ตอนที่ 2285 ฆ่าสังหาร

Unrivaled Medicine God – จอมเทพโอสถ

แดนกลาง ยอดเมืองหลวงจักรพรรดิตะวันธารา!

ภายในวังใต้ดินมีชายชุดขาวกำลังนั่งเล่นอยู่กับนางบำเรอสองคน

ในเวลานี้มันได้มีลูกน้องของเขาผู้หนึ่งวิ่งเข้ามารายงานด้วยหน้าตาตื่น “ท่านผู้นำสาขา กระดานวิญญาณของเหล่าเทพสวรรค์ที่ตามติดไป่หลี่ชิงหยานไปนั้นแตกสลายลงสิ้น พวกเขาตายลงหมดทุกผู้คน!”

“หะ? เทพสวรรค์เก้าดาวถึงห้าคนตามล่าเทพสวรรค์แปดดาวคนเดียวแต่กลับเป็นฝ่ายตายลงสิ้น? นางไปเก่งกาจปานนั้นได้ตั้งแต่เมื่อใดกัน?” ชายชุดขาวนั้นร้องถามขึ้นมา

ลูกน้องผู้นั้นเองก็ไม่รู้ต้องตอบอย่างไร “เรื่องนั้น… ข้าน้อยก็ไม่ทราบ”

ชายชุดขาวเองก็นั่งเงียบไปพักใหญ่ก่อนจะสั่งออกมา “ไปเอากระดานวิญญาณของนางมา! ดูท่าจักรพรรดิผู้นี้จะต้องลงมือเองเสียแล้ว! ชิๆ นางเด็กคนนี้มันดื้อด้านจริงๆ ยอมตายดีกว่ายอมก้มหัวให้จักรพรรดิผู้นี้! ข้าล่ะอยากรู้เสียจริงๆ ว่ามันจะไปซ่อนตัวที่ใดได้?”

ไม่นานนักลูกน้องผู้นั้นก็ได้นำเอากระดานวิญญาณของไป่หลี่ชิงหยานออกมา

ชายชุดขาวนั้นมองดูกระดานวิญญาณนั้นด้วยใบหน้าเย้ยหยัน

เขาส่งจิตศักดิ์สิทธิ์ของตนลงไปค้นหาดูจนต้องขมวดคิ้วแน่น

ชายชุดขาวนั้นกล่าวขึ้นมาด้วยท่าทางมึนงง “เดี๋ยวนะ ทำไมข้าถึงสัมผัสได้ว่ามันอยู่ไม่ไกลไปนี้?”

“เจ้าสัมผัสไม่ผิดหรอก นางอยู่ที่นี่จริง”

เวลาเดียวกันนั้นเองมันก็มีเสียงหนึ่งร้องกล่าวขึ้นมาจากความว่างเปล่า

จากนั้นมันก็ปรากฏสามเงาร่างค่อยๆ ก้าวเดินออกมาจากความมืด

หนึ่งในนั้นย่อมเป็นไป่หลี่ชิงหยานแล้ว

ในหมู่คนทั้งสามนี้ชายแก่ที่เดินตามหลังมานั้นให้ความรู้สึกอันตรายมากที่สุด

ช่างเป็นคลื่นพลังที่รุนแรง!

ตัวชายชุดขาวนี้ไม่ลังเลใดๆ รีบยกเท้าขึ้นกระทืบลงพื้นจนทำให้ห้วงมิติสั่นสะเทือน!

พร้อมๆ กันนั้นร่างของเขาก็ได้จางหายไปเหลือไว้แค่เงาเลือนลาง

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงหรี่ตาลงกล่าวขึ้นทันที “ศาสตร์เร้นลับ! ไม่ดีแล้ว มันคิดหนี!”

“หยุด!”

แต่ทว่าเสียงของเขายังไม่ทันจางหายดีเย่หยวนก็ได้กล่าวคำพูดนี้ออกมา

มิติรอบข้างทั้งหลายนั้นถูกหยุดลงในทันที!

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงต้องเบิกตากว้างมองดูเย่หยวนอย่างตกตะลึง “ค-คำบัญชาเต๋าสวรรค์! เจ้า… เจ้าจะมีไม้ตายอีกสักกี่อย่างกัน?”

