ตอนที่ 1197 - สำนักธูปสวรรค์ (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1197 – สำนักธูปสวรรค์ (1)

“บัดซบ นี่คือการโจมตีวิญญาณ ทุกคนเพ่งสมาธิของเจ้าและหลีกเลี่ยงการฟังมัน ! ” เจียงหยางชิงหยุนเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นอย่างรวดเร็ว ทันทีที่เขาคำรามเสียงดัง พยายามที่จะใช้เสียงของเขาเพื่อระงับเสียงเพลงและปลุกคนในตระกูลที่ได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ตามเสียงคำรามของเขาไม่ได้มีอิทธิพลต่อพวกเขาเลย มีเพียงเซียนผู้คุมกฏที่แข็งแกร่งเพียงไม่กี่คนที่ต่อต้านด้วยสิ่งที่พวกเขามี ในขณะที่เซียนผู้คุมกฏที่อ่อนแอกว่า, เซียนสวรรค์และคนในตระกูลที่อ่อนแอกว่าล้วนได้รับผลกระทบ ดวงตาของพวกเขาเหม่อลอยเมื่อพวกเขาง่วงนอน ส่วนใหญ่ล้มลงบนพื้นเรียบร้อยแล้ว

” หญิงสาวเจ้าเสน่แห่งสวรรค์!” เจี้ยนเฉินหันไปมองด้วยความดีใจ แม้ว่าเขาจะไม่เห็นนาง แต่เขาก็เดาได้เลยว่าใครกำลังสร้างสรรค์ดนตรีที่มีเอกลักษณ์นี้

ผลกระทบอันน่าอัศจรรย์ของดนตรีเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ทีละน้อยทีละน้อย เซียนสวรรค์สองสามคนได้ยอมจำนนและทรุดตัวลงบนพื้นตามด้วยเซียนผู้คุมกฏสองสามคน พวกเขาทั้งหมดหลับไป

ในพริบตาทุกคนที่จุดสำคัญสามร้อยหกสิบก็ได้ผล็อยหลับไป แม้แต่พลังอันยิ่งใหญ่ของค่ายกลดั้งเดิมก็ไม่สามารถรักษาได้อีกต่อไปหากปราศจากการสนับสนุนจากคนทั้งสามร้อยหกสิบคน

เจียงหยางชิงหยุนและคนอื่น ๆ กลายเป็นหน้าขาวซีด พวกเขากัดฟันของพวกเขาและสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ความเกลียดชังของพวกเขาต่อหญิงสาวเจ้าเสน่แห่งสวรรค์มาถึงจุดที่ย้อนกลับคืนไม่ได้แล้ว พวกเขากำลังจะเปิดใช้งานค่ายกลดั้งเดิมและฆ่าผู้บุกรุกทั้งหมดซึ่งไม่เพียงแต่อนุญาตให้พวกเขากำจัดเจี้ยนเฉินซึ่งจะเป็นปัญหาในอนาคต และยังอนุญาตให้พวกเขาได้รับผลไม้เซียน แต่บางคนก็ได้ทำลายทุกอย่าง ในขณะนั้น พวกเขาโกรธมากจนพวกเขาต้องการกระอักเลือด

บทเพลงยังไม่หยุด ในทางกลับกัน เสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ภายในนั้นก็แข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งแม้แต่เซียนผู้คุมกฏที่ทรงพลังที่สุดก็ไม่สามารถต้านทานได้ในท้ายที่สุด พวกเขาทั้งหมดล้มไปบนพื้น

ไม่มีใครที่ยืนอยู่บนผืนดินที่ลอยอยู่ มีเพียงเซียนราชาเท่านั้นที่สามารถต้านทานได้เช่นเดียวกับโหยวเยว่ที่ซ่อนตัวในโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม เพลงพิณไม่สามารถเจาะทะลุม่านแสงบาง ๆ ที่ทางเข้าหลัก

ในขณะนี้วงล้อมของโถงศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิบแปดหลังก็ได้พังทลายลงมา เซียนผู้คุมกฏทั้งสิบแปดคนที่ซ่อนอยู่ข้างในกลิ้งออกมาและลงไปกองกับพื้นเหมือนก้อนหิน ดวงตาของพวกเขาปิดและพวกเขาก็หลับเช่นกัน

