บทที่ 981 ไม่ใช่หัวหน้าสาม

The king of War

“ฟึ่บ!”

เขายื่นมือออกมา ฉีกหน้ากากหนังมนุษย์ออกจากหน้าเจียงหวา ทันใดนั้นปรากฏใบหน้าของบุคคลแปลกหน้า

“โอ้พระเจ้า เขาไม่ใช่หัวหน้าสามจริงๆ!”

เมื่อเห็นใบหน้าคนแปลกหน้า คนในตระกูลเจียง ถึงกับอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“โกหกตามคาด!”

หยางเฉินแสยะยิ้มเย็นชา “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ นายยังไม่บอกความจริงฉันอีก ฉันคงต้องเอาชีวิตหมาๆ ของนาย!”

ระหว่างที่พูด หยางเฉินยกเท้าขึ้น ทันใดนั้น พลานุภาพอันน่ากลัว เกิดขึ้นที่เท้าของหยางเฉิน

เจียงหวาหน้าเปลี่ยนสี “อย่าฆ่าฉัน! ฉันพูด ฉันจะบอกทุกอย่าง!”

“ฉันเป็นคนสำนักมารของเมืองเหมียว อาจารย์ของฉัน คือเจ้าสำนักมารของเมืองเหมียว ฉันชื่อเหมียวเจิ้งเฟิง นายจะฆ่าฉันไม่ได้ ไม่งั้นอาจารย์ฉันไม่ปล่อยนายแน่”

หยางเฉินขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ถีบ แต่ในสมองของเขา มีใครอีกคนผุดขึ้นมา

“นายรู้จักกุ่ยเจี้ยนโฉวเหรอ”

หยางเฉินถามขึ้นอีก

ตอนสู้กับตระกูลคิงเซวก่อนหน้านี้ เคยเจอกับยอดฝีมือ ที่มีความสามารถเหมือนเหมียวเจิ้งเฟิง ชื่อว่ากุ่ยเจี้ยนโฉว

ขนาดหยางเฉิน ยังเคยโดนกุ่ยเจี้ยนโฉวเล่นงานมาแล้ว

“ฉันไม่รู้”

เหมียวเจิ้งเฟิงรีบปฏิเสธ แต่ตอนที่หยางเฉิน เพิ่งถามคำถามนี้ เขาจ้องหน้าเหมียวเจิ้งเฟิงตลอด

หยางเฉินเห็นความตกใจ บนใบหน้าของเหมียนเจิ้งเฟิงอย่างชัดเจน เห็นได้ชัดว่าเขากำลังปิดบังอะไรอยู่

“พูดมา!”

หยางเฉินตวาดอย่างโมโห

“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าอะไรคือกุ่ยเจี้ยนโฉว!”

เหมียวเจิ้งเฟิงรีบพูดออกมา ทำท่าเหมือนไม่รู้จริงๆ

“ฆ่า!”

หยางเฉินยอมแพ้ไม่ถามต่อ ออกคำสั่งทันที หัวหน้ารองรีบเดินเข้ามา จ้องเหมียวเจิ้งเฟิงเขม็ง กัดฟันพูดว่า “ถ้าฉันเดาไม่ผิด หัวหน้าสามคงโดนนายเล่นงานแล้วสินะ”

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นนายก็ไปขอโทษเขาในนรกแล้วกัน!”

พูดจบ หัวหน้ารองถีบไปที่ตำแหน่งหัวใจของเหมียวเจิ้งเฟิง

“ฉันรู้จักกุ่ยเจี้ยนโฉว”

เมื่อเห็นว่าการโจมตีของหัวหน้ารองถึงตาย เหมียวเจิ้งเฟิงรีบตะโกนออกมาทันที

“พลั่ก!”

เท้าของหัวหน้ารองถีบออกไป แต่โดนหินปูพื้นสีเขียวข้างๆ ไม่ใช่ตัวเหมียวเจิ้งเฟิง

หินปูพื้นสีเขียวแผ่นนั้น แตกกระจายเป็นหลายชิ้น

หัวหน้ารองเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นกลาง ตอนนี้เหมียวเจิ้งเฟิงก็บาดเจ็บสาหัส ถ้าหัวหน้ารองถีบโดน เหมียวเจิ้งเฟิงคงไม่มีทางรอด

“คุณหยาง!”

