ตอนที่ 1213: กลับไปที่นิกายดาบโลหิต

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1213: กลับไปที่นิกายดาบโลหิต

เจี้ยนเฉินไปที่นิกายดาบโลหิตพร้อมกับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 3 นูบิสเท่านั้นในครั้งนี้ ในตอนแรก พวกเขาจะเปิดประตูมิติเพื่อที่จะไปยังนิกายดาบโลหิต แต่โชคร้ายที่ทั้งเจี้ยนเฉินและนูบิสไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอนของนิกาย และพวกเขายังไม่เคยไปที่นั้นด้วย พวกเขาจึงไม่รู้ที่อยู่ที่นั่น ดังนั้น พวกเขาจึงได้แต่อาศัยคำอธิบายจากผู้พิทักษ์ทั้งสี่เพื่อที่จะสร้างประตูมิติที่ห่างออกมาหลายพันกิโลเมตรและบินไปในระยะทางที่เหลือแทน

เจี้ยนเฉินและนูบิสบินไปตลอดทั้งวันภายใต้การนำทางของผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก่อนที่จะมาถึงสถานที่ที่นิกายดาบโลหิตตั้งอยู่ในที่สุด พวกเขาประหลาดใจที่นิกายดาบโลหิตนั้นซ่อนอยู่ในหุบเขาเล็ก ๆ ที่เร้นลับภายในเทือกเขาที่ห่างไกลออกไป

จากที่ดูแล้ว หุบเขานี้ค่อนข้างคล้ายกับหุบเขายั่งยืนที่ลุงเซียวอยู่ หมู่บ้านก็อยู่ในหุบเขานี้เช่นกัน เว้นเสียแต่ว่ามันดูซ่อนเร้นมากกว่าหุบเขายั่งยืน มันใหญ่มากเช่นกันและมีกระท่อมไม้มากกว่าสองพันหลังที่เรียงตัวกันอย่างมีระเบียบ กระท่อมทุกหลังเรียงกันอย่างเป็นระบบ แต่พวกมันก็มีขนาดที่แตกต่างกันออกไป กระท่อมที่อยู่ริมหมู่บ้านนั้นเล็กที่สุด และยิ่งใกล้กึ่งกลางหมู่บ้านมากเท่าไร กระท่อมก็ใหญ่มากขึ้นเท่านั้น มีโถงที่ทำมาจากไม้เนื้อแข็งอายุเป็นหมื่นปีตั้งอยู่ที่กึ่งกลาง มันมี 7 ชั้นและมีพื้นที่หลายหมื่นตารางเมตร

ความเงียบสนิทปกคลุมไปทั่วทั้งหมู่บ้านในตอนที่เจี้ยนเฉินและนูบิสเห็นมัน ไม่มีคนสักคนอยู่ที่นั่นเลย และยังไม่มีพื้นที่ไร่หรือสวนรอบ ๆ อีกด้วย มันทำให้เข้าใจผิดได้ง่ายว่านี้คือเมืองร้าง

อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจี้ยนเฉินและนูบิสเชื่อ พวกเขาสัมผัสได้ถึงพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังในหมู่บ้านที่เงียบเชียบนี้ และคนที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นถึงเซียนจักรพรรดิ

“นี่เป็นที่ซึ่งนิกายดาบโลหิตตั้งอยู่งั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินถามในขณะที่เขามองไปที่หมู่บ้าน

“ท่านหัวหน้านิกาย นี่เป็นที่ที่พวกเราตั้งอยู่จริง โดยปกติ ลูกศิษย์ของนิกายมักจะอยู่ในกระท่อมเพื่อฝึกฝน และพวกเขาจะไม่ออกมายกเว้นจะมีบางอย่างเกิดขึ้น มันเป็นเรื่องปกติมากที่จะไม่มีสักคนออกมาเลยในรอบครึ่งเดือน” ผู้พิทักษ์อธิบาย

“ข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ บอกได้เลยว่ามีคนเพียง 2,000 คนเท่านั้นที่อยู่ที่นี่เพียงแต่มองปราดเดียว นิกายดาบโลหิตเป็นหนึ่งในสามองค์กรลอบสังหารใหญ่ของทวีปเทียนหยวน พวกเขาอาจจะกำลังถดถอย แต่คนมันจะไม่น้อยไปหน่อยหรือ ? ” นูบิสเบ้ปากอย่างดูถูก ความประทับของเขาต่อนิกายดาบโลหิตลดลงทันที

