ตอนที่ 1215: กวาดล้างนิกายใต้พิภพ (1)

เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god)

ตอนที่ 1215: กวาดล้างนิกายใต้พิภพ (1)

ในตอนที่ทวีปสัตว์เทวะบุกรุกเข้ามาในทวีปเทียนหยวนครั้งใหญ่เพราะเรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะ พวกเขาก็ถูกขัดขวางเอาไว้จากจอมยุทธของทวีปเทียนหยวนก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงกันได้ ดังนั้นจอมยุทธทั้งหมดจึงอยู่บนเกาะชั่วคราว หลังจากนั้น หยุนเทียนก็ออกไปจากสมาคมและทวีปพร้อมกับเรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะ เพื่อต้องการที่จะหาจอมยุทธคนอื่นและบอกว่าพยัคฆ์ปีกเทวะนั้นอยู่กับเจี้ยนเฉินเพื่อสร้างปัญหาให้กับเจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตาม หยุนเทียนนั้นเหนื่อยล้าจากการบินมาหลายวัน ในตอนที่เขากำลังจะจมน้ำ สัตว์อสูรก็ผ่านมาพอดี สัตว์อสูรคว้าเขาเอาไว้และพาไปที่เกาะ

หลังจากที่รู้เรื่องพยัคฆ์ปีกเทวะจากหยุนเทียนแล้ว จอมยุทธของทวีปสัตว์เทวะก็มาที่ทวีปเทียนหยวนอีกครั้ง ในขณะที่หยุนเทียนก็ออกจากเกาะไป หยุนเทียนไม่สามารถเดินทางกลับมาได้เรื่องจากเกาะห่างจากตัวทวีปมาก เขาไม่รู้ว่าจะเดินทางไปในทิศทางไหน และเขาก็ไม่แข็งแกร่งพอที่จะเดินทางครั้งนี้ เขาจึงติดอยู่ที่นี่

ในตอนแรก หยุนเทียนนั้นยังคงปกติดี แต่หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็ทนไม่ได้และตกอยู่ในสภาพแบบนี้ในที่สุด

..

เจี้ยนเฉินนำรองหัวหน้านิกาย ผู้อาวุโสทั้งห้าและผู้พิทักษ์ทั้งสี่ออกไปแต่เช้าในวันถัดมา พวกเขามุ่งหน้าไปที่ซึ่งนิกายใต้พิภพตั้งอยู่ นูบิสก็ตามไปด้วยเช่นกัน

เจียงหวังได้พบตำแหน่งที่แน่นอนของนิกายใต้พิภพด้วยตัวของเขาเอง ดังนั้นเขาจึงทิ้งสัญลักษณ์เอาไว้ พวกเขามาถึงที่ซึ่งนิกายใต้พิภพตั้งอยู่ผ่านทางประตูมิติที่รองหัวหน้านิกายสร้างขึ้นมา

มันตั้งอยู่บนโลกสีเหลืองที่เต็มไปด้วยทรายสุดลูกหูลูกตา แสงแดดแผดเผาอยู่สูงในอากาศและเปล่งรัศมีออกมาด้วยความร้อนรุนแรงอาบพื้นโลก จนมันเหมือนคบเพลิงร้อน

เจี้ยนเฉิน นูบิส เจียงหวัง ผู้อาวุโสทั้งห้าและผู้พิทักษ์ทั้งสี่ทั้งหมดลอยอยู่กลางอากาศอย่างสบายสบาย พวกเขามองไปบนพื้นจากด้านบน สถาพอากาศที่เลวร้ายของทะเลทรายไม่เป็นผลกับพวกเขาเลย

“ท่านหัวหน้านิกาย เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้คนของนิกายใต้พิภพเห็นพวกเรา ข้าได้สร้างประตูมิติห่างออกมาพันกิโลเมตร มีเขตทรายดูดอยู่ด้านหน้า โถงศักดิ์สิทธิ์ของนิกายใต้โลกซ่อนอยู่ใต้ทรายดูดนั้น” เจียงหวังอธิบายให้เจี้ยนเฉินฟัง

เจี้ยนเฉินมองไปที่ด้านหน้าทันทีและพยักหน้าเล็กน้อย เขาพูด “พวกเราไปกันเถอะ ! ” หลังจากนั้น กลุ่มก็เดินทางออกไป

คนที่อ่อนแอที่สุดในกลุ่มคือผู้พิทักษ์ทั้งสี่ที่เป็นเป็นเซียนผู้คุมกฎวัฎจักรที่ห้า แต่พวกเขาทั้งหมดก็เข้าใจในมิติค่อนข้างลึกซึ้ง ดังนั้น พวกเขาจึงเคลื่อนไปได้เร็วมาก และเดินทางไปได้พันกิโลเมตรในเวลาน้อยกว่า 5 นาที

