บทที่ 1150 ฆ่าคนเหมือนฆ่าหมู

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 1,150 ฆ่าคนเหมือนฆ่าหมู

“เฒ่าบัดซบ ลองรับกระบี่ของข้าดูหน่อยเป็นไร”

หลินเป่ยเฉินระเบิดเสียงคำรามขณะควบคุมมวลกระบี่ในอากาศ

เจี๋ยนอู่จีหัวเราะเยาะ ก่อนโคจรพลังลมปราณเต็มอัตรา แม้ไม่มีกระบี่คู่กายอยู่ในมือ แต่ด้วยระดับพลังอันสูงส่ง ต่อให้เป็นกระบี่ธรรมดาก็กลายเป็นสุดยอดศาสตราวุธเมื่ออยู่ในมือของเขา และบัดนี้ ชายชราก็กำลังโคจรพลังลมปราณใส่ลงไปในกระบี่ของตนเอง

วูบ! วูบ! วูบ! วูบ! วูบ!

ได้ยินเสียงคมกระบี่กรีดตัวในอากาศ

กระบี่หลายร้อยเล่มพุ่งตรงไปหาเจี๋ยนอู่จี

“เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวหรือ”

เจี๋ยนอู่จีหัวเราะในลำคอ เมื่อเห็นกระบี่ทั้งสามร้อยเล่มพุ่งตรงเข้ามาหาตนเองพร้อมกับเปลี่ยนรูปทรงรวมตัวกันกลายเป็นกระบี่เล่มใหญ่เล่มหนึ่งจากอานุภาพของค่ายอาคม…

แต่มันจะมีประโยชน์อันใด?

ต่อให้กระบี่มีจำนวนพันเล่ม อย่างไรก็ขาดคุณภาพอยู่ดี

ค่ายอาคมกระบี่เหล่านี้ไม่สามารถทะลุทะลวงม่านพลังของเขาเข้ามาได้ด้วยซ้ำ

เจี๋ยนอู่จียิ้มมุมปาก

เปรี้ยง! เปรี้ยง! เปรี้ยง!

กระบี่หลายสิบเล่มแตกกระจายเมื่อเผชิญเข้ากับม่านพลังเบื้องหน้าเจี๋ยนอู่จี

แน่นอนว่าแม้แต่ม่านพลังก็ยังทะลุทะลวงเข้ามาไม่ได้ แล้วจะสามารถทำอันตรายให้แก่ผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักมหากระบี่ได้อย่างไร

“ฮ่า ๆๆ นี่หรือคนที่ชาวเมืองไป๋หยุนกับผู้อาวุโสฉีฝากความหวังเอาไว้… เอ๊ะ?”

เสียงพูดยังไม่ทันขาดหาย

ชายชราก็รู้สึกหนาวเย็นที่หน้าอก

เจี๋ยนอู่จีก้มหน้ามอง

แววตาของชายชราเป็นประกายตื่นตระหนกและหวาดกลัว ก่อนที่ความตื่นตระหนกและหวาดกลัวเหล่านั้นจะลุกลามไปทั่วใบหน้า

เขาได้รับบาดเจ็บ?

เกิดอะไรขึ้น?

คำถามใหญ่ปรากฏขึ้นในหัวใจของเจี๋ยนอู่จี

ขณะนี้ ม่านพลังที่ห่อหุ้มร่างกายชายชราก็เริ่มหมองแสงลงอย่างรวดเร็ว…

เมื่อเจี๋ยนอู่จีพยายามโคจรพลังลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บ ชายชราก็ต้องตกตะลึงอีกครั้งเมื่อพบว่าบาดแผลของเขาไม่สามารถสมานตัวได้

แม้แต่พลังการรักษาตัวของขั้นเซียนระดับสูงก็ไร้ประโยชน์

เมื่อเครื่องหมายคำถามปรากฏขึ้นในใจของเจี๋ยนอู่จี ก็เป็นจังหวะเดียวกับที่หัวใจของเขาถูกแทงทะลวงพอดี

ถูกแทงทะลวงด้วยกระบี่เงินเล่มหนึ่ง

เป็นกระบี่เงินเล่มโปรดของหลินเป่ยเฉิน

บัดนี้ เจี๋ยนอู่จีได้ค้นพบ ‘ความจริง’ แล้ว

กระบี่ทั้งสามร้อยเล่มที่รวมตัวเป็นกระบี่เล่มใหญ่นั้น ความจริงแล้วพวกมันมีจำนวนเพียงสองร้อยเล่ม แต่มีกระบี่ 72 เล่มที่สามารถพุ่งทะลวงผ่านม่านพลังเข้ามาได้อย่างร้ายกาจ…

และช่องว่างของม่านพลังที่เกิดขึ้นก็ทำให้กระบี่เงินเล่มนี้สามารถพุ่งทะลวงเข้ามาได้

นี่คือความน่ากลัวของค่ายอาคมกระบี่ของหลินเป่ยเฉินอย่างนั้นหรือ?

