ตอนที่ 1048 โปรเจกต์ของนักวิชาการลู่

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ความเงียบนั้นน่ากลัว

ชายผอมแห้งที่สวมแว่นที่ยืนอยู่บนเวทีสังเกตเห็นสิ่งนี้ และเขาหยุดพูดในขณะที่รู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อยว่าเขาควรพูดต่อดีหรือไม่

ในที่สุดก็มีคนพูดทำลายความเงียบ

“คุณชื่ออะไร”

ชายคนที่ถามขึ้นมาคือเมย์เบอร์รี่ ซีทีโอของ Intel ที่นั่งอยู่แถวหน้า

เขาถามคำถามนี้หลังจากที่เขาสบสายตากับชายบนเวที

ชายบนเวทีรู้สึกตกตะลึงที่ชายเบอร์ใหญ่คนนี้กำลังพูดกับคนตัวเล็กอย่างเขา เขาสติหลุดไปชั่วครู่ แต่เขาพบอย่างรวดเร็วว่าเขายืนอยู่บนเวที เขาพยักหน้าและพูด

“…เหอไห่ วิศวกรการวิจัยและพัฒนาที่หัวเหว่ยครับ”

เหอไห่?

เมย์เบอร์รี่จำชื่อนี้ได้โดยไม่รู้ตัว คิ้วของเขาเลิกขึ้นในระหว่างที่เขาเริ่มคิด เขาจำไม่ได้ว่าเขาเคยได้ยินชื่อนี้

เขายอมแพ้ในที่สุด เขามองดูเหอไห่และพูดว่า

“มันไม่สำคัญว่าคุณชื่อว่าอะไร”

เหอไห่ “???”

คุณเป็นคนที่ถาม

เมย์เบอร์รี่ไม่ได้รู้ว่าที่เขาพูดไปย้อนแย้งอย่างไร เขาดันแว่นที่สันจมูกและพูดอย่างใจเย็น

“ผมได้ยินว่าคุณพูดถึงคำว่าชิปฐานคาร์บอน เมื่อดูจากสไลด์พาวเวอร์พอยต์แล้วผมถูกใช่ไหมที่อนุมานว่าคุณในฐานะตัวแทนหัวเหว่ยมาที่นี่เพื่อประกาศต่อชุมชนวิชาการและแวดวงอุตสาหกรรมว่าคุณได้สร้างความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในเทคโนโลยีชิปฐานคาร์บอน?”

พูดตามตรง เขาเพิ่งนำเสนอไปได้ครึ่งงานนำเสนอซึ่งห่างไกลจากช่วงถาม-ตอบ การกระทำของเมย์เบอร์รี่ค่อนข้างไม่เคารพผู้นำเสนอรวมทั้งผู้ชมด้วย

แต่ว่ามันมีข้อยกเว้นสำหรับทุกอย่าง

ไม่มีใครขมวดคิ้วกับการกระทำของเมย์เบอร์รี่ เพราะทุกคนอยากรู้คำตอบของคำถามนี้

สิ่งที่อยู่บนสไลด์พาวเวอร์พอยต์นั้นถูกต้องใช่ไหม?

เหอไห่ไม่ได้คาดคิดว่าเมย์เบอร์รี่จะถามคำถามแปลกเช่นนี้ เหอไห่มองดูเมย์เบอร์รี่ด้วยสายตาแปลกๆ จากนั้นเขาหันกลับไปดูพาวเวอร์พอยต์ เขาทำให้แน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดบนสไลด์และพูดว่า

“..จากที่คุณเห็น ชิปซีรีส์ดราก้อนแรกถูกผลิตโดยใช้เทคโนโลยีชิปฐานคาร์บอน เราได้ใช้ทรานซิสเตอร์ฐานคาร์บอนรุ่นใหม่โดยการร่วมมือกับสถาบันวัสดุศาสตร์เชิงคำนวณจินหลิงและห้องแล็บฐานคาร์บอน…”

เมื่อผู้ชมได้ยินคำว่าทรานซิสเตอร์ฐานคาร์บอนก็เกิดเสียงพูดคุยวุ่นวาย

คอนเซ็ปต์ของชิปฐานคาร์บอนเป็นสิ่งที่เพิ่งปรากฏขึ้นในปีนี้ จนกระทั่งถึงวันนี้คนส่วนใหญ่คิดว่ามันเป็นเพียงแค่แนวคิดเท่านั้น ในระหว่างที่ความเป็นไปได้ของแนวคิดนี้ยังเป็นที่ถกเถียงในชุมชนวิชาการ

แต่ตอนนี้ชายคนนี้บนเวทีกำลังอ้างว่า…

มีคนได้ไขเทคโนโลยีที่เป็นที่ถกเถียงนี้แล้ว?

เมย์เบอร์รี่เริ่มตื่นตระหนก เขาแทบรักษาท่าทีของตัวเองไม่ได้ เขาจ้องมองผู้นำเสนอและพูดว่า

“คุณพูดในฐานะตัวแทนหัวเหว่ย? คุณรับผิดชอบคำพูดของคุณใช่ไหม? คุณรู้ไหมว่าการเผยแพร่ผลทางวิชาการที่ไม่เป็นความจริงที่งานประชุมจะเกิดอะไรขึ้น?”

เมย์เบอร์รี่พยายามอย่างยิ่งที่จะอ่านสีหน้าของชายชาวจีนคนนี้ โดยหวังที่จะเห็นการแสดงออกเพียงเล็กน้อยว่าเขากำลังโกหก

แต่เขากลับผิดหวัง

ผู้นำเสนอที่ชื่อเหอไห่ไม่รู้ว่าคำถามพวกนี้เป็นเชิงโวหาร เขาจึงยิ้มประหม่าและพูดว่า “โอ้ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องนั้นเลย

ผู้ประพันธ์บรรณกิจในงานวิจัยนี้คือนักวิชาการลู่

เขาเป็นผู้รับผิดชอบโปรเจกต์นี้”

ศาสตราจารย์ลู่!