เจียงหยางหยวนเจิ้งหัวที่ยืนอยู่บนห้องโถงศักดิ์สิทธิ์ชั้นบนสุดก็ตกตะลึงด้วยเรื่องนี้พร้อมด้วยสีหน้าไม่อยากเชื่อปรากฏอยู่เต็มใบหน้า ในขณะเดียวกันก้อนหิน 18 ก้อนยังคงวนเวียนอยู่รอบตัวเขา เขาสามารถควบคุมโถงศักดิ์สิทธิ์ผ่านแผ่นศิลาได้ แต่เขาไม่สามารถเปิดใช้งานการล้อมกรอบได้เนื่องจากจำเป็นต้องมีเซียนผู้คุมกฏในโถงศักดิ์สิทธิ์แต่ละห้อง

“มันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ! ? ” เจียงหยางหยวนเจิ้งหัวถามอย่างว่างเปล่า เพียงเพลงเพลงเดียวก็ลดระดับตระกูลผู้พิทักษ์ที่ยอดเยี่ยมลงมาสู่สภาวะที่น่าสังเวชเช่นนี้ นี่คือสิ่งที่เขาไม่สามารถยอมรับได้

ตระกูลเจียงหยางเป็นตระกูลผู้พิทักษ์ที่ยอดเยี่ยม หนึ่งในสิบตระกูลที่ทรงพลังที่สุดในทวีปเทียนหยวน พวกเขามีเซียนราชาหลายคน, เซียนผู้คุมกฏหลายสิบคนและเซียนสวรรค์อีกนับไม่ถ้วน

ไม่ว่ามรดกของตระกูลของพวกเขาจะลึกซึ้งเพียงใด ไม่ว่าพวกเขาจะมีไพ่ตายทรงพลังมากเพียงใดก็ตาม ทุกคนก็จะไร้ประโยชเมื่อได้ยินเพลงนี้ นี่เป็นเพราะพวกเขาไม่มีอะไรจะป้องกันการโจมตีที่มุ่งเป้าไปที่วิญญาณ และดนตรีสามารถเจาะทะลุสิ่งกีดขวางทั้งหมดและแม้แต่ทะลุเข้าไปในใจกลางของภูเขา มันจะไม่เพียงพอแม้ว่าพวกเขาจะอุดหู

ในพริบตาสถานการณ์ได้พลิกผันโดยเพลงพิณที่ปรากฏออกมาจากที่ใดที่หนึ่ง ตระกูลเจียงหยางที่ครอบครองความได้เปรียบและกำลังจะได้รับชัยชนะถูกนำไปยังเส้นทางแห่งความพ่ายแพ้

ค่ายกลดั้งเดิมขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าก็หายไปเช่นกัน หากไม่มีการสนับสนุนจากคนสามร้อยหกสิบคน มันก็ไม่สามารถแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ของมันได้ หากมันยังคงทำงานอยู่ มันจะระบายพลังงานของโลกใบเล็กเท่านั้น

“เกิดอะไรขึ้นข้างนอก ? ” โหยวเยว่จ้องมองออกมาจากโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่ม เนื่องจากความสับสนทำให้นางอยู่ข้างใน ม่านแสงของโถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มปิดกั้นเพลงได้ทั้งหมด ดังนั้นนางจึงไม่ได้ยินเป็นธรรมดา นางจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างนอก สิ่งที่นางเห็นคือผู้คนจำนวนมากล้มลง

หงเหลียนได้รับอิสรภาพของนาง เปลวไฟเริ่มแผดเสียงรอบตัวนาง ในขณะที่ลูกบอลเพลิงกลุ่มใหญ่ล้อมรอบนางไว้ ร่างของนางถูกบดบังด้วยไฟ นางดูเหมือนเทพธิดาแห่งไฟ บาดแผลของนางก็หายเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

หงเหลียนมาถึงด้านหน้าของเจียงหยางชิงหยุนและเซียนราชาอีก 3 คนเนื่องจากเปลวไฟแผดเผาอยู่รอบตัวนาง นางจ้องมองพวกเขาอย่างเยือกเย็นและเย้ยหยันอย่างเย็นชา “ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะมีวิธีการรับมือกับข้าอย่างไร ? ”

ใบหน้าของผู้อาวุโสสูงสุดทั้งสี่ได้กลายเป็นสีแดงเข้มไปแล้ว ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโสของตระกูลผู้พิทักษ์ที่สูงส่ง พวกเขาถูกทำให้อับอายโดยศัตรูของพวกเขาในรูปแบบดังกล่าวในดินแดนของพวกเขาเอง นี่เป็นการตบหน้าอย่างรุนแรงต่อหน้าพวกเขา แต่พวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้

