ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 968 ราชาวานร

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

เยี่ยนจ้าวเกอเหน็บแนมตัวเองว่าในภูเขาไร้พยัคฆ์ วานรเป็นใหญ่

แต่ในความจริงแล้ว บนเขตเพลิงทักษิณในตอนนี้บางทีอาจไร้พยัคฆ์จริงๆ แต่ว่ายังคงมีสัตว์ร้ายกระจายอยู่ทั่ว ไม่ได้มีแค่วานรที่ขึ้นเป็นใหญ่ได้

ถ้าหากบอกว่ามีวานรอาละวาดในนี้จริงๆ เช่นนั้นก็เป็นราชาวานรที่น่ากลัวสุดเปรียบปานตัวหนึ่ง

ดังนั้นจอมยุทธ์เขตเพลิงทักษิณในเทือกเขายาวเหยียดจึงพบเจอโศกนาฏกรรมแล้ว

เมื่อทางเนินต้นจักรพรรดิบนเขาลีลาหงส์ได้รับข่าว เยี่ยนจ้าวเกอก็เข่นฆ่าออกจากเขายาวเหยียดไปแล้ว

เพลิงโหมเผาฟ้า หงส์เพลิงขนาดยักษ์ตัวหนึ่งกระพือปีกบินสูง บินผ่านพื้นที่ของเขตเพลิงทักษิณอย่างรวดเร็ว

ใต้การปกคลุมของเปลวเพลิง เป็นเรือเทพที่ลอยบนฟ้า แล่นบนวายุ แหวกทะเลเมฆหมื่นลี้ลำใหญ่ลำหนึ่ง

ยามนี้บนเรือนภาร่อนวายุของประมุขทักษิณลำนี้ มีบุรุษวัยกลางคนผู้หนึ่งเป็นผู้นำ จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิบนเขาลีลาหงส์กลุ่มหนึ่งต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม

คนในท้องที่ของเขายาวเหยียดส่วนใหญ่ไม่ทราบ แต่ว่าคนของเนินต้นจักรพรรดิกลับรู้เรื่องหนึ่งอย่างชัดเจน

ก่อนหน้านี้สำนักตนได้รับเบาะแส ออกเสาะหานิวาสสถานอันลี้ลับแห่งหนึ่ง ทิศทางที่เบาะแสชี้ไปในตอนสุดท้ายอยู่ที่เทือกเขายาวเหยียด

ด้านในนั้นยังมีจวงเจาฮุย คนหนุ่มที่โดดเด่นที่สุดของเขตเพลิงทักษิณ บุตรของประมุขอาคเนย์จวงเซิง

ตอนแรกไปถึงหน้าประตู กลับขาดของวิเศษสำหรับเข้าไป ดังนั้นพวกจวงเจาฮุยจึงได้แต่รู้สึกเสียดาย

มิคาดกลับได้กุญแจมา พวกจวงเจาฮุยต่างยินดีปรีดา ตอนที่เข้าไปในอารามเอกนิกาย ก็ได้ทิ้งคนไว้เฝ้าปากทาง นอกจากนี้ยังส่งคนกลับไปรายงานสำนัก

ผู้ใดหาทราบไม่ว่าจากนั้นก็ไม่มีข่าวคราวอีก

เมื่อเชื่อมโยงถึงการปรากฏตัวอย่างกระทันหันในบริเวณเขายาวเหยียดของเยี่ยนจ้าวเกอ คนของเนินต้นจักรพรรดิก็เกิดลางสังหรณ์อัปมงคลขึ้นทันที

บุรุษวัยกลางคนผู้นั้นมีสีหน้าเคร่งขรึมยิ่ง ไม่กล่าววาจาแม้แต่น้อย

คนผู้นี้แซ่เผิง นามเฮ่อ เป็นยอดฝีมือระดับสุดยอดระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้าย

ผู้คนเรียกเขาว่า ‘ราชาอัคคี’ เป็นลูกศิษย์ในสำนักของประมุขทักษิณจวงเซิน ผู้สืบทอดเนินต้นจักรพรรดิ เป็นมือดีที่ยอดเยี่ยมที่สุดรองจากจวงเซิน

สายสืบทอดของเนินต้นจักรพรรดิ นอกจากจวงเซินผู้เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นประมุขที่มีร่างของเซียนมนุษย์แล้ว ยอดฝีมือคนอื่นๆ ก็ไม่ได้ขาดแคลน เผิงเฮ่อเป็นคนที่โดดเด่นในนั้น

บนเขตเพลิงทักษิณ ต่อให้ไม่นับเบื้องหลังที่มาจากเนินต้นจักรพรรดิ เผิงเฮ่ออาศัยแค่พลังของตัวเอง ก็เป็นหนึ่งในตัวตนระดับสุดยอดนอกจากผู้เป็นประมุขแล้ว