หลินเป่ยเฉินมีความชำนาญในการใช้ค่ายอาคมกระบี่ถึงขั้นนี้ได้อย่างไร?

นั่นคือห้วงคิดสุดท้ายในชีวิตของเจี๋ยนอู่จี ก่อนที่สติสัมปชัญญะของเขาจะค่อย ๆ ดำดิ่งลงสู่ความมืดมิด

และก่อนที่สติสัมปชัญญะสุดท้ายจะดับวูบลง เจี๋ยนอู่จีก็เห็นหมู่มวลกระบี่บินรอบกายตนเอง ไม่ต่างจากฝูงวิหคที่กลับรัง และพวกมันก็ทิ่มแทงเข้ามาตามร่างกายของเขา…

พวกของเม่ยหลินที่ยืนดูอยู่ห่างไกลต้องเบิกตาโตด้วยความเหลือเชื่อ

พวกเขาเห็นกับตาว่าเจี๋ยนอู่จียอดฝีมือชื่อดังจากสำนักมหากระบี่ ได้ถูกกระบี่จำนวนนับร้อยเล่มของหลินเป่ยเฉินทิ่มแทงและตัดศีรษะ ก่อนที่ร่างกายจะสลายเป็นม่านหมอกเลือด….

แค่นี้เองหรือ?

ตายแล้วหรือ?

แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มของตนเอง แต่พวกของเม่ยหลินและเสี่ยวหราน รวมไปถึงมือกระบี่คนอื่นๆ ก็ยังรู้สึกไม่อยากเชื่ออยู่ดี

เหตุไฉนหลินเป่ยเฉินจึงได้มีความแข็งแกร่งถึงเพียงนี้?

เจี๋ยนอู่จีที่แสดงฝีมืออย่างไร้เทียมทานตลอดมา เหตุไฉนถึงได้พ่ายแพ้ให้แก่หลินเป่ยเฉินอย่างง่ายดาย?

นับว่านี่เป็นเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อมากเกินไปจริง ๆ

มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?

และหลินเป่ยเฉินก็ลงมือโดยไม่ลังเล

เขาเคลื่อนกายไปยังจุดที่เจี๋ยนอู่จีเคยยืนอยู่ ในลมหายใจที่ร่างของชายชราระเบิดกระจาย เด็กหนุ่มก็เก็บกวาดข้าวของประจำตัวของเจี๋ยนอู่จีมาอยู่ในมือ โดยเฉพาะตราศิลาศักดิ์สิทธิ์จากวิหารเทพแห่งพงไพร ซึ่งมันเกิดอาการสั่นไหวอย่างรุนแรงเมื่ออยู่ในมือของหลินเป่ยเฉิน แต่พอเขาอัปโหลดขึ้นไปในแอปไป่ตู้ เน็ตดิสก์ แรงต้านทานเหล่านั้นก็สลายหายไปอย่างมหัศจรรย์

“อุวะฮ่า ๆๆ”

หลินเป่ยเฉินยกมือเสยผมและระเบิดเสียงหัวเราะอย่างชั่วร้าย “เมื่อมีกระบี่เงินเล่มนี้อยู่ในมือ โลกทั้งใบก็เป็นของข้า”

นับว่ากระบี่เงินเล่มนี้มีประโยชน์สำหรับหลินเป่ยเฉินเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อโจมตีใส่ผู้มีพลังขั้นเซียนระดับสูง อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นก็ไม่สามารถเยียวยาได้ตามปกติ เมื่อกระบี่ของหลินเป่ยเฉินโจมตีใส่ผู้ใด คนผู้นั้นก็ได้แต่ต้องทำใจว่า “ไร้หนทางรักษาแล้ว คงทำได้เพียงรอคอยความตายเท่านั้น”

ยิ่งใช้กระบี่เงินเล่มนี้เข้ากับค่ายอาคมกระบี่ แม้แต่ผู้มีพลังขั้นเซียนระดับสูงอย่างเจี๋ยนอู่จีก็ไม่สามารถต้านทานได้

ความร้ายกาจของค่ายอาคมกระบี่ของหลินเป่ยเฉินนั้น อยู่ที่การโจมตีอันหนักหน่วงรุนแรง ไม่มีทางที่ผู้มีพลังขั้นเซียนระดับ 4 หรือระดับ 5 จะต้านทานได้…มิหนำซ้ำ การโจมตียังดำเนินไปอย่างหมดจดงดงาม สามารถสังหารศัตรูได้อย่างปาฏิหาริย์

โดยเฉพาะเมื่อหลินเป่ยเฉินโคจรพลังปราณธาตุทองคำ เพื่อควบคุมกระบี่ของตนเองในอากาศ ความน่ากลัวของค่ายอาคมกระบี่ของเขาจึงเพิ่มขึ้นทวีคูณ

แต่สิ่งที่ไม่มีผู้ใดรู้ก็คือหลินเป่ยเฉินควบคุมกระบี่สองร้อยเล่มด้วยพลังปราณธาตุทองคำของเขา และมีเพียงกระบี่ 72 เล่มเท่านั้นที่ควบคุมผ่านค่ายอาคมกระบี่….

