ตอนที่ 1749 เป่ยเสวียนหมิงท้าประลอง

Alchemy Emperor of the Divine Dao

จนถึงตอนนี้ ผู้ทดสอบที่ผ่านมาถึงฝั่งนี้ของภูเขาได้มีเพียงสองคนคือ เซียวเชิ่งกับจ่างซุนเหลียง

จ่างซุนเหลียงนั้นเขาเพียงแค่พยักหน้าทักทาย แต่ไม่ได้ก้าวเข้ามาหาหลิงฮัน

ดวงตาของเซียวเซิ่งลุกโชนไปด้วยเพลิงอาฆาต เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เขาถูกหลิงฮันกับจักรพรรดิเล่นราวกับเป็นลูกบอลนั้น ได้สร้างความอัปยศที่ฝังลึกไปถึงก้นบึ้งจิตใจของเขา เขารู้ตัวที่ว่าในระดับสร้างสรรพสิ่ง เขาไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ให้กับหลิงฮันและจักรพรรดินีได้แน่นอน เพียงแต่ว่าสถานการณ์ในตอนนี้ได้แตกต่างออกไปแล้ว

พลังบ่มเพาะของเขายกระดับขึ้นมาเป็นระดับโลกียนิพพาน!

ยิ่งกว่านั้นยังเป็นการตัดนิพพานอย่างสมบูรณ์อีกด้วย ต่อให้หลิงฮันจะตัดนิพพานได้สมบูรณ์เช่นกัน พลังต่อสู้ของเขากับอีกฝ่ายก็ไม่สมควรแตกต่างกันมาก

ยิ่งเมื่อเขาใช้ทักษะลับที่ทรงพลังด้วยแล้ว เขาจะต้องแก้แค้นได้สำเร็จแน่นอน!

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?” ฟู่เกาหยุนเอ่ยแทรกและปล่อยหมัดเข้าใส่เซียวเชิ่งอย่างไม่ให้ตั้งตัว

แต่ถึงแม้จะเป็นการโจมตีอย่างกะทันหัน แต่เซียวเซิ่งก็เป็นราชาแห่งยุค ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาว่องไวและกระโดดถอยหลังอย่างรวดเร็ว

เพียงแต่นิรันดร์สองนิพพานก็ยังเหนือชั้นกว่านิรันดร์หนึ่งนิพพานอยู่ดี คลื่นพลังของหมัดระเบิดเข้าใส่เซียวเซิ่งที่ลอยอยู่กลางอากาศจนกระอักโลหิตออกมา

พวกฟู่เสี่ยวอวิ๋นรู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก เหตุใดฟู่เกาหยุนถึงได้ลงมือแทนหลิงฮันกัน?

ร่างของเซียวเชิ่งร่อนลงสู่พื้นและเดินโซเซอยู่หลายก้าวกว่าจะทรงตัวได้ เขากัดฟันพร้อมกับกล่าว “เหตุใดนายน้อยฟู่ถึงโจมตีข้า?”

“ก็เจ้าอยากสู้กับน้องชายหลิงฮันไม่ใช่รึ?” ฟู่เกาหยุนกล่าวอย่างเหยียดหยาม “สู้กับข้าก็ไม่ต่างจากสู้กับน้องชายหลิง”

ฟู่เสี่ยวอวิ๋นรู้สึกสับสน นางรู้ดีว่าพี่ชายของนางเป็นคนที่หยิ่งทะนงเพียงใด ซึ่งการที่เขาจะยอมรับใครซักคนเป็นสหายนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก

“ฮึ่ม” ฟู่เกาหยุนสายหัว “พวกเจ้าทุกคนคงคิดว่าที่ข้าลงมือนั้น เป็นเพราะน้องชายหลิงฮันสหายของข้า? แน่นอน ถ้าหากมีใครคิดจะท้าทายสหายของข้า ข้าย่อมออกหน้าแทนอยู่แล้ว! เพียงแต่ต่อให้ข้าไม่ลงมือแทน ขยะเช่นเจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของน้องชายหลิงอยู่ดี”

เขาหยุดกล่าวไปครู่หนึ่งก่อนจะกวาดสายตามองทุกคนและกล่าวต่อ “เมื่อครู่ น้องชายหลิงสามารถต่อกรกับข้าได้อย่างทัดเทียม

ว่าไงนะ!

ฟู่เสี่ยวอวิ๋น เป่ยเสวียนหมิง เซียวเชิ่ง หรือแม้กระทั่งจ่างซุนเหลียงล้วนแต่แสดงสีหน้าไม่เชื่อ เจ้ากล่าวเกินไปรึเปล่า… อย่าได้ลืมว่าตัวเจ้าเป็นถึงนิรันดร์สองนิพพาน!

