บทที่ 1292 ยุแยงตะแคงรั่ว + ตอนที่ 1293 ยุแยงตะแคงรั่วล้มเหลว

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ตอนที่ 1292 ยุแยงตะแคงรั่ว + ตอนที่ 1293 ยุแยงตะแคงรั่วล้มเหลว โดย Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1292 ยุแยงตะแคงรั่ว

เหมยเหมยอุทานในใจเพราะอู่เยวี่ยเกลียดเธอเข้ากระดูกดำ ตอนนี้ตกอยู่ในกำมือสองแม่ลูกโรคจิตคู่นี้ ยังไม่รู้ว่าจะทรมานเธอและเหยียนซินหย่าอย่างไรเลย!

“อู่เยวี่ย แกนี่มันสุนัขจิ้งจอกเจ้าเล่ห์จริง ๆหลอกใช้แม่ของแกครั้งแล้วครั้งเล่า เป็นแกที่บงการแม่ตัวเองใช่ไหม? แล้วคดีครั้งก่อนที่ฆ่าพ่อเลี้ยงและพี่ชายของแก ทั้งหมดนี้แกจงใจวางแผนสินะ!”

สถานการณ์เบื้องหน้าคับขัน เหมยเหมยไม่สามารถคิดหาหนทางดี ๆได้ ทำได้แค่พยายามยุแยงตะแคงรั่วให้ไม่ลงรอยกัน ดูสิว่าจะทำให้เหอปี้อวิ๋นเคียดแค้นอู่เยวี่ยได้หรือไม่ ยื้อเวลาได้นานเท่าไรก็เท่านั้นแหละ

เดิมทีเหอปี้อวิ๋นกำลังเดินไปทางเหยียนซินหย่า หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของเหมยเหมยก็พลันชะงัก สีหน้าท่าทางเหมือนจะลังเล

เหมยเหมยแอบดีใจ โชคดีที่ก่อนหน้านี้เธอเคยไปเยี่ยมหล่อนที่เรือนจำ เอารูปภาพพวกนั้นให้เหอปี้อวิ๋นดู มันเทียบเท่ากับการหว่านปลูกเมล็ดไว้ในหัวใจของเหอปี้อวิ๋น ตอนนี้งานของเธอก็คือทำให้เมล็ดนี้งอกเจริญเติบโต

“เหอปี้อวิ๋น คุณคิดให้ดี ๆนะ คุณดีกับอู่เยวี่ยขนาดนี้ ยอมทำเรื่องทารุณโหดเหี้ยมเพื่อเขากระทั่งยอมสละชีวิตตนเอง แต่อู่เยวี่ยตอบแทนคุณอย่างไรล่ะ? เธอจงใจหลอกล่อพ่อลูกตระกูลซ่ง จงใจให้คุณฆ่า ทำให้คุณถูกทรมานในคุก แต่เธอกลับไปใช้ชีวิตสุขสบายอยู่กับอู่เจิ้งซือ”

เหมยเหมยชักแม่น้ำทั้งห้ามาพูดไม่หยุด สีหน้าท่าทางของเหอปี้อวิ๋นเปลี่ยนไปเล็กน้อยแล้วมองไปทางอู่เยวี่ยอย่างข้องใจ

อู่เยวี่ยที่โดนสะกิดเข้ากลางใจทั้งโกรธทั้งโมโห เธอพุ่งขึ้นไปเตะเหมยเหมยอย่างแรงสองสามที “อย่าพยายามมายุแยงความสัมพันธ์ของฉันกับแม่ แกอย่าได้คิดหวังเลย!”

อู่เยวี่ยเตะเข้าตรงท้องน้อย ลำคอมีกลิ่นคาวหวานปะแล่มพุ่งจ่อขึ้นมา เหมยเหมยอดกลั้นไว้ไม่ร้องสักแอะ

เธอจะไม่แสดงท่าทางอ่อนแอขี้แพ้ต่อหน้าอู่เยวี่ยเด็ดขาด!

ไม่มีทางไปตลอดชีวิต!

