ตอนที่ 1306 ออกซิเจนทำมือ + ตอนที่ 1307 ใกล้ตายแล้ว โดย Ink Stone_Romance
ตอนที่ 1306 ออกซิเจนทำมือ
“เธอมีน้ำไหม?”
เหยียนหมิงซุ่นมองไปที่เหมยเหมยอย่างรีบร้อน ขอแค่มีน้ำก็จัดการได้แล้ว
เหมยเหมยมีสติมากขึ้น เธอพยักหน้าคิดไปว่าเหยียนหมิงซุ่นต้องการดื่มน้ำ หยิบกาน้ำพลาสติกขนาดใหญ่ออกมาจากมิติ เธอใช้กาน้ำพลาสติกความจุห้ากิโลกรัมแล้วใส่จนเต็มกา
เหยียนหมิงซุ่นมีพลังฮึกเหิมขึ้นมาบ้าง มีน้ำมากขนาดนี้เขารับประกันได้ว่าออกซิเจนต้องมีเพียงพอ
ไม่ผิดหรอก… เหยียนหมิงซุ่นคิดวิธีสร้างออกซิเจนด้วยมือได้แล้ว ไฟฉายเมื่อครู่ทำให้นึกขึ้นได้ มันทำให้เขานึกถึงการทดลองเอาน้ำมาสังเคราะห์ด้วยไฟฟ้าที่เขาเคยอ่านมาก่อน
น้ำประกอบไปด้วยอะตอมของไฮโดรเจนและอะตอมของออกซิเจน เพียงแค่ใช้ไฟฟ้าเพื่อแยกอะตอมทั้งสองชนิดนี้ ก็จะสามารถสร้างไฮโดรเจนและออกซิเจนได้ แม้ว่าจำนวนจะน้อยแต่เพียงพอสำหรับรอคอยคนด้านนอกมาช่วย
“มีดินสอไหม” ถามอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะมีลวดเหล็กบาง ๆแล้ว แต่มันจะดีกว่าถ้าเขามีไส้ดินสอเป็นสื่อ กระแสไฟฟ้าจะไหลได้ดีกว่าลวดเหล็ก
เหมยเหมยพยักหน้า คลำหาดินสอออกมาได้หนึ่งแท่ง เป็นดินสอ2B
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเหยียนหมิงซุ่นคิดจะทำอะไร แต่เธอรู้สึกได้ว่าเหยียนหมิงซุ่นกำลังคิดหาวิธีช่วยชีวิตพวกเราสามคน เธอนับถือในความสามารถวิสัยทัศน์ของผู้บริหารระดับสูงในอนาคตของเธอมาก พอรู้สึกว่าเธอมีโอกาสรอด อารมณ์ก็ดีขึ้นมาไม่น้อยเช่นกัน
เหยียนหมิงซุ่นหยิบมีดขูดเบา ๆ ไส้ดินสอ2B ทั้งสองแท่งก็ถูกลอกเปลือกออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เหยียนหมิงซุ่นหมุนปลอกไฟฉายเพื่อเอาถ่านออกมา เหมยเหมยหยิบไฟฉายขนาดใหญ่กว่าออกมา ด้านในมีถ่านไฟฟ้าสี่ก้อนน่าจะเพียงพอใช้ได้ในระยะหนึ่ง
“ฉันยังมีถ่ายไฟฟ้าอีก…”
เหมยเหมยคลำหาถ่านไฟฟ้ามาได้อีกสิบก้อน เป็นถ่านไฟฟ้า 5V ขนาดใหญ่ทั้งนั้น เธอเตรียมไว้สิบกว่าก้อน
เหยียนหมิงซุ่นดีใจจนอยากกอดว่าที่ภรรยาของเขาและกัดแรง ๆสักที ทำไมถึงได้คิดรอบคอบขนาดนี้นะ!
“มีเกลือไหม?”
