ตอนที่ 1376 ความแข็งแกร่งของเสี่ยวไป๋

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

คนอื่นต่างก็ประหลาดใจมาก กิ่งไม้สีดำนั่นคือกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เหรอ ตาฝาดไปแล้วหรือไม่

แต่ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่ การที่มู่เฉียนซีไปแย่งชิงเช่นนี้ มันต้องไม่ใช่ของที่ไร้ประโยชน์เป็นแน่ ดังนั้นทุกคนต่างแห่กันไปที่มู่เฉียนซีราวกับสายน้ำหลาก

“บัดซบ!” สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมขึ้น ไป๋อู๋ห่ายนำพาความวุ่นวายใหญ่หลวงมาให้นางแล้ว

นางยังไม่ทันได้เก็บฝักกระบี่ไว้ในมิติเลย ฝักกระบี่ก็สั่นไหวและเคลื่อนตัวกลับไปที่เดิมของมันแล้ว

มู่เฉียนซีตกใจชะงักงัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น

หรือว่าฝักกระบี่จะไม่ยอมรับเจ้านายอย่างนาง ว่ากันตามหลักแล้วฝักกระบี่กับเจ้าพิฆาตวิญญาณแตกต่างกันมาก

มังกรเพลิงอธิบายว่า “นายท่าน ไม่ใช่อย่างนั้นขอรับ! เสี้ยวเสี้ยวบอกว่าที่นี่ปิดผนึกสัตว์ร้ายตัวหนึ่งไว้ หากมันออกไป ที่แห่งนี้ก็จะไม่มีสิ่งใดยับยั้งเจ้าสัตว์ร้ายนั่น เมื่อถึงตอนนั้นนายท่านจะเป็นอันตรายได้ขอรับ”

“ดังนั้น มันจึงกลับไปแล้ว! ฮือ ๆ ๆ! เสี้ยวเสี้ยวผู้น่าสงสาร ได้เจอนายท่านแล้วแท้ ๆ แต่ไม่อาจอยู่กับนายท่านได้ เสี้ยวเสี้ยวชอบนายท่านมาก!”

มังกรเพลิงสะอึกสะอื้นพลางกล่าวอย่างน่าสงสาร

ส่วนคนอื่น ๆ ก็ได้เห็นว่ามันมีวิญญาณอยู่ด้วย แถมยังหนีได้อีก!

ทันใดนั้นพวกเขาก็ตื่นเต้นขึ้นแล้ว “บางที นั่นอาจจะเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ของจริงก็ได้!”

“ต้องเป็นกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แฝงตัวอยู่เป็นแน่!”

“สาวน้อยมู่เฉียนซีนั่นไม่สามารถทำให้กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ยอมรับเป็นนายได้ โอกาสของพวกเรามาถึงแล้ว!”

ฝักกระบี่ไม่ยอมไป นางก็ไม่มีทางยอมให้คนพวกนี้บังคับเอาฝักกระบี่ไปได้แน่นอน

“มังกรเพลิงสังหาร!”

“บัวแดงพิฆาต”

มังกรทรงพลัง และบัวอัคคีสีแดงฉานพุ่งออกมา มู่เฉียนซีตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่ว่าใครหน้าไหนก็อย่าได้เข้ามาใกล้เด็ดขาด!”

“มู่เฉียนซี กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ไม่ยอมรับเจ้าเป็นนาย เจ้าฝืนต่อไปมันก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี!”

“ใช่! เจ้าหลอกลวงพวกข้ามานานมากแล้ว ที่แท้กระบี่ของเจ้าเล่มนั้นมันก็ไม่ใช่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์”

“ในเมื่อเจ้าไม่มีโอกาสได้เป็นเจ้านายของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ งั้นเจ้าก็ถอยไปและมอบโอกาสนี้ให้พวกข้าซะเถอะ!”

มังกรเพลิงโกรธเกรี้ยวมาก “ข้าโกรธแล้วนะ ข้าโกรธจริง ๆ แล้วนะ เจ้าพวกโง่พวกนี้พูดบ้าอะไร ข้ายอมรับนายท่านเป็นเจ้านายแล้ว นายท่านจะไม่ใช่เจ้านายของข้าได้ยังไง!”

มู่เฉียนซีกล่าว “มังกรเพลิง เปลี่ยนความโกรธเป็นพลัง ให้บทเรียนแก่คนพวกนี้สักหน่อยเถอะ!”

มังกรเพลิงกล่าว “ได้เลย!”

พลังธาตุอัคคีของมังกรเพลิงปะทุออกมาทำให้คนพวกนั้นรู้สึกตกตะลึงไม่น้อย นึกไม่ถึงเลยว่ากระบี่ที่มีพลังธาตุอัคคีที่แข็งแกร่งเช่นนี้จะไม่ใช่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์

อู๋ตี้ก็เข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้แล้ว

ในตอนนี้เอง กลิ่นอายมืดมนกลิ่นอายหนึ่งพุ่งเข้ามาใกล้มู่เฉียนซีอย่างรวดเร็ว

กลิ่นอายนั้นก็คือคนชุดดำที่อยู่กับไป๋อู๋ห่ายผู้นั้นนั่นเอง เขาโจมตีมู่เฉียนซีด้วยพลังฝ่ามือที่ดูร้ายกาจอย่างยิ่ง

มู่เฉียนซีตะโกนขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “บัวแดงพิฆาต!”

