ตอนที่ 1202 บ้านคุณคลอดลูกออกมาทีละรัง + ตอนที่ 1203 มาอีกหนึ่งท่อน โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1202 บ้านคุณคลอดลูกออกมาทีละรัง
โอหยางซานซานถูกแผนยุแหย่ของเหมยเหมยยั่วโมโหได้สำเร็จ เธอไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย กระโดดลงกับดักที่เหมยเหมยขุดไว้
เหมยเหมยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เธอเห็นความร้อนรนของหวงอวี้เหลียนอย่างชัดเจนก็แอบรู้สึกขำขัน ไม่กลัวจะเจอศัตรูผู้เก่งกล้า แต่กลัวจะมีเพื่อนร่วมทีมที่โง่เหมือนหมูมากกว่า!
หวงอวี้เหลียนเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอก แต่กลับมีลูกสาวที่โง่เหมือนหมู สวรรค์มีตาจริง ๆ!
“วิธีการง่ายมาก เมื่อครู่แม่คุณพูดเองไม่ใช่เหรอว่าหนังสือเล่มนี้ทุกคำทุกประโยคเป็นความพยายามของคุณที่กลั่นออกมา ถ้าเช่นนั้นหนังสือเล่มนี้คุณคงจะท่องได้ขึ้นใจเลยสินะ” เหมยเหมยถาม
หวงอวี้เหลียนไม่รู้ว่าเหมยเหมยจะมาไม้ไหน แต่เธอรู้ว่าเหมยเหมยไม่ได้มาดีแน่ เธออยากจะพูดว่านักเขียนไม่สามารถจำผลงานของตัวเองได้ทุกอันหรอก แต่ผู้ร่วมทีมที่โง่เหมือนหมูของเธอดันชิงพูดขึ้นมาเสียก่อน
“แน่นอน ผลงานการเขียนของฉันก็เหมือนลูก ๆของฉัน ฉันสร้างมันมาเองกับมือจะไม่คุ้นชินได้อย่างไร?”
ถึงแม้โอหยางซานซานจะไม่มั่นใจแต่เธอก็ต้องยืนกรานออกไปเช่นนั้น เธอจำได้ว่าแต่ก่อนเคยดูทีวีเห็นบทสัมภาษณ์ของนักเขียนท่านหนึ่ง นักเขียนท่านนั้นก็พูดอย่างนี้ วันนี้ขอยืมมาพูดหน่อยน่าจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก!
หวงอวี้เหลียนรู้สึกชื่นชมในคำตอบของลูกสาวที่ตอบออกมาได้อย่างดีเยี่ยม แม้แต่เธอเองก็ยังไม่สามารถคิดคำตอบที่ดีแบบนี้ออกมาได้
เหมยเหมยหัวเราะร่าทำให้โอหยางซานซานยิ่งรู้สึกโมโห
“เธอไม่ต้องมามองฉัน ฉันก็แค่รู้สึกแปลกใจ ลูกของนักเขียนคนอื่นเขาค่อยๆคลอดกันทีละคนทีละคน แต่เธอกลับคลอดออกมาทีละรังทีละรัง”
เหมยเหมยกลั้นขำไว้แล้วพูดออกมา คนอื่นยังฟังไม่ค่อยเข้าใจ โอหยางซานซานกับหวงอวี้เหลียนก็ยังไม่เข้าใจเช่นกัน แต่พวกเธอรู้ว่าไม่ใช่คำพูดที่ดีแน่นอน
เซียวเซ่อกลับฟังรู้เรื่อง จงใจถามขึ้นมาว่า: “เหมยเหมยเธอพูดให้เข้าใจหน่อยสิ อะไรเรียกว่าคลอดออกมาทีละรังทีละรัง โอหยางซานซานยังไม่ได้แต่งงานเสียหน่อยจะคลอดลูกได้อย่างไร หรือว่าเธอท้องก่อนแต่งเหรอ?”
โอหยางซานซานสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที สบถด้วยความโกรธ “เซียวเซ่อ เธอพูดเพ้อเจ้ออะไร?”
เหมยเหมยทำมือปรามไว้ “อย่าใจร้อนสิ เมื่อครู่คุณพูดเองไม่ใช่เหรอว่าผลงานของคุณเป็นดั่งลูก ๆของคุณ ถ้าอย่างนั้นคุณเขียนผลงานออกมา มันก็คือคุณคลอดลูกออกมาไม่ใช่เหรอ ความหมายของฉันก็คือนักเขียนคนอื่นจะออกบทความมาทีละตอนทีละตอน แล้วสุดท้ายจึงจะตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือ ไม่เหมือนคุณโอหยางซานซาน เมื่อก่อนไม่เคยเห็นออกบทความของคุณมาก่อน แต่จู่ ๆ ก็ตีพิมพ์หนังสืออกมาเลย นี่ไม่ใช่การคลอดทีเดียวเป็นรังหรอกเหรอ!”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า”
สยงมู่มู่กับเซียวเซ่อหัวเราะเสียงดังลั่น คนอื่นก็เลยหัวเราะตาม ช่างเป็นการเปรียบเทียบได้เห็นภาพจริง ๆ
แต่ก็มีบางคนเดาออกถึงความหมายแฝงในคำพูดเหมยเหมย แล้วนึกถึงความผิดปกติในการออกหนังสือของโอหยางซานซาน ช่างไม่สมเหตุสมผลเลยเสียจริง ปกติแล้วการออกหนังสือจะเป็นการรวบรวมผลงานที่เคยออกมาก่อนแล้วค่อยมาตีพิมพ์ แต่โอหยางซานซานกลับกระโดดข้ามขั้นตอนนี้ไปถึงขั้นตอนสุดท้ายตีพิมพ์หนังสือเลย ดูผิดปกติจริง ๆ
สีหน้าของหวงอวี้เหลียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย แอบหัวเสียว่าทำไมเธอถึงไม่คิดให้รอบคอบ ให้จ้าวเหมยมาจับผิดช่องโหว่ที่เห็นได้ชัดขนาดนี้ได้
“แต่ก่อนพวกเราไม่เคยคิดจะออกหนังสือมาก่อน ซานซานชอบวรรณกรรมก็เลยหาเวลาว่างมาเขียนหนังสือ แต่ก็เป็นเพียงเพราะความสนใจเท่านั้นจึงไม่เคยแสดงผลงานมาก่อน จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนของฉันคนหนึ่งที่อยู่ในวงการนี้บังเอิญมาเห็นผลงานของซานซานก็เลยมาหว่านล้อมฉันให้ซานซานตีพิมพ์เป็นหนังสือ จึงเกิดงานขายหนังสือในวันนี้ขึ้น”
หวงอวี้เหลียนอธิบายด้วยน้ำเสียงนิ่มนวล ถึงแม้ว่าเหตุผลจะฟังดูเหมือนแถแต่ก็ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ ข้อสงสัยในใจของหลายคนเริ่มหมดไป
เหมยเหมยพูดเสียงใสว่า “ก็ใช่ คุณปู่ของโอหยางซานซาน เอ่อ…พ่อก็ควบคุมการตีพิมพ์หนังสือ อยากจะออกหนังสือสักเล่มง่ายจะตายไป ประหยัดแรงยิ่งกว่าฉันทำกิจวัตรประจำวันทั่วไปเสียอีก!”
หวงอวี้เหลียนฟังออกว่าเธอจะสื่อเช่นนี้ แววตาอาฆาตราวกับชุบด้วยพิษงู จ้องมองไปที่เหมยเหมยอย่างดุร้าย
เหมยเหมยมองเธอเหมือนอากาศธาตุ พูดกับโอหยางซานซานว่า “ในเมื่อเป็นลูกที่คุณคลอดออกมาเอง ถ้าอย่างนั้นฉันจะลองอ่านประโยคหนึ่งจากในหนังสือ ดูว่าคุณจะรู้ไหมว่ามันมาจากบทความไหน!”
