ภาค 10 ขี่วายุทะลายคลื่นหมื่นลี้ บทที่ 978 ไม่น่าเชื่อ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

ประกายโลหิตปรากฏแวบหนึ่ง กระบวนท่าสังหารมังกรเขียวของเยี่ยนจ้าวเกอกับพลังทั่วทั้งเขามหาวิญญาณผสานกัน สุดท้ายเหนือกว่าขีดจำกัดพลังป้องกันของหยวนเสี่ยนเฉิง

ปฐพีอานิสงส์ คลื่นบุญบารมี แสงม่วงบารมี กระทั่งปราณขาวกุศลซ่อนที่กักเก็บพลังชีวิตสายหนึ่ง ตอนนี้ล้วนดับสลายไปหมดสิ้น!

ประกายกระบี่อันน่าสะพรึงกลัวทำลายเปลวเพลิง ฟันใส่ทรวงอกของหยวนเสี่ยนเฉิง!

เขาครางหนักๆ คำหนึ่ง โลหิตกระฉูดออกมา พลังชีวิตขาดสะบั้น

เยี่ยนจ้าวเกอไม่หยุดมือ เก็บตราประทับตะวัน หยุดการโคจรของค่ายกลคุ้มครองสำนักของเขามหาวิญญาณอีกครั้ง แล้วค่อยหันคมกระบี่ฟันใส่นักพรตตงเฉวียน

จ้าวเจินมือกระบี่คลื่นม่วงตื่นตระหนก ออกกระบี่ไปอีกครั้ง

เยี่ยนจ้าวเกอทิ่มดัชนีหยินหยาง ปราณกระบี่ทะเลม่วงที่ยิ่งใหญ่พลันเปลี่ยนทิศ ผสานกับกระบี่สังหารมังกรของเขา กลายเป็นสองกระบี่ จู่โจมนักพรตตงเฉวียนพร้อมกัน

‘เร่ง!’

จ้าวเจินยามนี้ค่อยแสดงวิชากระบี่ที่น่าทึ่ง ซึ่งทำให้เขาสามารถเป็นใหญ่ในทะเลเจิดจ้าได้ออกมา

เขาตวาดเสียงทุ้ม ปราณกระบี่ที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นวังวนมหาสมุทร ฝืนต้านสภาวะ ป้องกันผลของดัชนีหยินหยาง หมายจะต้านทานกระบวนท่าสังหารมังกรเขียวของเยี่ยนจ้าว

เยี่ยนจ้าวเกอเห็นดังนั้นกลับไม่หวั่นวิตก ใช้วิชาสังหารมังกรเขียว ผ่าวังวนมหาสมุทรที่เกิดจากปราณกระบี่สีม่วง

ขณะเดียวกันนั้น เขาก็สืบเท้าออกก้าวหนึ่ง รอยตราพลิกนภาปรากฏอีกครั้ง กระแทกใส่ศีรษะของนักพรตตงเฉวียน

นักพรตตงเฉวียนเหยียบอยู่บนตำแหน่งยันต์แปดทิศ หมุนตัวถอยห่างจากเยี่ยนจ้าวเกออย่างรวดเร็ว

ฝ่ามือยันต์แปดทิศวนฟ้าเป็นท่าฝ่ามือและท่าร่าง เมื่อฝึกฝนท่าร่างได้ดี ถึงจะค่อยฝึกฝนท่าฝ่ามือได้ดี

ตอนนี้นักพรตตงเฉวียนใช้ท่าเท้าสุดกำลัง การเคลื่อนไหวดูเหมือนไม่เร็วนัก แต่กลับปราดเปรียวจนน่าตกใจ เคลื่อนไหวอยู่ในพื้นที่ไม่กี่ชุ่น ทำให้ความลำบากหายไป

แต่ว่าใต้ฝ่าเท้าของเยี่ยนจ้าวเกอกลับปรากฏลวดลายไท่จี๋ หยินหยางหมุนวน

ต่อมาไท่จี๋หยินหยางแยกกัน ไท่จี๋กลายเป็นทวิลักษณ์ ทวิลักษณ์กลายเป็นสี่ลักษณ์ สี่ลักษณ์กลายเป็นยันต์แปดทิศ

เยี่ยนจ้าวเกอก้าวเท้าออกก้าวหนึ่ง บรรลุถึงเบื้องหน้านักพรตตงเฉวียนในทันที!

ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดมีทั้งท่าฝ่ามือและท่าร่าง อัศจรรย์ไร้สิ้นสุดเหมือนกัน

นักพรตตงเฉวียนตาถลน ส่วนเยี่ยนจ้าวเกอใช้ท่ารอยตราพลิกนภา!

นักพรตชราคิดยกฝ่ามือขึ้นต้านทาน แต่กลับถูกฝ่ามือเหล็กของเยี่ยนจ้าวเกอที่ผสมผสานความลี้ลับของกระบวนท่ามากมาย ได้แก่ รอยตรงพลิกฟ้า ฝ่ามือหยินหยางขั้วกำเนิดเป็นหนึ่งเดียว ตัดแขนสองข้างทิ้ง

ฝ่ามือยังคงไม่หยุด กดลงด้านล่างต่อ เสียงเปรี้ยงดังขึ้น กระแทกใส่ขม่อมของนักพรตตงเฉวียนจนแหลกเหลว!

จอมยุทธ์ทิศใต้บนยอดเขามหาวิญญาณต่างอ้าปากตาค้าง

ก่อนหน้านี้ไม่นานนักพรตตงเฉวียนยังคึกคักฮึกเหิม อาศัยสภาวะของเนินต้นจักรพรรดิกดดันสำนักรัตติกาล ซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตมาโดยตลอด ตั้งตัวเป็นผู้นำยุทธภพแห่งเทือกเขาสันติถาพ

ทว่าตอนนี้เขากลับกะโหลกแหลกเหลว กลายเป็นศพศพหนึ่ง

ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางที่ยิ่งใหญ่ ถูกคนสังหารทิ้งคาที่!

คนที่ฆ่าเขาตาย คือเยี่ยนจ้าวเกอที่เขาเรียกชุมนุมเพื่อหาทางจัดการ

ที่นักพรตตงเฉวียนจัดงานชุมนุมนี้ขึ้น แรงจูงใจย่อมไม่บริสุทธิ์ ในอีกความหมายหนึ่งก็คือการใช้ประโยชน์จากเรื่องของเยี่ยนจ้าวเกอ เพื่อหาโอกาสยึดครองเทือกเขาสันติภาพ

เพียงแต่เสียดายที่เยี่ยนจ้าวเกอ ผู้ที่เขาคิดจะใช้ประโยชน์กลับกลายเป็นมัจจุราชพรากชีวิตเขาไป

จอมยุทธ์ทิศใต้ทั้งหมดที่อยู่รอบๆ รวมถึงหยวนเสี่ยนเฉิงและจ้าวเจิน ไม่มีผู้ใดคาดคิดถึงว่าเยี่ยนจ้าวเกอครั้นมาถึงเทือกเขาสันติภาพ ก็ไม่เพียงแต่ไม่หลบเลี่ยง แต่ยังมาเขามหาวิญญาณด้วยตัวเอง

เมื่อมาแล้วก็ไม่มีอะไรต้องกังวลอีก เพราะก่อนหน้านี้พวกเขากำลังปวดหัว ไม่ทราบว่าจะไปหาเยี่ยนจ้าวเกอจากที่ไหนพอดี

ทว่ายอดฝีมือในงานชุมนุมบนเขามหาวิญญาณ ถึงกับเอาชนะเยี่ยนจ้าวเกอคนเดียวไม่ได้ นี่จะน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!