เจี้ยนเฉินขยายพลังแห่งการรรับรู้ของเขาออกไปยังพื้นดินทันทีในตอนที่เขามาถึงเหนือเขตของทรายดูด เขาพบโถงศักดิ์สิทธิ์ใหญ่ที่ตั้งอยู่เงียบ ๆ ใต้ทรายนั้น

สายตาของเจี้ยนเฉินเย็นชา ในฐานะที่เป็นหนึ่งในสององค์กรที่สังหารฮูหยินของลุงเซียวไปเมื่อหลายปีก่อน ศาลายามะก็ถูกเขาทำลายล้างไปแล้ว ทั้งหมดที่เหลืออยู่มีเพียงนิกายใต้พิภพเท่านั้น

เจี้ยนเฉินไม่ลังเล จิตสังหารที่ทรงพลังพุ่งพวยออกมาจากร่างของเขาไปรอบ ๆ ในขณะที่ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็ปรากฎขึ้นบนมือของเขา หมอกดำลอยอยู่รอบอาวุธของเขา ทำให้มันเปล่งพลังแห่งการทำลายล้างรุนแรงออกมา

เจียงหวังและผู้อาวุโสทั้งห้าสั่นอยู่ข้างใน จิตสังหารของเจี้ยนเฉินนั้นเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาสั่นไปด้วยความกลัว และทำให้เขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินในที่สุด พวกเขาทั้งหมดถอนหายใจ ข่าวลือนั้นเป็นความจริง ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉิน แต่พวกเขาก็ได้รู้มาจากข่าวลือของทวีปเทียนหยวน ไม่มีใครรู้ว่าข่าวลือนั้นจริงเท็จมากเพียงใด

เจี้ยนเฉินเหวี่ยงกระบี่และปราณกระบี่สีดำขนาดหนาเท่าแขนก็พุ่งผ่านอากาศไปเหมือนสายฟ้า มันหายเข้าไปในทรายดูดด้านล่างในทันที

ปราณกระบี่มีความยิ่งใหญ่เท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 มันพุ่งลงไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ด้านล่างลงไป 100 เมตร แม้ว่ามันจะไม่ใกล้เคียงที่จะทำลายโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้มันสั่นไหว

โถงศักดิ์สิทธิ์สั่นอย่างรุนแรงและทำให้ทุกคนด้านในรู้ตัว ในตอนต่อมา ร่างสีดำก็พุ่งออกมาจากมันอย่างเร็ว พร้อมทั้งพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลัง มันเผชิญหน้ากับกลุ่มของเจี้ยนเฉิน

คนผู้นั้นอยู่ในชุดดำ ร่างของคนคนนี้ถูกปิดบังเอาไว้จนหมด ทำให้มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกว่านี่คือหญิงหรือชาย ร่างนั้นมีพลังแห่งการมีอยู่ของเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5

“เจ้าเป็นใครกัน ? ทำไมเจ้าถึงมาหาเรื่องนิกายใต้พิภพ ! ” คนที่อยู่ในชุดคลุมถามด้วยเสียงแหบห้าวหนักแน่นอีก ครั้ง ทำให้ไม่สามารถบอกเพศคนผู้นี้ได้

“ฮ่าฮ่าฮ่า เหลาฉี ความจำของเจ้าแย่ขนาดนั้นเลยหรือ ? มันเพิ่งผ่านมาแค่พันปีเอง แต่เจ้ากลับลืมสหายเก่าของเจ้าไปแล้ว” เจียงหวังเหยียดออกมา

“เจ้าน่ะเอง เจียงหวัง พวกเจ้าทั้งหมดเป็นคนของนิกายดาบโลหิต ! ” เสียงของคนที่อยู่ในชุดคลุมเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เขาพูดต่อ “ไม่ใช่ว่านิกายดาบโลหิตถอนตัวออกไปจากทวีปและจะไม่วุ่นวายเกี่ยวกับเรื่องของทวีปอีกแล้วอย่างนั้นหรือ ? ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าพวกเจ้ามากันทำไมมากมายนักเช่นนี้ ? ”

“เหลาฉี นี่เป็นหัวหน้านิกายคนใหม่ของนิกายดาบโลหิต ด้วยคำสั่งของหัวหน้านิกาย พวกเราก็ได้กลับมา และพวกหัวหน้านิกายใต้พิภพก็จะสังเวยให้กับการกลับมาของพวกเรา” เจียงหวังหัวเราะ

