บทที่ 976 ดื้อดึงไม่ยอมรับผิด

The king of War

เฝิงเสียวหว่านที่อยู่ข้างเจียงสยง ก็เอามือปิดปากแน่น ใบหน้าอันงดงาม เต็มไปด้วยความตกตะลึง

เธอเพิ่งเข้าใจ ทำไมปู่รู้อยู่แล้วแท้ๆ ว่าหยางเฉินแต่งงานมีภรรยาและลูกแล้ว ยังจะบังคับให้เขาแต่งกับเธออีก เพราะจะทำให้หยางเฉินรู้สึกผิด และจะได้ปกป้องชีวิตเธอ

“ไม่! เป็นไปไม่ได้!”

“เป็นไปได้ยังไง”

จู่ๆ หัวหน้าสามตวาดอย่างโมโห “บนเวทีมีผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลางสามคน และผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้นหนึ่งคน จะแพ้ได้ยังไง”

“นายต้องใช้อาวุธลับแน่นอน ไม่งั้นอายุน้อยขนาดนี้ จะกำราบผู้แข็งแกร่งแดนราชาสี่คน ในเวลาเดียวกันได้ยังไง”

ดูเหมือนคนของฝ่ายหลักจะแพ้แล้ว มีเพียงชายหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปีคนเดียว ฝ่ายรองเหลือเพียงคนเดียว ฝ่ายสามมีตั้งสามคน

ไม่ว่าดูยังไง ฝ่ายสามกำชัยชนะอยู่ในมือแล้ว

ตอนหัวหน้าสาม คิดว่าฝ่ายสามจะชนะ คนของเขาโดนโจมตีจนตกลงมาล่างเวที ไม่ต้องคิดก็รู้ เรื่องนี้สะเทือนถึงเขาเป็นอย่างมาก

“หัวหน้ารอง ไม่ยอมรับว่าแพ้เหรอ”

เจียงสยงแยะยิ้มเย็นชา “คุณหยางใช้อาวุธลับหรือเปล่า นายดูไม่ออกหรือไง”

คนเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลาง อย่างหัวหน้ารอง สำหรับผู้แข็งแกร่งระดับนี้ รู้ดีว่าพลังวิถีบู๊ ที่หยางเฉินแสดงออกมาเมื่อครู่ แข็งแกร่งขนาดไหน

บอกว่าหยางเฉินใช้อาวุธลับ เป็นคำพูดที่ตลกสิ้นดี

ใช่ว่าหัวหน้ารองจะไม่เข้าใจจุดนี้ แต่เขาหมกมุ่นกับชัยชนะมากเกินไป จึงไม่สามารถรับความจริงได้

“ไม่! เขาไม่ใช่คนตระกูลเจียง ถึงเขาชนะ ก็ไม่นับเรื่องการต่อสู้!”

หัวหน้ารองกัดฟันพูด “เจียงสยง นายเป็นผู้นำ อย่าไร้ยางอายเช่นนี้ เอาคนนอกมาช่วยให้นายต่อสู้ชนะสินะ”

“ถ้านายพูดแบบนี้ ผู้แข็งแกร่งที่ปรากฏตัวในตระกูลเจียงวันนี้ ก็คงไม่นับว่าเป็นคนตระกูลเจียงเหมือนกันสินะ ทั้งสิบคนที่ต่อสู้แบบกลุ่มของฝ่ายรอง ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน จากที่นายพูด พวกเขาก็ไม่ควรร่วมต่อสู้ใช่ไหม”

เจียงสยงสีหน้าเย็นชา แววตาฉายแววอาฆาต “ยิ่งไปกว่านั้น ก่อนต่อสู้ ฉันบอกไปแล้ว ว่าแต่งตั้งคุณหยางเป็นผู้อาวุโส ในนามตระกูลเจียง”

“เขาเป็นผู้อาวุโสในนามตระกูลเจียง จะไม่นับเป็นคนตระกูลเจียงได้อย่างไร”

ตอนนี้เจียงสยงโมโหมาก ความคิดที่จะฆ่าหัวหน้าสาม เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

หลายปีมานี้ แค่เรื่องที่หัวหน้าสามแอบทำลับๆ ก็เพียงพอที่จะโดนทำลายวิถีบู๊แล้ว

เดิมทีเจียงสยงยังคิดว่า ถ้าหัวหน้าสาม ยอมส่งพวกคนที่แอบบ่มเพาะ มาให้อย่างว่าง่าย ก็จะไว้ชีวิตหัวหน้าสาม

