บทที่ 1447 ของขวัญ

หนึ่งฝ่ามือสยบโลกา

ในมหาจักรวาล มิติเต๋าต้นกำเนิดที่กลายเป็นโลกาสามชั้น ภายในรูปปั้นของโลกาชั้นแรก ด่านปรารถนากำลังทยอยแตกออกทีละชั้น

สุดท้ายก็เหลือเพียงห้องโถงซึ่งยังอยู่ในรูปปั้น

เหนือบันไดในห้องโถงมีเก้าอี้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ ที่แห่งนั้นว่างเปล่า แผนที่ดวงดาวด้านบนเกิดรอยร้าวขยายไปทั่วจนบอกพิกัดอะไรไม่ได้อีก

ล่างบันได พื้นที่ที่เคยว่างเปล่าบัดนี้มีภาพมายาแม่น้ำแห่งกาลเวลาผุดขึ้น ตอนนั้นเองร่างหนึ่งก็เดินออกมาช้าๆ

กระทั่งก้าวออกมาจากแม่น้ำแห่งกาลเวลาอย่างสมบูรณ์แล้ว แม่น้ำก็หายวับ ร่างนั้นเผยโฉมออกมาอย่างชัดเจน นั่นก็คือ…หวังเป่าเล่อ

เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบเชียบ ตอนนี้ผลึกแก้วสีฟ้าตรงหว่างคิ้วอ่อนแสงลงแล้ว ปราณโลหิตและดวงวิญญาณเทพของมหาเทพข้างในล้วนหลอมรวมเข้ากับร่างกายหวังเป่าเล่อแล้ว เกิดเสียงดังคลิก ก่อนที่ผลึกแก้วสีฟ้าจะแตกละเอียดและร่วงลงพื้นจนเกิดเสียงกระทบดังฟังชัด

เสียงนี้ดังก้องอยู่ในห้องโถงที่เงียบสงบ

“ท้ายที่สุดความเมตตาของมหาจักรวาลที่มีต่อข้าก็เป็นเพราะมันเป็นแหล่งกำเนิดเซียน สุดท้ายข้าถึงได้วิชาสืบทอดเซียนมา…”

“หรือว่า…เพราะข้ามอบวิชาสืบทอดเซียนให้มันในตอนที่มหาจักรวาลเพิ่งจะก่อตัว…”

“ความขัดแย้งกันของเวลาและสถานที่…” หวังเป่าเล่อส่ายหน้าและไม่คิดเรื่องนี้อีก หันไปมองความว่างเปล่าในที่ไกลๆ เขาไม่รู้ว่าตอนนี้ระดับการฝึกตนของเขาอยู่ในระดับใด รู้เพียงอย่างเดียวคือ…ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถสร้างทุกสิ่งขึ้นมาได้ใหม่ตามต้องการ

ยกเว้นสร้างตัวเอง

สายตาของเขามองทะลุทุกสิ่งกีดขวางออกไป เขามองทะเลทรายในโลกาชั้นที่สอง เนิ่นนาน ก่อนที่รอยยิ้มจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า

จากนั้นก็ส่ายหน้าอีกครั้งแล้วหันกลับมาเดินไปยังบันไดที่มหาเทพเคยอยู่ทีละก้าว จนกระทั่งถึงขั้นไปด้านบนสุด เดินไปยังด้านหน้าที่นั่งแล้วมองเก้าอี้ตรงหน้า หวังเป่าเล่อเอ่ย

“เจ้าว่ามหาเทพในตอนนั้นใช้อารมณ์แบบไหนถึงปิดผนึกสถานที่แห่งนี้แล้วนั่งเงียบๆ อยู่ที่นี่คนเดียว…มาเนิ่นนาน”

ไร้เสียงตอบ

“ไม่พูดล่ะ สตินึกคิดของเจ้ากำลังจะหายไป หากตอนนี้ยังไม่คุยกับข้า บางทีเจ้าอาจจะไม่มีโอกาสได้พูดอีกแล้ว” หวังเป่าเล่อกล่าวเบาๆ

“เจ้าก็เหมือนกันนั่นแหละ!” เสียงหวีดแหลมดังขึ้นในใจหวังเป่าเล่อ เสียงนั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง ความบ้าคลั่ง และมีปราณหมอกดำจำนวนมากแผ่ออกมาจากร่างหวังเป่าเล่ออย่างต่อเนื่อง

นั่นก็คือ…ปรารถนา!

