ตอนที่ 1103 ความวุ่นวายของความคิดเห็นประชาชน

Scholar’s Advanced Technological System ระบบปั้นอัจฉริยะ

ณ ซีเอ็นเอ็น สตูดิโอ

ซีเอ็นเอ็นได้จัดทำรายการทอล์คโชว์ต่อเหตุการณ์ล่าสุด

พวกเขาเชิญศาสตราจารย์ปีเตอร์สซึ่งเคยเป็นศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดมาก่อน เขาเป็นคนที่วิพากษ์วิจารณ์สตาร์สกายเทคโนโลยีบนโซเชียลมีเดียเมื่อไม่นานมานี้ นอกจากนี้พวกเขายังเชิญอดีตเพื่อนร่วมงานของศาสตราจารย์ลูเมียร์มาอีกด้วย

เมื่อเจ้าของรายการถามถึงมุมมองของเขาเกี่ยวกับระบบแฟนท่อม ศาสตราจารย์ปีเตอร์สพูดอย่างเกรี้ยวกราด

“ไม่ต้องสงสัยเลย นี่มันคือเทคโนโลยีที่อันตรายมากๆ มันไม่ได้ผ่านการทดลองทางคลินิกและการทดลองที่เข้มงวดมาก่อนเลยสักขั้นตอน พูดง่ายๆ ก็คือสมองของเราเป็นอวัยวะที่เปราะบางที่สุดในร่างกาย แต่เทคโนโลยีนี้ก็มุ่งเป้าไปที่สมองโดยตรง นี่มันไม่ใช่เรื่องตลกแล้ว”

“ลองคิดดู ถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นในสมองของพวกเขาไม่ใช่แค่หนังสยองขวัญ แต่มันเป็นเกมสยองขวัญในชีวิตจริง พวกเขาอาจจะสามารถควบคุมและสร้างความทรงจำหรือแม้แต่ความคิดที่ผิดได้ ผมอธิบายสิ่งนี้ได้เพียงไม่ได้ด้วยคำสั้นๆ แต่ผมมั่นใจว่าอนาคตของเราจะต้องพังไปเพราะระบบแฟนท่อมที่เปื้อนเลือดนี้แน่นอน”

“ผมไม่รู้ว่าผู้ทดสอบได้รับสิ่งล่อใจอะไร แต่บุคคลทั่วไปนั้นไม่ควรยินยอมให้องค์กรอันตรายแบบนี้ทำการทดลองกับพวกเขา นอกจากจะไม่รับผิดชอบต่อตนเองแล้วนั่นยังรวมถึงสังคมด้วย! ”

หลังจากได้ยินคำพูดของศาสตราจารย์ปีเตอร์ส พิธีกรก็ดูตกใจ

“มันไม่พูดเกินจริงไปหน่อยเหรอครับ? นักข่าวของเราได้ยินมาจากสตาร์สกายเทคโนโลยีว่าระบบแฟนท่อมนั้นไม่มีความสามารถอะไรที่คุณกำลังพูดถึงเลย”

ศาสตราจารย์ปีเตอร์ส “ผมไม่ได้พูดเกินจริงเลยสักนิด! นี่มันไม่ใช่เรื่องตลก! พวกเขาอาจไม่มีเทคโนโลยีในตอนนี้แต่ก็แค่ตอนนี้ และพวกเขาจะไม่บอกคุณว่าเมื่อใดที่พวกเขาจะมีแน่นอน! ผมได้พูดคุยกับศาสตราจารย์เบอร์กีซึ่งเคยเป็นเพื่อนร่วมงานของลูเมียร์ที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์เครือข่ายประสาทแห่งสวิตเซอร์แลนด์… คนที่นั่งข้างๆ ผมเขาเห็นด้วยกับผมว่ามันเป็นเทคโนโลยีที่อันตราย”

พิธีกรมองไปที่ศาสตราจารย์เบอร์กี

“จริงเหรอครับ? คุณคิดอย่างไรครับ ศาสตราจารย์เบอร์กี?”