ตอนนี้ สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อหงเหลียนก็คือการใช้ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ อย่างไรก็ตาม พวกเขามีเพียง 4 คนเท่านั้นที่ พวกเขาจะไม่สามารถได้รับชัยชนะในระยะเวลาอันสั้นแม้ว่าพวกเขาจะควบคุมยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ เมื่อเวลาผ่านไปนานเกินไป พวกเขาจะไม่สามารถอดทนต่อผลกระทบ พวกเขาอาจตายเพราะมัน

“ถ้าเราสามารถใช้พลังทั้งหมดของยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็จะมีเพียงแค่ความตายสำหรับเจ้า แม้ว่าเจ้าจะมีเกราะป้องกันพลังงานดั้งเดิมของเจ้า” เจียงหยางหยวนเจิ้งหัวกล่าวออกมาในที่สุดหลังจากอัดอั้นอยู่เป็นเวลานาน ตระกูลผู้พิทักษ์มีความภาคภูมิใจ ศักดิ์ศรีของพวกเขาไม่สามารถลดลงได้ เจียงหยางหยวนเจิ้งหัวไม่ต้องการยอมรับความจริงที่ว่าตระกูลของเขาได้รับความพ่ายแพ้ต่อเซียนราชา

ด้วยการมองอย่างเย็นชา เจียงหยางชิงหยุนจ้องมองที่หงเหลียนซึ่งอาบไปด้วยเปลวไฟที่แผดเผา เขาเย้ยหยัน “ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าผลประโยชน์ใดที่เจี้ยนเฉินมอบให้เจ้าทั้งสองซึ่งเป็นสมาชิกที่น่าภาคภูมิใจของตระกูลฟีนิกส์เทวะและราชาของตระกูลมังกร เพื่อละทิ้งศักดิ์ศรีของพวกเจ้าและรับใช้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า ลดตัวมาเป็นคนรับใช้ของเจ้าเด็กเหลือขอ” น้ำเสียงของเจียงหยางชิงหยุนมีการยั่วยุอย่างโจ่งแจ้ง

แววตาหงเหลียนเริ่มเย็นชา แต่ในขณะนั้นสีหน้าของนางและเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปในเวลาเดียวกัน พวกเขาได้รับข้อความจากรุยจิน ทักษะลับของเขากำลังจะเสร็จสมบูรณ์และพวกเขาต้องการที่จะล่าถอยทันที มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกผนึกในโลกใบเล็ก

โดยไม่ลังเลหงเหลียนและเจี้ยนเฉินรีบกลับไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์จันทร์แจ่มโดยเร็วที่สุด โถงศักดิ์สิทธิ์ออกจากโลกใบเล็กทันทีและไม่มีสิ่งกีดขวาง ประตูโลกปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว เมื่อมันใกล้จะเสร็จสมบูรณ์เจียงหยางชิงหยุนก็พุ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว เขารู้ว่ารุยจินและคนอื่น ๆ ต้องการผนึกตระกูลเจียงหยาง

ขนนกสีแดงอีกชิ้นที่ทำจากวัสดุพิเศษปรากฏขึ้นในมือของหงเหลียน พลังงานของเปลวไฟเพิ่มขึ้นภายใน

ควับ ! ขนนกยิงผ่านประตูโลกที่กว้างเพียง 2 เมตรในขณะที่เป็นแสงสีแดงก่อนที่จะระเบิดเสียงดัง มันสกัดเจียงหยางชิงหยุนไว้ เช่นเดียวกับประกายไฟที่กำลังจะพ่นเข้าสู่โลกภายนอกประตูโลกปิดสนิท

“โอบล้อมเก้ามังกร ผนึก ! ”

ในเวลาเดียวกันรุยจินก็ตะโกนออกมาอย่างกับระเบิด มังกรยักษ์ 9 ตัวพุ่งออกมาจากก้านทั้งเก้าของหญ้าน้ำลายมังกร พวกมันทั้งหมดมีความยาวหลายร้อยเมตรและไม่มีตัวตน พวกมันถูกควบแน่นจากพลังจำนวนมหาศาลภายในต้นหญ้า

มังกรลวงตาทั้งเก้าส่งเสียงคำรามแบบไร้เสียงบนท้องฟ้า พวกมันว่ายผ่านอากาศก่อนที่จะปะทะกันในที่สุด เก้าร่างใหญ่ของพวกมันควบแน่นกลายเป็นลูกแก้วมังกรขนาดใหญ่ในท้ายที่สุด ลูกแก้วนี้เรืองแสงด้วยแสงอันรุ่งโรจน์ก่อนที่จะหายไปอย่างช้า ๆ ผนึกพื้นที่ของมิตินี้

รุยจินหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่ใบหน้าอ่อนล้าเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าการร่ายตราประทับที่ตระกูลเจียงหยางนั้นใช้ความพยายามอย่างมาก

“ในที่สุดมันก็เสร็จสมบูรณ์ ตราบใดที่พลังของลูกแก้วมังกรไม่กระจายไป ไม่มีใครสามารถออกจากโลกใบเล็กของตระกูลเจียงหยางได้” รุยจินกล่าวด้วยความโล่งใจ

เจี้ยนเฉินและหงเหลียนมาถึงหน้าเขา เจี้ยนเฉินถามว่า “ผู้อาวุโสรุยจิน ประมาณว่าตราประทับนี้จะคงอยู่ได้นานแค่ไหน ? ”

รุยจินไตร่ตรองอย่างเงียบ ๆ และตอบว่า “พลังงานของลูกโลกนั้นมีจำกัด และไม่สามารถเติมเต็มได้ ภายใต้สถานการณ์ปกติมันสามารถอยู่ได้เป็นเวลาร้อยปี แต่แน่นอนว่าจะมีผู้คนที่อยู่ในนั้นพวกเขาจะต้องโจมตีมัน นั่นจะเป็นการเพิ่มอัตราการใช้พลังงาน ดังนั้นข้าไม่แน่ใจว่าตราประทับจะอยู่ได้นานแค่ไหน อย่างไรก็ตามมันสามารถอยู่ได้สองสามปีเป็นอย่างน้อยอาจนานกว่านั้นอีก”

“ผู้อาวุโสรุยจิน ท่านสามารถขังพวกเขาไว้ได้อีกหรือไม่ ? ถ้าท่านร่ายตราประทับเดียวกันหลังจากที่ผนึกนั้นพังแล้ว” โหยวเยว่ถามขณะที่นางวางโถงจันทร์แจ่มและยืนอยู่ข้างเจี้ยนเฉิน

รุยจินส่ายหัว “เจ้าไม่รู้อะไร ก้านทั้งเก้าของหญ้าน้ำลายมังกรที่ข้าได้นำมาปิดผนึกตระกูลเจียงหยางทั้งหมดถูกทิ้งไว้โดยผู้อาวุโสที่มาถึงระดับเซียนจักรพรรดิ ก้าน 1 ก้านจะถูกทิ้งไว้ข้างหลังด้วยความตายของมังกรแต่ละตัว ตระกูลของข้าหายไปนานเกินไป ดังนั้นจึงเหลือเพียงโหลเดียวในป่าช้า ข้าใช้ 9 ก้านในครั้งนี้ ดังนั้นจึงไม่เพียงพอสำหรับทักษะลับแบบเดียวกันในตอนนี้”

เจี้ยนเฉินและโหยวเยว่ทั้งคู่ต่างก็ผิดหวัง พวกเขาเข้าใจว่าเมื่อพลังของลูกแก้วมังกรหมดไปแล้ว มันจะเป็นวันที่ตัวตนของเถี่ยต้าจะถูกเผยแพร่ออกไปทั่วทั้งทวีปเทียนหยวนและทวีปสัตว์เทวะ มันจะเป็นเช่นนั้นเมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับการแก้แค้นอย่างรวดเร็วของตระกูลเจียงหยาง

แม้ว่าพวกเขาจะต้องฆ่าทุกคนในตระกูลเจียงหยางเพื่อรักษาความลับถาวรของเถี่ยต้า แต่มันก็เป็นไปไม่ได้

เจี้ยนเฉินมองไปรอบ ๆ และขยายการรับรู้ของเขาในเวลาเดียวกันเพื่อพยายามค้นหาสัญญาณของหญิงสาวเจ้าเสน่แห่งสวรรค์ อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ก็น่าผิดหวัง เขาไม่ได้ค้นพบหญิงสาวเจ้าเสน่แห่งสวรรค์หลังจากขยายขอบเขตการรับรู้ของเขาไปจนสุดความสามารถ

รุยจินบอกได้ว่าเจี้ยนเฉินกำลังมองหาบางสิ่งด้วยการมองเพียงครั้งเดียว เขาหัวเราะเบา ๆ ” เจ้าหยุดมองหาได้ สตรีนางนั้นจากไปแล้ว แต่นางยิ่งมีทักษะมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าข้าจะรู้ว่านางมาแล้ว แต่ข้าก็ไม่สามารถหาสัญญาณของนางได้เมื่อนางเล่นพิณ แต่เมื่อนางจากไปข้าจึงพบว่านางซ่อนตัวอยู่ที่ไหน”