หัวหน้ารองมองไปทางหยางเฉิน ท่าทีนอบน้อมเป็นอย่างมาก

เหมียวเจิ้งเฟิงหายใจกระหืดกระหอบ ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว และโชคดีที่รอดมาได้

“กุ่ยเจี้ยนโฉวเป็นอะไรกับนาย ทำไมนายต้องปลอมตัวเป็นหัวหน้าสาม”

หยางเฉินถามอย่างเย็นชา

“กุ่ยเจี้ยนโฉวก็เป็นคนของสำนักมารในเมืองเหมียว เขาเป็นศิษย์น้องของฉัน”

“ส่วนทำไมฉันต้องปลอมเป็นหัวหน้าสาม ฉัน……ฉันบอกไม่ได้”

เหมียวเจิ้งเฟิงกำลังจะพูด จู่ๆ เหมือนคิดอะไรได้ สีหน้าดูหวาดกลัว

แต่อย่างน้อย หยางเฉินก็รู้แล้วกุ่ยเจี้ยนโฉวเป็นใคร

“นายไม่บอกจุดประสงค์ของนาย ฉันจะไว้ชีวิตนายไปทำไม”

หยางเฉินถามอย่างเย็นชา

“ตุ้บ!”

จู่ๆ เหมียวเจิ้งเฟิงคุกเข่าลงบนพื้น พูดด้วยสีหน้าอ้อนวอน “คุณหยาง ผมขอร้องล่ะ ปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ”

“ไม่ใช่ว่าผมไม่ยอมพูด แต่ผมพูดไม่ได้จริงๆ ถ้าผมพูดเพียงนิดเดียว ผมจะโดนพิษกู่แว้งกัด และตายอย่างน่าเวทนา”

หัวหน้ารองถีบเหมียวเจิ้งเฟิง จนล้มลงกับพื้น แล้วพูดอย่างโมโหว่า “นายหลอกอะไรบ้าๆ รีบพูดออกมา นายปลอมตัวเป็นหัวหน้าสาม มาตระกูลเจียง เพราะจุดประสงค์อะไรกันแน่”

หยางเฉินไม่ได้ขัด ทำเพียงดูอย่างเย็นชา ส่วนพิษกู่แว้งกัด ที่เหมียวเจิ้งเฟิงพูด หยางเฉินไม่เชื่อสักนิด

“ผมพูดไม่ได้จริงๆ!”

เหมียวเจิ้งเฟิงสีหน้าอ้อนวอน “ถ้าผมพูด ผมต้องตายตรงนี้จริงๆ พวกคุณปล่อยผมไปสักครั้งเถอะ แค่ไม่ให้ผมบอกจุดประสงค์ที่มาตระกูลเจียง ให้ผมทำอะไรก็ได้ ผมยอมทั้งนั้น”

“เสียวหว่าน มีวิธีอะไรทำให้เขาพูดไหม”

จู่ๆ หยางเฉินหันไปถามเฝิงเสียวหว่าน

เฝิงเสียวหว่านพยักหน้า จากนั้นจึงเอาขวดแก้วเคลือบสีขาวออกมา ยื่นให้หยางเฉิน “พี่ให้เขากินยาเม็ดนี้ เมื่อถึงตอนนั้นจะพูดหรือไม่ เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว”

หยางเฉินตกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าจะมียาแปลกประหลาดแบบนี้ด้วย ไม่เสียแรงที่เป็นผู้สืบทอดเพียงคนเดียว ของหมอเทวดาเฝิง

“ฟึ่บ!”

หยางเฉินเอายาออกมา ดีดยาเข้าไปในปากเหมียวเจิ้งเฟิงทันที

“นายให้ฉันกินอะไร”

เหมียวเจิ้งเฟิงหน้าเปลี่ยนสี รีบถามทันที

แต่เขาเพิ่งถามออกมา ความเจ็บปวดที่ทนไม่ไหว แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายเขา

“อ๊าก……”

เหมียวเจิ้งเฟิงส่งเสียงร้องโอดครวญ ตัวบิดงออย่างรุนแรง ล้มลงกับพื้น ดิ้นทุรนทุราย

ตอนนี้ เขารู้สึกว่าทั่วร่างกายมีมดกินคนนับไม่ถ้วน กำลังกัดกินอวัยวะภายในของเขา ความเจ็บปวดสุดขีดแบบนี้ ทำให้เขารู้สึกว่าตายเสียดีกว่ามีชีวิตอยู่

“อ๊าก……ฆ่าฉันเถอะ พวกนายฆ่าฉันเถอะ!”

