่ายเงินแก่นโลหิตที่แปลงกายเป็นเด็กเผ่ามนุษย์!
เย่หยวนที่ได้ยินต้องเบิกตากว้างขึ้นมาทันทีก่อนจะพุ่งตัวตามออกไปราวกับลำแสง
พร้อมๆ กันนั้นตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งเองก็ได้พุ่งตัวตามออกไปด้วย
ลำแสงทั้งสองนั้นหนึ่งนำหนึ่งตามหายไปต่อหน้าต่อผู้คนในเวลาแค่พริบตา
“เจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนี้มันกลับใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติได้!”
เย่หยวนนั้นสั่นสะท้านไปทั้งกายด้วยแนวคิดแห่งห้วงมิติของเขานี้ เขากลับไม่อาจไล่ตามข่ายเงินแก่นโลหิตได้ง่ายๆ
ข่ายเงินแก่นโลหิตมันมีแนวคิดแห่งห้วงมิติในระดับที่น่าหวาดกลัวทีเดียว
แต่ตัวเย่หยวนนั้นก็ยังมีแนวคิดแห่งห้วงมิติที่เหนือล้ำกว่ามันอยู่หน่อยทำให้ความห่างระหว่างทั้งสองค่อยๆ หดเล็กลงเรื่อยๆ
ส่วนที่ด้านหลังนั้นยิ่งตามมาไกลตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งก็ยิ่งตื่นตะลึง
ตัวเขา จักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้นี้กลับไม่อาจตามเทพสวรรค์ได้ทัน!
เย่หยวนนั้นสามารถใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาในที่แห่งนี้ได้อย่างไม่มีอาการติดขัดใดๆ
เจ้าหมอนี่มันคือสัตว์ประหลาดโดยแท้
แต่ทว่าตัวเขาก็ยังเป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ ด้วยพลังปราณเทวะที่เหนือล้ำนี้มันทำให้เขายังพอตามหลังเย่หยวนได้
สามลำแสงนั้นพุ่งแข่งไล่กันไปตามเส้นทางของถ้ำนี้
แต่เย่หยวนนั้นยิ่งตามไปก็ยิ่งกังวลใจ เพราะยิ่งเข้าไปลึกมันก็จะยิ่งมากอันตรายเท่านั้น
เหล่ายอดฝีมือทั้งหลายที่เข้ามาก่อนนั้นล้วนแล้วแต่อยู่ลึกจากทางตรงหน้านี้เข้าไป
เส้นทางที่ข่ายเงินแก่นโลหิตมุ่งหน้าไปนั้นมันมีแสงสาดส่องจ้า มันค่อยๆ เข้าไปใกล้แหล่งกำเนิดแสงสีเลือดนี้ขึ้นเรื่อยๆ
ในเวลานี้เนตรสุริยันจันทราเทวะของเย่หยวนเห็นภาพตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
ระหว่างที่ข่ายเงินแก่นโลหิตหนีไปมันก็ค่อยๆ กัดกินตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ฉานหยูไปด้วย!
เวลานี้เจ้าข่ายเงินแก่นโลหิตนั้นมันค่อยๆ เพิ่มพูนพลังขึ้นเรื่อยๆ
“เร็วเข้าสิ! เร็วกว่านี้!”
เย่หยวนได้แต่ร้องกล่าวออกมาอย่างร้อนใจคิดอยากไปให้เร็วกว่าเก่าแต่มันก็ไม่อาจจะเร็วได้มากกว่านี้
แม้ว่าเขาจะตามมันและเข้าใกล้ตัวข่ายเงินแก่นโลหิตได้เรื่อยๆ แต่กว่าที่จะถึงตัวมันจริงๆ ก็ยังไม่รู้ต้องตามไปอีกไกลแค่ไหน
ในวินาทีนี้เย่หยวนมีแค่ความคิดเดียวในหัว คือเขาต้องเร็วกว่านี้!
ที่ด้านหลังเย่หยวนนั้นตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งได้แต่ต้องเบิกตากว้างขึ้นอย่างตื่นตะลึง
ในสายตาของเขานี้ตัวเย่หยวนจู่ๆ ก็เพิ่มความเร็วขึ้นอย่างมากเหมือนว่าเขาได้เครื่องยนต์ใหม่มุ่งเข้าใกล้ตัวข่ายเงินแก่นโลหิตนั้น
“มันเกิดอะไรขึ้น? เจ้าเด็กคนนี้มันถึงขีดจำกัดแล้วแน่ๆ เหตุใดจู่ๆ มันก็ยังเร็วขึ้นมาได้อีก? ไม่สิ! มัน… มันเป็นข้าที่กำลังช้าลง!”
จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งสั่นสะท้านไปทั้งกายเพราะเขาได้พบว่าภาพที่ผ่านไปนั้นมันค่อยๆ ช้าลงเรื่อยๆ
แต่ตัวเขายังคงพุ่งไปด้วยความเร็วสูงสุดของตน
มันเกิดอะไรขึ้น?
ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาได้เห็นเย่หยวนเร่งความเร็วขึ้นนั้น มันเป็นแค่ความเข้าใจผิดของเขา
จู่ๆ จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้จนต้องเบิกตากว้าง
“น-แนวคิดแห่งกาลเวลา! เจ้าเด็กคนนี้มันบรรลุแนวคิดแห่งกาลเวลาด้วย?”
“ไม่ผิดแน่! ของเช่นนี้… มันต้องเป็นแนวคิดแห่งกาลเวลาแน่!”
เวลานี้จักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งสั่นสะท้านไปทั้งใจอย่างที่ไม่อาจอธิบายออกมาเป็นคำพูดใดได้ เขานั้นเริ่มรู้สึกว่าที่หลังของตนมันมีเหงื่อเย็นเยือกไหลออกมาไม่หยุด
เขานั้นคิดถึงความเป็นไปได้นับล้านๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในวันหน้า
คนเช่นนี้มันมีตัวตนอยู่ได้อย่างไร?
“แนวคิดแห่งห้วงมิติ แนวคิดแห่งกาลเวลา! สองสุดยอดแนวคิด เขานั้นกลับบรรลุมันได้ทั้งสองอย่างเช่นนั้นหรือ! เจ้าเด็กคนนี้มันคิดจะท้าทายสวรรค์หรืออย่างไร?”
คำพูดใดๆ มันก็ไม่อาจจะอธิบายความตกตะลึงของเขาได้แล้วในเวลานี้
ในเวลานี้เขามั่นใจว่าเย่หยวนนั้นเริ่มจะจับแนวคิดแห่งกาลเวลาได้จนทำให้การไหลของเวลาในพื้นที่รอบๆ มันช้าลง
เพราะฉะนั้นตัวคนที่ใช้มันออกมาจึงดูรวดเร็วขึ้น
เรื่องของสุดยอดแนวคิดนี้ แค่บรรลุได้หนึ่งอย่างมันก็นับเป็นยอดอัจฉริยะในรุ่นสิบแปดชั่วคนแล้ว
แต่เจ้าเด็กคนนี้กลับบรรลุได้ถึงสอง!
ในวันหน้าหากเขาเดินตามเส้นทางเต๋าจนขึ้นสู่อาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์ได้แล้วมันจะยังมีใครในมหาพิภพถงเทียนนี้ต่อต้านตัวเขาได้?
น่ากลัว!
น่ากลัวเกินไปแล้ว!
แค่คิดถึงมันตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เจี่ยวมิ่งก็สั่นกลัวอย่างไม่อาจห้าม
เมื่อก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรจักรพรรดิเทพสวรรค์สิ่งที่จะทำให้เขากลัวหรือตื่นตะลึงได้นั้นมันย่อมมีไม่มากนัก
แต่เขาก็ไม่นึกไม่ฝันว่าวันหนึ่งเขากลับจะต้องมารู้สึกหวาดกลัวนักยุทธเทพสวรรค์คนหนึ่งอย่างจับใจ
การได้เจอเย่หยวนครั้งแรก เขานั้นคิดว่าเย่หยวนมีฝีมือ
ระหว่างทางที่เดินเข้ามาด้วยกัน เย่หยวนก็ได้ใช้ฝีมืออกมาให้เขาเห็น
ตอนที่เย่หยวนใช้คำบัญชาเต๋าสวรรค์ออกมานั้น ในวินาทีนั้นตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์ก่วยชางได้ตายลงสิ้น
เป็นเวลานั้นเองที่ตัวเขาได้เข้าใจว่าศัตรูของเขานี้คือตัวตนระดับใด!
แต่ตัวเขาก็ยังไม่ยอมรับอย่างหมดใจ มีหรือที่เขาจะยอมรับว่าตัวเองกลัวเทพสวรรค์ได้ถึงขั้นนั้น?
เพราะฉะนั้นเขาจึงใช้โอกาสเกิดใหม่นั้นลอบฆ่าสังหารเย่หยวน
แต่เย่หยวนกลับใช้แนวคิดแห่งห้วงมิติออกมาสุดตัวหลบรอดการสังหารนั้นไปได้!
ในเวลานั้น เขายิ่งกังวลและกลัวเย่หยวนมากเข้าไปใหญ่
หากมิใช่เพราะข่ายเงินแก่นโลหิตอันน่าดึงดูดนี้แล้ว ตัวเขาคงไม่อยู่ในบ่อโลหิตอสุรานี้อีกต่อไป
แต่ก็เพราะว่าความดื้อด้านของเขานั้นที่ทำให้เขาได้มาเห็นวินาทีแห่งปาฏิหาริย์!
วินาทีที่ยอดฝีมือผู้บรรลุสองสุดยอดแนวคิดถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกหล้า!
………………