ตอนที่ 1339 พลังของคนคนเดียว

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

โมโหอย่างมาก!

นักปรุงยาของดินแดนโลกสี่ทิศก็โกรธขึ้นบ้างแล้วเช่นกัน หากไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าสำนักโอสถฯ ที่ทรงพลัง พวกเขาต่างก็คิดที่อยากจะเตะคนกลุ่มนี้ลงไปในทะเลสาบเสีย

ผู้อาวุโสหูกล่าวว่า “ลองดูอีกครั้ง ถ้าคราวนี้ล้มเหลว! ก็ทำได้เพียงแค่เลื่อนเวลาการทดสอบออกไปและรอการจัดการของในสำนัก!”

“ครั้งต่อไปถ้าสำนักจะส่งคนมา ก็อย่าปล่อยให้พวกขยะกลุ่มนี้เข้าสู่ดินแดนโอสถได้เป็นอันขาด!”

“ใช่! พวกเขามีคุณสมบัติอะไรที่จะเข้าสู่ดินแดนโอสถได้!”

“…..”

เสียงร้องตะโกนที่ทรงพลังที่สุดคือลูกศิษย์ทั้งหลายของสำนักโอสถฯ ที่จะไม่ปล่อยให้พวกเขาได้เข้าสู่แดนโอสถในครั้งต่อไป?

ดวงตาของมู่เฉียนซีส่องประกายความมืดมิด ถ้าเข้าไปไม่ได้ นางจะไปหาผลจิ่วหยางซวนได้จากที่ไหน!

เงาร่างสีม่วงพุ่งออกมาและมู่เฉียนซีก็รีบพุ่งไปที่ด้านหน้าสุด

คนเหล่านี้ยังคงตะโกนเสียงดัง มู่เฉียนซีรู้สึกว่าพวกเขาเสียงดังจนเกินไปแล้ว จึงเหยียดเท้าและเตะออกไปหลายครั้งติดต่อกัน

“พวกเจ้าเสียงดังเกินไปแล้ว!”

ปัง ปัง ปัง! ร่างทั้งหลายปลิวว่อนราวกับผ้าขี้ริ้วที่ถูกลมพัดตกลงไปในทะเลสาบ

ทุกคนตะลึงงันปากอ้าตาค้างเมื่อเห็นฉากนี้ นาง…นางกลับกล้าถีบศิษย์ของสำนักโอสถฯ ลอยกระเด็นออกไปจริงๆ!

นักปรุงยามากมายของดินแดนสี่ทิศรู้สึกมีความสุขอย่างมาก! เรื่องที่พวกเขาไม่กล้าทำ สาวน้อยผู้นี้กลับทำได้อย่างง่ายดาย

ไห่ฝานและไป๋เหยียนเอ๋อร์กลับมีความสุขในความทุกข์ของผู้อื่น มู่เฉียนซีช่างห้าวหาญเสียจริง ๆ แม้แต่คนของสำนักโอสถฯ ก็ยังกล้าที่จะเตะ!

สำนักโอสถฯ เป็นกองกำลังสำนักนิกายระดับสี่ ที่นี่ไม่ใช่ตำหนักเป่ยหาน มู่เฉียนซียังคงหยิ่งผยองเช่นนี้ หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ!

“เจ้า…เจ้าบังอาจยิ่งนัก!”

ศิษย์เหล่านั้นของสำนักโอสถฯ ก็โกรธขึ้นมาแล้วเช่นกัน เป็นเพียงสาวน้อยสิบแปดมงกุฎของดินแดนโลกสี่ทิศ กลับกล้าที่จะแตะต้องคนของสำนักโอสถฯ ของพวกเขา

คนที่ตกลงไปในน้ำก็รีบปีนขึ้นมาและคิดอยากจะซัดมู่เฉียนซีให้ตายตก

แต่ในขณะนั้นเองพลังวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวก็ได้ปกคลุมบริเวณโดยรอบเอาไว้

ทุกคนในที่นี้รู้สึกตัวสั่นและครานี้แม้แต่ผู้นำสูงสุดของสำนักโอสถฯ อย่างผู้อาวุโสหูก็ยังเผยความหวาดกลัวในสายตาของเขาออกมา

พลังจิตวิญญาณนี้ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ในดินแดนโลกสี่ทิศกลับมียอดฝีมือที่ลึกลับเช่นนี้

พวกเขาต่างไม่รู้ว่าพลังจิตวิญญาณนี้มาจากที่ใด ทำได้เพียงป้องกันมันอย่างระมัดระวังเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลอบสังหารโดยไม่รู้ตัว

ผู้อาวุโสหูกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “ข้าไม่รู้ว่าเป็นท่านผู้ใด? แต่เราไม่มีเจตนาที่จะล่วงเกิน ได้โปรด…”

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ผู้อาวุโสไม่จำเป็นต้องกังวลไป ไม่ใช่ศัตรูก็แล้วกัน หากพวกเจ้ายังต้องการที่จะเปิดทางสู่ดินแดน เช่นนั้นก็จงสงบนิ่งและลองอีกครั้ง!”

