เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1754
ลู่ฝานเงยหน้ามองไปไกลๆ ทันที เจ้าดำก็กระโดดขึ้นมาบนไหล่ลู่ฝานแล้วทอดมองไปไกลๆ
สิ่งที่ปรากฏในสายตาคือเสาที่มีแสงสว่างจ้า
ใช่ สิ่งที่ปรากฏในสายตาลู่ฝานคือเสาแสงที่ตั้งอยู่ในอากาศเวิ้งว้าง
เสาต้นนั้นเหมือนเสาเทพค้ำฟ้าเอาไว้
ถึงมองจากไกลๆ ก็ทำให้คนรู้สึกถึงความทรงพลัง ยิ่งใหญ่ ไร้ความหวาดกลัว สูงตระหง่าน เหมือนมันเป็นสิ่งมีชีวิตอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อเข้ามาใกล้ขึ้น ลู่ฝานเห็นแสงบนเสา เป็นพลังฟ้าดินแสนบริสุทธิ์และทรงพลัง
เหมือนพายุหมุนวนไม่หยุด แสงสว่างจ้า ส่องสว่างไปทั้งอากาศเวิ้งว้างอันกว้างใหญ่
เหมือนบนโลกมีแค่เสาต้นนี้ส่องแสงสว่างไสว
โครงกระดูกอ้าแขนสองข้างแล้วตะโกนว่า “สหายลู่ฝาน นี่คือประเทศฉิงเทียนของเรา เขตเหนือในใต้หล้า เสาของประเทศฉิงเทียนทรงพลังที่สุดในเขตเหนือ!”
ลู่ฝานอ้าปากเบาๆ เขาตกตะลึงกับภาพของประเทศฉิงเทียนจริงๆ
ลู่ฝานในตอนนี้ ไม่ใช่เด็กหนุ่มไร้ประสบการณ์ที่เพิ่งออกจากประเทศอู่อานแล้ว
เขาเห็นสัตว์เทพเฝ้าประตูที่ประเทศตันเซิ่ง เมืองยิ่งใหญ่ที่สร้างจากพลัง แต่พอพูดขึ้นมาจริงๆ เมืองของประเทศตันเซิ่งกับเสาแสงที่อยู่ด้านหน้า เมืองของประเทศตันเซิ่งสู้ไม่ได้เลยจริงๆ
ว่ากันเรื่องขนาด แม้เมืองอากาศเวิ้งว้างของประเทศตันเซิ่งใหญ่มากเช่นกัน แต่อย่างน้อยก็เห็นเค้าโครงจากไกลๆ
แต่เสาแสงต้นนี้ ตั้งแต่ลู่ฝานเห็นมันครั้งแรก เขามองไม่เห็นปลายด้านบนและด้านล่างของมันว่าสิ้นสุดตรงไหน เมื่อเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้นก็พบว่าเสาแสงนี้ใหญ่มาก เหมือนไร้ที่สิ้นสุดอย่างไรอย่างนั้น
ตอนนี้ลู่ฝานเพิ่งรู้ว่าประเทศฉิงเทียนไม่เหมือนประเทศเล็กๆ อย่างประเทศหลิง ประเทศเสวี่ยที่เขาจินตนาการไว้
แต่เป็นประเทศขนาดใหญ่ ดูแค่ภาพของอากาศเวิ้งว้าง เป็นประเทศที่แข็งแกร่งกว่าประเทศตันเซิ่งอีก
ลู่ฝานกลืนน้ำลายเอื๊อก ลดความเร็วเรืออากาศธาตุแล้วเคลื่อนตัวไปข้างหน้า
เขาถามโครงกระดูกที่กำลังตื่นเต้นว่า “สหายหนานกง ที่นี่ไม่มีองครักษ์เฝ้าอากาศเวิ้งว้างอะไรทำนองนั้นเหรอ”
โครงกระดูกหันมาหัวเราะให้ลู่ฝานแล้วพูดว่า “องครักษ์เฝ้าอากาศเวิ้งว้างเหรอ ประเทศฉิงเทียนจำเป็นต้องมีองครักษ์เฝ้าอากาศเวิ้งว้างที่ไหนกันล่ะ เห็นแสงข้างหน้าไหม ถ้าไปแตะต้องโดยไม่ดูตาม้าตาเรือเท่ากับตาย สหายลู่ฝาน นายจะใช้วิธีของฉันเข้าไปหรือจะใช้วิธีของผู้ฝึกชั่วร้ายเข้าไป”
ลู่ฝานครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ใช้วิธีของนายเถอะ เพราะนายเป็นองค์ชายใหญ่ของประเทศฉิงเทียน น่าจะรู้วิธีเข้าไปดีกว่าผู้ฝึกชั่วร้าย!”
โครงกระดูกหัวเราะร่า “แน่นอนอยู่แล้ว สหายลู่ฝาน ฟังคำสั่งฉัน เคลื่อนตัวไปด้านหน้าทางซ้าย”
ลู่ฝานบังคับเรือไปด้านหน้าตามคำสั่งของโครงกระดูก แสงพาดผ่านข้างตัวพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ด้านในแฝงด้วยพลังแข็งแกร่ง ทำให้ลู่ฝานตกใจไม่หยุดจริงๆ
โผล่ไปทางซ้ายทางขวา โครงกระดูกคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดของเสาแสงจริงๆ
ไม่นาน ภายใต้การแนะนำของโครงกระดูก ในที่สุดลู่ฝานก็มาถึงช่องว่างที่เสาแสง จากนั้นบังคับเรือชนเข้าไป
แสงนับไม่ถ้วนโฉบผ่านข้างตัว อากาศเวิ้งว้างแตกร้าว ฟ้าดินเปลี่ยนแปลง
แสงหายไปในพริบตา ภาพตรงหน้าเปลี่ยนไปทันที
หลังจากทุกอย่างหยุดลง สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าลู่ฝานคือมดยักษ์หนึ่งตัว สูงเป็นสิบเมตร กำลังก้มมองลู่ฝานอยู่
ทั้งสองคนยืนอยู่ใต้เท้าของมด เงยหน้ามองไปด้านบน
โครงกระดูกยิ้มแล้วพูดว่า “สหายลู่ฝาน ยินดีต้อนรับสู่ประเทศของฉัน”