เหยียนหมิงซุ่นถามอีกครั้ง เกลือสามารถเพิ่มการนำไฟฟ้าของน้ำได้ซึ่งถ้ามีจะดีกว่า เหมยเหมยก็ไม่ทำให้เขาผิดหวัง คลำหาถุงเกลือออกมาได้หนึ่งถุงและตามมาอีกสองขวด ก็เป็นเหยียนหมิงซุ่นที่ถามหาอีกเช่นกัน
ทุกอย่างเตรียมพร้อม เหยียนหมิงซุ่นเหลือบไปมองสีหน้าของเหมยเหมยที่เขียวม่วง ก็รีบดำเนินการเชื่อมต่อถ่านไฟฟ้าสิบก้อนเข้าด้วยกัน แบ่งไส้ดินสอสองแท่งวางบนขั้วทั้งสองของถ่านไฟฟ้า จากนั้นแบ่งไส้ดินสออีกแท่งสอดลงในขวดทั้งสอง นำขวดคว่ำลงไปในกะละมังใบใหญ่
แน่นอนว่ากะละมังใบใหญ่เหมยเหมยที่หาให้ มิติเล็กของเธอมีทุกอย่าง ของกินของใช้เครื่องดื่มมีครบ
เหยียนหมิงซุ่นจ้องไปที่ขวดทั้งสอง เขาไม่รู้ว่าเขาทำถูกขั้นตอนไหม หวังว่าทุกอย่างจะเป็นไปอย่างราบรื่น
ขอแค่อดทนต่ออีกสักสิบนาทีก็พอ เสียงภายนอกดังแว่วใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ น่าจะขุดมาถึงที่นี่ได้ภายในสิบนาที
สวรรค์ไม่รังแกคนที่มีความตั้งใจ!
สักพักในขวดก็ปรากฏฟองผุดขึ้นมาเป็นพรวน เหยียนหมิงซุ่นดีใจสุดขีดแล้วรีบไปอุ้มเหมยเหมยมาที่ข้างขวด ให้เธอหายใจเอาออกซิเจนจากขวด ตัวเองก็โน้มตัวเข้าไปสูดออกซิเจนเช่นกันแต่จะให้สิ้นเปลืองไม่ได้
ถึงแม้ว่าออกซิเจนจะไม่มาก แต่สำหรับพวกเขาในเวลานี้ไม่ต่างอะไรกับน้ำค้างช่วยชีวิต รู้สึกสบายตัวขึ้นมากทันที
“แม่ฉัน…”
เหมยเหมยนึกถึงเหยียนซินหย่าขึ้นมา ไม่รู้ว่าอาการของเธอเป็นอย่างไรบ้าง
โชคดีที่เหยียนซินหย่าได้รับบาดเจ็บสาหัสจึงหายใจแผ่วเบา ยังมีสภาพดีกว่าเหมยเหมยหน่อย เหยียนหมิงซุ่นหยิบหลอดมาสอดเข้ารูจมูกของเหยียนซินหย่า แล้ววางปลายอีกด้านไว้ที่ปากขวด
“พี่หมิงซุ่น เก่งชะมัด!”
เหมยเหมยมองไปที่เหยียนหมิงซุ่นอย่างชื่นชม สมแล้วที่เป็นนักเรียนดีเด่น แม้แต่วิธีการแบบนี้ก็ยังคิดได้ คนโง่แบบเธอมีสิ่งของมากมายแต่กลับไม่รู้ว่าใช้การอย่างไร
เหยียนหมิงซุ่นกระหยิ่มยิ้มย่องอยู่ในใจ โดยเฉพาะตอนได้รับสายตาชื่นชมของเจ้าหญิงน้อยของตัวเอง และแน่นอนเขาก็คิดว่าตัวเขาค่อนข้างเก่งอยู่เหมือนกัน
มีเสียงแว่วจากด้านนอกใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ตอนที่เหยียนหมิงซุ่นและเหมยเหมยคิดว่าจะได้ออกไปแล้ว จู่ ๆเสียงก็หยุดลง!
…………………………………………..
ตอนที่ 1307 ใกล้ตายแล้ว
เกิดอะไรขึ้น?