แต่ตอนนี้ เขาไม่อยากเก็บหัวหน้าสามไว้อีกแล้ว

“นายบอกว่าเขาเป็นผู้อาวุโสในนาม เขาก็เป็นผู้อาวุโสในนามอย่างนั้นเหรอ เรื่องที่ห้าฝ่ายอื่นไม่รู้ จะนับได้อย่างไร”

หัวหน้าสามโมโหไม่หยุด

“งั้นนายก็พูดมาสิ ว่าจะทำยังไง”

เจียงสยงเอามือสองข้างไพล่หลัง ถามหัวหน้าสาม ด้วยสีหน้าเมินเฉย

“หัวหน้าสาม กล้าทำก็ต้องกล้ารับ แพ้ก็คือแพ้ นายยอมรับซะเถอะ!”

ขณะนั้น จู่ๆ หัวหน้ารองเอ่ยขึ้น

หันมามองหัวหน้ารองในตอนนี้ ไม่มีสีหน้ามีชีวิตชีวา เหมือนตอนแรกอีกแล้ว มีเพียงความด้านชาหลังยอมรับความพ่ายแพ้

“นายหุบปาก!”

หัวหน้าสามตวาด “ถ้าจู่ๆ นายไม่บอกให้ผู้แข็งแกร่งฝ่ายรอง เล่นงานผู้แข็งแกร่งฝ่ายสาม ฝ่ายสามจะแพ้ได้ยังไง”

หัวหน้ารองส่ายหน้า “ถ้านายพูดแบบนี้ งั้นก็ไร้ประโยชน์ ในเมื่อนายไม่ยอมแพ้ งั้นก็สู้ๆ นะ”

พูดจบ หัวหน้ารองหันไปหาเจียงสยง แล้วพูดว่า “ผู้นำ ผมแก่แล้ว ควรวางมือให้คลื่นลูกใหม่เหมือนกัน ตำแหน่งหัวหน้ารอง คุณจัดการเลยแล้วกัน!”

เมื่อได้ยินคำพูดของหัวหน้ารอง หัวหน้าฝ่ายอื่น ต่างมีสีหน้าตกใจ

เจียงสยงหรี่ตาลงทั้งสองข้าง มองหัวหน้ารองอยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงพยักหน้า “ได้ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นตำแหน่งหัวหน้ารอง ให้เป็นหน้าที่ของเจียงหงซิง”

“ขอบคุณผู้นำ!”

หัวหน้ารองอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงตั้งสติได้ และรีบพูดขอบคุณ

เจียงหงซิงเป็นลูกชายของเขา และเป็นคนที่มีคุณสมบัติ ที่จะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย มากที่สุดในฝ่ายรอง

เดิมทีเขาคิดว่า ฝ่ายรองเป็นศัตรูกับฝ่ายหลักมาตลอด ถ้าเจียงสยงมีโอกาส ต้องให้คนของฝ่ายตัวเอง มารับตำแหน่งหัวหน้ารองแน่นอน

แต่คิดไม่ถึง เจียงสยงไม่ได้แทรกคนของตัวเองเข้ามา แต่กลับให้ทายาทของเขา เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งหัวหน้ารอง

จู่ๆ หัวหน้ารองรู้สึกผิดในใจเป็นอย่างมาก ถ้ารู้ว่าเป็นเช่นนี้ เขาจะโลภกับตำแหน่งผู้นำไปทำไม

“เจียงอี้ว์ นายจะลงจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายจริงเหรอ”

หัวหน้าสามเบิกตาโต สีหน้าไม่อยากเชื่อ

หัวหน้ารองอยากให้ตำแหน่งผู้สืบทอด อยู่ในฝ่ายรองขนาดไหน เสียไปตั้งเท่าไร เขารู้ดี

ตอนแรก หัวหน้ารองเป็นฝ่ายมาหาเขา และขอให้ฝ่ายสามช่วย และสัญญาว่าหลังเรื่องสำเร็จ จะให้ผลประโยชน์มหาศาลกับฝ่ายสาม

