บทที่ 1818 ไอ้อ้วน

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า

เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1818 ไอ้อ้วน

หนานกงสิงหัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “นายกลับมาก็คงช่วยอะไรไม่ได้หรอก ตามฉันมาสิ อีกเดี๋ยวนายก็รู้ว่าคนที่รังแกฉันคือใคร”

พูดพลาง หนานกงสิงลากลู่ฝานเดินไปข้างใน

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “นายจะออกไปทำธุระไม่ใช่เหรอ”

หนานกงสิงพูดว่า “ธุระอะไรกัน ฉันแค่จะหลบปัญหายุ่งยากเท่านั้น”

เดินอย่างรวดเร็วเข้ามาในจวนองค์ชายใหญ่ ลู่ฝานสัมผัสถึงบรรยากาศผิดปกติรอบตัวทันที

ไม่ว่าจะเป็นองครักษ์ที่ยืนอยู่ข้างๆ หรือคนรับใช้ที่เดินไปเดินมา สายตาที่พวกเขามองหนานกงสิง ไม่ได้นอบน้อมเหมือนก่อนหน้านี้!

แม้พวกเขายังทำความเคารพหนานกงสิงและเรียกว่า “เตี้ยนเซี่ย!”

ลู่ฝานกดเสียงต่ำถามว่า “เกิดอะไรขึ้น นายเปิดเผยตัวตนแล้วเหรอ”

หนานกงสิงส่ายหน้าเบาๆ แล้วพูดว่า “เปล่า แค่มีคนที่ฐานะสูงกว่าฉันเท่านั้นเอง”

ขณะกำลังพูด มีเสียงหัวเราะร่าดังออกมาจากคฤหาสน์ที่อยู่ไม่ไกล

“วะฮ่าฮ่าฮ่า สบาย แบบนี้แหละ ถูก ขยับแบบนี้แหละ ห้ามหยุด!”

ลู่ฝานหันมามองหนานกงสิงแล้วขมวดคิ้วพูดว่า “คงไม่ใช่อย่างที่ฉันคิดใช่ไหม”

หนานกงสิงหัวเราะแล้วพูดว่า “ไม่เหมือนอย่างที่นายคิดหรอก เข้าไปดูเถอะ ไม่มีอะไรแน่นอน แต่นายเตรียมตัวอ้วกเอาไว้หรือยัง”

พูดจบ หนานกงสิงกับลู่ฝานรีบเดินมาคฤหาสน์ด้านข้าง

เมื่อเดินเข้ามา ลู่ฝานเห็นคนอ้วนตัวใหญ่เหมือนภูเขานั่งอยู่บนหลังคา ปรบมือให้พวกผู้หญิงเต้นอยู่บนหน้าท้องเขา

น้ำลายไหลออกมาตรงมุมปาก หน้าอ้วนเหมือนหมู ตัวเหมือนลูกบอล

ลู่ฝานเจอคนอ้วนมาเยอะ แต่ไม่เคยมีใครอ้วนถึงขนาดนี้

เรื่องความสูงคงไม่ต้องพูดถึง ตัวใหญ่ขนาดเท่าบ้านของประเทศฉิงเทียน บอกว่าภูเขาเดินได้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

แค่เนื้อบนตัวเขาก็ไม่ธรรมดาแล้ว

เรียกได้ว่าเป็นชั้นๆ เห็นแล้วเหมือนโดนคนบีบออกมาอย่างไรอย่างนั้น

ไขมันกองเป็นก้อน ลู่ฝานเงยหน้ามองไปไกลๆ เห็นเพียงหัวขนาดใหญ่แวบๆ ท่ามกลางชั้นเมฆ

ดูยังไงก็เหมือนสัตว์อสูรหมูป่าพูดภาษาคนได้

ลู่ฝานอ้าปากเล็กน้อย มองคนคนนี้อย่างตกตะลึง

สายตาของคนอ้วนไม่เลว มองเพียงแวบเดียวก็เห็นลู่ฝานกับหนานกงสิงที่เดินมา

“เฉาจิน นายพาใครมา ไอ้หนุ่มแต่งหน้าแต่งตาคนนี้คือใคร ดูน่ากินมากเลย!”