เหมยเหมยและเหยียนหมิงซุ่นต่างมองหน้ากัน ทำไมจู่ ๆถึงหยุดไปล่ะ?
มีเสียงแว่วดังมาจากข้างนอก เหยียนหมิงซุ่นหูดีจึงพอจะจับใจความได้ว่าเหมือนมีคนกำลังเถียงกันอยู่ ตั้งใจฟังดีๆ เหมือนว่าจะเป็นเสียงของลี่เมิ่งเฉินและพี่เสือ
สองคนนี้กำลังทำอะไร?
เวลาแบบนี้ยังจะทะเลาะกันอีก?
รถขุดดินสามคันทำงานภายใต้คำสั่งของลี่เมิ่งเฉิน แบ่งกันออกกันเป็นสามทิศทางและเริ่มขุด เพราะกังวลว่าจะขุดโดนเหยียนหมิงซุ่นจึงต้องดูให้แน่ใจก่อนถึงจะลงขุด ดังนั้นความเร็วในการขุดจึงช้ามาก นอกจากความเร็วจะช้าไปหน่อยแต่ อย่างอื่นราบรื่นดี
เมื่อเห็นว่าพวกเขาเกือบจะขุดถึงสถานที่เหยียนหมิงซุ่น ลี่เมิ่งเฉินกลับบอกให้รถหยุดขุด
“ขุดต่อไปไม่ได้แล้ว ฐานโครงสร้างที่นี่เริ่มหลวมแล้ว ถ้าขุดต่อไปอาจจะพังถล่มลงมาอีกครั้งจนถึงขั้นยุบตัวลงไปได้” ลี่เมิ่งเฉินสีหน้าท่าทางดูจริงจังมาก
เขาเพิ่งนึกย้อนกลับไปพลันจำได้ว่าที่ดินผืนนี้เคยเป็นที่นามาก่อน ต่อมาได้ถูกเปลี่ยนเป็นเขตอุตสาหกรรม
ที่นาเนื้อดินจะร่วนอ่อนนุ่ม ต่อให้ฐานโครงสร้างตอกลงไปลึกแต่ก็ง่ายต่อการถล่มยับตัวอยู่ดี ประกอบกับในช่วงไม่กี่ปีมานี้อัตราประชากรในเมืองจินเพิ่มขึ้นจึงสูบเอาน้ำบาดาลออกเป็นจำนวนมาก ทั้งเมืองจึงยุบตัวลงดังนั้นโรงงานเองก็กำลังจะยุบถล่มลงไปแล้ว
ตอนนี้ดันโดนระเบิด พอผ่านการโดนระเบิดไปครั้งหนึ่งชั้นดินจึงได้รับการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แน่นอนว่าฐานโครงสร้างคงไม่มั่นคงอยู่แล้ว ถ้าพวกเขายังขุดแบบนี้ต่อไปเกรงว่าตัวฐานโครงสร้างที่สั่นคลอนโยกเยกจะพังถล่มลงมา เมื่อถึงเวลานั้นหากคิดจะช่วยก็คงยากแล้ว
และยังไม่รู้ว่าจะลากพวกเหยียนหมิงซุ่นขึ้นมาได้หรือไม่!
“ตอนแรกนายเป็นคนบอกให้ขุด ตอนนี้นายกลับบอกว่าไม่ต้องขุดแล้ว สรุปจะให้ขุดไหม?” พี่เสือที่เก็บความโกรธเอาไว้ถึงขั้นสุดก็ปรี๊ดแตก
ลี่เมิ่งเฉินถอยห่างออกมา มองพี่เสือที่กำลังเกรี้ยวโกรธอย่างรังเกียจ “สถานการณ์ตอนนี้กับก่อนหน้านี้ไม่เหมือนกัน ตอนนี้แน่นอนว่าขุดต่อไม่ได้แล้ว นอกจากว่าคุณ…คุณอยากให้เจ้านายของคุณตาย”
“ฉันจะซัดแกให้เละเลย!” พี่เสือโมโหกระฟัดกระเฟียดชูกำปั้นขึ้นเตรียมชก ลี่เมิ่งเฉินรีบกระโดดหลบไปไกล ถ้าเขาได้รับหมัดอีกครั้งจมูกต้องหักแน่นอน
“ถ้าคุณล่าช้าต่อไปอีก ผมก็รับประกันไม่ได้ว่าเจ้านายของคุณจะอดทนไหว!” ลี่เมิ่งเฉินตีหน้านิ่งแต่ภายในใจกลับร้อนรุ่ม
เหยียนหมิงซุ่นห้ามตายเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเขาจะขอยาวิเศษจากใคร?