กล้องหันไปที่ศาสตราจารย์เบอร์กี

ศาสตราจารย์เบอร์กีพยักหน้าและพูดอย่างจริงจัง

“ผมเห็นด้วยกับทุกอย่างที่เขาพูดมา ในความเป็นจริงแล้วเทคโนโลยีเสมือนจริงเป็นหนึ่งในโปรเจกต์วิจัยหลักที่ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์เครือข่ายประสาทของสวิตเซอร์แลนด์ทำมาโดยตลอด ศาสตราจารย์ลูเมียร์ก็ทำงานในเครือข่ายเสมือนจริงก่อนที่เขาจะลาออก

“เขาเป็นนักวิชาการที่ยอดเยี่ยม แต่ความคิดของเขามักเป็นที่ขัดแย้งกันอยู่ เรายืนกรานว่าเทคโนโลยีควรรับใช้สังคมของเราและจะไม่ทำให้แย่ลงไปอีก แต่สุดท้ายเขาก็ทิ้งเราไปประเทศจีนเสียอย่างนั้น

“ผมไม่โทษเขาเรื่องอื่นๆ แต่ผมก็ไม่สามารถยอมรับการทรยศได้ เขาใช้การสนับสนุนจากจีนเพื่อดำเนินการทดลองชั่วร้าย”

“เขาไม่มีศีลธรรมเลยสักนิด!”

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาหลักของระบบแฟนท่อม ทุกคนในโลกของเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงต่างก็รู้จักศาสตราจารย์ลูเมียร์เป็นอย่างดี

เมื่อพิธีกรได้ยินคำพูดของเบอร์กี ผู้ชมที่กำลังชมสดก็อยู่ก็ตกอยู่ในความโกลาหล

ไม่ถึงชั่วโมงหลังจากรายการออกอากาศไป คลิปก็ถูกอัปโหลดไปยังยูทูบและแพร่กระจายไปยังเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์

ทุกคนต่างพากันเริ่มวิพากษ์วิจารณ์ระบบแฟนท่อมจากสตาร์สกายเทคโนโลยี แม้แต่นักพัฒนาระบบก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

ดูเหมือนว่าสตาร์สกายเทคโนโลยีจะกำลังประสบกับความหายนะต่อสาธารณชนครั้งใหญ่แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ทันได้ขยายไปสู่ตลาด VR ในต่างประเทศ แต่ประชาชนก็หันมาใช้บริการของพวกเขาเกือบหมดแล้ว

อีกด้านหนึ่งศาสตราจารย์ลูเมียร์ก็กำลังดูการออกอากาศภายในออฟฟิศของสถาบันเพื่อการศึกษาขั้นสูงอยู่ เลือดของเขาเดือดพล่านไปทั่วทั้งร่างกายในขณะที่เขาตะโกนเรียกศาสตราจารย์เบอร์กี

“รู้ไหมว่านายทำอะไรลงไป?”

ศาสตราจารย์เบอร์กีที่อยู่ในเทอร์มินอลของสนามบินกำลังรอเที่ยวบินกลับไปสวิตเซอร์แลนด์ เขายิ้มและพูดว่า “ใจเย็นๆ ลูเมียร์ เป็นไงบ้าง?”

ลูเมียร์ก็ยิ่งโกรธมากขึ้น เขากัดฟันและพูดว่า “การสัมภาษณ์ซีเอ็นเอ็นอันนั้นมันคือบ้าอะไร! เราต่างก็รู้ดีว่าโครงข่ายประสาทมันทำงานอย่างไร! กล้าดียังไงถึงมาพล่ามแบบนั้น!”

การสัมภาษณ์ไม่เพียงแต่ทำร้ายภาพลักษณ์ของสตาร์สกายเทคโนโลยีและชื่อเสียงด้านวิชาการของลูเมียร์เท่านั้น แต่ยังทำลายความเชื่อมั่นของสาธารณชนอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดได้ส่งผลกระทบต่อนักวิชาการทุกคนในด้านนี้

ถ้าเบอร์กีพูดความจริงทุกอย่างก็คงจะไปได้สวย

แต่เรื่องความทรงจำและการควบคุมความคิดมันโคตรไร้สาระ นั่นไม่ใช่สิ่งที่สามารถทำได้เลยสักนิด!