บัวอัคคีสีแดงฉานกับพลังของคนชุดดำปะทะกันอย่างรุนแรง การปะทะนี้ทำให้ทั้งสองต่างกระเด็นลอยออกไป

“รีบไปแย่งชิงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์มาเร็วเข้า!”

ในขณะที่มู่เฉียนซีกำลังพัลวันอยู่กับคนชุดดำนั้น ก็มีคนพุ่งไปที่ฝักกระบี่

เพื่อแย่งชิงฝักกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ พวกเขาต่อสู้กันอย่างไม่อาจแยกออกจากกันได้

คนเหล่านี้มองไปที่ฝักกระบี่ด้วยสายตาที่เร่าร้อนแผดเผา นี่มันเป็นถึงกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์เชียวนะ

มู่เฉียนซีถูกคนชุดดำพัวพันอย่างไม่อาจสลัดหลุดได้ นางรู้สึกเป็นห่วงฝักกระบี่มาก

มังกรเพลิงกล่าว “นายท่าน เราพยายามต่อสู้ให้เต็มกำลังก็พอแล้ว ถึงแม้ว่าเสี้ยวเสี้ยวจะไม่มีกำลังในการต่อสู้ แต่กำลังในการป้องกันตัวเองนั้นแข็งแกร่งมาก หากมันไม่ยอมให้คนพวกนั้นเอามันไปได้ คนพวกนั้นก็ไม่อาจแตะต้องมันได้แน่นอน”

มู่เฉียนซีกล่าว “เป็นเช่นนั้นก็ดี งั้นเรามาสนุกกับคนพวกนี้ให้เต็มที่กันเถอะ!”

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! เข็มยาของมู่เฉียนซีพุ่งออกไปแล้ว

คนชุดดำรีบหลบหลีก ร่างของทั้งสองพัวพันกันไปมา และต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่าแล้ว

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ดูท่า เจ้าจะได้รับบาดเจ็บจากแดนลวงตามาไม่น้อย พลังก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก”

คนชุดดำกล่าวอย่างชั่วร้ายว่า “แม้ว่าข้าจะบาดเจ็บสาหัส แต่สำหรับข้าแล้ว เจ้ามันก็เป็นเพียงแค่มดปลวกตัวหนึ่งเท่านั้น ข้านึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าองค์ชายจิ่วเยี่ยจะชอบหญิงสาวที่เปรียบดั่งมดปลวกเช่นเจ้าได้”

“เจ้ามันรนหาที่ตายชัด ๆ!”

มู่เฉียนซีกระโจนขึ้นไปกลางอากาศ พลังวิญญาณได้ก่อตัวขึ้นกลางฝ่ามือนางอย่างบ้าคลั่ง

“ทักษะโยวหลัว!”

ทักษะวิญญาณที่เต็มไปด้วยพลังการทำลายล้างโจมตีออกไป พลังสีดำขวางการโจมตีของมู่เฉยนซีเอาไว้ได้

เสียง ตูม! ดังสนั่นขึ้น พลังของมู่เฉียนซีหายไปแล้ว

เขากล่าว “ทักษะวิญญาณยอดเยี่ยมมาก แต่ต้องรอให้พลังของเจ้าถึงขั้นมหาจักรพรรดิแห่งภูตก่อนแล้วค่อยมาว่ากัน ตอนนี้พลังของเจ้า ไม่ไหวจริง ๆ!”

ครั้งนี้ คนชุดดำลงมืออย่างจริงจังแล้ว!

คนชุดดำไล่โจมตีมู่เฉียนซีอย่างโหดเหี้ยม และในตอนนี้ร่างในชุดขาวก็ถูกโจมตีจนร่วงลงมาจากกลางอากาศ

พรวด! ไป๋อู๋ห่ายกระอักเลือดคำโตออกมา เนื้อตัวมีบาดแผลถูกกระบี่ฟันนับไม่ถ้วน

ตอนที่อยู่ในแดนลวงตาเขาถูกหุ่นเชิดเพลิงสีทองเหล่านั้นโจมตีได้รับบาดเจ็บไม่น้อย ตอนนี้ต้องมารับมือกับกู้ไป๋อีผู้ที่แข็งแกร่งกว่าเขาเช่นนี้อีก ผ่านไปสิบกว่ากระบวนท่า เขาก็ได้พ่ายแพ้ลงแล้ว!

กู้ไป๋อีโจมตีไป๋อู๋ห่ายจนร่วงลงมา และเขาก็หันไปเห็นมู่เฉียนซีกำลังถูกคนชุดดำล้อมโจมตีอยู่

ทันทีที่ปลายกระบี่เคลื่อนไหว กลางอากาศก็ปรากฏวงจันทร์ขึ้นเจ็ดวง!