“เพราะฉันพูดถูกสินะแกถึงได้โมโห อู่เยวี่ยแกช่างใจดำจริง ๆ ครั้งก่อนทำร้ายจนแม่ต้องติดคุก ครั้งนี้ยังบงการให้แม่หนีออกจากคุกมาลักพาตัวทำร้ายคนอื่นอีก เหอะ…ข้อหามากมายขนาดนี้แม่แกโดนยิงร้อยครั้งก็ยังไม่พอเลย!”

เหมยเหมยอดทนต่อความเจ็บ พูดไปก็สังเกตสีหน้าเหอปี้อวิ๋นไปด้วย พอเห็นใบหน้าของเธอลังเลจึงมั่นใจมากขึ้น หากกลัวตายเช่นนี้ก็จัดการได้ง่ายหน่อย

“แกหุบปากเดี๋ยวนี้…หุบปาก…แม่ แม่อย่าไปฟังมันพูดซี้ซั้วนะ มันตั้งใจยุแยงตะแคงรั่วให้พวกเราแม่ลูกแตกคอกัน!”

อู่เยวี่ยเป็นพวกวัวสันหลังหวะ เดิมทียังรู้สึกผิดต่อเหอปี้อวิ๋นอยู่บ้าง เวลานี้โดนเหมยเหมยพูดจี้ใจดำไม่หยุด เธอจะอยู่เฉยได้เช่นไรเล่า ปรารถนาแค่ว่าจะฆ่าเหมยเหมยให้รีบ ๆตายไปเสียจะได้ไม่ต้องพูดต่อ

“ถ้าฉันพูดจาซี้ซั้วจริง ทำไมแกถึงต้องทำตัวเป็นวัวสันหลังหวะด้วยล่ะ? ใช่แล้ว……ฉันได้ยินมาว่าอู่เยวี่ยแกหาคู่หมั้นที่ยอดเยี่ยมได้ไม่ใช่หรือไง? แม้แต่พ่อของฉันซึ่งเป็นผู้นำในเมืองจินยังต้องโค้งคำนับให้!”

เหมยเหมยพนันได้เลยว่าเหอปี้อวิ๋นไม่รู้เรื่องนี้แน่นอน แล้วก็จริงดวงตาที่ขุ่นมัวของเหอปี้อวิ๋นเป็นประกายขึ้นมา มองไปทางอู่เยวี่ยอย่างคาดหวัง

“เยวี่ยเยวี่ย ลูกมีคู่หมั้นแล้ว? ผู้ชายทำอะไร? อายุเท่าไหร่? ใครแนะนำให้?”

เหอปี้อวิ๋นยิงคำถามใส่ระรัวจนอู่เยวี่ยรำคาญเกินจะทน แต่ตอนนี้เธอยังต้องใช้งานเหอปี้อวิ๋นอยู่ แน่นอนว่าไม่กล้าชักสีหน้าใส่ อดทนต่อความรำคาญและตอบกลับไปสองสามประโยคแบบคลุมเครือ

เหมยเหมยจงใจพูดแหย่ต่อ “อู่เยวี่ย คู่หมั้นของแกมีความสามารถมากขนาดนั้น ทำไมแกถึงไม่พาแม่ออกจากคุกมาเสวยสุขล่ะ? อู่เจิ้งซือพูดแล้วว่าคู่หมั้นของแกเป็นคนใหญ่คนโต คิดจะรับแม่แกออกมาคงเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยใช่ไหมล่ะ?”

เหอปี้อวิ๋นสีหน้าเปลี่ยนไปอีกครั้ง ว่าที่ลูกเขยของเธอเก่งขนาดนี้เลยหรือ? ถ้าอย่างนั้นทำไมถึงไม่หาทางช่วยเธอออกมาล่ะ?

เหมยเหมยพูดเสริมต่อไปอีก “หรือแกไม่รู้ว่าแม่แกใช้ชีวิตในคุกน่าอนาถกว่าหมาด้วยซ้ำ? ขนาดฉันเห็นยังปวดใจแทบแย่ แกเป็นลูกสาวแท้ ๆไม่ปวดใจบ้างเลยเหรอ? หรือว่าใจของเธอไม่อยากจะให้แม่ออกมาเพราะกลัวว่าแม่จะทำให้เธอขายขี้หน้า?”