“นิกายของพวกเราไม่ได้ถดถอย พวกเราแค่เข้าฝึกฝนตามคำสั่งของหัวหน้านิกายและไม่ปรากฎตัวบนทวีปเทียนหยวน พวกเราอาจจะล้มตายไปมากจากการต่อสู้เมื่อพันปีก่อน แต่พวกเราก็ฟื้นฟูแล้วหลังจากพักฟื้นมาพันปี คนที่นี่ทุกคนเป็นศิษย์หลักของนิกายของพวกเรา พวกเรามีศิษย์หลายหมื่นคนด้านนอกซึ่งกระจัดกระจายและซ่อนตัวอยู่ทั่วทั้งทวีป” ผู้พิทักษ์อธิบายอย่างไร้อารมณ์

ในตอนนี้เอง มีกลุ่มคนในชุดแดงบินออกมาจากหมู่บ้าน และมาถึงตรงหน้าเจี้ยนเฉินในไม่กี่วินาที

มีคนทั้งหมด 6 คน คนที่นำกลุ่มเป็นชายชราธรรมดาที่ดูเหมือนจะมีอายุเจ็ดสิบกว่าปี พลังแห่งการมีอยู่ที่มหาศาลของเขาทำให้เจี้ยนเฉินและนูบิสบอกได้เพียงมองปราดเดียวเลยว่าคนคนนี้เป็นเซียนราชาและเขาอยู่ในระดับเดียวกันกับนูบิสซึ่งเป็นชั้นสวรรค์ที่ 3 สองคนด้านหลังเขาเป็นชายวัยกลางคน ในขณะที่สามคนที่เหลือเป็นชายชราทั้งหมด พวกเขาทั้งหมดเป็นเซียนผู้คุมกฎชั้นสวรรค์ที่ 7 เป็นอย่างน้อย และสองคนในนั้นอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 9

“รองหัวหน้านิกายเจียงหวังและผู้อาวุโสทั้งห้ามาคารวะหัวหน้านิกาย ! ” ชายชราที่อยู่หน้าสุดคารวะออกมาชัดถ้อยชัดคำและโค้งให้เจี้ยนเฉิน เขารู้ว่าเจี้ยนเฉินได้เป็นหัวหน้านิกายมานานแล้ว และเขาคุ้นเคยกับเจี้ยนเฉินเป็นอย่างดี

เจี้ยนเฉินบอกได้เลยว่ารองหัวหน้านิกายและผู้อาวุโสทั้งห้านั้นพอใจเป็นที่สุดที่เขาได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้านิกายจากท่าทางของพวกเขา เจี้ยนเฉินก้าวออกไปและช่วยประคองเจียงหวังลุกขึ้นแล้วพูด “ไม่จำเป็นต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก ข้าโชคดีที่ถูกลุงเซียวช่วยเอาไว้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงส่งต่อตำแหน่งหัวหน้านิกายให้กับข้า และทำให้ข้าได้ทำเรื่องสำคัญในการพัฒนานิกายดาบโลหิต ถ้ามีอะไรที่ข้าทำผิดไปในอนาคต กรุณาบอกข้าด้วยว่าควรต้องทำอย่างไร ท่านรองหัวหน้านิกาย”

“ท่านหัวหน้านิกายถ่อมตัวมากไปแล้ว ภายในนิกาย หัวหน้านิกายมีอำนาจสูงสุด ข้าจะไปขัดท่านได้อย่างไร ? ”

เจี้ยนเฉินและเจียงหวังพูดคุยกันอย่างสุภาพนอบน้อม ก่อนที่เจียงหวังจะเชิญเจี้ยนเฉินเข้าไปที่หมู่บ้าน ผู้อาวุโสทั้งห้าและผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็ตามมาด้านหลังเงียบ ๆ

“ท่านหัวหน้านิกาย คนทั้งหมดที่อยู่ที่นี่เป็นศิษย์หลักของนิกาย มีคนอยู่ประมาณ 2,300 คน และคนที่อ่อนแอที่สุดอยู่ในระดับเซียนปฐพี มีเซียนสวรรค์ประมาณ 240 คน และมีเซียนผู้คุมกฎทั้งหมด 9 คนซึ่งก็คือผู้พิทักษ์ทั้งสี่และผู้อาวุโสทั้งห้า สำหรับเซียนราชานั้นมีเพียงข้าเท่านั้น”

