ตอนที่ 1350 ขอบใจเจ้ามาก

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

คนเหล่านี้ล้วนแต่คิดว่าพวกเขาจะต้องได้ผลจิ่วหยางซวนมาแล้วอย่างแน่นอน และเป็นเรื่องที่ไม่ต้องกังวลใจเลยสักนิด

มู่เฉียนซีพยักหน้าพลางกล่าว “ตกลง ผลจิ่วหยางซวน ข้าจะให้เจ้า…”

มู่เฉียนซีไม่ทันพูดจบ พื้นที่ที่ถูกปกคลุมไปด้วยพิษหนาวเย็นเหล่านี้ก็เริ่มปะทุพลังอันบ้าคลั่งออกมา

น้ำแข็งที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของพวกเขาเริ่มแตกระแหง

ฟู่ ฟู่ ฟู่! เกล็ดน้ำแข็งนับไม่ถ้วนถูกพายุพัดกระโชกขึ้น

พลังนี้ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว มันรุนแรงจนกระทั่งสามารถทำลายล้างทุกอย่างในที่แห่งนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือว่าสัตว์!

สีหน้าของคนเหล่านี้พลันเปลี่ยนไปมาก และไม่สนที่จะแย่งชิงผลจิ่วหยางซวนของมู่เฉียนซีแล้ว พวกเขากล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า “แย่แล้ว! สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดจะทำลายตัวเอง!”

“รีบหนีเร็วเข้า!”

“ไอ้บ้าเอ้ย บัดซบยิ่งนัก! ข้ายังไม่ทันหนีออกไป สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดบ้านั่นก็จะทำลายตัวเองแล้ว!”

สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดจะทำลายตัวเอง ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีพลังแข็งแกร่ง แต่ก็ยากที่จะต้านทานได้

มู่เฉียนซีตกใจขึ้นเล็กน้อย และมุมปากนางก็ยกยิ้มขึ้น

พิษที่นางวางไว้ทำให้กิ้งก่าน้ำแข็งไม่มีกำลังในการต่อสู้ พลังของพิษทั้งสองทรมานมันอย่างโหดเหี้ยมเช่นนั้น ทำให้มันไม่สามารถทนได้อย่างแน่นอน

แต่นางก็คิดไม่ถึงเลยว่ามันจะทำลายตัวเองและลากพวกเขาให้ตายไปด้วย!

“เจ้ามนุษย์เจ้าเล่ห์ผู้น่ารังเกียจ ตายไปด้วยกันนี่แหละ! ตายไปพร้อมกับข้านี่แหละ!” กิ้งก่าน้ำแข็งคำรามประโยคสุดท้ายออกมา

เผชิญหน้ากับการทำลายตัวเองที่สามารถทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างได้เช่นนี้ มู่เฉียนซีที่ติดอยู่ในวังวนนี้อาจถูกทำลายไปได้ทุกเมื่อ

แต่มู่เฉียนซีกลับกล่าวด้วยความชอบใจว่า “เจ้ากิ้งก่าน้ำแข็ง เจ้าทำได้ดีเยี่ยมจริง ๆ ขอบใจเจ้ามาก นับว่าเจ้าตายอย่างมีค่าจริง ๆ!”

ตูม! เสียงระเบิดตูมดังสะเทือนฟ้าสะเทือนดินขึ้น ทุกสรรพสิ่งรอบ ๆ ถูกทำลายจนสิ้น

ก่อนที่จิตใต้สำนึกของกิ้งก่าน้ำแข็งจะดับสูญไป มันได้ยินคำขอบคุณของมู่เฉียนซีแล้ว มันโกรธจนแทบอยากจะรีบกลับชาติมาเกิดแล้วฆ่าเจ้ามนุษย์ผู้นี้ซะจริง ๆ

ขอบคุณอย่างนั้นเหรอ! มันทำลายตัวเองลากพวกเขาให้ตายไปด้วย เจ้ามนุษย์ผู้นี้ยังจะขอบคุณมันอีก ช่างวิปลาสยิ่งนัก!

“หนี! รีบหนีเร็วเข้า!”