หลังจากที่สังหารนักพรตตงเฉวียนเสร็จ เยี่ยนจ้าวเกอก็ไม่ได้หยุดมือ หันเหคมกระบี่โจมตีใส่อีกทาง

ณ ตรงหน้ามีเปลวเพลิงวนล้อม เสียงหงส์อันไพเราะดังขึ้น

หงส์เพลิงตัวหนึ่งทะยานออกมาจากด้านใน บุรุษที่ถูกเงาแสงหงส์เพลิงครอบคลุมคือหยวนเสี่ยนเฉิงนั่นเอง

หงส์เพลิงในดวงตาทั้งสองข้างของหยวนเสี่ยนเฉิงกำลังโบยบิน กลายเป็นร่างแยกหงส์เพลิงสองตัวอีกครั้ง มันถอยไปด้านล่าง หลบหลีกคมกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอ

‘การสืบทอดสายหยกพิสุทธิ์ คัมภีร์พลิกฟ้ากับคัมภีร์นภาหยินหยาง!’ หยวนเสี่ยนเฉิงมีสีหน้าเคร่งเครียดเหลือแสน ‘ยังมีวิชากระบี่นั้น แท้จริงแล้วคือ…’

จอมยุทธ์ทั่วไปเมื่อฝึกฝนวรยุทธ์ระดับสุดยอด โดยเฉพาะจอมยุทธ์ที่มีพลังระเบิดและพลังโจมตีกล้าแข็ง ในสองสามกระบวนท่าง่ายๆ ใช่ว่าจะไม่มีความสามารถข้ามระดับท้าสู้

จอมยุทธ์อัจฉริยะหากฝึกฝนวรยุทธ์ระดับสุดยอด จึงยังแสดงแก่นแท้ที่อยู่ด้านในออกมาได้

ดังนั้นพื้นฐานวรยุทธ์ พรสวรรค์ และสติปัญญาที่เหนือกว่าผู้อื่นขั้นหนึ่ง จะช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามความแตกต่างของระดับได้

แต่ว่าการระเบิดเช่นนี้จะทำให้แรงหนุนเสริมมีไม่มากพอ ต่อให้ได้เปรียบในมี่กี่กระบวนท่าแรก ต่อจากนั้นแรงก็จะหมด

ในเวลาสั้นๆ ถ้าหากโจมตีอีกฝ่ายจนรับมือไม่ทัน เช่นนั้นก็อาจมีโอกาสชนะ

การใช้อ่อนชนะแข็ง ใช้ล่างข่มบนส่วนใหญ่ในโลกล้วนมีที่มาเช่นนี้

แต่ว่าถ้าหากในสองสามกระบวนท่าแรกไม่อาจชิงชัยได้ เช่นนั้นสุดท้ายก็หลีกเลี่ยงโชคชะตาที่ต้องพ่ายแพ้ไม่ได้

ความสูงต่ำของระดับ เป็นทั้งความแตกต่างในด้านการทำความเข้าใจหลักการวรยุทธ์ และเป็นความแตกต่างที่ขึ้นอยู่กับว่าการสั่งสมของตัวเองเปี่ยมล้นหรือไม่

หยวนเสี่ยนเฉิงในฐานะผู้สืบทอดสายตรงของประมุขทักษิณ มีพรวรรค์โดดเด่นเหนือผู้ใด เขาเป็นหนึ่งในยอดฝีมือขั้นสะพานเซียนที่ต่อสู้ข้ามขั้นได้

เขาสามารถใช้พลังฝึกปรือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้้นแปด ขั้นสะพานเซียนระยะกลางสู้กับยอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้า ขั้นสะพานเซียนระยะท้ายได้ สืบเนื่องจากมีพรสวรรค์โดดเด่น ขณะเดียวกันก็ฝึกฝนม้วนคัมภีร์ร่างหงส์เพลิง มีสี่จริยะหนุนนำร่าง น่าอัศจรรย์ไร้สิ้นสุด

แม้นจะไม่อาจใช้พลังระเบิดและพลังโจมตีชิงชัยได้ แต่ก็มีพลังป้องกันน่าตกตะลึง

แต่สิ่งที่ทำให้หยวนเสี่ยนเฉิงตระหนกก็คือ เยี่ยนจ้าวเกอที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่เช่นนั้น

สภาวะโจมตีที่ดุดันเช่นนี้เหมือนกับไร้สิ้นสุด ไม่มีช่วงเหน็ดเหนื่อยโดยสมบูรณ์ อีกทั้งยังใช้ได้ตามใจนึก แทบไม่ต้องพักหายใจ

