บทที่ 1238 ความจริง + ตอนที่ 1239 เหยียบซ้ำอีกที

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1238 ความจริง + ตอนที่ 1239 เหยียบซ้ำอีกที โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1238 ความจริง

วันต่อมาเหมยเหมยขอให้พี่เสือช่วยติดต่อเรือนจำหญิงไว้แล้วโดยมีพี่เสือไปเป็นเพื่อน เธอมีบางอย่างอยากจะถามเหอปี้อวิ๋น

เหอปี้อวิ๋นคิดว่าอู่เยวี่ยมาหาเธออีกจึงนึกดีใจมาก แต่ตอนที่เห็นเหมยเหมยพลันทำหน้าบึ้งตึงทันที หมุนตัวหันหลังคิดจะกลับเข้าไป

“เหอปี้อวิ๋น ทำไมคุณถึงไม่กล้าเจอหน้าฉันล่ะ? เป็นวัวสันหลังหวะหรือไง” เหมยเหมยพูดเสียงดัง เหอปี้อวิ๋นหยุดเดิน ค่อย ๆหันกลับมา

“นังสารเลวแกมาเพื่อหัวเราะเยาะฉันใช่ไหม? ตอนนี้ฉันเป็นแบบนี้แกมีความสุขหรือยัง? ไสหัวไป!” เหอปี้อวิ๋นกรีดร้องเสียงดัง ท่าทางดูบ้าคลั่ง

เงินโดนผู้ต้องขังด้วยกันแย่งเอาไปแบ่งกัน คนเหล่านี้เอาเงินไปซื้ออาหารอร่อย ๆ ทว่าเธอแม้แต่ซุปสักคำยังไม่ได้รับการแบ่งปัน ยังไม่พอพวกเขายังตบตีเธอ ปล่อยให้เธอทำงานที่สกปรกที่สุดและเหนื่อยที่สุด ไม่พอใจก็ทุบตีเธอ

และคนเหล่านี้ยังให้เหอปี้อวิ๋นเขียนจดหมายเพื่อให้คนในครอบครัวส่งเงินเข้ามา ไม่อย่างนั้นพวกเขาทั้งห้าคนจะปล่อยให้เหอปี้อวิ๋น ‘ปรนนิบัติรับใช้’ ทุกวันตอนกลางคืน มันน่าอับอายมาก

เมื่อผู้ชายเข้าเรือนจำก็เป็นไปได้ว่าจะถูกข่มขืนทางประตูหลัง แต่เรือนจำของผู้หญิงก็มีการล่วงละเมิดเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ต้องขังเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในวัยสามสิบและสี่สิบซึ่งเป็นเหมือนเสือและหมาป่า ความต้องการทางเพศมีสูงมาก

เมื่อก่อนทำได้แค่ระบายความใคร่ด้วยการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเท่านั้น เพราะทั้งห้าคนนี้ไม่ใช่พวกที่จะแหย่ได้ง่าย ๆ ไม่มีใครกล้ากดใคร ตอนนี้เหอปี้อวิ๋นมาแล้ว แน่นอนว่าทั้งห้าพบวิธีที่จะระบายความใคร่

ให้เหอปี้อวิ๋นปรนนิบัติด้วยมือและปากทุกคืน ทั้งห้าคนมีความสุขมาก

แต่เหอปี้อวิ๋นกลับได้แต่กรีดร้องด้วยความขมขื่น ขยะแขยงอย่างไม่มีอะไรจะเปรียบได้ ทุกวันคือความทรมาน มีชีวิตแบบนี้ไม่สู้ตายไปดีกว่า

ดังนั้นเธอจึงเขียนจดหมายถึงอู่เยวี่ยต้องการให้อู่เยวี่ยส่งเงินเข้ามา เธอจึงจะสามารถใช้ชีวิตได้สุขสบายขึ้นเล็กน้อย แต่อู่เยวี่ยคนที่รอกลับไม่มา แต่คนที่เธอเกลียดเข้ากระดูกดำอย่างจ้าวเหมยกลับมาเสียอย่างนั้น เหอปี้อวิ๋นไม่คลั่งสิถึงจะแปลก

เหมยเหมยให้พี่เสือไปสืบถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของเหอปี้อวิ๋นในเรือนจำในช่วงเวลานี้ แม้ว่าพี่เสือจะพูดแค่คร่าว ๆ แต่เหมยเหมยได้ฟังก็ยังแทบจะสำรอกข้าวออกมา