เย่หยวนตอบกลับมา “ไม่ต้องกังวลไป เดี๋ยวท่านจะได้เห็นมันเรื่อยๆ เอง”

พูดจบเขาก็เดินเข้าไปชี้นิ้วลงยังความว่างเปล่าก่อนจะปรากฏร่างของชายชุดขาวนั้นในสภาพอ่อนแรงไม่อาจต่อสู้ใดๆ

ชายชุดขาวผู้นี้มันเป็นแค่จักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาว สำหรับเย่หยวนแล้วการฆ่าสังหารเขานั้นมันย่อมง่ายดายลำบากแค่พลิกฝ่ามือ

เย่หยวนลากคอของเขาขึ้นและโยนร่างนั้นไปตรงหน้าไป่หลี่ชิงหยาน “เจ้าจัดการมันเองเถอะ”

ไป่หลี่ชิงหยานมองดูที่จักรพรรดิเทพสวรรค์ผู้เก่งกาจนี้ แม้แต่ตัวเขาก็ยังไม่อาจต่อต้านเย่หยวนได้แม้แต่น้อย นางได้แต่ต้องมองดูด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันสุดใจ

เย่หยวนในเวลานี้แข็งแกร่งจนเกินไป!

ไป่หลี่ชิงหยานมองดูที่ชายคนนั้นก่อนจะกล่าวขึ้น “รุ่ยฉิน เจ้าคงไม่คิดว่าจะได้มีวันนี้ใช่หรือไม่?”

รุ่ยฉินหน้าถอดสีร้องตะโกนขึ้นมา “ไป่หลี่ชิงหยาน เจ้าอย่าได้ลืมไปว่าเจ้ายังคำสาปวิญญาณมรณาอยู่ในร่าง! หากเจ้าคิดทรยศประตูวิญญาณมรณาแล้วเจ้าจะได้ตายอย่างไรที่กลบฝัง!”

ไป่หลี่ชิงหยานกล่าวขึ้นด้วยใบหน้าเย้ยหยัน “น่าเสียดายที่คำสาปวิญญาณมรณาของข้ามันถูกแก้ไขลงแล้ว!”

รุ่ยฉินนั้นหัวเราะลั่นขึ้นมา “ฮ่าๆๆ… คำสาปวิญญาณมรณานั้นมันเป็นสิ่งที่แม้แต่เหล่าจักรพรรดิเทพสวรรค์ยังไม่อาจแก้ไขได้ เจ้าคิดว่าตนเองจะมีปัญญาทำมัน?”

“ข้าย่อมไร้ซึ่งปัญญาใดๆ จะแก้ไขมัน แต่เขานั้นมีปัญญาพอ!” ไป่หลี่ชิงหยานชี้ไปทางเย่หยวน

รุ่ยฉินยังไม่คิดเชื่อใดๆ “คำสาปวิญญาณมรณานั้นคือวิชาคำสาปลับของประตูวิญญาณมรณาที่แม้แต่จักรพรรดิเทพสวรรค์เก้าดาวก็ยังไม่อาจแก้ไข! เจ้าคิดว่าแค่มันนี้ จักรพรรดิเทพสวรรค์หนึ่งดาวผู้หนึ่งก็สามารถแก้มันออกได้หรือ? ไป่หลี่ชิงหยานเจ้าคิดว่าจักรพรรดิผู้นี้โง่มากหรือ?”

แต่ไป่หลี่ชิงหยานกลับกล่าวขึ้น “เจ้าน่าจะเคยได้ยินนามของเขานะ รองมหาปราชญ์แห่งวิหารนักบวช!”

