ตอนที่ 2490

War sovereign Soaring The Heavens

ตอนที่ 2,490 : เผ่าพันธุ์ปีศาจมี ‘เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์’ ด้วย?

 

สำหรับเรื่องที่ประมุขเผ่ามังกรของพวกมันจะชิงยอดสมบัติสวรรค์ชิ้นที่ 2 จากต้วนหลิงเทียนได้หรือไม่ พวกมันไม่สงสัยเลย

 

ก็อย่างที่ประมุขเผ่ามังกรของพวกมันกล่าวไว้

 

ตอนนี้ด้วยมียอดสมบัติสวรรค์ในมือ ย่อมไม่ยากอะไรที่จะฆ่าต้วนหลิงเทียนเพื่อชิงยอดสมบัติสวรรค์อีกชิ้น!

 

เพราะสุดท้ายแล้วตอนไร้ยอดสมบัติสรรค์ ประมุขของพวกมันก็สามารถเสมอกับต้วนหลิงเทียนที่มียอดสมบัติสวรรค์ได้แล้ว ด้วยมียอดสมบติสวรรค์ในมือแบบนี้ คิดบดขยี้ต้วนหลิงเทียนย่อมง่ายดายนัก!

 

“มอบยอดสมบัติสวรรค์ทั้งหมดให้เผ่ามังกร?”

 

ได้ยินคำของประมุขเผ่ามังกร สองตาต้วนหลิงเทียนหดเล็กลงทันใดยังเผยประกายเยียบเย็นวาบหนึ่ง “เช่นนั้นเจ้าก็ลองดู!”

 

“ข้าย่อมลองแน่!”

 

ประมุขเผ่ามังกรกล่าวตอบกลับไปเสียงเย็นแทบจะทันที ขณะเดียวกันกระบี่เซียนอมตะในมือก็ถูกฟันฟาดเข่นฆ่าสังหารไปทางต้วนหลิงเทียนอย่างเร็ว!!

 

มันคิดฆ่าต้วนหลิงเทียนทิ้งในกระบี่เดียว โดยไม่ให้ต้วนหลิงเทียนหลงเหลือโอกาสใดๆอีก!

 

เห็นได้ชัดว่าประมุขเผ่ามังกรเองก็ใช้กระบี่เป็นอาวุธประจำกายเช่นกัน ด้วยมีความช่วยเหลือจากกระบี่เซียนอมตะ มันได้ผนึกกำลังจู่โจมออกด้วยพลังอำนาจที่ทัดเทียมกับ จินเซียน ทั่วไปได้เลยทีเดียว!

 

กระบี่ถูกวาดจากตะวันออกไปตะวันตกด้วยสภาวะราวกับจะฟันทำลายได้ทุกสิ่ง!

 

“หมื่นศาสตราสยบ!”

 

อย่างไรก็ตามเผชิญหน้ากับประมุขเผ่ามังกรที่ชิงลงมือจู่โจมก่อนอย่างดุร้าย ต้วนหลิงเทียนที่เตรียมพร้อมไว้แต่แรกได้ก่อสร้างค่ายกลกระบี่ขึ้นมาเหนือศีรษะอีกครั้ง

 

หลังจากนั้นค่ายกลกระบี่เหนือศีรษะก็แผ่พลังอำนาจลี้ลับขุมหนึ่งออกไปปกคลุมเป็นวงกว้าง!

 

และเมื่อกลิ่นอายพลังดังกล่าวครอบคลุมมาถึงประมุขเผ่ามังกร มันก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ

 

เพราะมันพบว่าอยู่ๆกระบี่เซียนอมตะในมือ ก็คล้ายจะหลุดพ้นความควบคุมของมัน!

 

ทันใดนั้นกระบี่เซียนอมตะก็พุ่งหนีออกจากมือของมันไปม้วนวนเป็นหนึ่งเดียวกับค่ายกลกระบี่เหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนในพริบตา!

 

ไม่เพียงเท่านั้น

 

เหลาคนของเผ่ามังกร ไม่ว่าผู้ใดก็ตามที่พกพาอาววุธติดตัวไว้ด้านนอกแหวนมิติ อาวุธของพวกมันทั้งหมดก็คล้ายถูกพลังไร้สภาพขุมหนึ่งดึงดูดออกไปให้เป็นส่วนหนึ่งขอค่ายยกลกระบี่ต้วนหลิงเทียนเช่นกัน!