แน่นอนว่าเธอไม่ได้เห็นใจเหอปี้อวิ๋นอยู่แล้ว

แต่จุด ๆนี้สามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้

เหมยเหมยก็ไม่พูดอะไร ทำเพียงแค่หยิบเงินออกมาจากกระเป๋าและยกขึ้น เหอปี้อวิ๋นก็สงบลงมาจริง ๆ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความโลภและเริ่มนั่งลงด้วยตัวเอง

“หนึ่งคำถามสิบหยวน ฉันถามคุณตอบ คุณอย่าคิดจะโกหกฉัน ถ้าโกหกเงินก็จะไม่ได้สักแดงเดียว” เหมยเหมยหยิบไมโครโฟนขึ้นมาพูด

เหอปี้อวิ๋นพยักหน้าโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น เดิมทีเธอคิดว่าหลังจากฆ่าใครสักคนแล้วเธอจะถึงทางตันจนถึงที่ด้านล่างสุดของเหว แต่เธอกลับเพิ่งรู้ว่าตอนนี้สิถึงจะใช่

ขอเพียงแค่สามารถกระโดดออกจากเหวลึกนี้ได้ ให้เธอทำอะไรก็ย่อมได้ทั้งนั้น

เหมยเหมยถามคำถามธรรมดาอยู่หลายคำถาม เหอปี้อวิ๋นก็ตอบตามความจริงทำเงินไปได้ห้าสิบหยวนแล้ว จิตใจของเหอปี้อวิ๋นก็ค่อย ๆผ่อนคลายลง

“วันนั้นอู่เยวี่ยบอกคุณเหรอว่าแม่ของฉันอยู่ที่หอศิลป์?” อยู่ดี ๆเหมยเหมยก็ถามขึ้นมา

เหอปี้อวิ๋นพยักหน้าแต่ก็นึกขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วว่าไม่ถูกต้องจึงส่ายหัว เหมยเหมยยิ้มเยาะ นิ้วชี้ไปที่เงินห้าสิบหยวนแล้วพูดว่า “ระวังคำตอบหน่อยนะ ระวังจะไม่ได้สักแดงเดียว”

เหอปี้อวิ๋นลังเลอย่างรวดเร็ว ในใจกำลังตีกันอย่างหนัก ท้ายที่สุดก็ไม่ได้ส่ายหัว

ถึงอย่างไรคนที่ลงมือฆ่าก็คือเธอ เยวี่ยเยวี่ยไม่มีทางเป็นอะไรแน่นอน

เหมยเหมยแอบยิ้มเยาะในใจ ที่แท้ก็เป็นอู่เยวี่ยที่คอยป่วนหัวอยู่จริง ๆด้วย

“กรรไกรเล่มนั้นเป็นอู่เยวี่ยที่พูดเตือนคุณ คุณถึงได้เห็นมันใช่หรือไม่?” เหมยเหมยถามอีกครั้ง

ในดวงตาของเหอปี้อวิ๋นมีความสับสนฉายออกมา เธอกำลังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้น เสียงร้องไห้ของอู่เยวี่ยดังขึ้นในหูของเธออีกครั้ง “หนูไม่บริสุทธิ์แล้ว…หนูยังจะมีหน้ามีชีวิตอยู่ได้ยังไง…สู้หนูเอากรรไกรแทงคอตัวเองตายไปเสียดีกว่า…”

สีหน้าเหอปี้อวิ๋นเปลี่ยนเล็กน้อย รายละเอียดเล็กน้อยที่เธอมองข้ามปรากฎขึ้นมาอย่างชัดเจน หลังจากเธอได้ยินเสียงร้องของอู่เยวี่ยถึงได้สังเกตเห็นกรรไกรเล่มนั้น จากนั้น…

แต่กรรไกรเล่มนั้นเธอจำได้แม่น จำได้แม่นว่าก่อนหน้านั้นหนึ่งวันเพิ่งจะฆ่าปลาไป แล้วเธอก็ล้างอย่างสะอาดวางไว้ในห้องครัวแล้ว ทำไมถึงได้ไปอยู่ในห้องของเยวี่ยเยวี่ยได้นะ?

