ตอนที่ 2256 หนามยอกเอาหนามบ่ง!

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

การประลองที่เดือดดาลเช่นนี้มันย่อมทำให้คนทั้งหลายต้องตื่นตะลึง

เหล่าจอมเทพค่ายกลแปดดาวทั้งหลายนั้นต่างได้แต่ต้องมองดูภาพตรงหน้าด้วยปากอ้าค้าง

พวกเขาแต่ละคนล้วนเบิกตากว้าง กลัวว่าตัวเองจะพลาดการประลองนี้ไปแม้แต่วินาทีเดียว

ค่ายกลนั้นเป็นของตาย ผู้คนนั้นเป็นของเป็น

การประลองระหว่างสองยอดปรมาจารย์เต๋าค่ายกลเช่นนี้มันเหมือนเป็นการสั่งสอนวิชาแก่พวกเขาโดยตรง

มีหรือที่การมาค่อยนั่งวิเคราะห์ค่ายกลด้วยตัวเองนั้นมันจะให้ประโยชน์ได้มากเท่าฟังคำตอบที่ถูกต้องจากยอดปรมาจารย์?

คนทั้งสองนั้นยังคงขยับเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ จนขึ้นไปสูงขึ้นบนยอดเขาอย่างต่อเนื่อง

เย่หยวนนั้นยังคงรักษาสภาพป้องกันการโจมตีจากเทียนหยานได้อย่างดี

พวกเจียงซือที่อยู่ด้านหลังนั้นต่างแทบจะลืมหายใจลงไปสิ้น

“เจ้าเด็กคนนี้มันทนได้จริงๆ จนเวลานี้มันก็ยังไม่ตายลง!”

“น่าเสียดายที่ค่ายกลปิดกั้นด้านหน้านั้นข้ายังวิเคราะห์ไม่แล้วเสร็จ ตอนนี้คงไม่อาจตามขึ้นไปดูการประลองได้แล้ว”

“พวกเขาทั้งสองนี้ต่อสู้กันมาเป็นระยะกว่าสองพันหกร้อยกิโลเมตร ค่ายกลที่อยู่สูงไปด้านบนนั้นมันมีแต่จะยิ่งอันตรายขึ้น ข้าว่าเจ้าเด็กคนนั้นคงไม่อาจรอดไปได้แน่”

การประลองวิชาของคนทั้งสองนั้นดำเนินต่อเนื่องไปนานถึงแปดวันแปดคืนเต็ม

ในเวลานี้เย่หยวนได้ป้องกันการโจมตีของเทียนหยานอย่างหนักแน่นจนผู้คนทั้งหลายต้องอ้าปากค้างไปตามๆ กัน

ในสายตาของคนทั้งหลายแล้วตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานย่อมจะกดดันเย่หยวนจนถึงขีดจำกัด ตัวเย่หยวนนั้นมีสิทธิที่จะพลาดลงได้ในทุกเมื่อ

แต่เย่หยวนกลับยังคงรักษาชีวิตไว้ในสภาพที่ถูกกดดันอย่างหนักนั้นได้ตลอดแปดวันแปดคืน!

ในระหว่างแปดวันแปดคืนที่ผ่านมานี้คนทั้งสองได้ก้าวขึ้นมาเลยผ่านระยะสองพันกิโลเมตรไปแล้ว

ค่ายกลปิดกั้นของเขาแปดโมฆะในระยะสองพันแปดร้อยกิโลเมตรขึ้นไปนั้นมันคือระดับของมหาค่ายกลเจ้าฟ้าดิน!

เว้นเสียแต่ว่าในระหว่างการต่อสู้เอาเป็นเอาตายนั้นไม่ได้มีใครทันสังเกตเลยว่าแววตาของเย่หยวนมันมีแต่จะเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ

ในเวลาแปดวันแปดคืนที่ผ่านมานี้เย่หยวนได้เข้าใจเต๋าค่ายกลมากขึ้นกว่าเท่าตัวหากเทียบกับความรู้ความเข้าใจที่เขาเคยมีผ่านๆ มา!

เวลาหกสิบปีที่เขาใช้ศึกษาวิชาเต๋าพื้นฐานนั้นมันได้ทำให้เย่หยวนได้มุมมองใหม่ในการศึกษาเต๋าค่ายกล

และเวลาแปดวันแปดคืนนี้มันก็ได้ทำให้ความเข้าใจในเต๋าค่ายกลของเขาสูงล้ำขึ้นจนถึงระดับใหม่!