เกราะป้องกันของคนประหลาดเหล่านั้นได้พังทลายลงไปแล้ว ศิษย์สำนักโอสถฯ ก็พยายามหนีอย่างสุดชีวิต

เกราะป้องกันอันล้ำค่าก็เอาออกมาใช้แล้ว พวกเขาไม่อยากตาย

แต่มู่เฉียนซีกลับไม่เคลื่อนไหวใด ๆ เลย ดูเหมือนจะเพิกเฉยต่ออันตรายรอบตัวไปก็มิปาน

นางมองชิงอิ่งพลางกล่าว “ชิงอิ่ง ถึงเวลาที่เจ้าควรนอนพักผ่อนแล้ว”

“เฉียนระวังตัวด้วย!” ชิงอิ่งกล่าวจบก็หลับตาที่งดงามคู่นั้นลงทันที

หลังจากที่ชิงอิ่งหลับไป มู่เฉียนซีก็นำเขาเข้าไปในมิติ

ในขณะที่พลังนั้นกำลังจะทำลายมู่เฉียนซี หัวใจของนางก็เปล่งลำแสงสีฟ้าอ่อนขึ้น

ไม่มีพลังใดที่สามารถทำลายกำแพงมิติของผู้พิทักษ์นิรันดร์ได้

ปัง ปัง ปัง!

พรวด พรวด!

มู่เฉียนซีที่อยู่ภายใต้การปกป้องของสุ่ยจิงอิ๋งนั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใดเลย

แต่คนอื่นกลับถูกพลังนี้โจมตีจนกระเด็นลอยออกไป แต่ละคนกระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง

แม้ว่าพลังของคนเหล่านั้นจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็ยังถูกพลังการทำลายตัวเองนี้โจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ดี

พรวด! พวกเขากระอักเลือดออกมาอย่างต่อเนื่อง และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดได้เลย

“นังผู้หญิงนั่นหนีออกมาไม่ได้เหรอ?” สีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนไป

“พลังของนางอ่อนแอเช่นนั้น หนีรอดออกมาได้ก็แปลกแล้วล่ะ บัดซบยิ่งนัก! ผลจิ่วหยางซวนคงไม่ถูกทำลายไปแล้วกระมัง!”

“ไปหากันเถอะ บางทีเราอาจจะเจอแหวนมิติหลงเหลืออยู่ก็ได้”

พวกเขาจะลุกขึ้นมา แต่จู่ ๆ ร่างกายกลับแข็งทื่อราวกับถูกแช่แข็ง

“หนาว!”

“ช่างหนาวยิ่งนัก!”

“อ๊า ๆ ๆ! ข้าหนาวจะตายอยู่แล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

พลังการทำลายตัวเองของกิ้งก่าน้ำแข็งนั้นทรงพลังมาก แต่พิษเย็นที่แฝงอยู่ในพลังการทำลายตัวเองนั้นกลับน่ากลัวยิ่งกว่า

สีหน้าของคนเหล่านี้ต่างเขียวคล้ำขึ้นแล้ว พวกเขาที่เดิมทียังมีชีวิตรอด ตอนนี้เหลือเพียงลมหายใจสุดท้ายแล้ว

ในตอนนี้ก็ไม่สามารถสนใจเรื่องการตามหาผลจิ่วหยางซวนได้แล้ว “ยับยั้งพิษเอาไว้! รีบยับยั้งพิษเร็วเข้า!”

การสะสมของพิษเย็นนั้นช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะมีวิธีกลืนกินพิษนี้ได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกไร้เรี่ยวแรงลงเป็นอย่างมาก

และในขณะที่พวกเขาพยายามอย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะยับยั้งพิษ จู่ ๆ ร่างในชุดม่วงร่างหนึ่งก็เคลื่อนไหวมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าพวกเขา

มู่เฉียนซีมองพวกเขาและยิ้มพลางกล่าวว่า “พวกเจ้ากำลังตามหาข้าอยู่ไม่ใช่เหรอ ข้าอยู่ตรงนี้แล้วนี่ไง”

“เพียงแต่ว่า…”

แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี “พวกเจ้าในตอนนี้ แม้แต่แรงที่จะยืนขึ้นมาก็ไม่มีแล้ว!”

ทุกคนมองมู่เฉียนซีด้วยความตกใจ นางไม่เป็นอะไรแม้แต่น้อย!

ในพื้นที่ที่ใกล้ที่สุดที่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดทำลายตัวเอง นางไม่เพียงแค่ไม่เป็นอะไร แถมยังไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยอีกด้วย นี่มันเป็นไปได้ยังไง

“บัดซบ!” พวกเขาต้องการพุ่งออกไปจะบีบคอมู่เฉียนซี

ตุบ! แต่ในขณะที่พวกเขาจะยืน กลับล้มลงไปกระแทกพื้นอย่างจัง

พิษเย็น ทำให้พวกเขาไม่มีโอกาสที่จะตอบโต้ได้เลย

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้ามู่เฉียนซี เจ้ากิ้งก่าน้ำแข็งนั้นช่วยนางได้เยอะจริง ๆ

ทำให้นางพ้นจากอันตรายทีหนึ่งแล้ว แถมยังทำให้พวกเขากลายเป็นแบบนี้อีก

ตอนนี้ หากนางต้องการให้พวกเขาตายนั้น มันง่ายเพียงนิดเดียว

คนเหล่านี้ชั่วร้ายจริง ๆ มู่เฉียนซีก็ไม่ได้พูดจาไร้สาระกับพวกเขามาก

กระบี่มังกรเพลิงถูกชักออกจาก แทงทะลุหัวใจของคนผู้หนึ่ง

วิ้ง! ในขณะที่ฆ่าคนผู้นั้น กระบี่มังกรเพลิงก็ตื่นเต้นขึ้น

“นายท่าน วิญญาณชั่วร้ายนี้ช่างอร่อยยิ่งนัก!”