ลู่ฝานยิ้มบางๆ ได้ยินน้ำเสียงก็รู้เลยว่าไอ้อ้วนคนนี้คือผู้ฝึกชั่วร้าย

คนปกติเจอคนไม่รู้จัก ไม่มีทางพูดคำว่าน่ากินหรือไม่น่ากินออกมาเป็นประโยคแรกหรอก

หนานกงสิงพูดเสียงดังว่า “นี่เพื่อนฉัน ผู้ช่วยฉัน สหายฉัน เขาชื่อเงามืด เป็นเทวทูตหน่วยที่ 33”

เมื่อไอ้อ้วนได้ยินว่ามาจากหน่วยที่ 33 รีบสะบัดมืออ้วนเหมือนขาหมูของตัวเองแล้วพูดว่า “หน่วยที่ 33 เหรอ ฉันรู้จัก หัวหน้าสำนักพวกนายคือธิดาเทพแห่งไฟใช่ไหม ฉันชอบเธอ เธอสวยมาก ไม่ว่าจะใช้งานหรือกินต้องไม่เลวแน่ๆ วะฮ่าๆๆๆ”

ไอ้อ้วนหัวเราะร่าแล้วตบพุงตัวเองไปพลาง

ในเวลาเดียวกัน มีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ออกมาจากก้นเขา

ลู่ฝานกับหนานกงสิงรีบถอยหนีทันที

ไอ้อ้วนนี่ทุเรศจริงๆ ตดที่เขาปล่อยออกมาเป็นควันหนาสีเขียว จากนั้นลอยไปตามสายลม

ทุกที่ที่ผ่านไป กลิ่นน่ากลัวมาก ลู่ฝานรู้สึกว่าตัวเองเกือบลืมตาไม่ขึ้น

ไอ้อ้วนหัวเราะแล้วพูดว่า “เหอะๆ วันนี้กินเยอะไปหน่อย คนอื่นกินแค่ไม่กี่คำก็อิ่มแล้ว ส่วนฉันกินอิ่มแล้วก็ยังกินได้อีก ไอ้สวะเฉาจิน รีบไปทำของกินให้ฉันเลย ใช่สิ คืนนี้ฉันจะจัดงานเลี้ยงใหญ่ มีหัวหน้าสำนักสองสามคน มาถึงประเทศฉิงเทียนแล้ว เราต้องเชิญพวกเขามาสักหน่อย นายรีบไปจับผู้หญิงบริสุทธิ์สะอาดมาสักหมื่นคน ปล่อยเลือดออกมาเตรียมไว้ก่อน”

ลู่ฝานสะบัดมือปัดควันพวกนี้ทิ้ง หนานกงสิงเงยหน้าพูดเสียงดังว่า “ผู้หญิงหมื่นคนเหรอ นายคิดว่าคนในจวนรวมกันเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ”

ไอ้อ้วนถลึงตาใส่หนานกงสิง “นับวันนายยิ่งเหิมเกริมขึ้นเรื่อยๆ นะ อย่าลืมสิเฉาจิน ฉันคือหัวหน้าสำนักที่ 15 นะ ไอ้เลวต่ำตมอย่างนายทำได้แค่มอบทุกอย่างให้ฉัน นายถึงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ รีบไปซะ!”

หนานกงสิงกำหมัดแน่น นัยน์ตามีเปลวไฟลุกโชน

ลู่ฝานส่ายหน้าเบาๆ ให้หนานกงสิง หนานกงสิงส่งเสียงหึอย่างแรงแล้วหันหลังเดินออกไป

ลู่ฝานเดินตามหนานกงสิงออกไป สุดท้ายหันมามองไอ้อ้วนแวบหนึ่ง

หัวหน้าสำนักที่ 15 เชิญหัวหน้าสำนักอื่นมางานเลี้ยงอย่างนั้นเหรอ

พวกผู้ฝึกชั่วร้ายส่งคนมาเพิ่มที่ประเทศฉิงเทียน เรื่องอะไรถึงต้องใช้คนเยอะขนาดนี้!