อีกทั้งยังเป็นยอดฝีมือที่มีชื่อเสียงอยู่บนบนโลกซ้อนโลกมาหลายปี

สิ่งที่ควรค่าแก่แการเอ่ยถึงก็คือ บุตรีของเผิงเฮ่อแต่งให้แก่จวงเจาฮุย

จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิคนหนึ่งที่อยู่ด้านหลังเขาลดเสียงเอ่ยว่า “ท่านอาจารย์ ที่ประตูทางเข้านิวาสสถานแห่งนั้นพบศพของสหายในสำนักจำนวนมาก แต่ว่าในนี้ไม่มีศิษย์พี่จวงและอาจารย์อาหวัง”

“ประตูทางเข้านิวาสสถานแห่งนั้น พวกเรายากจะเข้าไปค้นหา ไม่อาจยืนยันตำแหน่งของศิษย์พี่จวงและอาจารย์อาหวังได้”

เผิงเฮ่อได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้มีความเห็นใด

ยังไม่เห็นศพ บางทีนี่อาจหมายถึงจวงเจาฮุยไม่ได้ประสบภัยพิบัติ ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะรอดชีวิต

แต่ว่าในใจของเผิงเฮ่อกลับเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้นแล้ว

เมื่อมาถึงระดับในปัจจุบันของเขา ลางสังหรณ์ชนิดนี้ไม่ใช่ไม่มีที่มา

“หากเจอเยี่ยนจ้าวเกอนั่นให้จับเป็น ห้ามให้เขาหนีกลับเขตตะวันอาคเนย์ได้เด็ดขาด” เผิงเฮ่อเอ่ยอย่างแช่มช้า

พอคิดถึงชื่อของเยี่ยนจ้าวเกอ เผิงเฮ่อก็รู้สึกว่าขมับสองข้างของตนเต้นตุบๆ

คนหนุ่มที่ผงาดขึ้นมาได้ไม่ถึงสิบปีผู้นี้ ทำให้ทั่วทั้งเขตเพลิงทักษิณต่างเจ็บปวดเหลือแสน

มีพรสวรรค์โดดเด่น กอปรด้วยพลังที่ไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างไรระดับพลังฝึกปรือก็ยังต่ำอยู่ ตัวเขาแท้ที่จริงไม่น่ากลัว แต่มีวาสนาเปี่ยมล้น ครอบครองของวิเศษที่ร้ายกาจมากมาย

นี่เป็นความคิดส่วนใหญ่ที่จอมยุทธ์เขตเพลิงทักษิณมีต่อเยี่ยนจ้าวเกอ

ถึงแม้ว่าคนที่อยู่ทางนี้ส่วนใหญ่จะคิดว่าเยี่ยนจ้าวเกอมีดีแค่ชื่อ อาศัยการคุ้มครองของยอดเขาอัศจรรย์และเขาโถงทอง จึงค่อยทำตัวโอหังได้

แต่ความแค้นที่เขามีต่อเยี่ยนจ้าวเกอ ไม่ได้ด้อยกว่าเขาโถงทองเลย

ตอนนี้ เยี่ยนจ้าวเกอถึงกับบังอาจข้ามเขตมาเหยียบอาณาเขตทิศใต้ เนินต้นจักรพรรดิในฐานะผู้ปกครองทิศใต้ ไหนเลยจะทนได้?

“ยืนยันว่านอกจากโจรน้อยแซ่เยี่ยนนั่น ก็ไม่มีจอมยุทธ์จากตะวันออกเฉียงใต้แล้วใช่หรือไม่” เผิงเฮ่อใคร่ครวญอยู่ครู่หนึ่ง ขยายความกับคนที่ติดตามมาด้วยว่า “ข้าหมายถึง ยอดฝีมือจากเขตตะวันอาคเนย์ที่อย่างน้อยเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง”

คนที่อยู่ด้านข้างตอบ “ไม่อาจยืนยันได้ว่าไม่มี แต่มีแค่ร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกอจริงๆ”

หลังจากได้รับคำตอบที่ไม่แน่นอน เผิงเฮ่อก็ตกอยู่ในภวังค์อีกครั้ง

คนที่อยู่ด้านข้างว่า “อาจารย์อาเผิง ท่านครั้งนี้ออกโรงมาสู้กับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงคนหนึ่งด้วยตัวเอง จะต้องจับตัวได้แน่”

มิคาดเผิงเฮ่อกลับส่ายหน้า “เกรงว่าจะไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น”

จอมยุทธ์จากเนินต้นจักรพรรดิคนอื่นๆ ล้วนงงงัน

“ยังมิพักเอ่ยถึงว่าจาวฮุยปีนขึ้นสะพานเซียนแล้ว ต่อให้เขาเลือดร้อน ลงมือวู่วาม สร้างความผิดพลาด ก็ยังคงมีศิษย์น้องหวังอยู่” ในน้ำเสียงของเผิงเฮ่อเผยให้เห็นความหนักใจ “ศิษย์น้องหวังเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลาง แม้แต่ข่าวของเขายังขาดไป นี่ไม่ปกติเด็ดขาด!”

