ตอนที่ 1742 ช่วยหลอมเม็ดยา

Alchemy Emperor of the Divine Dao

สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของหลิงฮันคือกลิ่นสมุนไพร

ในฐานะจักรพรรดิปรุงยา แม้ในตอนนี้เขาจะไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นปรมาจารย์แต่ก็ยังมีศักยะภาพที่อัจฉริยะเหนือใคร เพียงแค่กลิ่นที่เล็ดรอดออกมาเล็กน้อยก็ทำให้เขารู้สึกตื่นเต้นจนอดใจเดิมตามกลิ่นมาไม่ไหว

มันคือเม็ดยาระดับนิรันดร์!

แต่เดิมแล้วหลิงฮันไม่ได้รู้สึกสนใจอะไรงานเลี้ยงมาก เขาตั้งใจจะมากินดื่มเฉยๆแต่ไม่คาดคิดว่าที่นี่จะมีใครบางคนกำลังหลอมเม็ดยาอยู่ เขารู้สึกสนใจที่จะพบเจอกับนักปรุงยาผู้นี้เป็นอย่างมาก

ตอนนี้เขาบรรลุระดับโลกียนิพพานแล้ว ซึ่งมีคุณสมบัติเพียงพอจะหลอมเม็ดยาระดับนิรันดร์

หลิงฮันเปิดประตูเข้าไปด้านในลานที่พักโดยที่ไม่พบเจอใครเฝ้าอยู่เลยแม้แต่คนเดียว

ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เดิมโลกใบนี้ก็เป็นอุปกรณ์มิติศักดิ์สิทธิ์ส่วนตัวอยู่แล้วและไม่มีใครเข้ามาในเวลาปกติ เพราะงั้นทำไมต้องส่งคนมาคุ้มกันลานที่พักด้วย? แม้จะเป็นในเวลานี้ทุกคนต่างก็ล้วนมุ่งหน้าเข้าสู่พระราชวังโดยไม่สนใจลานที่พักแห่งนี้แม้แต่น้อย

หลิงฮันเดินมาถึงห้องขนาดใหญ่ที่ว่างแทบจะไม่มีสิ่งของอะไรวางเอาไว้ ตรงกลางห้องมีเพียงเตาหลอมสูงสิบฟุตตั้งอยู่ ซึ่งแทนที่จะเรียกว่าเตาหลอมมันดูเหมือนกับหอคอยเสียมากกว่า

ด้านล่างเตาหลอมเปลวเพลิงอันร้อนระอุกำลังลุกโชนและมีชายชราผู้หนึ่งกำลังเคลื่อนที่ไม่มารอบเตาหลอม ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหวอำนาจแห่งกฎเกณฑ์เปลวเพลิงจะพรั่งพรูออกมาจากฝ่ามือ

หลิงฮันขมวดคิ้วและกล่าว “ไม่ได้การแล้ว!”

เมื่อสิ้นเสียงของเขา การเคลื่อนไหวของชายชราก็เริ่มช้าลงและมีเหงื่อไหลท่วมหน้าผาก ทั่วทั้งเตาหลอมเกิดการสั่นไหวราวกับกำลังจะระเบิด

“รีบมาช่วยข้าเร็ว!” ชายชราตะโกนลั่น

จะให้ช่วยยังไง?

ถึงแม้หลิงฮันจะเป็นอัจฉริยะแห่งศาสตร์ปรุงยา แต่เขาก็ไม่เคยหลอมเม็ดยาระดับนิรันดร์มาก่อน

เพียงแต่ว่าฉายาจักรพรรดิปรุงยาของเขานั้นไม่ได้เป็นเพียงชื่อเรียก จะรู้วิธีหลอมเม็ดยามาก่อนรึไม่นั้นไม่ใช่ปัญหา เพราะเขาสามารถเรียนรู้วิธีการหลอมได้จากการเคลื่อนไหวและขยับมือของชายชรา