นางไม่ได้ถูกทำลาย กลับกันนางมาอยู่ในร่างหวังเป่าเล่อ อยู่ในจิตใต้สำนึกของเขา กลายเป็นหนึ่งเดียวกับเขา เหมือนที่ทำกับมหาเทพ

“จิตใต้สำนึกของเจ้าก็กำลังจะสลายไป สุดท้ายเจ้าก็พ่ายแพ้เหมือนมหาเทพ!!” น้ำเสียงปรารถนาบ้าคลั่ง นางกรีดร้องอยู่ในจิตใต้สำนึกหวังเป่าเล่อ

“ไม่เหมือน” หวังเป่าเล่อนั่งลงบนเก้าอี้แล้วเอ่ยอย่างตั้งใจ

“ตั้งแต่ต้นจนจบมหาเทพคิดจะสยบเจ้า แต่ข้าไม่ ข้ารู้ว่าเจ้าทำลายไม่ได้ แต่ข้าทำลายจิตใต้สำนึกของเจ้าได้…ทำให้เจ้ากลายเป็นความปรารถนาที่บริสุทธิ์ สำหรับข้าแล้วก็เท่ากับได้ฆ่าเจ้าแล้ว”

“เจ้าบ้า ข้าพูดไปหมดแล้ว หลังจากถูกข้าควบคุม เราก็จะกลับไปยังดาราสวรรค์ ข้าจะให้โอกาสเจ้าเกิดใหม่ แต่เจ้าจะเสียสละตัวเองให้จมดิ่งไปตลอดกาลเพื่อทำลายจิตใต้สำนึกของข้า ทำให้ข้ากลายเป็นปรารถนาบริสุทธิ์เนี่ยนะ!!”

“เจ้าเป็นบ้าอะไร…ทำไม!”

“ข้าก็ไม่ได้อยากทำ แต่คืนพินาศทำลายเจ้าไม่ได้ เต๋าห้าธาตุก็ทำลายเจ้าไม่ได้ เต๋าแห่งความเป็นความตายก็ทำไม่ได้ เหตุต้นผลกรรมระหว่างเจ้ากับข้า คนนอกก็ไม่อยากเข้ามายุ่ง ดังนั้น…ข้าจึงทำได้แค่ใช้เต๋าอิสระเปลี่ยนเป็นความบ้าคลั่งของข้าเพื่อช่วงชิงย้อนกลับจากเจ้า!”

“วิธีช่วงชิงแบบนี้เจ้าเป็นคนสอนข้าเองนะ” หวังเป่าเล่อยิ้มอย่างไร้กังวล ดวงตาทั้งสองเริ่มปรากฏเส้นสีดำมากขึ้นเรื่อยๆ…

“เจ้า…” จิตใต้สำนึกของปรารถนาเริ่มสลาย พลังปราณอ่อนแอลง แม้แต่จะพูดคุยก็ยังทำไม่ได้

“อีกอย่าง…” หวังเป่าเล่อไม่สนใจปรารถนา เขามองไปยังโลกาชั้นที่สอง ใบหน้าดูสับสน แต่ในไม่ช้าความสับสนก็หายไปกลายเป็นความคาดหวัง

“มหาเทพเสียสละตัวเองเพื่อเติมเต็มให้ข้าที่เป็นทั้งส่วนหนึ่งและร่างแยกสมบูรณ์ เช่นนั้น…ทำไมข้าจะเติมเต็มให้…ร่างแยกที่มีจิตใต้สำนึกเป็นอิสระ…ไม่ได้!”

“ข้าทำได้” หวังเป่าเล่อพึมพำ

“จุดประสงค์เดิมของข้าคือตัดเหตุต้นผลกรรมกับมหาเทพ ตัดความเกี่ยวข้องทุกอย่าง ทำให้เหตุต้นผลกรรมหายไปแล้วทำให้ข้าได้เป็นอิสระอย่างแท้จริง…กลายเป็นเซียนอิสระ!”