ทั้งสองฝ่ายเป็นพวกเดียวกันทันที และร่วมมือกันเล่นงานฝ่ายหลัก

แต่เมื่อเจียงสยงเสนอว่าจะใช้วิธีต่อสู้ มาตัดสินตำแหน่งผู้สืบทอด หัวหน้าสามเปลี่ยนความคิดกะทันหัน วางแผนจะเอาตำแหน่งผู้สืบทอด มาอยู่ในฝ่ายสาม ถึงขนาดที่ส่งผู้แข็งแกร่งชั้นยอด ที่แอบบ่มเพาะออกมา

ตอนนี้หัวหน้ารองมาลงจากตำแหน่งอย่างกะทันหัน

“หัวหน้าสาม ฉันว่านายก็ลงจากตำแหน่งเถอะ เห็นแก่ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ฉันว่าผู้นำจะปล่อยฝ่ายสามไป”

หัวหน้ารองพูดด้วยสีหน้าซื่อสัตย์

อยู่มาจนอายุขนาดพวกเขา เป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจของตระกูลเจียง เจียงสยงเป็นคนยังไง เขารู้ดี

การมีอยู่ของหัวหน้าสาม เป็นการคุกคามความมั่นคงของตระกูลเจียงมาก

เพื่อรักษาภาพอันยิ่งใหญ่ของตระกูลเจียง เจียงสยงจะใช้ชีวิตของหัวหน้ารอง มารับประกันความแข็งแกร่งของตระกูลเจียง

“ผู้นำ ผมยอมลงจากตำแหน่งหัวหน้าใหญ่!”

“ผู้นำ ผมยอมลงจากตำแหน่งหัวหน้าสี่!”

“ผู้นำ ผมยอมลงจากตำแหน่งหัวหน้าห้า!”

จู่ๆ หัวหน้าฝ่ายคนอื่นๆ ต่างพากันพูดออกมา บอกว่าจะยอมลงจากตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย

ทุกคนในตระกูลเจียง ช็อกเป็นอย่างมาก!

ตระกูลเจียง จะผลัดเปลี่ยนสายเลือดแล้วเหรอ

เจียงสยงกวาดตามองหัวหน้าฝ่าย พูดด้วยสีหน้าราบเรียบ “อนุญาต! ตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายคนใหม่ ให้เลือกโดยแต่ละฝ่าย!”

“ขอบคุณผู้นำ!”

หัวหน้าฝ่ายต่างๆ พากันพูดขอบคุณ

“หัวหน้าสาม นายล่ะ”

เจียงสยงถามด้วยสีหน้าเฉยชา

เห็นสีหน้าของหัวหน้าสาม ยิ่งโหดเหี้ยมขึ้นเรื่อยๆ ความอาฆาตในดวงตาเขา บ้าคลั่งขึ้นเรื่อยๆ จ้องเจียงสยงเขม็ง “ฉันต้องการตำแหน่งผู้นำ!”

เมื่อเขาพูดจบ ผู้แข็งแกร่งแดนราชาสิบคน มาถึงตระกูลเจียง และล้อมเจียงสยงเอาไว้ทันที

ตอนนี้ดวงตาของหัวหน้าสาม เต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง เพราะตำแหน่งผู้นำ เขาเตรียมมานานแล้ว

ตำแหน่งผู้นำกำลังจะตกอยู่ในมือแล้ว แต่ใครจะไปรู้ว่าหยางเฉินจะโผล่มา ช่วยให้ฝ่ายหลัก ได้รับชัยชนะในการต่อสู้

“เป็นไปตามคาด นายยังมีวิธีอื่น”

เจียงสยงไม่ได้ตกใจอะไรมาก แต่ความอาฆาตในแววตา รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนคนตระกูลเจียงคนอื่น ตอนนี้ต่างมีสีหน้าตกตะลึง

“ดูเหมือนนายจะรู้นานแล้ว ว่าฉันยังมีวิธีอื่น”

เห็นท่าทีสงบของเจียงสยง หัวหน้าสามกัดฟันถาม

“หึ!”

เจียงสยงเอาสองมือไพล่หลัง สีหน้าแน่วแน่ “รู้แล้วยังไง ไม่รู้แล้วยังไง”

“ถึงวันนี้ผู้มีอำนาจใหญ่โตที่สุดมาที่นี่ นายก็มีแค่ความตายเท่านั้น!”