“หืม เจ้ายังไม่มีสิทธิ์ที่จะทำลายนิกายใต้พิภพของข้าได้หรอก” ร่างที่อยู่ในชุดคลุมเหยียดออกมา เสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

“มันยังไม่ใช่เรื่องที่เจ้าจะตัดสินใจได้ว่าข้ามีสิทธิ์หรือไม่” เจี้ยนเฉินตอบกลับอย่างเย็นชา เขาก้าวออกไปและไปถึงยังร่างที่อยู่ในชุดคลุมทันที เขาแทงยุทธภัณฑ์จักรพรรดิไปที่หัวของคนผู้นั้น

ร่างที่อยู่ในชุดคลุมตกใจในใจเมื่อสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งของการโจมตีของเจี้ยนเฉิน อย่างไรก็ตามร่างนั้นก็ไม่ได้เคลื่อนไหวช้าเลย พลังงานเซียนธาตุความมืดมหาศาลไหลออกมาจากฝ่ามือของเขา และควบแน่นกันกลายเป็นกริชเล็กสีดำทันที ร่างนั้นไม่ได้ถอยและหลบกระบี่ของเจี้ยนเฉิน ในขณะที่กริชก็พุ่งออกไปเหมืออสรพิษที่ไร้เสียงและแทงไปที่หว่างคิ้วของเจี้ยนเฉินเหมือนแสงสีดำ

มุมปากของเจี้ยนเฉินบิดเบี้ยวไปด้วยความเย้ยหยัน เขาบิดข้อมือและเปลี่ยนทิศทางของกระบี่ออกไปจากหัวของร่างนั้น ถ้าการโจมตีครั้งแรกของเจียนมีความเร็วที่ไม่มีอะไรพิเศษ การโจมตีครั้งที่สองนั้นก็เร็วอย่างน่าเหลือเชื่อมาก รอยแตกสีดำเกิดขึ้นทุกที่ที่กระบี่กวาดผ่านไป

ร่างที่อยู่ในชุดคลุมตกตะลึงในใจ การโจมตีของเจี้ยนเฉินนั้นเร็วเกินไป เร็วเกินกว่าเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ร่างนั้นเกือบตั้งรับไม่ทัน มันสายไปแล้วที่จะหลบ ดังนั้นเมื่อไม่มีทางเลือกอื่น ร่างนั้นจึงเอากริชขึ้นมาเพื่อกันยุทธภัณฑ์จักรพรรดิ

เสียงระเบิดดังขึ้นในตอนที่อาวุธทั้งสองปะทะกัน คลื่นพลังงานที่ทรงพลังกระจายออกไปโดยที่มีทั้งสองเป็นศูนย์กลาง และเป็นคลื่นทำลายล้างไปทุกทิศทาง การโจมตีของเจี้ยนเฉินมีความแข็งแกร่งเท่ากับเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 7 ดังนั้นร่างที่อยู่ในชุดคลุมจะป้องกันได้อย่างไร ? ร่างนั้นถูกส่งลอยถอยไปอย่างรวดเร็ว

“ความแข็งแกร่งของหัวหน้านิกายใหม่นั้นทรงพลังมาก เขาอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 7 ไม่มีใครในนิกายที่เป็นคู่มือของเขาได้นอกจากหัวหน้านิกายคนก่อนที่กำลังเก็บตัวฝึกฝนอยู่เท่านั้น” ชายในชุดคลุมตื่นตระหนกในใจ เขาละทิ้งการต่อสู้ทันทีและพุ่งไปที่พื้นอย่างรวดเร็ว ตราบใดที่ร่างนั้นกลับเข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาก็จะไร้เทียมทาน

อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกเย็นไปถึงกระดูกก็ปะทะเข้าที่ร่างนั้นในตอนที่ร่างเคลื่อนไหว เจี้ยนเฉินไปถึงที่ข้าง ๆ ของร่างนั้นเหมือนภูตผี ในขณะที่แสงสีดำบนยุทธภัณฑ์จักรพรรดิก็ส่องสว่างออกมา เขาแทงออกไปอีกครั้งอย่างเร็ว ปลายของกระบี่อยู่ห่างน้อยกว่าสามนิ้วจากหน้าผากของคนผู้นั้น ร่างนั้นรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เสียแทงจากวิญญาณของเขาในระยะที่ใกล้ขนาดนี้ มันเหมือนว่าวิญญาณของเขากำลังจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ

ร่างในชุดคลุมหน้าซีดไปด้วยความกลัว นอกเหนือจากฮุสตันเมื่อพันปีก่อน นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเฉียดตายขานดนี้

ในวินาทีเป็นตายนี้ คนคนนั้นก็พ่นหมอกสีดำหนาออกมาจากปาก “ทักษะความมืด ร่างแยกติดตา!”