 

“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นกันแน่?!”

 

“นี่มันวิชาผีสางอันใด…ไฉนถึงฉกอาวุธของข้าไปได้?!”

 

 

เหล่าสมาชิกเผ่ามังกรที่เสียอาวุธไป พากันแตกตื่นทันที!

 

“อะไรกัน!? ยอดสมบัติสวรรค์ในมือท่านประมุขก็ถูกชิงไปด้วย!?”

 

อาวุโสสูงสุดทั้ง 2 ของเผ่ามังกรยังค้นพบได้ในพริบตา ว่าตอนนี้กระบี่ในมือของประมุขพวกมัน…ก็ได้ถูกช่วงชิงไปแล้ว!

 

ประมุขเผ่ามังกรได้แต่หยุดร่างลงกลางหาว สองตาได้แต่จับจ้องมองความว่างเปล่าเหนือศีรษะต้วนหลิงเทียนด้วยความประหลาดใจเหลือเชื่อ!

 

กล่าวให้ชัด มันกำลังมองจ้องค่ายกลกระบี่เหนือหัวต้วนหลิงเทียน!

 

กระบี่เซียนอมตะที่พุ่งหลุดมือมันไป กำลังลอยวนอยู่ที่นั่น!

 

“นี่มัน…หรือจะเป็นหมื่นศาสตราสยบที่ฟงชิงหยางเคยใช้สยบศาสตรานับพันของศัตรู?!”

 

ในฐานะประมุขเผ่ามังกร มันย่อมรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อแสนกว่าปีก่อนเป็นอย่างดี จึงรู้ว่าฟงชิงหยางเองก็มีวิธีการลงมือพิสดารที่ฉกชิงอาวุธจากศัตรูรอบกายได้!

 

“แต่วิธีการประหลาดนั่นของฟงชิงหยาง…มีผลกับยอดสมบัติสวรรค์ด้วยหรือ?!”

 

อย่างไรก็ตามแม้จะรู้ว่าฟงชิงหยางมีวิธีแบบนี้ แต่ประมุขเผ่ามังกรก็ไม่คิดไม่ฝันเลยว่าจะครอบคลุมไปถึงยอดสมบัติสวรรค์ด้วย!

 

“ไม่น่าแปลกใจเลยที่ไฉนต้วนหลิงเทียนถึงได้ให้ความร่วมมือกับข้าแต่โดยดี กล้าส่งยอดสมบัติสวรรค์นั่นมาง่ายๆ…ที่แท้มันรู้แต่แรกแล้วว่าถึงข้าจะได้ยอดสมบัติสวรรค์มา แต่ก็ไม่อาจใช้เล่นงานมันได้!”

 

ในฐานะที่เป็นถึงประมุขเผ่ามังกรไหนเบยมันจะโง่งม ไม่ทันไรก็ตระหนักเรื่องราวได้ทันที

 

ทันใดนั้น ประมุขเผ่ามังกรก็รู้สึกเสมือนมีไฟลุกโชนขึ้นมาสุมทรวง พาลให้บังเกิดความคับแค้นยากระบาย!

 

มันกลับหลงกลต้วนหลิงเทียนเข้าอย่างจัง!

 

“ประมุขเผ่ามังกร ลองรับกระบี่ข้าดูอีกที!”

 

ทันใดนั้นเสียงกล่าวด้วยวาจาเยียบเย็นของต้วนหลิงเทียนพลันดังขึ้นเข้าหูประมุขเผ่ามังกรพอดี ดึงสติประมุขเผ่ามังกรให้กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว จึงเร่งใช้ออกด้วยพลังทั้งหมดหมายต้านทานการลงมือของต้วนหลิงเทียนทันที!

 

ปงงง!!

 

ตูม! ตูม! ตูม! ตูม! ตูม!