เพราะมาจากเนินต้นจักรพรรดิ หยวนเสี่ยนเฉิงจึงมีความรู้ไม่ธรรมดา ความสามารถของคัมภีร์พลิกฟ้าและคัมภีร์นภาหยินหยาง เขาเองก็เคยได้ยินมาบ้าง แต่ว่าพลังของเยี่ยนจ้าวเกอยังคงทำให้เขายากจะเชื่ออยู่ดี

‘เขากว่างเฉิง…การสั่งสมที่เปี่ยมล้นเช่นนี้ สำนักจากโลกเบื้องล่างมีได้อย่างไร’ หยวนเสี่ยนเฉิงรู้สึกสงสัยอยู่ลึกๆ

หลังจากที่ ‘ตาย’ เพราะกระบี่ของเยี่ยนจ้าวเกอไปครั้งหนึ่งแล้ว ตอนนี้หยวนเสี่ยนเฉิงก็ไม่กล้าพึ่งพาสี่จริยะคุ้มครองร่างอีก เขาใช้ร่างของหงส์เพลิงป้องกันการโจมตีของชายหนุ่ม

ยอดฝีมือระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ในขั้นสะพานเซียนที่ฝึกฝนม้วนคัมภีร์ร่างหงส์เพลิง ต่างมีโอกาสในการดับสิ้นและเกิดใหม่

หยวนเสี่ยนเฉิงมีวาสนามากมาย หลอมดวงตาสองข้างเป็นร่างแยกหงส์เพลิง มีโอกาสในการคืนชีพสองครั้ง!

ในห้วงเป็นตายและในเวลาที่จำเป็น เขาสามารถใช้ร่างแยกหงส์เพลิงของตัวเองตายแทนได้

นี่คือจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของหยวนเสี่ยนเฉิง ‘เนตรหงส์’ เป็นกระบวนท่าที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่มี

ยอดฝีมือที่อยู่ในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเก้าอย่างเผิงเฮ่อ ‘ราชาอัคคี’ และ จางซู่เหริน ‘ต้นจักรรพดิสยบภูผา’ ต่างก็ทำไม่ได้

ในวินาทีที่ค้นพบว่าเยี่ยนจ้าวเกอกางสายฟ้าอนธการ สังหารจอมยุทธ์เขามหาวิญญาณไปเป็นจำนวนมาก กระทั่งฆ่ายอดฝีมือในระดับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นหกที่เป็นคนในสำนักของพวกเขาทิ้งอย่างไร้สุ้มไร้เสียง หยวนเสี่ยนเฉิงก็ไม่กล้าดูแคลนเยี่ยนจ้าวเกออีก

ก่อนที่เข้าร่วมการต่อสู้ เขาก็ได้เตรียมทิ้งโอกาสคืนชีพครั้งหนึ่งของตัวเอง หรือทิ้งดวงตาข้างหนึ่งของตัวเอง ใช้วิธีต่อสู้สุดชีวิต ค่อยๆ โรมรันกับเยี่ยนจ้าวเกอแล้ว

ต่อให้เยี่ยนจ้าวเกอจะมีพรสวรรค์สูงส่งกว่านี้ มีวรยุทธ์สูงส่งกว่านี้ สุดท้ายก็ยังเป็นจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นเทวะสำแดง เขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะบดขยี้อีกฝ่ายอย่างช้าๆ ไม่ได้

แต่พอสู้มาถึงวินาทีนี้ หยวนเสี่ยนเฉิงก็เริ่มรู้สึกได้ว่า ถ้าหากตนยังใช้แผนการก่อนหน้าอยู่อีก วันนี้เกรงว่าตนเองจะต้องตายลงที่นี่แล้ว!

คนหนุ่มในอาภรณ์สีขาว สวมทับด้วยเสื้อคลุมสีน้ำเงินที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้ มีพลังแข็งแกร่งกว่าความรู้ความเข้าใจของเขาโดยสิ้นเชิง!

………………..