ยุทธภัณฑ์จักรพรรดิแทงไปที่หัวของคนผู้นั้นทันทีที่ร่างนั้นคำรามออกมา อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้ยินดีและเขาก็ขมวดคิ้วแทน กระบี่ของเขาพลาดเป้าไป

ปัง !

ทันทีที่เจี้ยนเฉินคิด ร่างสีดำก็ระเบิดออกมาเสียงดัง มันเปลี่ยนเป็นหมอกสีดำหนา และขยายไปห้อมล้อม

เจี้ยนเฉินอย่างรวดเร็ว

หมอกนี้ไม่ใช่หมอกธรรมดา แต่มันเกิดมาจากพลังเซียนธาตุมืด แม้แต่สายตาของเจี้ยนเฉินก็ยังถูกจำกัดด้วยหมอกนี้

ทันใดนั้นเอง กริชสีดำเล็กก็ปรากฏขึ้นมาเงียบ ๆ ด้านหลังเขา กริชได้ผสมกลมกลืนกับหมอกอย่างสมบูรณ์ ดังนั้นมันจึงยากมากที่จะสัมผัสถึงมันได้ไม่ว่าการรับรู้ของเจี้ยนเฉินนั้นจะเฉียบคมเพียงใด

อย่างไรก็ตาม เจี้ยนเฉินก็หันกลับไปทันทีในตอนที่กริชกำลังจะแทงมาที่เขา เขาเหวี่ยงยุทธภัณฑ์จักรพรรดิออกไปอย่างไม่ลังเล และพลังบรรพกาลบนอาวุธก็ทะลุผ่านมิติไป การโจมตีนั้นทรงพลังมาก เพียงพอที่จะมีผลกระทบไปในมิติรอบ ๆ ร้อยเมตร ทำให้มิติกระเพื่อมอย่างรุนแรง

“อ้าก ! ”

เสียงร้องเจ็บปวดดังขึ้นมา เลือดที่ชุ่มเลือดพร้อมกริชตกลงมาจากท้องฟ้า ก่อนที่มันจะโจมตีอย่างเอาตายไปที่เจี้ยนเฉินได้ ไม่เพียงแต่คนที่อยู่ในชุดคลุมจะพลาดในการลอบสังหารเจี้ยนเฉินเท่านั้น ร่างนั้นยังเสียแขนไปอีกด้วย

หมอกค่อย ๆ จางหายไปช้า ๆ และเจี้ยนเฉินก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน อย่างไรก็ตาม ร่างในชุดคลุมก็หายไปแล้ว

รองหัวหน้านิกายและผู้อาวุโสทั้งห้าอดไม่ได้ที่จะรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินนั้นปลอดภัยดี แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเจี้ยนเฉินนั้นทรงพลังมาก แต่คู่ต่อสู้ในครั้งนี้เป็นถึงจอมยุทธของนิกายใต้พิภพซึ่งเชี่ยวชาญในการลอบสังหาร มีความเสี่ยงที่จะตายได้ถ้าประมาทเพียงเล็กน้อย

“หัวหน้านิกาย ท่านเป็นอะไรหรือไม่ ? เหลาฉีไปไหนแล้ว ? ” เจียงหวังมาถึงข้าง ๆ เจี้ยนเฉินและถามไถ่

เจี้ยนเฉินสงบและใจเย็น เขาส่ายหน้าเบา ๆ “เขายังไม่ถึงระดับที่จะทำอันตรายข้าได้ แต่เขาหนีไปเร็วมาก หลังจากที่ตัดแขนของเขาไปแล้ว เขาก็หนีเข้าไปในทรายเพื่อไปยังโถงศักดิ์สิทธิ์ทันที”

เจี้ยนเฉินทำเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เจียงหวังและผู้อาวุโสทั้งห้าทั้งหมดนิ่งอึ้งไป เซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 5 ของนิกายใต้พิภพที่เชี่ยวชาญในการลอบสังหารยังไม่สามารถที่จะทำอันตรายให้กับเขาได้ นี่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเขาอีกครั้ง

ในตอนนี้ เจียงหวังและผู้อาวุโสทั้งห้าทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันในใจแล้วว่า เจี้ยนเฉินนั้นทรงพลังกว่าในข่าวลือเสียอีก