“พูดจาไร้สาระ คุณชายหมิงจะตายได้อย่างไรกัน?” พี่เสือตำหนิด้วยความโมโห
เขาเลื่อมใสศรัทธาในตัวเหยียนหมิงซุ่นมาก เขาเคยเห็นเหยียนหมิงวิ่งแข่งกับหมาป่ามากับตาตนเองและผลที่ได้คือเสมอกัน เมื่อครู่ที่อาคารพังถล่มลง ด้วยความเร็วและทักษะของคุณชายหมิงจะต้องหาที่เบี่ยงหลบได้อย่างปลอดภัยแน่นอน
ลี่เมิ่งเฉินส่งเสียงฮึเบา ๆ “เจ้านายของพวกคุณต่อให้วิ่งไวกว่าเสือดาว แต่ถ้าไม่มีออกซิเจนเขาก็ตายอยู่ดี”
“นายหมายความว่ายังไง?” พี่เสือซักไซ้ แต่ก็พลันนึกถึงเหตุผลขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว หน้าถอดสีแล้วรีบคว้าพลั่วพุ่งตัวไปขุดเอาพวกเศษซากอิฐออกต่อ
ลี่เมิ่งเฉินจับเขาเอาไว้ “คุณขุดแบบนี้ไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เมื่อครู่ผมคำนวณตามความเป็นไปได้ที่มากที่สุด สมมติว่าทั้งสามยังมีชีวิตอยู่ พวกเขายังมีออกซิเจนหายใจอีกสามชั่วโมง”
พี่เสือเผยสีหน้าดีใจ เขายกข้อมือขึ้นดูนาฬิกาวางใจมากขึ้นกว่าเดิม แล้วก่นด่าอย่างไม่สบอารมณ์ “นายพูดจาซี้ซั้วบ้าบออะไรกัน? ตอนนี้เพิ่งผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงครึ่ง ยังเหลือเวลาอีกตั้งชั่วโมงครึ่ง มันมากพอที่จะหาคุณชายหมิงแล้ว”
กรอกตามองบนส่งสายตาดูถูกเหยียดหยามให้ทีหนึ่ง ลี่เมิ่งเฉินพูดอีกรอบหนึ่ง “นี่เป็นความเป็นไปได้ที่มากที่สุดที่ฉันคำนวณได้ แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่น้อยที่สุดด้วย นั่นหมายความว่าอาจจะไม่มีออกซิเจนเลยและโดนทับตายไปแล้ว” เขามองข้ามสายตาที่เหมือนอยากจะฆ่าคนของพี่เสือ พูดเสริมว่า “จับความเป็นไปได้ทั้งสองมารวมกันแล้วแบ่งหาค่าเฉลี่ย มีความเป็นไปได้ว่าเจ้านายของคุณอาจจะยังมีออกซิเจนใช้หายใจอีกชั่วโมงครึ่ง”
พี่เสือนิ่งตะลึง สมองไม่สามารถใช้งานได้ชั่วขณะ
ลี่เมิ่งเฉินเตือนด้วยความหวังดี “ตอนนี้ใกล้จะหนึ่งชั่วโมงครึ่งแล้ว ตอนนี้เจ้านายของพวกคุณน่าจะขาดออกซิเจนอย่างรุนแรงจนใกล้ตายแล้วล่ะ”
………………………………………….