เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1760
ลู่ฝานสะบัดมือปัดควันออกไป จ้องเขม็งไปบนท้องฟ้า
โครงกระดูกตะโกนว่า “เกิดอะไรขึ้น ใครกล้าดีขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ในประเทศฉิงเทียน พวกเขาไม่รู้จักกฎหมายหรือไง”
ลู่ฝานวางโครงกระดูกลงแล้วพูดว่า “พวกเขาคงไม่เคยเห็นกฎหมายอยู่ในสายตา”
แววตาเหมือนสายฟ้า ลู่ฝานยกกระบี่ขึ้นมาขวางไว้หน้าลำตัว
เขาก้มมองนกเพลิงด้านล่างตัว ความอาฆาตปรากฏขึ้นนัยน์ตา
เงาดำปกคลุมเต็มท้องฟ้าด้านบนหัว แสงบางๆ ร่วงลงมาจากช่องว่างระหว่างพวกมัน ตอนนี้ลู่ฝานเพิ่งเห็นว่าจุดดำเหล่านั้นคือค้างคาวสามหัวปีกมังกร
ลู่ฝานเคยเห็นสัตว์อสูรแบบนี้ที่หอฝึกสัตว์ในหมู่บ้าน ราคาไม่ธรรมดาเลย แต่หน้าตาน่าเกลียด ลู่ฝานจึงไม่ได้เลือกมา
ฟึ่บ! ฟึ่บ! ฟึ่บ!
เงาดำกระโดดลงมาจากค้างคาวสามหัวปีกมังกร จากนั้นเหลือแสงเพียงนิดหน่อย ลู่ฝานกับโครงกระดูกเห็นใบหน้าคนที่มาชัดเจนแล้ว
เป็นกลุ่มผู้ชายที่แต่งตัวต่างกัน ถืออาวุธในมือ สวมหน้ากากปกปิดใบหน้า ก้าวเข้ามาหาลู่ฝานอย่างรวดเร็ว!
ชายที่เดินนำมาดูท่าทางเป็นอันธพาล
เขาเดินแบบสบายๆ ควงมีดสั้นในมือแล้วพูดเสียงดัง “เตี้ยนเซี่ยหนานกงสิง คิดไม่ถึงว่ายังกลับมาได้ ไม่สิๆ ฉันควรพูดว่านายยังกล้ากลับมาอีกเหรอ!”
หนานกงสิงมองคนคนนี้แล้วอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาชี้ชายคนนี้เหมือนจำได้ “เสี่ยวลิ่วจื่อ นายคือเสี่ยวลิ่วจื่อ ไอ้เลว นายกล้าโจมตีฉัน!”
ผู้ชายหยุดลงห่างจากลู่ฝานกับโครงกระดูกประมาณสามสิบเมตร
ผู้ชายค่อยๆ ถอดหน้ากากตัวเองออก เผยให้เห็นใบหน้าร้ายกาจ “เตี้ยนเซี่ยจำฉันได้แล้วเหรอ เฮ้อ ฉันไม่อยากให้เตี้ยนเซี่ยรู้ความจริงอันโหดร้ายเลย!”
โครงกระดูกสั่นไปทั้งตัว ชี้เสี่ยวลิ่วจื่อแล้วพูดว่า “นายขายฉัน ฉันว่าแล้วทำไมผู้ฝึกชั่วร้ายถึงรู้ช่วงที่ฉันอ่อนแอที่สุด อีกทั้งยังจับฉันไปตอนอยู่คนเดียวได้อีก ที่แท้ก็มีเกลือเป็นหนอนอย่างนายไปบอกผู้ฝึกชั่วร้ายพวกนั้นนี่เอง!”
เสี่ยวลิ่วจื่อปรบมือ หัวเราะแล้วพูดว่า “เตี้ยนเซี่ยรู้ตัวเร็วมาก จำเรื่องราวทั้งได้อย่างรวดเร็ว แต่น่าเสียดายที่เตี้ยนเซี่ยพูดผิดไปนิดหน่อย ฉันไม่ได้ขายเตี้ยนเซี่ย แต่พวกเราทั้งหมดขายเตี้ยนเซี่ยต่างหาก!”
เมื่อพูดเช่นนี้ เสี่ยวลิ่วจื่อโบกมือไปด้านหลัง
คนสิบกว่าคนถอดหน้ากากตัวเองออก ลู่ฝานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มองพวกผู้ชายตัวสูงใหญ่ หน้าตาร้ายกาจแล้วพูดว่า “สหายหนานกง นายรู้จักพวกเขาเหรอ”
ตอนนี้โครงกระดูกอึ้งไปแล้ว เขาไม่ได้ยินคำถามของลู่ฝาน
โครงกระดูกทั้งตัวเริ่มสั่น ชี้คนพวกนั้นแล้วพูดว่า “เสี่ยวจั๋วจื่อ เสี่ยวหลี่จื่อ เสี่ยวหยู่จื่อ ที่แท้พวกนายเกลือเป็นหนอน ที่แท้ลูกน้องในจวนฉัน ไม่มีใครเป็นคนดีเลย!”
ทุกคนหัวเราะเบาๆ เสี่ยวลิ่วจื่อพูดว่า “เตี้ยนเซี่ย ตอนนี้คงเข้าใจแล้วว่าทำไมองค์ชายผู้ยิ่งใหญ่ของประเทศฉิงเทียนถึงอยู่ในสภาพนี้ ยอมจำนนเถอะ เราจะได้ไม่ต้องใช้กำลัง แล้วก็ไอ้เด็กที่ไม่รู้โผล่มาจากไหน รีบคุกเข่าอ้อนวอนสิ ถ้าเราใช้กำลังแล้วจะไม่ดีนะ เราเป็นคนมีการศึกษา ไม่ชอบใช้กำลังหรอก!”
กลุ่มคนหัวเราะอย่างชอบใจ
ลู่ฝานหันมามองโครงกระดูกแล้วพูดว่า “สหายหนานกง ดูเหมือนนายโดนคนเล่นงานแล้ว!”
โครงกระดูกพูดเสียงดังว่า “ต้องเป็นฝีมือไอ้หนานกงหยู่แน่ๆ ไม่สิ ฝีมือหนานกงชางหรือหนานกงอี๋ว์ล่ะ”
เสี่ยวลิ่วจื่อส่ายหน้า “ผิดหมด เตี้ยนเซี่ยค่อยๆ เดาสิ”
ลู่ฝานอ้าปากเบาๆ แล้วพูดว่า “คนที่จะเล่นงานนายไม่น้อยเลย!”