ครั้งนี้มันกลับเป็นฝ่ายรุ่ยฉินที่หน้าถอดสี

เขาได้แต่ต้องหันหน้ากลับไปมองดูที่เย่หยวนด้วยความหวาดกลัว

“เจ้า… เจ้าคือรองมหาปราชญ์เย่หยวน! เป็นไปได้อย่างไร! มันเป็นไปได้อย่างไรกัน! ข้า… ข้าไม่ได้มีความแค้นใดกับเจ้า! ทำไมเจ้าถึงได้…”

ไม่นานมานี้เขาได้รับคำสั่งจากเบื้องบนมาว่าอย่าได้นำพาประตูวิญญาณมรณาไปท้าทายลบหลู่เย่หยวนผู้นี้

ใครจะไปคิดว่าแม้ไม่ได้คิดท้าทายหาเรื่องเย่หยวน แต่เย่หยวนคนนั้นกลับเป็นฝ่ายมาหาเรื่องตัวเขาเอง?

เย่หยวนมองดูที่ใบหน้าของรุ่ยฉินก่อนจะกล่าวขึ้น “เพราะว่านางนั้นคือสหายของข้า! ประตูวิญญาณมรณาของเจ้าจะอย่างไรมันก็สมควรตาย!”

เวลาสองพันปีที่ผ่านมานี้ไป่หลี่ชิงหยานได้ตกไปอยู่ในมือของเหล่าประตูวิญญาณมรณานี้เอง!

ในประตูวิญญาณมรณานั้นตัวไป่หลี่ชิงหยานได้รับการฝึกฝนให้เป็นนักฆ่าที่สุดแสนโหดเหี้ยม

นางนั้นต้องเดินฝ่ากองเลือดเหล่าราชันพระเจ้ามานับพันๆ หมื่นๆ ชีวิต

ที่นางก้าวขึ้นมาถึงอาณาจักรเทพสวรรค์ได้ทุกวันนี้มันก็เพราะว่าเลือดที่เปื้อนจนล้นมือนางนี้

สองพันปีมานี้ นางได้ผ่านห้วงความเป็นความตายมาอย่างนับครั้งไม่ถ้วน

หากมิใช่เพราะความคิดที่อยากเจอเย่หยวนนั้น นางคงหมดแรงที่จะใช้ชีวิตตายลงไปนานแสนนานแล้ว

แต่ก็เพราะว่าเรื่องเช่นนั้นที่ทำให้ไป่หลี่ชิงหยานได้กลายเป็นสาวงามนักฆ่าเลือดเย็น

มีเพียงวินาทีที่ได้พบเจอเย่หยวนเท่านั้นที่หัวใจที่แข็งกระด้างของนางมันเริ่มละลายลง

ไป่หลี่ชิงหยานนั้นถูกส่งให้มาทำงานที่สาขาตะวันธาราใต้บังคับบัญชาของรุ่ยฉิน

แต่เจ้าหมอนี่มันกลับสนใจในรูปร่างความงามของไป่หลี่ชิงหยาน

รุ่ยฉินนั้นคิดอยากใช้กำลังข่มใจนางแต่ไม่ได้รู้เลยว่าแท้จริงตัวไป่หลี่ชิงหยานเองก็เตรียมการที่จะหนีมานานแสนนาน

นางนั้นได้ใช้วิชาลับหลบหนีภัยร้ายในครั้งนั้นไป!

แต่จะอย่างไรตัวไป่หลี่ชิงหยานก็มีคำสาปวิญญาณมรณาติดตัวทำให้ไม่อาจหนีจากมือของรุ่ยฉินได้ง่ายๆ

หลายปีมานี้นางจึงต้องทนทรมานจากเจ้าคำสาปวิญญาณมรณานี้ทุกวี่วัน

แต่รุ่ยฉินนั้นชื่นชอบตัวไป่หลี่ชิงหยานมากและไม่ได้คิดฆ่าสังหารตัวนางทิ้ง เขาจึงได้ส่งลูกน้องออกมาตามล่าตัวไป่หลี่ชิงหยานแทน

ไป่หลี่ชิงหยานที่ไม่มีทางเลือกจึงได้แต่ต้องหนีขึ้นเขาแห่งถงเทียนไป

เพราะในที่แห่งนั้นจะการลอบฆ่าหรือวิวาทใดมันก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้

แต่นางก็ไม่นึกไม่ฝันว่าจะได้พบเจอเย่หยวนบนนั้นและจึงได้ตัดสินใจว่าจะเผชิญหน้ากับปัญหาของตัวเองเพื่อจะไปเจอตัวเขา