“นี่คือเต๋าของข้านี่นา…ในเมื่อข้าทำไม่ได้ เช่นนั้น…เจ้าก็คงทำได้”

“หวังเป่าเล่อ…” หวังเป่าเล่อเอ่ยขึ้น ดวงตาที่มองไปทางโลกาชั้นที่สองสว่างเจิดจ้า

ในทะเลทรายของโลกาชั้นที่สอง ลึกลงไปใต้ดิน ร่างที่นั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้นพลันลืมตา ทั่วทั้งร่างของเขามีผนึกสี่เต๋าปรากฏอยู่

ผนึกสี่เต๋านี้ทำให้เขาไม่สามารถขยับได้ ไม่สามารถออกไปได้ ทำได้เพียงอยู่ที่นี่ ขณะเดียวกันพลังปราณของเขาก็ถูกซ่อนไว้เช่นกัน

บัดนี้เมื่อลืมตาขึ้นแล้ว นัยน์ตาของเขาเผยความสับสน เงยหน้าขึ้นราวกับมองเห็นร่างต้นแบบของตนในที่ไกลๆ

“ตั้งแต่เจ้าถูกแยกออกมา เจ้าก็ต้องการอิสระ…” หวังเป่าเล่อที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เอ่ยเบาๆ เส้นสีดำในดวงตาเพิ่มขึ้น

“มหาเทพให้หยดเลือดเจ้า ทำให้กายเนื้อของเจ้าเป็นอิสระ”

“ข้าให้วิญญาณเจ้า ทำให้ดวงวิญญาณเทพของเจ้าเป็นอิสระ”

“เช่นนั้นนับจากนี้ไป เจ้า…ก็คือเจ้า!” เสียงหวังเป่าเล่อดั่งอสนีบาต ดังก้องอยู่ในจิตใจร่างแยกที่อยู่ลึกลงไปในทะเลทรายของโลกาชั้นที่สอง

ทำให้ร่างแยกตัวสั่นเทิ้มอย่างรุนแรง

“ข้าหวัง…ให้เจ้าจะมีอิสรเสรี ตลอดกาลทุกชาติภพ”

เมื่อเอ่ยออกไป ผนึกเต๋าที่หนึ่งของร่างแยกก็แตกสลายในทันที ปราณโลหิตจำนวนมากและพลังแห่งระดับการฝึกตนพลันไหลเข้าไปในกายของร่างแยก

“ข้าหวัง…ให้เจ้าสุขสำราญใจ ตลอดกาลทุกชาติภพ”

ผนึกเต๋าที่สองพังทลาย ระดับการฝึกตนก็ยิ่งหลั่งไหลเข้าไปในพริบตา

“ข้าหวัง…ให้เจ้าไม่ลืมหัวใจดั้งเดิมของตน ตลอดกาลทุกชาติภพ”

ผนึกเต๋าที่สามพังทลาย!!

“ข้าหวัง…ให้เจ้ามีสุขสวัสดิ์ ตลอดกาลทุกชาติภพ”

ผนึกเต๋าที่สี่พังทลาย!!!

ระดับการฝึกตนอันไร้ที่สิ้นสุดหลอมรวมอย่างบ้าคลั่ง ประกอบด้วยเต๋าของหวังเป่าเล่อและทุกสิ่งทุกอย่างของเขา

ฝั่งร่างแยกในตอนนี้ดวงตาแดงฉาน เขารู้แล้วว่าฝั่งร่างต้นแบบกำลังเกิดอะไรขึ้น

“สุดท้ายข้าก็จะให้ของขวัญเจ้าเช่นกัน!” หวังเป่าเล่อที่นั่งพิงเก้าอี้เสื้อผ้ากลายเป็นสีดำ เส้นสีดำในดวงตากินพื้นที่ไปมากกว่าครึ่ง แต่สีหน้ายังคงสงบนิ่ง มีเพียงเสียงเบาๆ เท่านั้นที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง

“หวังเป่าเล่อ นามนี้ข้า…ยกให้เจ้า”

ทันทีที่เอ่ยประโยคนี้ ทั่วทั้งมหาจักรวาลพลันเกิดเสียงคำรามกู่ก้อง ร่างแยกในส่วนลึกของทะเลทรายเงยหน้าขึ้นและกำลังจะเอ่ยบางอย่าง แต่ในพริบตาต่อมาร่างต้นแบบที่เขามองเห็น การเชื่อมต่อสุดท้ายระหว่างกัน…ก็ขาดลง และยังมีพลังมหาศาลพันธนาการเขาไว้และส่งเขาออกไปจาก…มิติเต๋าต้นกำเนิด!

มีเพียงประโยคเดียวที่ดังขึ้นในใจทันทีที่เขาตัดการเชื่อมต่อ

“ใช่…สุราข้าวอร่อยกว่าน้ำเย็นหล่อวิญญาณจริงๆ”