ลู่ฝานไม่คิดว่าคนพวกนี้มีภารกิจรับมือสามอริยบุคคลเหมือนกับเขา

ออกมาจากคฤหาสน์ด้านข้าง ลู่ฝานตามหนานกงสิงกลับมาที่ห้องนอนของเขา

เพิ่งปิดประตู หนานกงสิงก็พูดเสียงดังว่า “สหายลู่ฝานเห็นหรือยัง แค่หัวหน้าสำนักที่ 15 กระจอกๆ กลับทำตัวอวดดีในประเทศฉิงเทียนของฉัน แถมฉันต้องเตรียมผู้หญิงให้เขาอีกหมื่นคน ฉันยอมตายดีกว่าทำเรื่องแบบนี้”

ลู่ฝานดึงเก้าอี้มานั่งแล้วพูดว่า “เห็นแล้ว เห็นชัดๆ เลย ช่วงนี้นายผ่านมาได้ยังไง ถ้าฉันเป็นนาย คงคิดว่าจะฆ่าไอ้หมอนี่ยังไงไปนานแล้ว”

ใบหน้าหนานกงสิงมีความอาฆาต “นายคิดว่าฉันไม่เคยทำเหรอ ฉันจะบอกให้นะ ตั้งแต่เขามาถึงที่นี่เมื่อหนึ่งเดือนก่อน ฉันลอบฆ่าเขาสามครั้งแล้ว แต่ไม่สามารถทำอะไรได้แม้แต่ไขมันบนตัวเขา อันที่จริงวิทยายุทธของเขาไม่สูงมาก เป็นแค่แดนปราณฟ้าชั้นสุดยอด แต่ไขมันบนตัวเขาทุเรศสิ้นดี ทำอะไรไม่ได้เลยสักนิด!”

หนานกงสิงพูดพลางตบโต๊ะของตัวเองจนแหลกเป็นผุยผง

ลู่ฝานเห็นแล้วปวดใจ ถ้าเอาสิ่งนี้กลับประเทศอู่อานคงได้เงินเยอะแน่ๆ เสียดายจริงๆ

ลู่ฝานพยักหน้าพูดว่า “วางใจเถอะ ฉันกลับมาแล้วนี่ไง มีฉันช่วยนาย เรื่องพวกนี้ไม่ใช่ปัญหาเลย”

หนานกงสิงยิ้มออกทันที เขามองลู่ฝานแล้วพูดว่า “สหายลู่ฝาน ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องมีวิธี แผนสกปรกของนาย….ไม่ใช่สิ ควรเรียกว่ากลอุบาย นายมีอยู่ไม่น้อยเลย รีบบอกมาสิว่าเราควรทำยังไง”

ลู่ฝานพูดว่า “ง่ายมาก คืนนี้นายจัดงานเลี้ยงให้เขา จากนั้นฉันจะจัดการให้นายเอง”

หนานกงสิงพูดอย่างตกใจว่า “ง่ายแบบนี้เลยเหรอ”

ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ง่ายแบบนี้แหละ เรื่องง่ายแค่นี้นายคงจัดการได้ดีใช่ไหม! อ้อ เรื่องฆ่าคนห้ามทำตามที่เขาบอก นายเอาเลือดหมูไปให้เขาก็พอแล้ว”

หนานกงสิงพูดด้วยรอยยิ้มเต็มใบหน้า “ใช่ รูปร่างหน้าตาเหมือนหมูป่า ก็เอาเลือดหมูให้เขาซะ ชิมรสชาติของพวกเดียวกัน อ้อ สหายลู่ฝาน ฉันมีอีกเรื่องจะพูดกับนาย”

จู่ๆ หนานกงสิงเอามุกออกมาจากมือแล้วยื่นให้ลู่ฝาน “ดูนี่สิ ฉันสืบได้แล้วว่าพวกผู้ฝึกชั่วร้ายเอาคนเยอะแยะไปทำอะไร!”