……………………………………………………….
ตอนที่ 1203 มาอีกหนึ่งท่อน
โอหยางซานซานใจเต้นตึกตัก เธอเริ่มปวดขมับขึ้นเรื่อย ๆ มือเย็นเฉียบ ทั้ง ๆที่สภาพอากาศอยู่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงอากาศปลอดโปร่งเย็นสบาย แต่เธอกลับรู้สึกเหน็บหนาวยิ่งกว่าอากาศในฤดูหนาวเสียอีก
หวงอวี้เหลียนก็มีความรู้สึกเช่นเดียวกัน เธอคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเหมยเหมยจะใช้วิธีการนี้!
ไม่มีใครรู้จักลูกสาวดีเท่าแม่ เธอจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าโอหยางซานซานเป็นคนเช่นไร?
หนังสือเล่มนี้เธอเป็นคนจัดการเองหมดทุกอย่าง เธอให้โอหยางซานซานหาเวลาว่างมาอ่านหนังสือ แต่ปัญหาก็คือเธอไม่รู้สึกว่าโอหยางซานซานจะเชื่อฟัง
ตอนนี้หวังแค่ว่าโอหยางซานซานจะพอได้เรื่องบ้าง ท่องจำหนังสือเล่มนี้มาแล้วอย่างดี ไม่ให้แผนการของจ้าวเหมยสำเร็จได้
โอหยางซานซานไม่กล้ามองตาหวงอวี้เหลียน ตอนนี้เธอรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก ถ้ารู้ว่าจะมีวันนี้เธอน่าจะเชื่อฟังแม่ตั้งแต่แรก ตั้งใจอ่านหนังสือบ้าง
แต่บนโลกนี้ไม่มียาแก้ความรู้สึกเสียใจภายหลังนี่นา!
หนังสือเล่มนี้โอหยางซานซานอ่านไม่จบเลยสักตอน เธอทำได้แต่เพียงภาวนาว่าท่อนที่จ้าวเหมยเลือกมา เป็นท่อนที่เธอเคยอ่านผ่านตาพอดี อีกทั้งต้องเป็นท่อนที่เธอจำได้ด้วย
เหมยเหมยมองเห็นความไม่มั่นใจของโอหยางซานซาน ก็รู้สึกได้เลยว่าตัวเองมีโอกาสชนะมากขึ้น เธอรู้ว่ายัยนี่ไม่มีทางทนอ่านหนังสือได้หรอก
“วิธีของฉันเป็นวิธีที่ยุติธรรมมาก พวกคุณว่าใช่ไหมล่ะคะ?” เหมยเหมยถามคนที่อยู่ด้านล่างเวที
ทุกคนต่างพากันพยักหน้าหงึกหงัก วิธีนี้ยุติธรรมมากแล้วจริงๆ นักเขียนก่อนที่จะออกหนังสือ จะต้องแก้ต้นฉบับแบบแก้แล้วแก้อีก ในระยะอันสั้นต้องจดจำได้อย่างชัดเจนแน่นอน ตอนนี้เพิ่งจะออกหนังสือมา โอหยางซานซานต้องจำได้แน่
หวงอวี้เหลียนเดิมอยากจะพูดว่ามีหลายตอนเกินไปอาจจะจำได้ไม่หมด แต่พอเห็นทุกคนเห็นด้วยกับคำพูดของจ้าวเหมย เธอจะกล้าพูดออกมาได้อย่างไร ทำได้เพียงแค่กลืนกลับเข้าไปในท้อง แล้วมองไปที่โอหยางซานซานอย่างกระสับกระส่าย
เหมยเหมยก็ไม่รอให้เสียเวลา เธอเลือกอ่านออกมาหนึ่งท่อน เสียงของเธออ่อนหวาน แต่ท่อนที่อ่านออกมาเป็นท่อนที่เสียดสีร้อนแรง ฟังแล้วทำให้ผู้คนต่างรู้สึกขบขัน
“ฉันอ่านมาแล้วท่อนหนึ่ง เขียนได้ดีมากจริงๆ ถ้าไม่ได้รู้จักนักเขียนมาก่อน ฉันคงจะคิดว่าคนที่เขียนน่าจะเป็นชายวัยกลางคนที่มีความสามารถแต่ไม่เป็นที่รู้จักนะเนี่ย”
เหมยเหมยจงใจพูดขึ้น หวงอวี้เหลียนเลิกคิ้วเล็กน้อย มือปืนที่เธอเชิญมาทั้ง 3 คน หนึ่งในนั้นเป็นนักเขียนที่ต้องการจะมีชื่อเสียงแต่ทำไม่สำเร็จ
ตอนนี้เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ คนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังเรื่องหนังสือพิมพ์ต้องเป็นจ้าวเหมยแน่!