“ขอร้องล่ะ พวกนายฆ่าฉันเถอะ……อ๊าก……”

เหมียวเจิ้งเฟิงเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ร้องโอดครวญแทบขาดใจ

“แค่นายบอกจุดประสงค์ที่มาตระกูลเจียง ฉันจะให้ยาถอนพิษ”

เฝิงเสียวหว่านพูดด้วยสีหน้าราบเรียบ

แต่เธอแค่แสร้งทำเป็นนิ่ง ดูจากสีหน้าที่ซีดเผือด กับตัวที่สั่นงันงก ก็รู้ว่าเธอตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก

เธอเพิ่งเคยใช้ยาชนิดนี้เป็นครั้งแรก ถ้าไม่ใช่เพราะช่วยหยางเฉิน บางทีเธอคงไม่ได้ใช้ทั้งชีวิต

“ฆ่าฉันเถอะ พวกนายฆ่าฉันเถอะ!”

เหมียวเจิ้งเฟิงตวาดอย่างโมโห ดวงตาถลึงออกมาเบาๆ เหงื่อแตกจนเปียกไปทั้งตัว

“นายไม่พูด จะเจ็บไปเรื่อยๆ นี่เป็นเพียงแค่เริ่มต้น ไม่นาน นายจะเจอกับความเจ็บกว่าตอนนี้ เป็นเท่าตัว”

เฝิงเสียวหว่านพูดต่อ “ยาถอนพิษอยู่ในมือฉัน แค่นายพูดจุดประสงค์ออกมา ฉันจะให้ยาถอนพิษนาย”

หยางเฉินก็สัญญาว่า “แค่นายพูดความจริงออกมา ฉันอาจจะไว้ชีวิตนาย จะอยู่หรือตาย นายเลือกเอง”

“ฉันพูดไม่ได้ ฉันพูดไม่ได้จริงๆ พูดแล้วฉันต้องตาย พวกนายเอายาถอนพิษมาให้ฉันเถอะ ฉันทนไม่ไหวแล้ว……อ๊าก……”

เหมียวเจิ้งเฟิงร้องโอดครวญ ออกมาอย่างเจ็บปวดอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าความเจ็บปวดรุนแรงขึ้น

“ฉันได้รับคำสั่งจากอาจารย์ของฉัน อาจารย์ของฉัน ให้ฉัน……”

ในที่สุดเหมียวเจิ้งเฟิงก็ทนไม่ไหว เริ่มบอกจุดประสงค์ ที่มาตระกูลเจียง

แต่ทว่าเขาพูดได้ไม่กี่ประโยค ก็ไม่สามารถพูดได้อีก สีหน้าบิดเบี้ยวและเจ็บปวด

ผ่านไปไม่กี่วินาที เขาเลือดออกเจ็ดทวาร ล้มลงไปบนพื้น ตายตาไม่หลับ

“เขาเป็นอะไรไป”

หยางเฉินสีหน้าตกใจ หันไปมองเฝิงเสียวหว่าน

เฝิงเสียวหว่านส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ ยาที่ฉันให้เขากิน ไม่มีทางถึงตาย ทำไมเขาถึงตายได้”

“ให้ตายเถอะ รีบดูตำแหน่งหัวใจของเขา!”

จู่ๆ มีคนอุทานอย่างตกใจ จู่ๆ ดึงดูดสายตาของทุกคน

หยางเฉินก็มองไปเช่นกัน เห็นตำแหน่งหัวใจของเหมียวเจิ้งเฟิง เหมือนมีอะไร กำลังพยายามโผล่ออกมา

“พรวด!”

ทันใดนั้น หนอนสีดำขนาดประมาณหัวแม่มือตัวหนึ่ง หลุดออกมาจากตำแหน่งหัวใจของเหมียวเจิ้งเฟิง

“กรี๊ด……”

ผู้หญิงของตระกูลเจียง กรีดร้องออกมาอย่างตกใจ

“นี่คือหนอนกู่ รีบทำลายมันเร็ว!”

เฝิงเสียวหว่านพูดอย่างตกใจ

หัวหน้ารองไม่ลังเล รีบเข้ามา เอาเท้าเหยียบหนอนกู่ทันที

เดิมทีทุกคนคิดว่าหนอนกู่โดนเหยียบตายแล้ว แต่เมื่อหัวหน้ารองยกเท้าขึ้น หนอนกู่ยังมีชีวิตอยู่

“ทำไมไอ้นี่ถึงไม่ตาย”

หัวหน้ารองตกตะลึง

เมื่อกี้เขาใช้แรงเป็นอย่างมาก เขารู้ดี ถึงเป็นผู้แข็งแกร่งแดนราชาขั้นต้น ก็ต้านทานเหยียบนี้ไม่ได้

แต่ทว่าหนอนกู่ตัวนี้ กลับต้านทานได้ และเหมือนไม่บาดเจ็บอะไรเลย