แม้ว่าตัวแยกสัญญาณประสาทสามารถส่งสัญญาณไปยังสมองได้ แต่สมองต่างหากที่เป็นตัวตัดสิน โดยพื้นฐานแล้ว มันไม่ต่างอะไรกับการเห็นหรือการได้ยิน มันเป็นเพียงเครื่องทวนสัญญาณที่รับสัญญาณจากภายนอกเท่านั้น

อย่างไรก็ตามศาสตราจารย์เบอร์กีกลับยิ้ม และพูดอย่างไม่ใส่ใจ

“ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้ล่ะ? ฉันเห็นมันในภาพยนตร์และรายการทีวี และฉันแน่ใจว่าระบบแฟนท่อมที่ยอดเยี่ยมของนายก็คงทำได้เหมือนกันแหละ”

ศาสตราจารย์ลูเมียร์กล่าวว่า “หยุดหน้าด้านได้แล้ว”

“ประชาชนทุกคนต้องรู้ความจริงและฉันแค่จัดให้พวกเขา” ศาสตราจารย์เบอร์กียิ้มและพูดว่า “ถ้าสนใจเกี่ยวกับชื่อเสียงตัวเองจริงๆ มันมีเส้นทางอื่นที่นายสามารถเลือกได้นะ”

ลูเมียร์ “…เส้นทางอะไร?”

ศาสตราจารย์เบอร์กี “ละทิ้งด้านมืดไปยังไงล่ะ”

ลูเมียร์พูดว่า “นี่ฝันอยู่หรือไง?”

ศาสตราจารย์เบอร์กีซึ่งนั่งอยู่ที่อาคารผู้โดยสารของสนามบินยักไหล่และพูดขึ้น

“ดูความจริงบ้างนะเพื่อน สตาร์สกายเทคโนโลยีวางแผนที่จะสร้างเครือข่ายเสมือนจริงที่ไม่ขึ้นกับเครือข่ายแบบเดิมโดยใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้ง นายรู้ไหมว่ามันหมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าสุดท้ายพวกเขาจะต้องล้มลงแน่นอน”

“แต่ฉันเองไม่ได้ปฏิเสธความยิ่งใหญ่ของเทคโนโลยีการจำลองภาพเสมือนจริงของอุปกรณ์ต่อประสานระบบประสาทหรอกนะ งานวิจัยของคุณจะต้องมีผลอย่างมากต่ออนาคต และอาจถึงขั้นผลักดันสังคมให้ก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน”

“แต่หากเทคโนโลยีนี้ตกไปอยู่ในมือของคนที่ไม่ถูกต้อง มันจะกลายเป็นอันตราย”

“ตอนนี้รุ่นแรกๆ นั้นเต็มไปด้วยอันตรายมากมาย เราจำเป็นต้องทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศเพื่อพัฒนาระบบการจำลองภาพเสมือนจริงรุ่นที่สองที่ปลอดภัยกว่านี้… รู้ไหมว่าฉันหมายถึงอะไร? ฉันอยากให้นายคิดให้ดี เพราะนายควรเลิกทำงานกับจีน—”

ลูเมียร์ส่งเสียงดุอย่างโกรธจัด “นายคิดว่าฉันจะเห็นด้วยจริงๆ เหรอ! ไอ้คนโง่!”

ศาสตราจารย์เบอร์กีหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะยิ้ม

“ก็ตามนั้น”

สายโทรศัพท์สิ้นสุดลง

ศาสตราจารย์ลูเมียร์ต่อยกำปั้นลงบนโต๊ะเสียงดัง

“ไอ้บ้านี่!”

จากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้ามาจากด้านนอกออฟฟิศของเขา

นักวิจัยในชุดขาวเดินเข้ามาหา

“ศาสตราจารย์ลูเมียร์”

ลูเมียร์หายใจเข้าลึกๆ และพยายามสงบสติอารมณ์ลง

“มีอะไร?”

นักวิจัยกล่าวว่า “นี่คือแผนการทดลองใหม่ของเราครับ ทีมผู้บริหารของสตาร์สกายเทคโนโลยีให้ผมนำมาให้กับคุณ”

แผนการทดสอบใหม่?

ตอนนี้มันดีแล้วเหรอที่จะทำการทดลองน่ะ?

ศาสตราจารย์ลูเมียร์รับแผนการทดลองและอ่านดู

ม่านตาของเขาหดลงทันที

ตอนนี้เองเขาก็ได้เข้าใจแล้วว่าทำไมทีมผู้บริหารของสตาร์สกายเทคโนโลยีถึงได้สงบนิ่งท่ามกลางความสับสนวุ่นวายแบบนี้…

………………………