ไม่ว่าจะเป็นเม็ดยาระดับใด สุดท้ายการหลอมเม็ดยาก็ขึ้นอยู่กับการควบคุมเปลวเพลิง

แน่นอนว่าความเข้าใจในชนิดเม็ดยาอย่างลึกซึ้งก็สำคัญ แต่นั่นไม่เกี่ยวอะไรกับหลิงฮันในตอนนี้

สิ่งที่เขาต้องช่วยมีเพียงแค่ช่วยไม่ให้เตาหลอมระเบิดเท่านั้น

เขาจ้องมองการเคลื่อนไหวและการขยับมือของชายชราอยู่ชั่วครู่ก่อนจะลงมือ

‘พรึบ พรึบ พรึบ พรึบ’ เขาขยับมือควบคุมเตาหลอมด้วยเพลิงเก้าสวรรค์

ในตอนแรกแม้การเคลื่อนไหวของเขาจะดูค่อนข้างตะกุกตะกักเล็กน้อยแต่ก็เปลี่ยนเป็นเชี่ยวชาญอย่างรวดเร็ว

นี่คือศักยภาพของจักรพรรดิแห่งศาสตร์ปรุงยา

การเคลื่อนไหวของเขาในตอนนี้เป็นเพียงการขยับตามชายชราเท่านั้น หากไม่มีชายชราเป็นต้นแบบเขาย่อมไม่สามารถทำอะไรต่อเองได้

ทางด้านของชายชรานั้น เขาขยับมืออย่างไม่หยุดยั้ง นอกจากควบคุมอุณหภูมิของเตาหลอมแล้ว เขายังต้องผสมสมุนไพรให้รวมเป็นเนื้อเดียวกันอีกด้วยซึ่งเป็นงานที่สาหัสเกินกว่าจะทำเพียงคนเดียว เพียงแต่ว่าตอนนี้หลิงฮันได้มาช่วยควบคุมอุณหภูมิของเตาหลอมแทนเขาแล้ว ชายชราจึงสามารถตั้งสมาธิไปแค่กับการผสมสมุนไพรได้

หนึ่งชายชราและหนึ่งรุ่นเยาว์ร่วมมือกันอย่างขะมักขะเม่นในขณะที่จักรพรรดินีและสตรีนกอมตะรอคอยอยู่เงียบๆ

หลิงฮันและชายชราวุ่นวายกับการหลอมเม็ดยาเป็นเวลากว่าครึ่งวัน

‘ปัง ปัง ปัง ปัง’ ชายชราผลักฝ่ามือออกไปเจ็ดสิบสองครั้งติดต่อกัน ‘ครืนนน’ เตาหลอมส่งเสียงสั่นสะท้านก่อนที่เปลวเพลิงจะค่อยๆสลายไป

“ฮ่าๆๆๆ!” ชายชราหัวเราะลั่น “หนึ่งพันสามร้อยล้านปี… ในที่ที่สุดข้าก็หลอมเม็ดยาวายุเพลิงเก้าเมฆาสำเร็จ! เฒ่าชราซือถู ในที่สุดข้าก็เหนือกว่าเจ้าแล้ว!”

เขาหัวเราะอยู่นานสักพักกว่าจะสังเกตเห็นหลิงฮันและเผยสีหน้าประหลาดใจ “เจ้าเป็นใคร?”

หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร แต่ขอให้ข้ายื่นมือเข้าไปช่วยงั้นรึ?”

ชายชราอ้าปากค้างด้วยความตะลึง “ข้านึกว่าเจ้าเป็นผู้ช่วยที่แม่หนูนั่นส่งมาให้ข้าเสียอีก ไม่ใช่หรอกรึ?”

แม่หนูคนไหนกัน?

