ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1136 ลูกของเขาความสามารถเหลือล้น
แต่ว่าไม่มีใครจะยอมเชื่อพวกเธอ
เพราะว่าบนโลกนี้ยังไม่มีใครจะเชื่อว่า กล้องวงจรปิดจะปลอมแปลงขึ้นมาได้จริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่คนตัดต่อยังเป็นเด็กผู้ชายอายุแปดขวบคนหนึ่ง
สุดท้ายเส้นหมี่ก็พาลูกๆ ทั้งสามคนจากท่ามกลางความรู้สึกผิดของคุณนายจิตรา คนนั้น
“หมี่ ขอโทษจริงๆนะ เดิมทีคืออยากจะชวนเธอพาลูกๆ มาฉลองวันหยุดสุดสัปดาห์กันอย่างมีความสุข แต่ผลคือกลับกลายเป็นแบบนี้ ฉันต้องขอโทษมากจริงๆ”
“ไม่เป็นไร เด็กๆ เขาทะเลาะกันแค่นั้น ไม่เป็นไรค่ะ”
เส้นหมี่แสดงให้เห็นถึงความใจกว้างบอกแก่ผู้หญิงคนนี้ว่า เธอไม่ได้โกรธ
เธอมีอะไรต้องโกรธงั้นเหรอ?
นับจากที่เธอเห็นพวกคุณนายเหล่านั้นในห้องรับแขก จนมาถึงการย้อนถามและเหยียดหยามต่างๆ นานาจากคำพูดของพวกเธอที่มีต่อเธอ เธอก็เข้าใจแล้ว นี่ไม่ใช่งานเลี้ยงภริยาธรรมดาๆ งานหนึ่งอย่างแน่นอน
แต่เป็นงานเลี้ยงลอบสังหารงานหนึ่ง
ฉะนั้น มีอะไรที่เธอต้องสนใจกันล่ะ?
เส้นหมี่ขับรถกลับมาถึงเดอะวิวซี
“คิวคิว ลูกบอกหม่ามี๊มา นิ้วมือของพี่สาวสองคนนั้นโดนบาดได้ยังไงกันแน่?”
“เอ่อ……..”
เด็กน้อยน่ารักสองสามคนที่กำลังนั่งอิ่มเอมใจอยู่ข้างหลัง หลังจากที่ได้ยินคำพูดของหม่ามี๊ ทันใดนั้น ใบหน้าน้อยๆ ก็ก้มต่ำลง
“หม่ามี๊ หม่ามี๊รู้หมดแล้วเหรอ?”
“หม่ามี๊อยากฟังเหตุผลที่ลูกทำแบบนี้” เส้นหมี่มองผ่านกระจกมองหลัง น้ำเสียงฟังดูเด็ดขาดเป็นอย่างมาก
ศีรษะน้อยๆ ของคิวคิวก้มตกลงมา
ใช่แล้ว กล้องวงจรปิดนั้นถูกเขากับพี่ชายตัดต่อกันจริงๆ แต่นั่นก็เพื่อปกป้องน้องสาวกับหม่ามี๊นะ
คิวคิวเล่าเรื่องราวออกมาอย่างเซ็งๆ สุดท้ายเขาก็เงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง : “หม่ามี๊ ผมไม่รู้สึกว่าผิดที่ทำแบบนี้ ผู้หญิงสองคนนั้นรังแกน้องสาว อีกทั้งยังตั้งใจด้วย ผมแก้แค้นแทนน้องสาวไม่ได้เหรอครับ?”
“อืม!”
คนที่กลัวดอกพิกุลร่วงออกจากปากอย่างอิคคิว ก็แสดงความเห็นด้วยในตอนท้าย
เส้นหมี่ที่อยู่ข้างหน้าเห็นแล้ว ทันใดนั้นก็ไม่รู้จะไปสั่งสอนเจ้าเด็กเหลือขอสองคนนี้อย่างไรดี
ออกหน้าแทนน้องสาวแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องผิด
แต่พวกเขาอายุน้อยขนาดนี้ แล้วลงมือโหดแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องที่ดี วันนี้ถ้าหากนิ้วมือของเด็กผู้หญิงสองคนนั้นใช้งานไม่ได้แล้ว คาดว่าต่อไปแด๊ดดี้ของพวกเขาก็จะยุ่งยากมากขึ้นเมื่อเผชิญหน้ากับสภาผู้แทนราษฎรกลุ่มนั้นที่ไวท์ พาเลซ
เส้นหมี่พาลูกทั้งสามคนกลับมาถึงบ้านแล้ว
ตอนกลางคืน แสนรักกลับมาแล้วได้ยินเรื่องนี้ เขาจึงเรียกอิคคิวมาหา
“บอกมาซิ วันนี้ทำไมไม่ห้ามที่น้องชายทำแบบนั้น?”