เหอปี้อวิ๋นหน้าซีดเผือดมองไปทางอู่เยวี่ยอย่างดุดัน

…………………………………………..

ตอนที่ 1293 ยุแยงตะแคงรั่วล้มเหลว

เพื่อยื้อเวลาเหมยเหมยจึงพูดเรื่อยเปื่อยตามอำเภอใจ ไม่สนว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ ตราบใดที่สามารถทำให้เหอปี้อวิ๋นสงสัยอู่เยวี่ยได้ก็พอแล้ว

แต่เหมยเหมยไม่รู้ว่าการพูดเรื่อยเปื่อยตามอำเภอใจของเธอครั้งนี้ดันพูดถูกจุด ทุกประโยคทิ่มแทงกลางใจของอู่เยวี่ย และเพราะเหตุนี้อู่เยวี่ยถึงได้ตื่นตระหนกกลัวเหอปี้อวิ๋นจะสงสัยเธอ และกลัวว่าหล่อนจะไม่ทำดีต่อเธอและทำเพื่อเธออย่างสุดหัวใจอีกต่อไป

“แม่……”

อู่เยวี่ยพยายามปกปิดความตื่นตระหนกแล้วหันไปหาเหอปี้อวิ๋น น้ำเสียงที่แสนอ่อนโยน ทำตัวออดอ้อนเหมือนตอนเป็นเด็ก

จะมีใครรู้จักลูกดีกว่าแม่ แค่แวบเดียวเหอปี้อวิ๋นก็มองออกถึงความตื่นตระหนกของอู่เยวี่ย ความขมขื่นพาดผ่านเข้ามากลางใจขยายมาถึงดวงตา

เธออยากจะร้องไห้มาก แต่น้ำตาไหลจนเหือดแห้งตั้งแต่อยู่เรือนจำแล้ว

ลูกสาวของเธอ ลูกสาวที่เธอรักเหมือนชีวิต ตอนนี้เริ่มจะรังเกียจเธอแล้ว!

“เยวี่ยเยวี่ย……ทำไมลูกถึงต้องรังเกียจแม่? แม่ยังดีกับลูกไม่พออีกหรือ?” เสียงของเหอปี้อวิ๋นแหบแห้งจ้องอู่เยวี่ยเขม็ง

เธอจะไม่ยอม!

เธอทำดีต่อลูกสาวอย่างสุดหัวใจ ทำทุกอย่างเพื่อเธอ ทนรับความอัปยศอดสูแต่กลับไม่ได้รับความซาบซึ้งใจของอู่เยวี่ยกลับมาเลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับได้รับความรังเกียจ เธอจะไม่แค้นเคืองได้อย่างไร!

เธอจะต้องถามให้รู้เรื่อง ไม่อย่างนั้นเธอคงนอนตายตาไม่หลับ!

เหอปี้อวิ๋นรู้ว่าตนเองอยู่บนเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับได้แล้ว ไม่มีโอกาสย้อนกลับได้อีกแล้ว เธอต้องเป็นผีที่เข้าใจในทุกเรื่อง!

อู่เยวี่ยโดนสายตาเย็นชาของเหอปี้อวิ๋นมองมาเช่นนั้นก็หวาดกลัว เธอนึกถึงเมื่อไม่กี่เดือนก่อนตอนที่เหอปี้อวิ๋นหยิบกรรไกรฆ่าพ่อลูกตระกูลซ่งด้วยสีหน้าโหดเหี้ยมมันคล้ายกับตอนนี้มาก

“แม่ ทำไมแม่ถึงได้ยอมที่จะเชื่อนังจ้าวเหมย แล้วไม่เชื่อหนูล่ะ? หนูจะทอดทิ้งแม่ไปได้ไง? แม่เป็นแม่แท้ ๆของหนูนะ…เดิมทีหนูวางแผนเอาไว้หมดแล้ว รอแต่งงานเสร็จก็จะให้คุณชายเช่อช่วยแม่ออกมาจากคุก ตอนนี้หนูยังยืนได้ไม่มั่นคงเพราะยังไม่ได้แต่งงานเลย แน่นอนว่าคงไม่ดีหากเอ่ยเรื่องช่วยเหลือขึ้นมาแบบนี้!”