โอหยางซานซานไม่สามารถโต้กลับอะไรเหมยเหมยได้เลย อีกทั้งเธอก็คงไม่มีเวลาคิดเรื่องพวกนี้ เพราะท่อนที่เหมยเหมยอ่านออกมา เธอจำไม่ได้เลยสักนิด
ทำอย่างไรดีล่ะ?
เหมยเหมยยิ้มตาหยีพลางถามขึ้น “โอหยางซานซาน ท่อนนี้อยู่ในตอนที่เท่าไหร่เหรอ?”
ตอนที่เธอถามขึ้น มีคนไม่น้อยเริ่มเปิดหนังสือดูกันแล้วเพื่อหาที่มาของบทความท่อนนั้น โอหยางซานซานมองพวกเขาด้วยความอิจฉา เธอก็อยากจะเปิดหนังสือ แต่เธอทำอย่างนั้นไม่ได้
โอหยางซานซานกัดริมฝีปาก พยายามนึกถึงสิ่งที่เธอเคยอ่านมาแต่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก เม็ดเหงื่อผุดออกมาทั่วทั้งหน้าผากไม่หยุด สีหน้าซีดลงอย่างช้า ๆ
หรือว่าวันนี้เธอจะต้องขายหน้าอีกแล้ว?
ไม่!
ไม่ได้นะ!
กว่าที่เธอจะประสบความสำเร็จอย่างวันนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย เธอจะไม่ยอมให้มันเสียเปล่าไปทั้งอย่างนี้หรอกนะ !
คนด้านล่างเวทีเห็นโอหยางซานซานไม่ยอมตอบเสียทีก็ย่อมจะต้องเริ่มสงสัยขึ้นมา นักเขียนที่แม้แต่ผลงานที่ตัวเองเขียนก็ยังนึกไม่ออกจะไม่ให้คนสงสัยได้อย่างไร
โอหยางซานซานกัดปาก เธอไม่ได้อยากให้จ้าวเหมยทำสำเร็จแต่เธอคิดไม่ออกจริง ๆ เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่หวงอวี้เหลียน หวังว่าแม่ที่ทำได้ทุกอย่าง วันนี้ก็จะสามารถช่วยเธอฝ่าฟันอุปสรรคไปได้เหมือนเคย
แต่ต่อให้หวงอวี้เหลียนจะเป็นองค์เทพไท่หลัว ก็ไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้แล้วในตอนนี้!
ด้านล่างเวทีเริ่มมีการเคลื่อนไหว หวงอวี้เหลียนรู้ดีว่าหากยังไม่คิดวิธีรับมือ ความพยายามตลอดทั้งปีของเธอก็จะสูญเปล่า
เหมยเหมยยิ้มอย่างได้ใจแล้วตะโกนขึ้นว่า “หนังสือเล่มหนึ่งมีตั้งหลายตอน อาจจะยังคิดไม่ออกในทันทีก็พอให้อภัยได้ อย่างนี้ละกันฉันจะอ่านขึ้นมาอีกหนึ่งท่อน โอหยางซานซานเธอก็ค่อย ๆคิดไปละกันนะ!”
……………………………………………….