ทุกคนมองไปที่มู่เฉียนซีด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง เป็นไปได้หรือไม่ว่าพลังจิตวิญญาณนี้เป็นนางที่ปล่อยออกมา

เป็นไปไม่ได้! สาวน้อยผู้นี้อายุยังไม่ทันถึงยี่สิบปี

นักปรุงยาผู้หนึ่งที่มาจากแดนตะวันออกกล่าวว่า “ข้ารู้ว่าพลังจิตวิญญาณนี้เป็นของใคร ต้องเป็นหมอปีศาจเป็นแน่!”

“ใช่ ต้องเป็นท่านหมอปีศาจเป็นแน่!”

“ท่านหมอปีศาจมาแล้ว แต่เขากลับไม่ได้ลงชื่อเข้าร่วมการแข่งขันนักปรุงยาในครั้งนี้!”

“ไม่ลงสมัครก็ดีสิ! หากลงสมัคร แล้วความคิดที่พวกเราอยากแข่งขันเพื่อชิงอันดับหนึ่งคงไม่มีโอกาสเลยแม้แต่น้อย”

ผู้อาวุโสหูตะลึงงัน “หมอปีศาจ?”

พวกเขาไม่รู้จักคนผู้นี้!

มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ทุกท่านอย่าได้เสียเวลาเลย เริ่มกันเถอะ!”

ผู้อาวุโสหูก็สงบลงและกล่าวว่า “เริ่มกันเลย!”

มีความช่วยเหลือจากผู้ที่เก่งกาจ โอกาสเช่นนี้พวกเขาย่อมไม่อยากพลาดอย่างแน่นอน

ในไม่ช้า พวกเขาก็รวมพลังจิตวิญญาณเข้าด้วยกันเพื่อเปิดทางอีกครั้ง

ศิษย์สำนักโอสถฯ ที่ถูกมู่เฉียนซีเตะลงไปในน้ำ เพราะการคุกคามจากพลังทางจิตวิญญาณที่ทรงพลังนั้นจึงไม่กล้าลงมือกับมู่เฉียนซีอีก

พวกเขาจ้องมองไปที่มู่เฉียนอย่างดุเดือด จากนั้นก็ยืนอยู่ข้างหลังมู่เฉียนอย่างเชื่อฟัง

ครั้งก่อนพวกเขาสิ้นเปลืองพลังจิตวิญญาณไปจนหมด แต่คราวนี้มันไม่เหมาะที่จะทำเช่นนั้น

ใบหน้าของมู่เฉียนซีผ่อนคลายและในที่สุดเมื่อนางยืนอยู่ด้านหน้าก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ทะเลสาบแห่งนี้มีจุดตัดระหว่างดินแดนโอสถกับดินแดนโลกสี่ทิศ และในความเป็นจริงตราบใดที่พลังจิตวิญญาณเข้าไปในจุดตัดนั้นแล้ว ก็จะสามารถเปิดทางได้อย่างทันที

ค่ายกลของดินแดนโอสถนี้ ต้องใช้กำลังอันแข็งแกร่งถึงจะทำลายไปได้อย่างสมบูรณ์

กำลังที่แข็งแกร่งย่อมราบรื่นอย่างแน่นอน เหมือนกับตอนนี้ที่ความแข็งแกร่งไม่เพียงพอจึงยากลำบาก

พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีถูกฉีดเข้าไปในจุดตัดนั้นอย่างต่อเนื่อง และในไม่ช้ากระแสน้ำวนก็ปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของทะเลสาบอีกครั้ง

กระแสน้ำวนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และในไม่ช้าก็เปิดออก

ผู้อาวุโสหูถอนหายใจด้วยความโล่งอก “เปิดออกแล้ว!”

ราบรื่นอย่างน่าแปลกประหลาดใจ เขารู้สึกได้ว่าคนอื่นไม่ได้ใช้พละกำลังความแข็งแกร่งอะไรมากนัก และด้วยสถานะตอนนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก?

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นฝีมือของท่านผู้ลึกลับผู้นี้คนเดียว มันน่าทึ่งมาก!