 

 

ประวัติศาสตร์ดั่งจะซ้ำรอยเดิม

 

หากแต่ค่ายกลกระบี่ของต้วนหลิงเทียนครานี้กลับมีกระบี่เซียนอมตะถึง 2 เล่ม! ถึงแม้ว่าพลังอำนาจของพวกมันทั้งคู่จะไม่ได้ผสานรวมเข้าด้วยกัน แต่อย่างไรก็ยังทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม!!

 

ดังนั้นต้วนหลิงเทียนจึงได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อย

 

กลับกันด้านประมุขเผ่ามังกรแม้จะได้รับบาดเจ็บหนักกว่าครั้งก่อนหน้า แต่ด้วยฐานะมังกรเทพยดาสีทอง 8 กรงเล็บ ความสามารถในการฟื้นตัวของมันก็อยู่เหนือต้วนหลิงเทียนหลายขุม!

 

ในขณะที่อาการบาดเจ็บของต้วนหลิงเทียนทุเลาลง อาการของประมุขเผ่ามังกรก็เริ่มหายแล้วเช่นกัน

 

“ต้วนหลิงเทียน ข้าต้องกล่าวบอกเจ้าไว้เลย…ว่าวันนี้ข้าคงทำให้เจ้าต้องผิดหวังแล้ว!”

 

ร่างมหึมายาวนับหมื่นหมี่ของประมุขเผ่ามังกรที่ลอยล่องอยู่ในอากาศมองไปยังร่างต้วนหลิงเทียนเขม็ง ลูกตามังกรดวงเขื่องจับจ้องต้วนหลิงเทียนอย่างดุร้าย กล่าวออกมาเสียงดังปานฟ้าร้อง “ให้เจ้าร้ายกาจแล้วอย่างไร สุดท้ายเจ้าก็ฆ่าข้าไม่ได้!”

 

“ข้ายินดีถอยให้เจ้าหมื่นก้าว…ตราบใดที่เจ้ายอมมอบสมบัติสวรรค์ให้ข้าชิ้นหนึ่งแต่โดยดี ข้าและเผ่ามังกรจะไม่เป็นศัตรูกับเจ้ารวมถึง 7 ทวาราเที่ยงแท้ของเจ้าอีกต่อไป!”

 

“หาไม่แล้ว…หลังจากที่เจ้าขึ้นสู่ระนาบเทวโลกไป ข้าจะทำให้คนของเจ้าอยู่ไม่เป็นสุข!”

 

จังหวะนี้ประมุขเผ่ามังกรยังคงกล่าวออกมาทำนองอยากได้ยอดสมบัติสวรรค์ของต้วนหลิงเทียนไม่เลิก!

 

“เจ้าสมควรรู้ดีแก่ใจ…ในฐานะ ‘ครึ่งก้าวเซียนอมตะ’ จะอย่างไรอีกไม่กี่ปีเจ้าก็ต้องถูกบังคับให้ขึ้นสู่ระนาบเทวโลกอยู่ดี! ส่วนตัวข้านั้นพึ่งกลายเป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ได้ไม่ไม่ทันถึงร้อยปี ข้ายังสามารถอยู่ในระนาบเซียนแห่งนี้ได้อีกกว่า 900 ปี!”

 

“เจ้า…คิดดูให้ดีเถอะ!”

 

วาจาของประมุขเผ่ามังกร ไม่ลืมที่จะกระตุ้นเตือนต้วนหลิงเทียน

 

ว่าเวลาที่มันสามารถรั้งอยู่ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋านั้น มีมากกว่าต้วนหลิงเทียนจมหู!

 

“ตราบใดที่เจ้าสละยอดสมบัติสวรรค์ให้ข้าสักชิ้น เช่นนั้นเรื่องราวระหว่างเจ้าและ 7 ทวาราเที่ยงแท้กับข้าและเผ่ามังกรของข้าก็สามารถประนีประนอมกันได้!”

 

จากนั้นวาจาของประมุขเผ่ามังกร คล้ายจะตั้งใจกล่าวย้ำให้ต้วนหลิงเทียนฟังเป็นพิเศษ

 

“เจ้าพูดถูกเรื่องหนึ่ง…”

 

ต้วนหลิงเทียนพยักหน้ากล่าวคำ “วันนี้ข้าคิดฆ่าเจ้า มันไม่น่าจะเป็นไปได้จริงๆ…”

 

“เช่นนั้นเจ้ากก็ยอมส่งมอบยอดสมบัติสวรรค์มาให้ข้าชิ้นหนึ่งแต่โดยดีเถอะ! เพียงเท่านี้พวกเจ้ากับเผ่ามังกรของข้าก็เสมือนน้ำบ่อไม่ยุ่งน้ำคลอง!!”

