แม้ว่าจะมาถึงโลกเสวียนเทียน เช่นพิภพกลางนี้ ยาเซียนก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถหาได้อย่างง่ายดาย เพราะฐานะของผู้แข็งแกร่งเทพมารในพิภพกลางนั้นไม่ธรรมดา

“ศิษย์พี่หลัว?”

ทันใดนั้นเสียงเรียกใสดังมาจากด้านหลัง

หลัวซิววางม้วนหยกที่อธิบายรายละเอียดเริ่มต้นของนักยาเซียน กลับไปอย่างเสียดาย แล้วหันหลังกลับไปตามเสียงนั้น เห็นคนสวมชุดสีแดงเดินมาอยู่ข้างหน้าเขา

คนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือถังหยุนศิษย์นอกของสำนักศักดิ์สิทธิ์เสวียนเหมิน แม้ว่าผลการฝึกตนจะไม่ต่ำ ถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 4 แล้ว แต่ความสามารถของนางค่อนข้างธรรมดา ไม่สามารถผ่านชั้นเจ็ดของหอเหวิ้นเต้าได้

“ศิษย์พี่หลัวยังเป็นนักกลั่นยาด้วยหรือ?” ถังหยุนสังเกตเห็นม้วนหยกที่หลัวซิวใส่กลับไปที่เดิม มีความสงสัยปรากฏขึ้นในสายตา

ไม่ว่าจะอยู่ในโลกแสงดาวหรือโลกเสวียนเทียน สถานะของนักกลั่นยา นักหลอมอาวุธและนักค่ายกลนั้นไม่ธรรมดา

ในหมู่นี้นักกลั่นยามีความสำคัญมากที่สุด

เพราะยิ่งฝึกยุทธ์ก้าวไปข้างหน้า แต่ละก้าวยิ่งยากมากขึ้น โดยเฉพาะตั้งแต่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขึ้นไป ก้าวทีละก้าวสู่เทพมาร พูดได้เลยว่าทีละก้าวรางกับขึ้นสวรรค์และทุกย่างก้าวคือยากมาก

สำหรับประเด็นนี้ อาจกล่าวได้ว่าหลัวซิวมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง หลังจากเทพมารแล้ว การเพิ่มขึ้นของแต่ะละแดนก็ยากขึ้น ยกเว้นอัจฉริยะที่ไม่เหมือนคนจำนวนน้อยมาก ต่างต้องใช้เวลาเนิ่นนานในการทำความเข้าใจพลังแห่งกฎและเพิ่มผลการฝึกตน

“รู้นิดหน่อย” หลัวซิวยิ้มเบา ๆ

“ศิษย์พี่หลัวเป็นคนถ่อมตัวจริงๆ ข้าเห็นว่าท่านสนใจแนะนำรายละเอียดเริ่มต้นของนักยาเซียน ท่านต้องเป็นปรมาจารย์กลั่นยาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ใช่ไหม?” ถังหยุนก็ฉลาดมากเช่นกัน ตามเบาะแสเล็กน้อยก็สามารถคาดเดาได้เล็กน้อย

เมื่อเห็นว่าหลัวซิวไม่ปฏิเสธ ให้meถังหยุนประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก แม้ว่าศิษย์พี่หลัวตรงหน้านี้จะไม่ใช่นักยาเซียน แต่ปรมาจารย์กลั่นยาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กแล้ว เพราะฐานะของเทพมารในโลกเสวียนเทียนไม่ธรรมดาและจำนวนไม่มากเกินไป ค่อนข้างพูดได้ว่ามีผู้แข็งแกร่งแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์จะมากกว่า หากต้องการเพิ่มผลการฝึกฝนอย่างรวดเร็ว ความต้องการเร่งด่วนที่สุดคือยาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9

“ขอถามศิษย์พี่หลัวนะว่าอัตราความสำเร็จของท่านในการกลั่นยาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 เป็นเท่าใด?” ถังหยุนถามอีกครั้งในทันใด

“ประมาณเจ็ดสิบเปอร์เซ็น” หลัวซิวพูดด้วยรอยยิ้ม

เขารู้ว่าเมื่อถังหยุนถามถึงเรื่องนี้ นางอาจต้องการให้เขาช่วยกลั่นยา หลัวซิวจะไม่ปฏิเสธเรื่องนี้ เพราะการกลั่นยาให้คนอื่น เป็นช่องทางหาเลี้ยงชีพอย่างหนึ่งสำหรับนักกลั่นยา

เพื่อให้ได้ค่าตอบแทนมากขึ้น หลัวซิวประเมินอัตราความสำเร็จในการกลั่นยาของตนให้ต่ำลงไปเล็กน้อย

อันที่จริงในตอนนี้เขาไม่มีความล้มเหลวในการกลั่นยายาระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 และคุณภาพที่กลั่นออกมาจะสูงมากโดยไม่มีสิ่งเจือปนแม้แต่น้อย

“เจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ก็ไม่ต่ำแล้ว…”

ถังหยุนครุ่นคิดเล็กน้อย อัตราความสำเร็จเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์นั้นไม่สูง แต่ก็ไม่ต่ำ คิดดูแล้วก็ยังเหมาะสมกว่าการแลกเปลี่ยนเม็ดยาจากสำนัก

ศิษย์ในสำนักแลกเปลี่ยนยสจากสำนัก แต่ก็แลกเปลี่ยนยาวิเศษในระดับเดียวกัน บอกว่าแลกเปลี่ยนเป็นยาที่กลั่นเสร็จแล้ว ปริมาณที่ต้องการของยาวิเศษนั้นค่อนข้างมาก เพราะสำนักจะไม่ทำเรื่องที่ขาดทุน

ถังหยุนคำนวณเล็กน้อย ถ้าเอายาวิเศษไปให้หลัวซิวเพื่อให้เขากลั่นยา โดยคำนึงถึงโอกาสเจ็ดสิบเปอร์เซ็นด้วย ก็จะเหมาะสมกว่าการแลกเปลี่ยนกับสำนักอย่างแน่นอน

อัตราส่วนของการแลกเปลี่ยนเม็ดยากับสำนักคือ 1 ต่อ 3 ซึ่งหมายความว่ายาวิเศษสามส่วน สามารถแลกเปลี่ยนเป็นยาได้หนึ่งเม็ด แต่ที่หลัวซิว อาจเป็นสิบต่อเจ็ด แม้แต่คนโง่ก็รู้ว่าอันไหนเหมาะ