บทที่ 948 โลงศพสีแดง

The king of War

อู่หนิงยิ้มแล้วพยักหน้า “ได้เลยครับ!”

ทั้งสี่คนออกจากคฤหาสน์คิงกวน

เมื่อออกมาไกลจากคฤหาสน์คิงกวน อู่หนิงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ไม่เสียแรงที่เป็นกษัตริย์กวน มีความความรู้และห้าวหาญจริงๆ”

หยางเฉินยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร กษัตริย์กวนคิดอะไร เขารู้ดี

ตอนกษัตริย์กวนโยนแบล็คการ์ดที่มีเงินสองแสนล้าน มาให้เขา ก็ใช้พละกำลังแดนราชาขั้นปลาย แต่กลับโดนหยางเฉินรับเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย

หลังจากนั้น ตอนที่หยางเฉินคืนแบล็คการ์ดกลับไป เขาใช้พละกำลังแดนราชาสูงสุด

ถึงกษัตริย์กวนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุด แต่เขาคิดไม่ถึงว่าหยางเฉิน จะปล่อยพลังแดนราชาสูงสุดออกมา เพราะประมาทคู่ต่อสู้ จึงบาดเจ็บเพราะหยางเฉิน

เพราะเหตุนี้ จึงสยบกษัตริย์กวนได้

ในความคิดของกษัตริย์กวน อย่างน้อยหยางเฉินต้องเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุด ถึงแม้เขา ก็ไม่กล้าพูดว่าตัวเองจะจัดการหยางเฉินได้

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ สู้เสียสละกวนหงอี้ เพื่อสงบไฟโกรธของหยางเฉินดีกว่า

และใช้เรื่องเลี้ยงส่งกวนเจิ้นไห่ วางมาดลง เป็นฝ่ายเชิญหยางเฉินกับอู่หนิงก่อน

แม้ข้าวมื้อเดียว จะไม่สามารถเป็นมิตรกับหยางเฉินและตระกูลอู่หวงได้ อย่างน้อยก็ขจัดความไม่เป็นมิตร ที่หยางเฉินมีต่อตระกูลคิงกวน ให้เหลือน้อยที่สุด

ไม่เพียงเท่านี้ ระหว่างทานอาหารเมื่อกี้ กษัตริย์กวนยังให้สัญญา ว่าจะเอาคนของตระกูลคิงกวน ที่เมืองเยี่ยนตู กลับมาทั้งหมด

ก่อนหน้าตระกูลคิงกวน ตระกูลคิงเซวได้ล่าถอยออกจากเมืองเยี่ยนตูแล้ว

งั้นแสดงว่าตระกูลคิงทั้งห้า เหลือเพียงคนของตระกูลคิงทั้งสาม ที่ยังอยู่ในเมืองเยี่ยนตู

“คุณหยาง จากพละกำลังของคุณ เป็นคิงแห่งเยี่ยนตู น่าจะง่ายดายมาก ไม่ทราบว่าคุณสนใจหรือเปล่า”

จู่ๆ อู่หนิงถามขึ้น สีหน้าหวาดระแวง เพราะกลัวว่าคำถามนี้ จะทำให้หยางเฉินโมโห

และรีบพูดเสริมว่า “ถ้าคุณหยางมีความคิดนี้ ตระกูลอู่หวงยอมยื่นมือช่วยเหลือ อีกทั้งผมรับรองกับคุณได้เลย ขอแค่คุณหยางสืบทอดตี้ชุน ตระกูลอู่หวงจะไม่มีความคิดต่อตี้ชุนเด็ดขาด”

หยางเฉินยังไม่พูดอะไร เขามองและยิ้มให้อู่หนิง

จู่ๆ อู่หนิงตระหนกใจ เหมือนโดนหยางเฉินมองความคิดออก

ผ่านไปไม่กี่วินาที ในที่สุด อู่หนิงทนไม่ไหว พูดขึ้นมาอีกว่า “ไม่ปิดบังคุณหยาง อันที่จริงการแต่งงานของตระกูลอู่หวงกับตระกูลคิงกวนในครั้งนี้ เพราะตี้ชุน”

“เพราะคนเมื่อร้อยกว่าปีก่อนคนนั้น มาจากตี้ชุนที่มีผู้แข็งแกร่งอยู่มากมาย ได้ใจคนตี้ชุน ตระกูลอู่หวงก็อยากควบคุมตี้ชุน”

หยางเฉินยิ้มแล้วพูดว่า “ดังนั้นการที่หัวหน้ารองออกมาช่วยผม อันที่จริงเพราะชอบศักยภาพในตัวผม อยากใช้ผม มาควบคุมตี้ชุนเหรอ”

“เปล่า!”