 

ประมุขเผ่ามังกรรีบกล่าว

 

“ประมุขเผ่ามังกรอย่าพึ่งด่วนสรุปไป…”

 

ไปหน้าที่สงบเฉยเมยของต้วนหลิงเทียนเริ่มปรากฏความเย้ยหยันออกมา มุมปากยังยกยิ้มแสยะ “ข้าแค่บอกว่า วันนี้ข้าคิดฆ่าเจ้ามันเป็นไปไม่ได้…”

 

“แต่ข้าไม่ได้พูดสักคำ….ว่าคนอื่นฆ่าเจ้าไม่ได้!”

 

ต้วนหลิงเทียนกล่าว

 

“คนอื่น?”

 

ได้ยินคำของต้วนหลิงเทียน ประมุขเผ่ามังกรถึงกับผงะไปทันใด แต่แล้วมันก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะออกมา “ต้วนหลิงเทียนเจ้าอย่าได้พยายามหลอกข้าเสียจักดีกว่า…ในระนาบโลกียะแห่งนี้ไม่มีใครทำอะไรข้าได้อีก เว้นเสียแต่เจ้าจักหันไปร่วมมือกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจ!”

 

เผ่าปีศาจ?

 

เซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์!?

 

ต้วนหลิงเทียนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เมื่อได้ยินวาจาประโยคนี้ของประมุขเผ่ามังกร

 

‘เผ่าปีศาจ…มีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์อยู่ด้วยงั้นเหรอ?’

 

‘ไม่น่าเชื่อ…ในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋ากับดินแดนเนรเทศของเผ่าปีศาจ ยากนักที่จะปรากฏเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ขึ้น แต่คิดไม่ถึงจริงๆว่าในยุคนี้ไม่เพียงแต่เผ่ามังกรในดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋า กระทั่งในแดนเนรเทศของเผ่าปีศาจยังปรากฏเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ขึ้นด้วย’

 

ต้วนหลิงเทียนอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ

 

“อะไรกัน…เผ่าปีศาจก็มีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์อยู่ด้วยงั้นเหรอ!?”

 

ขณะเดียวกันสมาชิกเผ่ามังกรโดยรอบก็อดไม่ได้ที่จะหน้าเปลี่ยนสีไปทันที หลังได้ยินคำพูดของประมุขเผ่ามังกร

 

เพราะจากวาจาของประมุขเผ่า ทำให้พวกมันตระหนักได้ว่า ในเผ่าปีศาจก็มีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์เหมือนกัน!

 

“ไม่น่าแปลกกใจเลยที่ไฉนเผ่าปีศาจมันบุกขึ้นมารุกรานภูมิภาคเบื้องบนกว่า 3 ปีแล้ว แต่ท่านประมุขในฐานะเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ยังไม่ลงมือทำอะไร…ที่แท้ในเผ่าปีศาจกลับมีเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์อยู่ด้วย!”

 

“ไม่คิดเลย…ข้าไม่คิดเลยจริงๆ!”

 

“หากท่านประมุขสามารถร่วมมือกับผู้นำ 7 ทวาราเที่ยงแท้ได้ เรื่องสังหารเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจก็มิใช่ปัญหา!”

 

 

เหล่าคนของเผ่ามังกรเริ่มสนทนากันระงมอีกครั้ง และพวกมันรู้สึกว่าประมุขเผ่ากกับต้วนหลิงเทียนสมควรเลิกแล้วต่อกันและไม่สู้กันเองอีก แต่สมควรหันมาร่วมมือกันเข่นฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจก่อน!

 

“หากเจ้ากล้าร่วมมือกับมันเพื่อฆ่าข้าจริง…เจ้า ต้วนหลิงเทียน กระทั่ง 7 ทวาราเที่ยงแท้ของเจ้าย่อมกลายเป็นคนบาปของดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าไปชั่วกาล!”