ทันทีที่ชื่อนี้ถูกพูดถึง ทั้งห้องประชุมเงียบสงัด

สีหน้าของเมย์เบอร์รี่ซีดลง ปากของเขาสั่นในขณะที่เขาพูดไม่ออก

เขาหวังว่าการรายงานนี้เป็นเพียงเรื่องโกหกว่ามันไม่มีเทคโนโลยีชิปฐานคาร์บอนและหัวเหว่ยโกหก แต่ตอนนี้ความหวังของเขาถูกพังทลายโดยการพูดถึงชื่อของ ‘นักวิชาการลู่’…

ผู้ได้รับรางวัลโนเบลและรางวัลเหรียญฟิลด์ ชายผู้พิสูจน์สมมติฐานของรีมันน์ และเป็นผู้ที่เพิ่งได้รับรางวัลคาร์ล ฟรีดริช เกาส์ ด้วยเกียรติและชื่อเสียงที่พ่วงมากับชื่อนี้ เรซูเม่ของเขาคงมีขนาดเป็นสิบหน้า

จากสถานะของเขา มันไม่มีเหตุผลที่เขาต้องโกหกเพื่อหัวเหว่ย

ถ้าเกิดเทคโนโลยีนี้ได้รับการสนับสนุนจากชื่อเสียงด้านวิชาการของชายคนนี้จริงๆ…

เมื่อเห็นว่าเมย์เบอร์รี่พูดไม่ออก เหอไห่พูดขึ้นว่า

“เอ่อ ผมพูดต่อได้แล้วนะ?”

“พูดต่อเลยครับ…” สวอนพูดแทนซีทีโอที่อึ้งไปแล้ว

เหอไห่มองดูสายตาที่จ้องมองเขามา เขากลืนน้ำลายและพยักหน้า

“โอ้ โอเค”

เหอไห่สาบานกับพระเจ้าได้เลยว่าการนำเสนอวันนี้เป็นจุดสูงสุดของชีวิตเขา

อย่างน้อยก็เป็นจุดสูงสุดของชีวิตครึ่งแรกของเขา

ทั้งห้องประชุมเต็มไปด้วยนักวิชาการและวิศวกรที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำรวมไปทั้งผู้นำในอุตสาหกรรม

แต่ทุกคนที่นั่งอยู่ในกลุ่มผู้ชม ไม่ว่าจะเป็นนักวิจัยอ่อนหัดหรือผู้มีชื่อเสียงพรีเซนต์ ทุกคนฟังการนำเสนอพาวเวอร์พอยต์อย่างเงียบๆ

เขาแน่ใจว่าทุกคนกำลังฟังเขาจริงๆ

เพราะว่าเมื่อเขานำเสนอผลการทดสอบประสิทธิภาพของชิป เขาสามารถได้ยินเสียงอุทาน…

“เทคโนโลยีการประมวลผล 28 นาโนเมตร การรวมของ 10 ล้านต่อตารางมิลลิเมตร…เหนือกว่าชิป Xenon มันบ้าไปแล้ว!”

“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ผมจะไม่เชื่อมันจนกว่าจะได้เห็นด้วยตาตัวเอง!”

“ความเร็วคล็อกที่ 3.7GHz การใช้พลังงานสูงสุดที่ 20W…ฮ่าฮ่า เป็นไปไม่ได้”

“ในทางทฤษฎี ชิปฐานคาร์บอนมีประสิทธิภาพการกระจายความร้อนได้ดีกว่าชิปฐานซิลิกอน…”

“เป็นไปไม่ได้! ผมขอพูดอีกครั้ง เป็นไปไม่ได้!”

“…”

เมื่อเหอไห่ได้ยินเสียงกระซิบในฝูงชน เขาไม่ได้เริ่มที่จะกังวล แต่เขากลับรู้สึกโล่งอก

ไม่ว่าผู้ชมจะชื่อเขาหรือไม่ สิ่งที่สำคัญคือคนพวกนี้ได้ฟังเขาพูด

สำหรับการถกเถียง…

มันไม่สำคัญ

เขาได้เห็นชิปมหัศจรรย์นี้มาก่อน มันมีขนาดเท่าหัวแม่มือและเบาเท่ากระดาษ เขาไม่สามารถบรรยายความตกใจตอนที่เห็นมันครั้งแรกได้ สิ่งหนึ่งที่เขามั่นใจคือเมื่อคนที่นั่งอยู่ตรงนี้เห็นชิปด้วยตาของตัวเอง คนพวกนี้ก็จะรู้สึกช็อกเหมือนกัน…

หลังจากการนำเสนอจบลง มันไม่มีช่วงถาม-ตอบ ทั้งห้องประชุมเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

รองประธานของควอลคอมม์ คอค มีสีหน้าว่างเปล่า

อยู่ดีๆ เขาพูดขึ้นว่า

“แวคเกอร์ คุณรู้ไหมว่าผมอยากทำอะไร?”

แวคเกอร์มีใบหน้านิ่งเช่นกัน เขากลืนน้ำลายและพึมพำว่า “ผมไม่รู้ ผมไม่ได้ซื้อขายหุ้น…ผมมีหุ้นควอลคอมม์อยู่บ้าง ผมจะลองขายมันให้ได้มากที่สุดเท่าที่ขายได้”

คอคพยักหน้า

“ผมคิดแบบนั้นเหมือนกัน”

…………………………………