เหมยเหมยเพียงแค่เห็นสีหน้าท่าทางของเหอปี้อวิ๋นก็แน่ใจได้เลยว่าเธอเดาถูก

ดูท่าเหอปี้อวิ๋นก็โดนอู่เยวี่ยหลอกแล้วเหมือนกัน!

………………………………………………

ตอนที่ 1239 เหยียบซ้ำอีกที

อันที่จริงเหอปี้อวิ๋นนึกสงสัยขึ้นมาบ้าง ถึงแม้ว่าผู้ชายของเธอจะมีอารมณ์หื่นแต่ก็คงไม่ถึงขั้นสารเลวชาติชั่วขนาดนั้น และเมื่อไม่นานมานี้ผู้ชายของเธอบอกกับเธอว่าจะให้อู่เยวี่ยเป็นลูกสะใภ้ซ่งเป่าเลี่ยง ทำไมจู่ ๆถึงได้ไปข่มขืนอู่เยวี่ยได้ล่ะ?

แถมยังอยู่ด้วยกันกับลูกชายด้วย?

เหมยเหมยสังเกตเห็นว่าการแสดงออกของเหอปี้อวิ๋นเปลี่ยนไป จึงพูดเสียงเบาว่า “อู่เยวี่ยร้องไห้ได้อย่างน่าสงสารมากใช่ไหม? เธอบอกว่าเธอสูญเสียความบริสุทธิ์แล้ว อยู่ต่อไปไม่ได้อีกแล้ว…”

คำพูดทุกประโยค เหมยเหมยให้ความสนใจกับสีหน้าของเหอปี้อวิ๋นอยู่ตลอด เมื่อเห็นความตื่นตระหนกและประหลาดใจในดวงตาของเหอปี้อวิ๋น มุมปากก็กระตุกขึ้นเล็กน้อย

ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง!

เธอใช้หลังเท้าคิดก็ยังคิดได้ว่าอู่เยวี่ยจะใช้คำพูดแบบไหนเพื่อหลอกลวงเหอปี้อวิ๋น ชาติที่แล้วเธอก็ทำแบบนี้ไม่ใช่หรอกหรือ? ทำต่อหน้าระหว่างผู้ชายสองคนอย่างเหยียนหมิงต๋าและเหมยซูหานจนช่ำชอง!

ตอนนี้เธอทำเอาเหอปี้อวิ๋นหัวหมุนไปหมด ดูเต็มใจจะฆ่าคนเพื่อเธอ

แต่จุดประสงค์ของอู่เยวี่ยคืออะไร?

เหมยเหมยวางปัญหานี้ไว้ก่อนชั่วคราว เธอมองไปที่เหอปี้อวิ๋นที่ไร้วิญญาณ ส่ายหัวและถอนหายใจ แน่นอนว่าเธอไม่ใจอ่อนและต้องการจะเหยียบซ้ำอีกด้วย

ชาติที่แล้วเธอตายได้อนาถขนาดนั้น ฆาตกรก็คืออู่เยวี่ย แต่เหอปี้อวิ๋นก็ลงแรงในนั้นไปไม่น้อยเช่นกัน!

ที่เหมยเหมยเกลียดมากที่สุดก็คือคำพูดตอนนั้นที่เหอปี้อวิ๋นพูดต่อหน้าตำรวจ ทำไมต้องให้อภัยผู้หญิงคนนี้ด้วยล่ะ?

ต่อให้ทุกข์ทรมานแค่ไหนความเกลียดชังในใจเธอก็ไม่สามารถกำจัดไปได้!

เหมยเหมยกระตุกริมฝีปาก หยิบรูปถ่ายสองสามใบออกมาจากกระเป๋าเป้ ฉากไม่เหมือนกันแบ่งเป็นสองสถานที่

อย่างไรเสียเหอปี้อวิ๋นก็เลี้ยงดูเธอมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง  แน่นอนว่าเธอก็คงจะไม่ทนดูเหอปี้อวิ๋นโดนคนรังแกอยู่เฉย ๆหรอกนะ!

”ความบริสุทธิ์ของอู่เยวี่ย อันที่จริงไม่มีมานานแล้ว… เห็นแล้วหรือยัง ผู้ชายคนนี้ชื่อหานป๋อหย่วน พวกเขามีอะไรกันที่ภูเขาเฟิ่งหวงซาน ร้อนแรงดุเดือดมากเลยล่ะ!”