แม้แต่เจ้าสำนักก็ไม่สามารถทำสิ่งนั้นได้

เขาต้องเตือนศิษย์เหล่านั้นให้พูดจาอย่างระมัดระวังในอนาคต แม้ว่าภายนอกจะดูอ่อนแอ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเสือซุ่มแอบซ่อนความสามารถ

เมื่อพวกเขาคุกคามผู้ที่ไม่ควรคุกคาม ก็อาจทำให้สำนักโอสถฯ ของพวกเขามีปัญหาอย่างมาก

ในความเป็นจริงมันไม่ใช่พลังจิตวิญญาณของมู่เฉียนซีที่แข็งแกร่งจนต้านสวรรค์ แม้ว่ามันจะแข็งแกร่งขึ้นเพราะคำภีร์หมื่นคำสาป แต่ก็ไม่มีความสามารถในการฉีกเปิดมิติ

แต่มันเป็นเพราะว่าในฐานะผู้เป็นเจ้าของผู้พิทักษ์นิรันดร์ ความไวต่อมิตินั้นจึงสูงกว่าคนธรรมดามากและได้พบเคล็ดลับก็เท่านั้นเอง

“เปิดออกแล้ว! เยี่ยมเลย!”

“เยี่ยมมาก! ในที่สุดมันก็เปิดแล้ว”

“……”

ทุกคนต่างอ่อนแอเล็กน้อย และรีบใช้ยาเพื่อพักฟื้น

ท้ายที่สุดการเปิดทางก็เป็นเรื่องที่อยู่นอกการทดสอบ เมื่อเข้าสู่ดินแดนโอสถ ถึงจะเริ่มการทดสอบจริง ๆ

ผู้อาวุโสหูกล่าวว่า “เปิดดินแดนโอสถได้อย่างราบรื่น แต่มันก็อาจจะปิดได้ตลอดเวลา ดังนั้นทุกคนรีบเข้าไปกันเถอะ! แล้วพบกันใหม่ในอีกครึ่งเดือน!”

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เงาร่างนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าไปในวังวนของทะเลสาบนั้น

เมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่ดินแดนโอสถ ลมปราณที่มีกลิ่นหอมของสมุนไพรก็พุ่งเข้ามาหาพวกเขาอย่างจัง ทำให้พวกเขารู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นในทันที

พวกเขาไม่คุ้นเคยกับดินแดนโอสถนี้เลยสักนิด และนักปรุงยาหลายคนที่คุ้นเคยกันก็เตรียมที่จะจัดตั้งกลุ่มเพื่อที่พวกเขาจะได้ทำงานให้สำเร็จได้ดีขึ้น

ไห่ฝานกล่าวว่า “น้องเหยียนเอ๋อร์ ถ้าเจ้าไม่รังเกียจ มาร่วมมือกับข้าได้หรือไม่?”

ไป๋เหยียนเอ๋อร์กล่าวว่า “เหยียนเอ๋อร์จะไม่ทำให้นายน้อยไห่ผิดหวังอย่างแน่นอน และคงต้องรบกวนนายน้อยไห่ดูแลเหยียนเอ๋อร์ด้วย”

ไห่ฝานยิ้ม “ไม่เป็นไรเลย ดูแลคนที่น่ารักอย่างน้องเหยียนเอ๋อร์ ข้าจะรู้สึกลำบากได้อย่างไร!”

ตำหนักตงจี๋และเกาะไห่เทียนตกในที่นั่งลำบากแล้ว ไห่ฝานมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างเคร่งขรึม รอเสร็จสิ้นการทดสอบเสียก่อน แล้วจึงค่อยเก็บสตรีอัปลักษณ์ผู้นี้เมื่อถึงเวลา

เมื่ออยู่ที่นี่แล้ว ดูสิเจ้าตำหนักเป่ยหาน จะหนุนหลังนางอย่างไร?

ไป๋เหยียนเอ๋อร์มองไปที่มู่เฉียนซีด้วยสายตาที่น่ากลัว ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการจัดการกับมู่เฉียนซี นางต้องทรมานมู่เฉียนซีให้ตายที่นี่ให้ได้

มู่เฉียนซีย่อมสังเกตเห็นเจตนาไม่ดีในที่นี้อย่างแน่นอน แต่ในสถานที่ที่ดีเช่นนี้ สมุนไพรวิญญาณนั้นน่ารักกว่าขยะเหล่านี้มากและนางไม่ต้องการเสียเวลากับพวกเขา

ร่างสีม่วงพุ่งออกไป

เหล่าสมุนไพรวิญญาณน่ารักข้ามาแล้ว…

ศิษย์หลายคนของสำนักโอสถฯ เหลือบมองร่างสีม่วงที่หายไป และหนึ่งในนั้นกล่าวว่า “พี่หวง สตรีสารเลวผู้นั้นกล้าที่จะลงมือกับเรา พวกเราจะปล่อยนางไปเช่นนี้หรือ?”

.

.