“ที่ที่พวกเราอยู่มีค่ายกลสังหารที่ทรงพลังที่เกิดมาจากกระท่อมทั้งสองพันหลังอยู่เช่นกัน ศูนย์ควบคุมค่ายกลอยู่ที่โถงเทพเจ้าโลหิตที่อยู่กึ่งกลางสุดซึ่งเป็นที่อยู่ของหัวหน้านิกาย นอกเหนือไปจากรองหัวหน้านิกายแล้ว คนอื่น ๆ ต้องได้รับอนุญาตจากหัวหน้านิกายเท่านั้นถึงจะเข้าไปได้”

ตลอดทางเจียงหวังอธิบายถึงสถานการณ์ของนิกายดาบโลหิตให้เจี้ยนเฉินฟังอย่างต่อเนื่อง เขาเริ่มจากที่ที่พวกเขาอยู่ก่อนที่พูดไปถึงศิษย์ที่กระจายอยู่ด้านนอก ทำให้เจี้ยนเฉินเข้าใจโครงสร้างของนิกายชัดเจนมากขึ้นในตอนท้าย

โครงสร้างขององค์กรไม่ได้ซับซ้อนเลย ความจริงแล้วมันธรรมดามาก องค์กรทั้งหมดถูกควบคุมโดยผู้อาวุโสทั้งห้า พวกเขาทั้งหมดมีกองกำลังเป็นของตนเอง และอีกมุมหนึ่งรองหัวหน้านิกายนั้มมีอำนาจเหนือผู้อาวุโสทั้งห้าอย่างเด็ดขาด ในขณะที่หัวหน้านิกายนั้นเป็นการดำรงอยู่ที่สูงสุดของนิกาย พวกเขาจะตัดสินใจทุก ๆ อย่างให้นิกาย

วันถัดมา เจี้ยนเฉินก็เข้าร่วมพิธีการแต่งตั้งหัวหน้านิกายอย่างเป็นทางการ พิธีการนั้นเรียบง่ายมาก มันถูกจัดโดยรองหัวหน้านิกาย ผู้อาวุโส และผู้พิทักษ์ เพื่อที่จะให้สมาชิกหลักทั้งหมดนับถือหัวหน้านิกาย

สิ่งแรกที่เจี้ยนเฉินทำคือการจัดประชุมหลังจากพิธีการ

ในตอนนี้ เจี้ยนเฉิน นูบิส เจียงหวัง ผู้อาวุโสทั้งห้า และผู้พิทักษ์ทั้งสี่ก็รวมกันอยู่ที่ห้องที่ถูกม่านพลังปกคลุมเอาไว้ในโถงเทพเจ้าโลหิต พวกเขาทั้งหมดเคร่งเครียด

เจี้ยนเฉินเปลี่ยนเป็นชุดเครื่องแบบพิเศษของหัวหน้านิกาย เขาใส่ชุดสีโลหิตหรูหรา ซึ่งทำให้เขาดูร้ายกาจมากขึ้น

“ในวันนี้ ข้ามีเรื่องสำคัญ 2 เรื่องที่จะประกาศในการประชุม เรื่องแรกคือ การที่นิกายดาบโลหิตจะกลับเข้าไปสู่ทวีปอีกครั้ง” เจี้ยนเฉินเริ่มประชุมอย่างเคร่งเครียด เขาไม่ค่อยได้ออกคำสั่ง แต่คำพูดของเขานั้นก็เต็มไปด้วยอำนาจที่เด็ดขาด

เจียงหวัง ผู้อาวุโส และผู้พิทักษ์ทั้งหมดยินดีขึ้นมา แต่ไม่มีใครพูดอะไรเป็นการตอบรับ

เจี้ยนเฉินพูดต่อ “เรื่องต่อไปก็คือ พวกเราจะกวาดล้างนิกายใต้พิภพ !”

ถ้าเรื่องแรกทำให้สมาชิกระดับสูงของนิกายดาบโลหิตดีใจแล้วล่ะก็ เรื่องที่สองนั้นก็ทำให้พวกเขาทั้งหมดปลาบปลื้มยิ่งนัก ตลอดหลายปีที่ผ่านมา องค์กรลอบสังหารใหญ่ทั้งสามได้มีความขัดแย้งกันมาตลอด เกิดการปะทะเล็ก ๆ กันนับครั้งไม่ถ้วนในอคีตและความบาดหมางของพวกเขานั้นก็อยู่ในขั้นที่ปรองดองกันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนที่นิกายดาบโลหิตทำสงครามที่ไม่มีใครรู้กับนิกายใต้โลหิตและศาลายามะ ในตอนนั้น ความแข็งแกร่งของฮุสตันนั้นสุดยอดมาก และไม่มีใครในทั้งสององค์กรที่เป็นคู่มือของนิกายดาบโลหิตได้ ในท้ายที่สุด ทั้งสององค์กรก็ร่วมมือกัน ทำให้พวกเขาเข้าร่วมสู้กับนิกายดาบโลหิตอย่างเอาเป็นเอาตาย