กลุ่มคนที่อยู่รอบๆ ได้ยินดังนั้น บนใบหน้าก็ฉายแววครุ่นคิด

แม้พวกเขาจะยังยืนยันไม่ได้ว่าพวกจวงเจาฮุยตายไปแล้ว แต่ก็แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ไม่ได้ดีเท่าไรนัก

มีคนพึมพำ “เขตตะวันอาคเนย์เคยเล่าลือกันว่า เยี่ยนจ้าวเกอนั่นใช้ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงเอาชนะยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปดด้วยตัวคนเดียว ไล่ล่าตั้งแต่ทางใต้ของทะเลหวงเจียในเขตตะวันอาคเนย์ไปถึงทิศตะวันตก หรือว่านี่จะเป็นเรื่องจริง

กลุ่มคนบนเรือนภาร่อนวายุตกอยู่ในความเงียบงันทันที

“กวนลี่เต๋อที่เป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ตายใต้เขากว่างเฉิง” ครู่ต่อมา มีคนทำลายความเงียบ “ทุกคนล้วนเดาว่าเป็นเพราะอาวุธเซียน แต่ดูจากตอนนี้ เกรงว่าจะไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น…”

มีคนคัดค้าน “ถ้าไม่ใช่เพราะอาวุธเซียน แม้ว่าเขากว่างเฉิงจะมีของวิเศษอย่างตราประทับตะวันและมงกุฎจันทรา แต่ก็ไม่มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียน ไม่มีทางกระตุ้นอานุภาพทั้งหมดของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ชั้นสูง ความแตกต่างระหว่างระดับมีมากถึงเพียงนั้น ไฉนจึงสังหารกวนลี่เต๋อได้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่า คนที่กลุ้มรุมเขากว่างเฉิงในตอนนั้น ไม่ได้มีแค่กวนลี่เต๋อ ยังมีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนคนอื่นอีก”

แม้จะรู้สึกว่าคนที่แม้แต่ระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสะพานเซียนยังไปไม่ถึง สามารถกระตุ้นอาวุธเซียนได้จะเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ แต่อาวุธเซียนอย่างไรก็ลี้ลับ ยากจะคาดเดา บางทีอาจจะมีความมหัศจรรย์อะไรบางอย่างก็เป็นได้

อีกฝ่ายเอ่ยอย่างสงบนิ่ง “อย่างน้อยตอนนี้ในเขายาวเหยียดก็มีจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเจ็ด ขั้นสะพานเซียนระยะต้นสองคนที่ตายด้วยน้ำมือของเยี่ยนจ้าวเกอนั่น”

“สองคนนั้นพวกเราล้วนรู้จัก แม้ว่าจะเทียบกับผู้สืบทอดของพรรคเราไม่ได้ แต่กลับไม่ใช่คนที่ไม่โดดเด่น”

“แต่ว่าดูจาภสภาพแวดล้อมในตอนนี้แล้ว ทั้งสองฝ่ายสู้กันไม่ทันไรก็ปรากฏผลแพ้ชนะ จึงไม่มีอะไรต้องสงสัยแล้ว!”

คนที่คัดค้านก่อนหน้านี้ครั้งนี้ไม่กล่าววาจาแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน ผลการต่อสู้ที่แท้จริงล้วนทำให้คนเชื่อถือ

พอเชื่อมโยงถึงพวกจวงเจาฮุยที่ข่าวสารหายไป จอมยุทธ์เนินต้นจักรพรรดิทุกคนสีหน้าเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

ร่องรอยแต่ละชนิดแสดงให้เห็นว่า เป้าหมายที่เขากำลังไล่ตามในตอนนี้ ไม่อาจนำจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงทั่วไปมาเปรียบด้วยได้

แม้แต่พลังในตอนที่ยังเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดงของคนอย่างจวงเจาฮุย หลงฮั่นหัว เฉิงโม่ ไปจนถึงฟู่ถิง ยังไม่อาจบรรยายความน่ากลัวของคู่ต่อสู้ผู้นี้ได้

ไม่อาจใช้ความคิดเก่าดูแคลนเยี่ยนจ้าวเกอได้อีกต่อไป

ไม่อย่างนั้นผู้ที่จะต้องถูกเล่นงานเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นตน!

เผิงเฮ่อไม่ได้กล่าววาจา เพียงแต่จ้องเบื้องหน้า กระตุ้นเรือนภาร่อนวายุ ไล่ตามไปทางทิศเหนือภายใต้การม้วนคลุมของหงส์เพลิงอย่างรวดเร็ว

ครั้งนี้สีหน้าเขาพลันสั่นไหว สั่งให้เรือนภาร่อนวายุหยุดลง

ไกลออกไปมีเงาร่างของบุรุษผู้หนึ่งโผล่ขึ้น สวมเสื้อนักพรตสีเหลืองอ่อน ร่างเล็กผอม

“นักพรตเชียนหลาน” เผิงเฮ่อจำอีกฝ่ายได้

ลูกศิษย์ของจักรพรรดิเอกภพกำเนิด หนึ่งในห้าจักรพรรดิ!

………………..