อู่เยวี่ยเดินเข้าใกล้เหอปี้อวิ๋น จับมือของเธอ กอดเธอด้วยความรัก ออดอ้อนด้วยเสียงหวาน

เหอปี้อวิ๋นดูผ่อนคลายลงมากนัยน์ตาฉายความอ่อนโยนออกมา ก้มลงมองลูกสาวที่ดูมาดดีเหมือนเธอทุกประการ ความเคียดแค้นที่มีอยู่ในใจมลายหายไปมาก

เยวี่ยเยวี่ยพูดถูก เธอจะเชื่อคำพูดของจ้าวเหมยได้อย่างไร?

นังสารเลวจ้าวเหมยจะต้องมีเจตนาที่ไม่ดี ตั้งใจจะยุแยงให้เธอและเยวี่ยเยวี่ยแตกคอกัน!

เหมยเหมยใจเต้น คู่หมั้นของอู่เยวี่ยที่แท้ก็คือเฮ่อเหลียนเช่อ?

ท้ายที่สุดแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เหมยเหมยไม่มีเวลาคิดให้ละเอียด เธอเห็นสีหน้าท่าทางของเหอปี้อวิ๋นเปลี่ยนไปก็รู้ว่านังโง่นี่โดนอู่เยวี่ยเป่าหูเข้าให้แล้ว หันไปขยิบตาให้เหยียนซินหย่าที่เพิ่งฟื้นคืนสติ พูดอย่างไม่มีเสียงว่า “รีบวิ่ง!”

ตอนนี้เหอปี้อวิ๋นและอู่เยวี่ยไม่ทันได้สนใจพวกเธอ ชนวนระเบิดก็ยังไม่ได้ผูกติดกลับไปถือเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการหลบหนี

เหยียนซินหย่าเข้าใจความหมายของลูกสาว น่าเสียดายที่มือของเธอยังถูกมัดอยู่จึงลุกอยู่หลายครั้งกว่าจะลุกได้ เหมยเหมยก็ถูกมัดมืออยู่เช่นกันแต่ตัวเธอมีความยืดหยุ่นมากกว่า ไม่ช้าเธอก็เดินไปหยุดอยู่ข้างกายของเหยียนซินหย่า กระแทกดันเธอให้พุ่งไปข้างหน้า

“รีบวิ่ง!”

เหยียนซินหย่าวิ่งไปข้างหน้าตามสัญชาตญาณ พวกเขาอยู่ในโรงงานที่กว้างขวางมาก ห่างจากประตูใหญ่ไกลพอสมควร ตอนที่เหยียนซินหย่าและเหมยเหมยใกล้ถึงประตูใหญ่ อู่เยวี่ยก็เพิ่งเห็นพวกเขา

“แม่ นังสารเลวสองคนนั้นจะหนี รีบไปจับพวกมันกลับมา พวกมันจะต้องไปแจ้งตำรวจให้มาจับแม่แน่นอน!”

เหอปี้อวิ๋นได้ยินคำว่าตำรวจ ก็ใจเต้น เธอไม่อยากกลับไปที่คุกอีก

“แม่ เร็วหน่อย……”

อู่เยวี่ยแอบเกลียดแรงตอบสนองเชื่องช้าของเหอปี้อวิ๋น ผ่านไปตั้งนานยังไม่มีการตอบสนองใด ๆ พอเห็นว่าพวกจ้าวเหมยกำลังจะวิ่งออกจากประตูไปแล้ว ในสถานการณ์คับขัน อู่เยวี่ยจึงดึงมีดผลไม้มาจากเหอปี้อวิ๋นแล้วพุ่งเข้าหาพวกเหมยเหมย

ที่นี่คือที่ดินรกร้างแถบชานเมือง ขนาดวิญญาณยังไม่มีสักตัว ต่อให้เธอจะฆ่าจ้าวเหมยก็ไม่มีใครรู้ ถึงเวลานั้นค่อยพูดเกลี้ยกล่อมเหอปี้อวิ๋นให้รับสารภาพว่าเป็นฆาตกรก็จบ

………………………………………………..