ท่าทางดีอกดีใจเช่นนี้ทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกว่ากระบี่มังกรเพลิงต้องการเรียกนางไปกลืนกินด้วย!

วิญญาณชั่วร้ายที่สามารถทำให้กระบี่มังกรเพลิงตื่นเต้นได้มันต้องไม่ดีแน่นอน

ฉึก ฉึก! กระบี่มังกรเพลิงโจมตีอีกครั้ง จัดการไปจนเหลือแค่คนสุดท้าย

เจ้าหมอนั่นที่ปลอมตัวเป็นศิษย์พี่จ้าวกล่าวว่า “สาวน้อย นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าฆ่าพวกข้า”

มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “มีอะไรที่ข้าจะต้องกลัว”

“แต่ข้าแปลกใจมากว่าตกลงพวกเจ้าเป็นใครกันแน่?” ไม่ใช่คนสำนักโอสถฯ แน่นอน

“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ ข้าไม่มีทางบอกเจ้าหรอก เจ้าฆ่าข้าได้เลย”

“ต่อให้เจ้าไม่พูด ข้าก็จะทำให้เจ้าพูด!”

ครั้งนี้มู่เฉียนซีไม่ใช้กระบี่มังกรเพลิงแล้ว แต่นางใช้ยาแผนปัจจุบัน (ยาน้ำ)

คนผู้นี้รับมือยาก ในยานี้ของนางได้เพิ่มวัสดุเข้าไปไม่น้อย

พิษอันรุนแรงของยานี้ออกฤทธิ์ขึ้น บวกกับพิษเย็นนั้น สามารถทำให้เขาทรมานได้เหมือนตายทั้งเป็นเลย

อ๊า!

ความเจ็บปวดในร่างกายเพิ่มมากขึ้น ทวีคูณมากขึ้น และยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ

มู่เฉียนซีกล่าว “บอกข้ามา แล้วข้าจะส่งเจ้าไปหาสหายเจ้า มิเช่นนั้นเจ้าก็ค่อย ๆ ยอมรับความทรมานนี้ไปเถอะ!”

“ข้าไม่มีทางบอกเด็ดขาด!”

มู่เฉียนซีเคยใช้พิษสอบสวนคนมาเป็นจำนวนมากแล้ว แต่คนที่ปากแข็งได้ถึงเพียงนี้ยากนักที่จะพบเจอ

หากบังคับให้พูดออกมาไม่ได้ ก็คงต้องใช้วิธีอื่นแล้ว พิษอันรุนแรงนี้ทำให้สติสัมปชัญญะของเขาเริ่มอ่อนแอลงเรื่อย ๆ มู่เฉียนซีจึงฉีดยาให้เขาไปอีกเข็มหนึ่ง

ไม่นานนัก รูม่านตาของเขาก็ดูเหม่อลอย การสะกดจิตสำเร็จแล้ว

มู่เฉียนซีกล่าวถาม “ตกลงพวกเจ้าเป็นใครกันแน่?”

“พะ พวกข้าเป็นคนของเผ่าวิญญาณร้าย เผ่าวิญญาณร้ายของพวกข้าจะครอบครองโลกใบนี้ทั้งหมด พวกเจ้าทุกคนล้วนแต่เป็นเพียงแค่มดปลวกทั้งสิ้น มดปลวก…”

มู่เฉียนซีตกใจผงะไป นี่มันเผ่าบ้าอะไรกัน ช่างมีความทะเยอทะยานไม่เบาเอาซะเลย

“เผ่าวิญญาณร้ายของพวกเจ้าอยู่ในดินแดนสี่ทิศหรือว่าอยู่ในดินแดนซวนเทียน?”

คนเหล่านี้ปลอมตัวเป็นศิษย์สำนักโอสถฯ ไม่รู้ว่าถูกครอบงำที่ดินแดนซวนเทียนหรือมาถูกครอบงำเอาที่ดินแดนสี่ทิศ หากอยู่ในดินแดนซวนเทียนก็คงไม่เป็นไร แต่หากเผ่าชั่วร้ายนี่แอบซ่อนตัวอยู่ในดินแดนสี่ทิศแล้วละก็ นางต้องระวังตัวให้มากขึ้น

.

.