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีคนระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานมาคอยช่วยชี้นำสั่งสอนเกี่ยวกับค่ายกลของเขาแปดโมฆะให้ด้วยแล้ว

การประลองของเขาและเย่หยวนนั้นมันเหมือนดั่งการสั่งสอนวิชาของตนเองออกมาให้อีกฝ่ายไปด้วย

สภาพของคนทั้งสองนี้มันเหมือนดั่งอาจารย์ผู้มากวิชาและศิษย์ที่ฉลาดหลักแหลม

เย่หยวนนั้นได้ใช้วิธีการเดียวกับที่เขาศึกษาเต๋าโอสถในการศึกษาเต๋าค่ายกล

เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเสียแม้จะเป็นค่ายกลที่ซับซ้อนยุ่งยากปานใด สุดท้ายในสายตาของเย่หยวนแล้วมันก็คือค่ายกลพื้นฐานหลายๆ ค่ายกลวางเรียงเชื่อมต่อกัน

ไม่ว่ามันจะเป็นค่ายกลที่ซับซ้อนปานใด สุดท้ายมันก็แค่ความอัจฉริยภาพในการจัดเรียงค่ายกล ทำให้สามารถสร้างพลังมหาศาลขึ้นมาได้

เพราะฉะนั้นความเร็วในการศึกษาค่ายกลของเย่หยวนมันจึงรวดเร็วกว่าคนทั่วไปมากมายนัก เพราะเขาแค่ต้องศึกษาจุดเชื่อมต่อของค่ายกลย่อย

ตอนที่เขาไปยังเขาราบเพลิงเองเย่หยวนก็ได้ทำลายค่ายกลระดับแปดนั้นลงอย่างรวดเร็วด้วยวิธีเดียวกันนี้

แต่ทว่าความเร็วในการศึกษาวิเคราะห์ก็เรื่องหนึ่ง ความเข้าใจที่จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานมีมันก็อีกเรื่องหนึ่งอย่างสิ้นเชิง

คนระดับจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนี้ล้วนแล้วแต่มีเส้นทางเต๋าของตัวเองสิ้น

เรื่องเดียวกันนี้หากมองจากมุมมองความคิดของคนหมื่นคนมันก็อาจจะกลายเป็นหมื่นเรื่องราวได้

ค่ายกลปิดกั้นเดียวกันนี้ มันก็ย่อมจะทำให้คนที่ศึกษาได้ความรู้ที่แตกต่างกันไป

การศึกษาวิชาจากตัวศัตรูนี้มันได้ทำให้ความเข้าใจต่อค่ายกลของเย่หยวนลึกล้ำขึ้นอย่างมากจนถึงขั้นเริ่มมองออกว่าผู้สร้างค่ายกลนี้ทำมันขึ้นมาได้อย่างไร!

เหตุผลที่เขาตั้งหลักรอเทียนหยานนั้นเองก็เพราะเหตุนั้น

ความแตกต่างระหว่างตัวเขาและจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานมันมีอยู่จริง แต่ช่องว่างนี้ไม่ได้ยิ่งใหญ่อย่างที่ใครๆ คิด

แม้ว่าตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นจะเก่งกาจจนผู้คนขนหัวตั้งแต่หากคิดสังหารเย่หยวนแล้วมันก็ยังมิใช่เรื่องง่ายดายนัก

อย่างน้อยๆ มันก็ไม่มีทางจะสังหารลงได้ก่อนถึงระดับความลึกสองพันแปดร้อยกิโลเมตร!