อู่หนิงตกใจจนสะดุ้งโหยง รีบพูดปฏิเสธว่า “คุณหยางได้โปรดเชื่อใจผม ผมไม่เคยมีความคิดจะควบคุมตี้ชุน ผมแค่อยากให้ตอนที่คุณหยางจะสืบทอดตี้ชุน ยอมร่วมมือกับตระกูลอู่หวงเป็นอันดับแรก”

“คุณช่างซื่อสัตย์!”

มองอู่หนิงสีหน้าตึงเครียด หยางเฉินยิ้มแล้วถามว่า “ผมเชื่อว่าคุณไม่โลภกับตี้ชุน แต่ไม่เชื่อว่าคนอื่นในตระกูลอู่หวง จะไม่โลภกับตี้ชุน”

ทันใดนั้น อู่หนิงเงียบไป

เขารู้ว่าหยางเฉินพูดความจริง

ไม่ว่าราชวงศ์สูงส่งราชวงศ์ใด ไม่ได้ธรรมดาเหมือนอย่างจินตนาการ

ในราชวงศ์ทุกราชวงศ์ ช่วงชิงแก่งแย่งไม่หยุด ไม่ว่าเรื่องใด ก็มีสองเสียงที่ต่างกันเสมอ

“แต่สิ่งที่ผมบอกคุณได้คือ แค่คุณไม่มีความคิดครอบครองตี้ชุน ถ้าวันใดวันหนึ่ง ผมสืบทอดตี้ชุนจริงๆ ผมจะคิดร่วมมือกับคุณเป็นอันดับแรก”

จู่ๆ หยางเฉินเอ่ยขึ้น

อู่หนิงดีใจมาก และรีบพูดว่า “ขอบคุณคุณหยาง! ขอบคุณคุณหยาง!”

แค่มีคำพูดนี้ของหยางเฉิน ทั้งหมดที่ทำวันนี้ ก็คุ้มค่าแล้ว

“โอเค เราต่างแยกกันตรงนี้ มีโอกาสคงได้พบกันอีก!”

เมื่อเห็นว่าใกล้ถึงที่พักของหมอเทวดาเฝิง หยางเฉินจึงเอ่ยขึ้น

เพราะหมอเทวดาเฝิง เป็นยอดฝีมือลึกลับ เขาพาคนไป โดยไม่ได้รับอนุญาตจากหมอเทวดาเฝิง มันจะไม่ดี

อู่หนิงเข้าใจดีว่าหยางเฉินจะส่งแขกแล้ว จึงรีบพาอู่จื่อไคกลับ

ก่อนกลับ อู่จื่อไคมองกวนเย่วอย่างอาลัยอาวรณ์ แล้วพูดว่า “ภรรยา อย่าลืมดึงฉันเข้าไปในเกมนะ ฉันจะพาเธอกินไก่!”

หลังแยกกับอู่หนิง หยางเฉินพากวนเย่วเดินไปยังที่พักของหมอเทวดาเฝิง

แต่ทว่าพวกเขาเพิ่งเดินถึงหน้าประตู ก็เห็นโลงศพสีแดง วางอยู่ในลานบ้าน

หยางเฉินหน้าเปลี่ยนสี “นี่มันเกิดเรื่องอะไร”

มองโลงศพสีแดง จู่ๆ หยางเฉินเกิดสังหรณ์ใจไม่ดี รีบพุ่งเข้าไปที่ลานบ้าน

“คุณหยาง!”