ต่อให้ราชาเช่นพวกเขามีพลังบ่มเพาะหนึ่งนิพพานขั้นสูงสุด พวกเขาก็สามารถสู้ได้ทัดเทียมกับนิรันดร์สองนิพพานขั้นต้นทั่วไปเท่านั้น

แต่ฟู่เกาหยุนนั้นเป็นถึงนิรันดร์สองนิพพานขั้นปลาย แถมยังไร้เทียมทานในระดับเดียวกันอีก ตามหลักแล้วมีเพียงราชาระดับสองนิพพานขั้นสูงสุดเท่านั้นถึงจะเอาชนะเขาได้แบบฉิวเฉียด

เพราะงั้นไม่มีทางเด็ดขาดที่หลิงฮันที่เพิ่งบรรลุเป็นนิรันดร์หนึ่งนิพพาน จะสามารถสู้กับฟู่เกาหยุนได้อย่างทัดเทียม

“ข้าไม่เชื่อ!” เซียวเชิ่งคำรามอย่างไม่ยินยอม

หากเรื่องนี้เป็นความจริง ก็หมายความว่าในระดับโลกียนิพพานนี้เขาจะไม่สามารถแก้แค้นได้สำเร็จ และต้องรอจนกว่าจะบรรลุระดับแบ่งแยกวิญญาณ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าต้องใช้เวลากี่พันล้านปี

ฟู่เกาหยุนเค้นเสียงและคร้านจะโต้ตอบ

มีความจำเป็นอันใดที่เขาต้องพิสูจน์คำพูดให้ขยะตรงหน้าเชื่อ?

“ข้าก็ไม่เชื่อ!” เป่ยเสวียนหมิงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หากหลิงฮันมีพลังต่อสู้ทัดเทียมกับฟู่เกาหยุนจริง นั่นไม่ได้หมายความว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าเขาหรอกรึ?

ข้าไม่ยอมรับเด็ดขาด!

“เจ้าจะไม่เชื่อก็เรื่องของเจ้า” ฟู่เกาหยุนกล่าวอย่างไม่แยแส ถึงแม้อำนาจของตระกูลฟู่จะไม่ได้แข็งแกร่งเท่านิกายอาญาสิ้นแสง แต่ทั้งสองก็เป็นขุมอำนาจสามดาวเหมือนกัน เขาจึงไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวเป่ยเสวียนหมิง

เป่ยเสวียนหมิงเองก็ตระหนักในเรื่องนี้ดีจึงไม่แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดอะไร เขาแสยะยิ้มและกล่าว “หลิงฮัน เจ้ากล้าสู้กับข้ารึไม่?”

หลิงฮันหัวเราะ “ข้ากำลังรอคำนี้จากเจ้าอยู่พอดี! เจ้าคงไม่รู้ว่าข้ารอคอยที่จะได้ซัดหน้าตากวนบาทาของเจ้ามานานแค่ไหนแล้ว”

“ฮ่าๆ น้องชายหลิง เจ้าก็รู้สึกเหมือนข้าสินะ!” ฟู่เกาหยุนหัวเราะ “ข้าเองก็อยากซัดหน้าหมอนั่นเหมือนกัน แต่ติดอยู่สถานะของข้าไม่เอื้ออำนวย ข้าขอฝากให้เป็นหน้าที่ของเจ้าแทนแล้วกัน”

“เรื่องแค่นี้สบายมาก” หลิงฮันพยักหน้า

“พวกเจ้า!” เป่ยเสวียนหมิงกัดฟันแค้น นี่พวกเจ้าดูถูกข้าขนาดไหนกัน? พวกเจ้าไม่รู้รึไงว่าข้าเป็นถึงผู้สืบทอดแห่งนิกายอาญาสิ้นแสง และเป็นราชาที่ทรงพลัง

“พี่ชายเกาหยุน ถ้าข้าเผลอสังหารเขา จะเป็นปัญหาอะไรหรือไม่?” หลิงฮันหันไปเอ่ยถามฟู่เกาหยุน

ร่างของฟู่เกาหยุนสั่นสะท้านทันที ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นมืดมนเล็กน้อยก่อนจะกล่าว “ห้ามเด็ดขาด!”

หากเป่ยเสวียนหมิงที่เป็นผู้สืบทอดของนิกายอาญาสิ้นแสงเสียชีวิตที่นี่ล่ะก็ นิกายอาญาสิ้นแสงจะต้องเกรี้ยวกราดเป็นอย่างมากและทำสงครามกับตระกูลฟู่แน่นอน

“ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ?” หลิงฮันกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พี่ชายเกาหยุน หรือท่านหวาดกลัวนิกายอาญาสิ้นแสงที่อ่อนแอ?”

เจ้าจะหาเรื่องใส่ตัวให้ข้าแบบนั้นไม่ได้!

ใบหน้าของฟู่เกาหยุนบูดบึ้งหน้าเกลียด เขาตระหนักได้ว่าหลิงฮันไม่ได้แค่บรรเลงบทเพลงได้ห่วยแตกขั้นสุดเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีฝีปากที่สามารถทำให้ผู้อื่นบ้าคลั่งได้อีกด้วย

นี่ข้าคิดถูกรึเปล่าที่นับเจ้าเป็นน้องชาย?

“เลิกพล่ามไร้สาระเสียที!” เป่ยเสวียนหมิงคำรามอย่างโหดเหี้ยม แววตาของเขาแดงฉานราวกับเปลวเพลิงจะปะทุออกมา

สองคนนั้นเห็นเขาเป็นอากาศธาตุรึไง?

“ก็เห็นเจ้าไม่ลงมือเสียที ข้าก็เลยหาอะไรคุยฆ่าเวลา” หลิงฮันเผยรอยยิ้ม “เข้ามาสิ เจ้าจะยังมัวยืนโง่อะไรอยู่? รีบๆเริ่มจะได้รีบๆจบ”

“ช่างอวดดีนัก!” เป่ยเสวียนหมิงลงมือ ‘พรึบ’ ดวงตาสองข้างของเขาปลดปล่อยออร่าอันเย็นยะเยือกออกมา และควบแน่นรวมกันกลายเป็นดาบน้ำแข็งสองเล่มพุ่งทะลวงเข้าใส่หลิงฮันอย่างรุนแรง