แต่ระหว่างการต่อสู้ไปจนถึงระยะสองพันแปดร้อยกิโลเมตรนั้น เย่หยวนก็จะศึกษาพัฒนาเต๋าค่ายกลไปอย่างมากล้นแล้ว

จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นไม่รู้เรื่องราวจึงได้โจมตีออกมาด้วยทุกอย่างที่เขามี

ส่วนเย่หยวนนั้นยังคงทำทีเหมือนใกล้เสียท่าอยู่ตลอดเพื่อให้จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานคิดว่าตัวเย่หยวนใกล้ถึงขีดจำกัดและรีบปล่อยการโจมตีที่รุนแรงที่สุดออกมาจัดการเขาลง

แต่แท้จริงแล้วเต๋าค่ายกลของเย่หยวนในเวลานี้มันไม่อาจจะเอาไปเทียบเคียงกับตอนที่เขาเพิ่งมาถึงตีนเขาได้เลย

เพียงแค่ว่าเรื่องนี้มีเพียงเย่หยวนที่ทราบ

ทุกผู้คนต่างคิดว่าเย่หยวนใกล้จะตายลงแน่แล้ว แต่ไม่ได้รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเย่หยวนกำลังมองหาหนทางที่จะจัดการพวกเทียนหยานทั้งสามลงในคราเดียว!

เย่หยวนนั้นไม่ได้คิดมาที่เขาแปดโมฆะนี้อย่างมั่วๆ ระหว่างทางมานี้เขาได้วางแผนการทุกอย่างไว้สิ้น

ค่ายกลปิดกั้นในที่แห่งนี้มันสุดแสนที่จะทรงพลัง ตราบเท่าที่เต๋าค่ายกลของเขาเหนือล้ำพอ เขาก็สามารถจะใช้พลังของค่ายกลนี้สังหารได้แม้แต่เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลาย!

ดั่งที่โบราณว่าไว้ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง!

ระหว่างทางเย่หยวนนั้นได้รับรู้ว่าตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนี้มันเหนือล้ำกว่าจะจัดการลงได้ง่ายๆ

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้วางแผนนี้ขึ้นมาอย่างแยบยล

ระหว่างทางขึ้นเขามาเย่หยวนได้พัฒนาตัวเองจนแทบกลายเป็นคนละคนแต่ก็ยังคงรักษาสภาพของผู้พ่ายแพ้ไว้ ทำตัวเหมือนดั่งว่าจะตายลงได้ในทุกเมื่อ

เพราะหากเวลานี้เขาได้ลองใช้พลังของค่ายกลออกมา ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานคงมองออกถึงฝีมือเขาได้ทันที

หากเขาทำมันรุนแรงจนเกินไป อีกฝ่ายจะรู้ถึงแผนการของเขาแทน

เพราะฉะนั้นเขาจึงได้คิดทุกวิถีทางที่จะปิดซ่อนพลังนี้ไว้และปล่อยให้ทางจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นคิดว่าตัวเองกำลังใกล้จะถึงขีดจำกัดไปเต็มที

เขานั้นยังคงศึกษาเต๋าค่ายกลไปเรื่อยๆ แต่ยิ่งขึ้นไปสูงตัวเย่หยวนก็จะยิ่งจงใจลดขนาดพื้นที่ยืนของตนเองลงทำให้ฝ่ายจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานโจมตีเข้ามาได้หนักหน่วงขึ้น

แต่แท้จริงความเข้าใจของเขามันกำลังเพิ่มพูนไปในทุกเสี้ยววินาที!

ซุ่ยหยวนและกู้หวนสองคนนั้นไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวใดเมื่อเห็นว่าพื้นที่ยืนของเย่หยวนมันเล็กแคบจนแทบไม่อาจทนรับไหวพวกเขาก็กล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น

“ฮ่าๆๆ… เด็กน้อย เจ้าเก่งมากมิใช่หรือ? จักรพรรดิผู้นี้อยากรู้ว่าเจ้าจะทนไปได้อีกสักกี่น้ำ!” ซุ่ยหยวนหัวเราะลั่น

กู้หวนนั้นกล่าวขึ้นเสริม “สหายเทียนหยาน เร่งอีก! ทำลายมันให้อย่าเหลือซาก!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานก็พยักหน้ารับ “เด็กน้อย ค่ายกลในบริเวณนี้มันคิดจุดสิ้นสุดของค่ายกลระดับแปดแล้ว ฝีมือของเจ้าเองมันก็คงไม่เหนือล้ำไปกว่านี้แล้วใช่หรือไม่เล่า? ถึงไปเหนือกว่านี้เจ้าจะมีแต่ตายกับตาย!”

ระยะสองพันกว่ากิโลเมตรนี้มันยังเป็นระยะของค่ายกลระดับแปดและค่ายกลที่เหนือระดับแปดไปนิดหน่อย

แต่เมื่อผ่านระยะสองพันกิโลเมตรขึ้นไปแล้ว มันจะเป็นระดับของเหล่าเจ้าฟ้าดิน!