หลิงฮันส่ายหัว “ข้าไม่ใช่ผู้ช่วยที่ท่านว่า”

ชายชราเกาหัวสับสนแต่ก็หัวเราะออกมา “จะใช่หรือไม่ก็ช่าง แต่ในที่สุดข้าก็หลอมเม็ดยาวายุเพลิงเก้าเมฆาสำเร็จ! เจ้าหนู เจ้าคงไม่รู้ว่าเม็ดยาชนิดนี้หลอมได้ยากเย็นแค่ไหน เพราะงั้นข้าจะเล่าให้ฟังเอง”

เขาประสบปัญหากับการหลอมเม็ดยาชนิดนี้มานานกว่าหนึ่งพันสามร้อยล้านปี เมื่อตอนนี้เขาทำสำเร็จแล้วจึงไม่แปลกที่เขาจะรู้สึกตื่นเต้นและอยากเล่าเรื่องราวให้กับใครสักคนฟัง เขาจับมือหลิงฮันไว้แน่นและพล่ามไม่หยุดโดยไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าว่าหลิงฮันจะอยากฟังหรือไม่

เรื่องราวมีอยู่ว่าชายชราได้รับตำราเม็ดยาโบราณชนิดหนึ่งมาครอบครอง แต่เนื่องจากตำราที่ว่าเก่าแก่เกินไปเนื้อหาจึงไม่สมบูรณ์ ชายชราพยายามศึกษาหาวิธีต่างๆเป็นเวลาห้าร้อยล้านกว่าปีกว่าจะฟื้นฟูเนื้อหาของตำรากลับมาได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลอันใดแม้ตำราจะสมบูรณ์แล้วแต่เขาก็หลอมเม็ดยาไม่สำเร็จเสียที

ชายชราผู้นี้มีชื่อว่าเซี่ยงเหยี๋ยน เขามีคู่หูที่ร่วมมือช่วยกันฟื้นฟูตำราเม็ดยาอยู่คนหนึ่งชื่อว่าซือถูถัง ทั้งสองเคยเป็นสหายที่ดีต่อกัน แต่เพราะพวกเขามีหลักวิธีการในการฟื้นฟูตำราเม็ดยาโบราณที่ต่างกันจึงมีการทะเลาะกันเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ทั้งสองต่างหวังว่าวิธีการของตนเองจะสามารถหลอมเม็ดยาโบราณชนิดนี้สำเร็จเพื่อที่จะได้หักหน้าอีกฝ่าย

เซี่ยงเหยี๋ยนนั้นตื่นเต้นมากจนถึงขนาดบอกวิธีหลอมและสรรพคุณของเม็ดยาให้หลิงฮันฟัง เม็ดยาวายุเพลิงเก้าเมฆามีสรรพคุณสำหรับใช้รักษาบาดแผล ต่อให้เป็นบาดแผลของตัวตนระดับขอบเขตตำหนักอมตะที่ทรงพลังมันก็สามารถรักษาได้

เมื่อเห็นว่าเซี่ยงเหยี๋ยนยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพูด หลิงฮันก็ฉวยโอกาสรีบพาภรรยาทั้งสองหลบหนีไป เซี่ยงเหยี๋ยนพยายามเดินตามอยู่สามสี่ก้าวแต่ก็ต้องหยุดฝีเท้ากะทันหัน ตอนนี้เตาหลอมของเขามีเม็ดยาอันล้ำค่าอยู่ภายใน เขากลัวว่าหากคลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว เม็ดยาของเขาจะถูกขโมยไป

พวกหลิงฮันสามคนเดินออกจากลานที่พักและมุ่งหน้ากลับไปพระราชวังที่ตอนนี้งานเลี้ยงได้เริ่มขึ้นแล้ว

ที่น่าแปลกคืองานเลี้ยงที่ถูกจัดขึ้นนั้น ไม่มีโต๊ะส่วนตัวให้กับแขกที่เข้าร่วม แต่มีโต๊ะหลายร้อยตัวเรียงติดกันวางอาหารเอาไว้แทน

แขกแต่ละคนต่างยืนถือจานเอาไว้ในมือและหยิบอาหารที่ตนเองชอบได้ตามต้องการ

หลิงฮันกล่าว “พวกเจ้าไปหาที่ยืนรอก่อน ข้าจะไปนำอาหารมาให้”