และก็เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นนี้เย่หยวนจึงได้คิดที่จะกำจัดประตูวิญญาณมรณาให้มันจบสิ้นกันไป

“มันเป็นไปได้อย่างไร? มันกลายเป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร! เจ้า… เจ้าสังหารข้าไม่ได้! หากเจ้าสังหารข้าลงแล้วประตูวิญญาณมรณาจะไม่ปล่อยพวกเจ้าไว้แน่!” รุ่ยฉินร้องลั่น

เย่หยวนยิ้มเย้ยขึ้นมา “พวกเจ้านั้นมันก็แค่ขี้ข้าพวกเผ่าเทวา ทั้งๆ ที่เป็นแค่ขี้ข้าแต่กลับไม่รู้ตัวเลย น่าสมเพชนัก! วางใจเถอะ ประตูวิญญาณมรณาของพวกเจ้าคงอยู่ได้อีกแค่ไม่กี่วันเท่านั้น”

ฟุบ!

เสียงดาบตัดผ่านอากาศ ไป่หลี่ชิงหยานนั้นชักดาบออกมาฟัน

ตัวรุ่ยฉินนั้นถูกเย่หยวนผนึกทะเลจิตศักดิ์สิทธิ์ไว้สิ้นทำให้ไม่อาจจะปกป้องตัวเองได้แม้แต่น้อย

ดาบนี้มันเฉียบคมและเด็ดขาดหมายชีวิต

แต่ในวินาทีนั้นเองเย่หยวนก็ได้ยื่นมืออกมาจับจิตศักดิ์สิทธิ์ของรุ่ยฉินไว้ในมือ

คลื่นพลังจิตอันหนักหน่วงมันเข้าปะทะกับจิตศักดิ์สิทธิ์ของรุ่ยฉินทันที

เย่หยวนคิดใช้การค้นวิญญาณ

ด้วยความที่เป็นถึงจักรพรรดิเทพสวรรค์ ตัวรุ่ยฉินย่อมจะรู้ความลับของประตูวิญญาณมรณาไม่น้อย

แต่ก่อนที่จะได้ทันค้นหาสิ่งใดมันก็เกิดคลื่นพลังงานสีดำสนิทพุ่งออกมาจากจิตศักดิ์สิทธิ์ของรุ่ยฉิน

นี่มันคือผนึกที่ถูกใส่ไว้ในจิตศักดิ์สิทธิ์ของรุ่ยฉิน หากมีใครคิดทำการค้นวิญญาณของเขาแล้วมันผู้นั้นจะถูกพลังนี้โจมตีจนสาหัส

เย่หยวนยิ้มออกมา “คิดเอาลูกไม้เช่นนี้มาเล่นกับข้ามันก็เหมือนสอนจระเข้ว่ายน้ำ!”

จิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนนั้นเปลี่ยนรูปกลายเป็นมือยักษ์จับเอาเจ้าผนึกสีดำนั้นไว้จนสิ้น

จากนั้นภายใต้ฝ่ามือยิ่งใหญ่นั้นเจ้าผนึกมันก็ถูกกดทำลายพลังลงจนสิ้น!

จักรพรรดิเทพสวรรค์เจิ้งหมิงได้แต่มองภาพตรงหน้าด้วยปากที่อ้าค้าง การต่อสู้ด้วยจิตศักดิ์สิทธิ์เช่นนี้มันเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างมาก

แต่เย่หยวนนั้นมีจิตศักดิ์สิทธิ์ที่น่ากลัวเสียยิ่งกว่าปราณเทวะของเขา มันอยู่ในระดับที่เก่งกาจอย่างไร้เหตุผลทำลายเจ้าผนึกสีดำนั้นลงและค้นวิญญาณต่อหน้าไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ

การปะทะเช่นนี้มันมิได้วัดกันแค่ที่ระดับพลังจิตแต่มันวัดกันถึงระดับความเข้าใจต่อจิตศักดิ์สิทธิ์ด้วย

และเต๋าจิตศักดิ์สิทธิ์ของเย่หยวนนั้นมันย่อมจะอยู่เหนือล้ำในระดับของความสมบูรณ์แบบไปแล้ว!

…………..