ภายในระยะก่อนถึงจุดนั้น ต่อให้เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายจะพลาดท่าไปทำให้ค่ายกลปิดกั้นทำงานพวกเขาก็คงยังสามารถหลบรอดออกไปได้ด้วยเพียงแค่อาการบาดเจ็บหนัก

แต่หากขึ้นไปเหนือกว่านี้แล้ว พลังของค่ายกลมันจะสูงล้ำขึ้นไปอีกหลายเท่า

ถึงเวลาแม้แต่เหล่าเจ้าฟ้าดินทั้งหลายเองก็คงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

แต่เย่หยวนนั้นยังคงทำสีหน้าไม่ยอมแพ้กล่าวตอบกลับมา “หึ! สามเฒ่า! หากเจ้ามีปัญญาจริงก็ทะลวงการป้องกันของข้ามาให้ได้ก่อนเถอะ!”

จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานจึงหัวเราะลั่นขึ้น “เจ้าฟ้าดินผู้นี้เคยศึกษาเต๋าบนเขาแปดโมฆะนี้จนถึงระยะสามพันกิโลเมตรอย่างลึกซึ้ง มีหรือที่เด็กน้อยอย่างเจ้านี้จะเอาตัวมาเทียบเคียงได้? รอดูเถอะ! เจ้าฟ้าดินผู้นี้จะทะลวงการป้องกันของเจ้าไปทำให้เจ้าตายอย่างไร้ที่กลบฝัง!”

พูดไปเย่หยวนก็เดินผ่านระดับสองพันแปดร้อยกิโลเมตรขึ้นมาในที่สุด

ตัวจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานนั้นหัวเราะขึ้นก่อนจะขยับมือปล่อยลำแสงปราณเทวะออกมานับไม่ถ้วนพร้อมพลังที่รุนแรงล้ำ

เวลานี้พื้นที่ป้องกันของเย่หยวนมันได้หดเล็กลงจนถึงขีดสุด

ภายในค่ายกลป้องกันที่เขาอยู่นั้นมันแทบไม่มีที่จะให้ยืนแล้ว!

ในวินาทีนี้เย่หยวนและพวกเหมือนดั่งหนูติดจั่น!

แต่ทว่าตัวเย่หยวนเองก็ได้ขยับมือยิงลำแสงปราณเทวะออกมาอย่างมากมายจนทำลายการโจมตีนั้นลงได้ในที่สุด

เว้นเสียแต่ว่าคนทั้งหลายนั้นต่างคิดว่าเย่หยวนคงไม่อาจป้องกันการโจมตีครั้งต่อไปได้แล้วอย่างแน่นอน

จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานและพวกหัวเราะลั่นเดินผ่านระยะสองพันแปดร้อยกิโลเมตรตามขึ้นมาบ้าง!

“เด็กน้อย เตรียมตัวตาย! เจ้าโง่ ระยะเกินสองพันกิโลเมตรนี้ต่างหากคือที่ที่จักรพรรดิผู้นี้จะแสดงฝีมือออกมาได้ถึงขีดสุด!” จักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานหัวเราะลั่นพร้อมยิงคลื่นลำแสงปราณเทวะออกมาอย่างต่อเนื่อง!

ค่ายกลระดับเจ้าฟ้าดินนั้นมันสุดแสนซับซ้อน ความยุ่งเหยิงของค่ายกลที่เพิ่มขึ้นมากนี้มันได้ทำให้จุดปล่อยพลังของค่ายกลเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเช่นกัน

ในเวลานี้ตัวเขานั้นเป็นผู้กล้าที่สามารถใช้พลังออกมาได้เต็มตัว!

แต่ทว่าในเวลาเดียวกันนั้นเองเย่หยวนก็ได้ขยับนิ้วมือยิงลำแสงพลังงานปราณเทวะออกมาบ้าง

แต่จำนวนของมันนั้นกลับเหนือล้ำจักรพรรดิเทพสวรรค์เทียนหยานไป!

เรื่องราวไม่คาดฝันนี้มันได้ทำให้คนทั้งเขาแปดโมฆะต้องอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง!

………………..