การต่อสู้นั้นตึงเครียดมาก แม้ว่าทั้งสององค์กรจะร่วมมือกัน แต่ความแข็งแกร่งของฮุสตันก็ยังสุดยอดอยู่ดี ภายใต้การนำของเขา นิกายดาบโลหิตก็ข่มทั้งสององค์กรเอาไว้ได้ และทำให้พวกเขาเกือบจะล่มสลาย ในท้ายที่สุดการต่อสู้ก็จบลงหลังจากที่ฮูหยินของฮุสตันถูกลอบสังหาร และจากนั้นเป็นต้นมา นิกายดาบโลหิตก็หายไปจากทวีปเทียนหยวน

ในระหว่างช่วงเวลาพันปีมานี้ ทั้งนิกายต้องการที่จะล้างแค้นกับองค์กรลอบสังหารทั้งสองหลายครั้ง แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากคำสั่งของหัวหน้านิกาย และยิ่งปรากฏตัวในทวีปน้อยลง ซึ่งทำให้พวกเขาต้องเก็บความบาดหมางมาตลอดพันปี ในตอนนี้หัวหน้านิกายคนใหม่ได้ปลดปล่อยพวกเขาจากคำสั่งนั้นในที่สุด พวกเขาทั้งหมดจึงปิติยินดีมาก

“ท่านหัวหน้านิกาย เมื่อไหรที่พวกเราจะเคลื่อนไหว ? ” ผู้อาวุโสลุกขึ้นและถามอย่างตื่นเต้น

“ในเมื่อมีคำสั่งออกมาแล้ว ยิ่งพวกเราเคลื่อนไหวเร็วเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น ข้าหวังว่า พวกเราจะสามารถแก้แค้นให้ลุงเซียวเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เจ้ารู้ว่าไหมว่านิกายใต้พิภพนั้นตั้งอยู่ที่ไหน ? ” เจี้ยนเฉินถาม

“ท่านหัวหน้านิกาย นิกายใต้พิภพนั้นซ่อนตัวเป็นอย่างดี แต่มันก็ยังไม่ดีพอที่จะซ่อนจากข่าวกรองของนิกายดาบโลหิตได้ พวกเราสืบเรื่องนี้มาก่อนแล้ว ทั้งหมดที่พวกเราต้องการคือคำสั่งจากหัวหน้านิกายและจากนั้นพวกเราก็จะดำเนินการทันที” เจียงหวังตอบกลับ เขารอให้ถึงวันนี้มานานแล้ว

“ถ้าเป็นเช่นนั้น พวกเราจะออกไปกันพรุ่งนี้เช้า ไปเตรียมการวันนี้ พวกเราจะไปต่อสู้กันพรุ่งนี้” เจี้ยนเฉินบอกพวกเขาอย่างหนักแน่น

“ท่านหัวหน้านิกาย พวกเราจะพาคนไปเท่าไร ? ” ผู้อาวุโสถาม

“รองหัวหน้านิกาย ผู้อาวุโสและผู้พิทักษ์ พวกเจ้าจะไปกับข้า ไม่จำเป็นต้องเอาคนที่ระดับต่ำกว่าเซียนผู้คุมกฎไป”

“แต่ท่านหัวหน้านิกาย นิกายใต้พิภพมีโถงศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาซ่อนอยู่ในนั้นตลอดหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นพวกเราอาจจะไม่สามารถเอาชนะโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเรา” ผู้อาวุโสคนหนึ่งกล่าว

“เจ้าไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ โถงศักดิ์สิทธิ์นั้นแข็งแกร่งแต่ก็ใช่ว่าจะทำลายไม่ได้” น้ำเสียงของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยความมั่นใจแต่เขาก็แอบลอบถอนใจ จากเท่าที่เป็นอยู่ เขาคงต้องรบกวนรุยจินและคนอื่น ๆ ในการต่อสู้กับนิกายใต้พิภพ