เหมยเหมยวางรูปถ่ายไว้ตรงหน้าเหอปี้อวิ๋น ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วงต้องใส่เสื้อโค้ทแล้ว แต่อู่เยวี่ยในรูปภาพกลับสวมเสื้อแขนสั้น เหอปี้อวิ๋นไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่ามองออกว่ารูปถ่ายไม่ได้เพิ่งถูกถ่าย สีหน้าของเธอถอดสี ดวงตาจ้องจนแทบจะปูดถลนออกมา

ผู้หญิงที่ยิ้มอย่างเคลิบเคลิ้มในรูปถ่ายจะเป็นเยวี่ยเยวี่ยของเธอได้อย่างไร?

เยวี่ยเยวี่ยของเธอบริสุทธิ์ขนาดนั้น เป็นไปไม่ได้!

เหมยเหมยยิ้มอย่างพอใจ เปิดให้ดูอีกสองสามรูป คราวนี้พื้นหลังเปลี่ยนเป็นร้านคาราโอเกะไห่เยี่ยน มันเป็นภาพที่โป๊เปลือยอนาจารที่เธอขอให้พี่เสือถ่ายเอาไว้

นักแสดงนำคืออู่เยวี่ยและ…ผู้ชายกลุ่มหนึ่ง…

“ยังมีตรงนี้ บนรูปภาพมีวันที่นะ ลูกสาวของคุณมีอะไรกับผู้ชายตั้งเยอะ กี่คนเนี่ย ขอฉันนับก่อนนะ… หนึ่ง… สอง… สาม…สิบหก…โอโฮ้ หนึ่งต่อสิบหก อู่เยวี่ยเก่งอะไรขนาดนี้ ช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ!”

เหมยเหมยพูดอย่างชั่วร้ายพลางยิ้มตาหยี เสียงทั้งนุ่มทั้งอ่อนหวาน แต่เหอปี้อวิ๋นกลับดูเหมือนจะถูกแช่อยู่ในน้ำแข็ง เธอไม่อยากจะเชื่อทุกสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเธอ

และก็ไม่กล้าเอาผู้หญิงสำส่อนในรูปถ่ายมาเชื่อมโยงกับลูกสาวของเธอ

แต่ความจริงที่วางอยู่ตรงหน้า ทำให้เธอจะไม่เชื่อก็ไม่ได้

“ไม่ใช่เรื่องจริง…จ้าวเหมยแกตั้งใจมาหลอกฉัน… ฉันไม่หลงกลหรอกนะ!” เหอปี้อวิ๋นกัดฟันกรอด ใบหน้าดุร้าย

เหมยเหมยยักไหล่เก็บรูปภาพขึ้นมา “คุณไม่เชื่อฉันก็จนปัญญาแล้วล่ะ ฉันก็แค่หวังดีกลัวคุณจะโดนหลอกถึงได้หวังดีบอกความจริงกับคุณ ในเมื่อคุณสมยอมถ้าอย่างนั้นก็ถือว่าฉันยุ่งเรื่องของคุณมากไปก็แล้วกัน!”

เห็นเหอปี้อวิ๋นที่ใกล้จะบ้าคลั่ง เหมยเหมยก็ยิ้มอย่างลำพองใจ

ผลลัพธ์ที่ต้องการคือแบบนี้แหละ

รสชาติที่โดนลูกสาวแท้ ๆหลอกใช้มันแย่มากเลยใช่ไหมล่ะ?

รู้สึกแย่มากก็ถูกต้องแล้ว ทางที่ดีเจ็บปวดหัวใจแตกสลายไปเลย ให้เจ็บปวดจนกระอักตายไปเลยถึงจะระบายความอัดอั้นได้!

ส่วนเงินนั้นเหมยเหมยก็ไม่ได้ผิดสัญญาทั้งหมดแปดสิบหยวน เธอมอบให้กับเหอปี้อวิ๋นไปทั้งหมด ถึงอย่างไรก็ตามเงินก็อยู่ที่เหอปี้อวิ๋นได้แค่เพียงไม่กี่นาที อีกไม่นานจะถูกคนทั้งห้าฉกไป และตอนเย็นยังจะสั่งสอนเหอปี้อวิ๋นหนัก ๆอีก

เลขาโจวไม่รู้ว่าไปหาคนทั้งห้าคนนี้มาจากไหน เป็นยอดฝีมือทุกคนเลย!

…………………………………………