วงจันทร์ทั้งเจ็ดดุจดั่งบัวน้ำแข็งดอกหนึ่งที่บานสะพรั่งก็มิปาน ภายในชั่วพริบตาเดียวกลีบดอกบัวอันแหลมคมอีกทั้งยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารพุ่งตรงไปที่คนชุดดำผู้นั้นอย่างรวดเร็ว

ความเร็วของกระบี่ทั้งเจ็ดเร็วมากจนทำให้คนชุดดำผู้นี้ตั้งตัวไม่ทันจริง ๆ

และในขณะที่เขาถูกกระบี่ห้อมล้อมจนไร้หนทางหนี เขาก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ ก่อนจะตกตะลึงปากอ้าตาค้างด้วยความตกใจ!

หนีเหรอ! เขายังมีโอกาสหนีได้เหรอ?

ไร้หนทางแล้ว!

พรวด! กระบี่ทั้งเจ็ดพุ่งแทงเข้าร่างของเขา!

ฉึก! เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็นออกมา ภายในเวลาเพียงชั่วพริบตาเดียวลมหายใจแห่งชีวิตของเขาก็ถูกปลิดไปเสียแล้ว!

มู่เฉียนซีเองก็ตกใจมาก เสี่ยวไป๋โจมตีด้วยพลังกระบี่เจ็ดเล่มพร้อมกัน แข็งแกร่งยิ่งนัก

คนชุดดำที่ถูกฆ่าตายนั้นยังไม่ยอมแพ้ แม้ว่าร่างกายของเขาถูกทำลายไปแล้ว แต่วิญญาณของเขายังไม่ถูกทำลาย

อย่างไรเสีย เขาก็เป็นคนของแดนนรก

ไม่นานนัก เขาก็ใช้พลังจิตโจมตีไปที่มู่เฉียนซี

การโจมตีเพียงเล็กน้อยนี้สำหรับมู่เฉียนซีนั้นเป็นเพียงแค่หยาดฝนที่ตกลงมากระทบขนแขนก็เท่านั้น มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าวว่า “ดูท่าทำลายแค่ร่างของเจ้า เจ้ายังคงไม่พอใจ อยากจะให้ข้าทำลายวิญญาณของเจ้าด้วยใช่หรือไม่!”

บดขยี้! ต้องบดขยี้! เอาวิญญาณของเขามาบดขยี้อย่าให้เหลือซาก

อ๊า!

ชายชุดดำผู้นั้นส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาทันที

“เป็นไปได้ยังไง เหตุใดพลังจิตของเจ้าถึงได้แข็งแกร่งเพียงนี้!”

มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “รออีกไม่นานข้าจะส่งท่านหมิงจีของเจ้าไปอยู่เป็นเพื่อนเจ้า เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าก็ค่อยถามนางก็แล้วกันนะ!”

กู้ไป๋อีเคลื่อนตัวไปอยู่ข้างกายมู่เฉียนซี และกล่าวว่า “ซีเอ๋อร์ เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม!”

มู่เฉียนซีส่ายหน้าพลางกล่าว “ข้าไม่เป็นไร! แต่เสี่ยวไป๋ เจตจำนงกระบี่ของเจ้าแข็งแกร่งมาก แข็งแกร่งมากจริง ๆ!”

กู้ไป๋อีตอบกลับ “ตอนที่เข้าไปในแดนลวงตาพบเจอกับอันตรายเข้า ข้าจึงตระหนักถึงเจตจำนงที่แข็งแกร่งขึ้นของกระบี่ได้ ก็นับว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายกระมัง!”

ตุบ! กล่าวจบ ร่างของกู้ไป๋อีก็ล้มลงไปตรงหน้ามู่เฉียนซี

มู่เฉียนซีรีบเข้าไปพยุงตัวเขา “เสี่ยวไป๋!”

ไป๋อู๋ห่ายถูกหุ่นเชิดเพลิงสีทองไล่ฆ่าได้รับบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น แต่เสี่ยวไป๋ไม่ใช่ เสี่ยวไป๋ได้รับบาดเจ็บทั้งภายในและภายนอก ที่สำคัญอาการก็สาหัสมากด้วย

แต่ถึงกระนั้น เขาก็ยังอดทนจนกระทั่งเอาชนะไป๋อู๋ห่ายได้ แถมยังใช้กระบวนท่ากระบี่ที่แข็งแกร่งเช่นนั้นอีก

หลังจากที่มู่เฉียนซีตรวจดูอาการของกู้ไป๋อีเสร็จ นางไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเสี่ยวไป๋ผ่านความอันตรายมามากเพียงใดในแดนลวงตานั้น “เจ้าสิงโตทองลวงตาบัดซบ! ข้าอยากจะสับเนื้อเจ้าให้ไป๋อู๋ห่ายกินจริง ๆ!”

.

.