เพิ่งเข้ามาในลานบ้าน ต่งจ้านกังเดินเข้ามาต้อนรับ

ตอนนี้เฝิงเสียวหว่านสวมชุดผ้ากระสอบไว้อาลัย คุกเข่าอยู่หน้าโลงศพ ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

ไม่ต้องถาม หยางเฉินก็รู้ว่าคนในโลงศพเป็นใคร

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่”

เสียงของหยางเฉินแฝงไปด้วยความโมโห

เขารับไม่ได้จริงๆ เมื่อคืนวานเพิ่งเจอหมอเทวดาเฝิง วันนี้นอนอยู่ในโลงศพแล้ว

ต่งจ้านกังพูดว่า “เมื่อคืนวาน หมอเทวดาเฝิงเสียชีวิตกะทันหัน เสียวหว่านบอกว่า เดิมทีหมอเทวดาเฝิงบาดเจ็บสาหัสอยู่แล้ว เป็นการตายแบบปกติ”

เมื่อได้ยินต่งจ้านกังอธิบาย ความโกรธในใจหยางเฉิน จึงค่อยๆ สงบลง

เมื่อกี้เขาเข้าใจว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้น หมอเทวดาเฝิงจึงโดนลอบฆ่า ที่แท้ได้รับบาดเจ็บสาหัสมานานแล้ว

“นายว่าหมอเทวดาเฝิงบาดเจ็บตั้งนานแล้ว ใครเป็นคนทำร้ายเขา”

หยางเฉินจับใจความสำคัญในคำพูดที่ต่งจ้านกังพูดเมื่อครู่ แล้วถามด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

เมื่อคืนวาน เขาสัมผัสได้ว่า พละกำลังของหมอเทวดาเฝิง น่าจะอยู่ในแดนเทพ

เขาไม่เข้าใจจริงๆ ผู้แข็งแกร่งแดนเทพ ทำไมถึงได้รับบาดเจ็บสาหัสได้

ต่งจ้านกังส่ายหน้า “เรื่องนี้ไม่ทราบ ตอนนี้เสียวหว่านกำลังเศร้า เลยถามอะไรมากไม่ได้ ทำได้เพียงรอให้ผ่านไปสักระยะ แล้วค่อยสอบถามเธอ”

หยางเฉินพยักหน้า และจุดธูปให้หมอเทวดาเฝิงหนึ่งดอก

“เสียวหว่าน ต่อไปเธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ของฉัน พี่หยางจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต!”

หยางเฉินเดินมาข้างเฝิงเสียวหว่าน แล้วพูดสัญญาด้วยสีหน้าจริงจัง

นี่เป็นสิ่งที่เขารับปากหมอเทวดาเฝิง ตอนนี้หมอเทวดาเฝิงจากโลกไปแล้ว เฝิงเสียวหว่านไรที่พึ่งพา เขาต้องทำตามสัญญา

“พี่หยาง!”

จู่ๆ เฝิงเสียวหว่านโผเข้าหาหยางเฉิน และร้องไห้โฮ

ในขณะเดียวกัน ภายในศาลาสไตล์โบราณหลังหนึ่ง ที่คฤหาสน์คิงกวน

กษัตริย์กวนนั่งอยู่บนเก้าอี้โบราณ มีพนักพิงและที่วางแขน กวนหงอี้คุกเข่าสองข้าง อยู่บนพื้นข้างหน้าเขา

เพราะแขนทั้งสองข้างโดนทำให้พิการ สีหน้าของกวนหงอี้ เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ก้มหน้าคุกเข่าบนพื้น กัดริมฝีปากแน่น มีความไม่พอใจอยู่ในแววตา

“แกรู้ความผิดไหม”

กษัตริย์กวนถามเสียงดุ

กวนหงอี้กัดฟัน “ผมไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด!”

“ปัง!”

กษัตริย์กวนโมโห ตบลงบนโต๊ะชาด้านหน้า จนแตกทันที

“ถึงขนาดนี้แล้ว แกยังไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด”

กษัตริย์กวนถามอย่างโมโห “ล่วงเกินผู้มีความสามารถวิถีบู๊ ที่อยู่ในระดับอย่างน้อยก็แดนราชาสูงสุด แกบอกฉันว่าไม่ได้ทำอะไรผิดเหรอ”

กวนหงอี้เงยหน้าขึ้นทันที มองกษัตริย์กวนด้วยดวงตาแดงก่ำ กัดฟันพูดว่า “ถึงเขาเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาสูงสุดจริง แล้วยังไง”

“ตระกูลคิงกวนของเรา มีผู้แข็งแกร่งมากมาย ขอแค่คุณลงมือ เขาก็มีเพียงความตายเท่านั้น!”

“ผมรู้ว่าคุณกำลังกลัวอะไร กลัวว่าเขาเป็นคนของตระกูลบู๊โบราณใช่ไหม”