เมื่อเผชิญหน้าการโจมตีอันหลากหลายเช่นนี้…

มีใครบ้างจะไม่ตาย?

เรานี่มันอัจฉริยะจริง ๆ

หลินเป่ยเฉินนึกชื่นชมตนเองอยู่ในใจ แล้วจึงหันไปแสยะยิ้มให้กับเม่ยหลิน

นี่คือสิ่งที่พิสูจน์แล้วว่าแค่เก่งอย่างเดียวยังคงไม่พอ

โฮะโฮะโฮะ

ในเวลาเดียวกันนี้ การต่อสู้คู่อื่น ๆ ก็ดำเนินมาถึงจุดจบแล้วเช่นกัน

“อ๊ากกก…”

เว่ยตงเฉิงเจ้าสำนักกระบี่สนธยาส่งเสียงกรีดร้อง ร่างกายเปียกชุ่มด้วยโลหิต รีบล่าถอยกลับไปอย่างลนลาน

เห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถสู้ต่อไปได้อีก เนื่องจากพ่ายแพ้ให้แก่สตรีผู้สวมใส่หน้ากากแปลกประหลาดนามแม่นางหลิน

อีกด้านหนึ่ง เจิ้นหรู่หลงก็ส่งเสียงร้องโหยหวน โลหิตไหลซึมออกจากมุมปาก ต้องพยายามอย่างสุดความสามารถทีเดียวที่จะไม่ให้ตนเองถูกโจมตีจนกลิ้งตกลงไปในบ่อลาวาด้านล่างด้วยฝีมือของซยงป่า…

ทางด้านถังหลิวฮัวก็ต่อสู้อย่างหนักหน่วงอยู่กับเจ้าสำนักคฤหาสน์กำยานฮั่วเฟยฮัว บัดนี้เขาถูกกระบี่ฟันเข้าไปหลายแผล เนื้อตัวมีแต่โลหิตไหลทะลัก แทบจะไม่สามารถประคองร่างยืนอยู่ได้อีกต่อไป

“ช่วยด้วย”

ขณะนี้ บนศีรษะของเม่ยหลินปรากฏวงแหวนสีเขียว เขารีบกระโจนไปช่วยเหลือเจิ้นหรู่หลงทันที

หลินเป่ยเฉินเองก็ไม่รอช้าเช่นกัน

เพราะยิ่งคู่ต่อสู้มีระดับพลังสูงส่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีทรัพย์สินของมีค่าติดตัวมากเท่านั้น

“เดี๋ยวข้าจัดการเอง”

หลินเป่ยเฉินเปิดการใช้งานค่ายอาคมกระบี่อีกครั้งขณะพุ่งตัวออกไปข้างหน้า

วูบ!

กระบี่เงินคู่กายของเขายังคงพุ่งนำอยู่ด้านหน้าสุด

มันระเบิดแสงสว่างเป็นประกายเจิดจ้า

“อ๊าก… เจ้ากล้าดีอย่างไรมาโจมตีข้า?”

ซยงป่าถูกมวลกระบี่ของหลินเป่ยเฉินทิ่มแทงจนพลัดตกจากสะพานหิน จังหวะที่ตัวคนร่วงหล่นลงสู่บ่อลาวาด้านล่างนั้น เขาได้หันมาจ้องมองหลินเป่ยเฉินด้วยความโกรธแค้นพร้อมกับระเบิดเสียงคำรามว่า “ข้าจะฆ่าเจ้า…”

แต่ภาพของการระเบิดพลังลมปราณไม่เกิดขึ้น

เนื่องจากซยงป่าบาดเจ็บหนักมากเกินไป

บาดแผลของเขาไม่สามารถรักษาได้

สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ซยงป่าไม่มีเวลาได้ทำอะไรอีก เขามองเห็นเพียงประกายกระบี่สีเงินปรากฏขึ้นตรงหน้าวูบหนึ่ง

แล้วร่างกายที่สูงใหญ่กว่าเก้าเซียะก็ถูกคมกระบี่ฟันขาดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไม่ต่างจากเนื้อหมูที่ถูกหั่นเป็นลูกเต๋าโปรยปรายลงไปในบ่อลาวาด้านล่าง

เม่ยหลินผู้ยืนถือกระบี่วายุได้แต่จ้องมองเหตุการณ์ด้วยความตกตะลึง

นี่มันอะไรกัน?

ฆ่าคนเหมือนฆ่าหมู?

ช่างโหดเหี้ยมอำมหิตเหลือเกิน