 

ประมุขเผ่ามังกรมองกล่าวกับต้วนหลิงเทียนอย่างเย้ยหยัน

 

ฟังจากคำพูดของมันแล้ว คิดบีบไม่ให้ต้วนหลิงเทียนเลือกจะร่วมมือกับเผ่าปีศาจ…

 

บางทีต้วนหลิงเทียนอาจคิดปิดข่าวโดยการร่วมมือกับเผ่าปีศาจเข่นฆ่ามันและกวาดล้างเผ่ามังกรทั้งหมด…

 

อย่างไรก็ตามยันต์กระจกเงาลูกในร่างของมัน ย่อมส่งฉากการตายของมันไปยังยันต์กระจกเงาแม่ทันที!

 

และผู้ที่ถือครองยันต์กระจกแม่ของมัน ก็คือผู้นำเผ่าหงส์ฟ้า!

 

กล่าวได้ว่า

 

หากต้วนหลิงเทียนกล้าจะรวมหัวกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจเข่นฆ่ามันจริง เป็นไปไม่ได้เลยที่ต้วนหลิงเทียนจะปิดข่าวนี้ไว้ได้ และต้องถูกลิขิตให้เป็นคนบาปไปชั่วกาล!

 

“ผู้นำต้วน…”

 

ตอนนี้เองอาวุโสสูงสุดของเผ่ามังกรคนหนึ่งพลันเอ่ยแทรกขึ้นมา “ประมุขเผ่าของพวกเราอย่างไรก็เป็นเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ ที่ท่านมิอาจทำอะไรได้…”

 

“เช่นนั้นหากท่านเลือกส่งมอบยอดสมบัติสวรรค์ให้ท่านประมุขเราสักชิ้น ไม่เพียงแต่จะจบเรื่องราวความบาดหมางกันเท่านั้น…7 ทวาราเที่ยงแท้ของท่านกับเผ่ามังกรของพวกเรายังมีโอกาสร่วมมือกันจัดการเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผาปีศาจ และขับไล่พวกมันกลับแดนเนรเทศไป! ทั้งหมดล้วนมีแต่ได้กับได้ ไฉนท่านไม่ลองคิดดูให้ดีเล่า?”

เรียกว่าคำที่อาวุโสสูงสุดขอเผ่ามังกรเอ่ยออกมาก็คือการโน้มน้าวชักชวนต้วนหลิงเทียนซึ่งๆหน้า

 

“มิผิด”

 

อาวุโสสูงสุดอีกคนของเผามังกรยังกล่าวเสริม “หากผู้นำต้วนกับท่านประมุขร่วมมือกันย่อมขับไล่เผ่าปีศาจได้ง่ายดาย…หลังจากนั้นนามของผู้นำต้วนกับท่านประมุขเราก็จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ขอดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าในฐานะวีรบุรุษผู้กอบกู้ตลอดกาล!!”

 

“นี่ล้วนเป็นเรื่องราวอันประเสริฐอย่างยิ่ง ท่านเพียงสละยอดสมบัติสวรรค์มาสักชิ้นก็เท่านั้น!”

 

เรียกว่าอาวุโสสูงสุดทั้ง 2 ต่างพากันเกลี้ยกล่อมต้วนหลิงเทียนออกมาไม่หยุด

 

“หึ!”

 

ทว่าได้ยินคำโน้มน้าวดูดีของทั้งคู่ ต้วนหลิงเทียนเพียงสบถพ่นล่มออกมาอย่างดูแคลนรังเกียจ “เรื่องฆ่าเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจทั้งขับไล่พวกมันออกจากดินแดนเทพยุทธ์เซียนเต๋าข้าย่อมกระทำแน่…แต่ไม่ใช่ว่าต้องร่วมมือกับประมุขของพวกเจ้า!”

 

“กระทั่งคิดฆ่าเจ้า…ข้าก็ไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับเซียนอมตะเสเพล 9 ทัณฑ์ของเผ่าปีศาจ!”

 

กล่าวถึงท้ายประโยค ต้วนหลิงเทียนก็หันไปมองประมุขเผ่ามังกรด้วยรอยยิ้มเยาะ!