“……”
นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กอายุแค่แปดขวบได้เห็นแด๊ดดี้มีสีหน้าท่าทางเคร่งขรึมขนาดนี้ ในตอนแรกเขาจึงไม่ตอบคำถามอยู่สักพักหนึ่ง
แสนรักเห็นแล้วก็พูดน้ำเสียงต่ำลง : “มีวิธีมากมายที่จะออกหน้าแทนน้องสาว แต่ตาต่อตาฟันต่อฟันเป็นวิธีที่โง่เขลาที่สุด ถ้าหากแด๊ดดี้เป็นลูก แด๊ดดี้จะเลือกให้คนอื่นลงมือแทน!”
อิคคิว : “…….”
ดวงตาน้อยๆ ที่สวยงามคู่นั้นค่อยๆ เบิกกว้างขึ้น ในที่สุด เขาก็มองดูแด๊ดดี้คนนี้แล้วถามขึ้นว่า : “ทำยังไงครับ?”
แสนรักหยิบบางอย่างออกมาอย่างใจเย็น แล้วโยนลงตรงหน้าของเด็กเหลือขอคนนี้
“ลูกนำของสิ่งนี้ไปด้วยแล้วไม่ใช่เหรอ? ในเมื่อลูกได้ถ่ายเอาไว้แล้วทั้งหมด ด้วยความสามารถของลูกทั้งสองคนแล้ว ตัดแต่งอีกนิดหน่อย แล้วโยนไว้ด้านนอก ยังจะกลัวว่าไม่มีคนแก้แค้นให้น้องสาวอีกงั้นเหรอ?”
“!!!!”
หลายวินาทีที่อิคคิวยืนตกตะลึงปากค้างอยู่ตรงนั้น
และเส้นหมี่ที่ยืนแอบฟังความเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก หลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ชัดเจนแล้ว ก็โกรธจนกระทืบเท้า
ไอ้เวรนี่!!
เขาสอนลูกชายแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
เขาไม่รู้หรือว่าลูกชายทั้งสองคนของเขานั้นน่ากลัวมากพออยู่แล้ว? ยังจะสอนวิธีการโหดๆ แบบนี้ให้กับพวกเขาอีก เขาไม่รู้หรือว่าพวกเขาอายุเพิ่งจะเท่าไหร่เอง?
เส้นหมี่แทบจะบ้าคลั่งแล้ว
แต่ข้างในห้อง หลังจากที่อิคคิวครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่งแล้ว ทันใดนั้น เขาก็เผยให้เห็นแววตาที่เห็นด้วย
“จะลองคิดดูคราวหน้า”
“……”
แสนรักพอใจ จากนั้นเขาก็เริ่มถามคำถามที่สอง
“ทำไมต้องนำของสิ่งนี้ไปด้วย?”
“ช่วงนี้แด๊ดดี้อยากรู้ว่าคนกลุ่มนั้นทำอะไรกันอยู่ไม่ใช่เหรอ?”
“แด๊ดดี้ไม่ได้พูดนะ”
“กิม ไม่ใช่ลูกน้องของแด๊ดดี้เหรอ?”
“……”
ไม่พูดอะไร
คราวนี้เปลี่ยนเป็นแสนรักที่ถูกย้อนถามจนตอบไม่ถูก
ดังนั้นจึงพูดได้ว่า พ่อลูกสองคนนี้สุดมากจริงๆ
เส้นหมี่ที่อยู่ด้านนอกได้ยินแล้วก็อดไม่ได้ที่จะผลักประตูบานนี้เข้าไปทันที เพราะว่า ยิ่งถึงตอนหลังเธอยิ่งค้นพบว่าตัวเองฟังไม่เข้าใจ
นำของไป?
ดังนั้น เจ้าเด็กเหลือขอเหล่านั้นคือแอบนำสิ่งของอะไรไปโดยไม่บอกเธอกันแน่?
อยู่ด้านนอกต่ออีกหนึ่งนาทีกว่าๆ ในที่สุดก็ได้ยินเสียงยอมแพ้ของผู้ชายจากข้างใน เอ่ยปากพูดอีกครั้งแบบช่วยไม่ได้ว่า : “แล้วยังมีอะไรอีกไหมที่นอกจากที่ลูกถ่ายได้สิ่งเหล่านี้?”
“ไม่มีแล้ว ล้วนเป็นภาพเปรียบเทียบโอ้อวดของผู้หญิงที่น่าเบื่อและโง่เขลาเหล่านั้น ไม่มีประโยชน์กับแด๊ดดี้หรอก”
“เอ่อ……..”
“แต่แดี๊ดดี้ไม่ต้องเป็นห่วง ผมกับน้องชายได้นำเครื่องดักฟังเสียงจำนวนสิบกว่าตัวที่พาไปด้วยแจกจ่ายออกไปหมดแล้ว คืนนี้พวกเธอกลับถึงบ้านของตัวเอง แด๊ดดี้อยากรู้อะไรก็ไปฟังด้วยตัวเองได้”
จากนั้น เจ้าหนูน้อยคนนี้ก็นำแท็บเล็ตของตัวเองยื่นไปให้
แสนรัก : “……..”
แค็กแค็กแค็ก–
ในที่สุด คราวนี้เขาก็แทบจะสำลักน้ำชาที่อยู่ในปาก
สามารถทำได้ถึงขนาดนี้ เป็นลูกของเขาแน่นอนไม่มีผิด!