เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 1832 เพื่อนเกาของประเทศอู่อาน
ประเทศอู่อาน
เมืองหลวง ตำหนักไท่เหอ
ขุนนางฝ่ายพลเรือนและทหารยืนอยู่ทั้งสองด้าน ฉินซางต้าตี้มองดูทุกคนด้วยรอยยิ้ม และพูดเสียงดังว่า: “ขุนนางทุกท่าน ข้ามีข่าวดีจะบอกกับพวกท่าน การแข่งนานาประเทศ กำลังจะเริ่มขึ้นเร็วๆนี้แล้ว ตอนแรก ด้วยความแข็งแกร่งประเทศอู่อานของพวกเรา เป็นไปไม่ได้ที่จะพาคนจำนวนมากมายไปชมงานที่ยิ่งใหญ่นี้พร้อมกันได้ แต่ภรรยาของขุนนางที่กลับมาจากการเดินทางข้างนอก หลิงเหยากลับได้นำเรือหลายลำที่สามารถแล่นในอากาศเวิ้งว้างมาให้พวกเรา ดังนั้นครั้งนี้ พวกเราไปได้อีกหลายคน”
หลังจากที่พูดจบ ทุกคนก็มองไปในทิศทางเดียวกัน
ที่นั่น หลิงเหยาและคนอื่นๆยืนตัวตรงด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
คนที่ยืนข้างหลิงเหยา ก็คือหานเฟิง ศิษย์พี่ใหญ่และคนอื่นๆ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มทั้งหมด เพราะว่าหลิงเหยารับปากกับพวกเขาแล้วว่า จะพาพวกเขาไปในครั้งนี้ด้วย
ฉินซางต้าตี้ชะงักนิ่ง จากนั้นพูดว่า: “ตอนนี้นอกจากผู้ที่ถูกคัดเลือกไว้แต่แรกแล้ว ยังมีตำแหน่งว่างอีกสองตำแหน่ง พวกคุณสามารถเลือกได้ว่า จะมีใครไปด้วยกันดี แน่นอนว่า ข้ากับองค์ชายทั้งสองมีเรือของตัวเองไป พวกท่านก็ไม่ต้องเลือกข้าแล้ว สองตำแหน่งนี้ จะต้องใช้อย่างชาญฉลาด”
ทันใดนั้น ขุนนางแก่คนหนึ่งออกตัวพูดว่า: “กระผมขอเสนอเทียนชิงหยาง จากตระกูลเทียน แม้ว่า ในกระบวนการคัดเลือก เทียนชิงหยางจะพ่ายแพ้ให้กับท่านเคานต์ลู่ แต่ผ่านช่วงเวลาแห่งของการจดจำบทเรียนที่เจ็บปวดในอดีตและการจำศีลฝึกฝน เทียนชิงหยางจะต้องความก้าวหน้าอย่างมาก ให้เทียนชิงหยางไป จะมีผลที่น่าอัศจรรย์แน่ๆ”
ฉินซางต้าตี้พยักหน้าพูดว่า: “ไม่เลว เทียนชิงหยางใช้ได้จริงๆ ให้เขาเข้ามาเถอะ ข้าจะดูว่าตอนนี้เขามีความก้าวหน้าหรือไม่!”
หลู่เฉิงเซี่ยงก็เดินออกมาพูดในเวลานี้: “ข้าน้อยก็จะเสนอคนหนึ่งด้วย”
ฉินซางต้าตี้ตอบกลับว่า: “หือ? หลู่เฉิงเซี่ยงตั้งใจจะเสนอใครเหรอ? คงจะไม่ใช่หลู่ยินหลานของท่านหรอกนะ?”
หลู่เฉิงเซี่ยงตอบว่า: “ไม่ใช่อยู่แล้วครับ ข้าน้อยรู้จักข้อบกพร่องหลานสาวของตัวเองดีพอ อยู่ในประเทศอู่อาน หล่อนยังใช้ได้ แต่อยู่ในโลกนี้ คงจะไม่ได้ ข้าน้อยจะเสนอคนอื่น”
ฉินซางต้าตี้ขมวดคิ้วพูดว่า: “ใครกัน? ในประเทศอู่อานของฉัน ยังมีวีรบุรุษหนุ่มคนไหนที่สามารถใช้ประโยชน์ได้มากอยู่เหรอ?”
หลู่เฉิงเซี่ยงพูดด้วยรอยยิ้ม: “ฝ่ายบาทเชิญเขาเข้ามาพระราชวังก็พอ”
ฉินซางต้าตี้พูดด้วยรอยยิ้ม: “ที่แท้ยังมีการเตรียมตัวมาก่อนด้วย ให้เขาเข้ามา!”
สักพัก มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในพระราชาวัง
เมื่อเห็นรูปร่างหน้าตาของชายหนุ่มคนนี้ ทุกคนก็ตกใจในทันที
หานเฟิงก็เป็นคนแรกที่อุทานว่า: “หานหยวนหนิง!”
หานหยวนหนิงสวมชุดเผาบู๊ มีรอยแผลเป็นทั่วใบหน้า ตอนนี้ดูไปแล้วกลับตาลปัตรเป็นอย่างมาก และก็เป็นผู้ใหญ่มากๆ
ในดวงตาแฝงไปด้วยความเฉียบคม หานหยวนหนิงพูดเสียงดังว่า: “เข้าเฝ้าฝ่าบาท!”
ไท่จื่อฉินอวิ่นชี้ที่ใบหน้าของหานหยวนหนิงแล้วพูดว่า: “แกถูกเทียนชิงหยางฆ่าแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้…….”
หานหยวนหนิงตอบกลับอย่างใจเย็น: “ถูกต้อง ฉันโดนทำพิการแล้ว แต่ตอนนี้ฉันได้เกิดใหม่แล้ว!”
ฉินซางต้าตี้มองดูดวงตาของหานหยวนหนิง สัมผัสได้ถึงความมั่นใจและรัศมีที่แข็งแกร่งของหานหยวนหนิง และพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อยว่า: “ไม่เลว แต่ว่าฉันยังไม่สามารถเชื่อมั่นความแข็งแกร่งของนายได้หรอกนะ”
หานหยวนหนิงพูดอย่างเฉยเมย: “ฉันจะส่งจดหมายท้าประลองให้กับเทียนชิงหยางในอีกสามวัน ฝ่าบาทจะเชื่อปมได้หรือไม่ ถึงเวลานั้นรอดูก็พอ”
ทันใดนั้นสายตาของทุกคนที่มองดูหานหยวนหนิงก็เปลี่ยนไป ทันทีที่กลับมาก็จะส่งจดหมายท้าประลองกับคนที่ฆ่าตัวเองในตอนนั้น นี่เป็นความมั่นใจและความกล้าแบบไหนกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่พูดสิ่งนี้ สีหน้าของหานหยวนหนิงก็สงบนิ่งมาก และดูเหมือนไม่มีท่าทีเกลียดชังเลยแม้แต่น้อย!
ฉินซางต้าตี้พูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ดี งั้นก็จะหารือกันในอีกสามวัน เลิกประชุม!”
ทุกคนโค้งคำนับทำความเคารพ มองดูฉินซางต้าตี้ออกไป
รอจนร่างของฉินซางต้าตี้ลับหายไปจากสายตา หานเฟิงเข้ามาก่อน คว้าไหล่ของหานหยวนหนิงไว้แล้วพูดว่า: “นายกลับมาไม่กลับตระกูลก่อน นายทำบ้าอะไรเนี่ย?”
หานหยวนหนิงพูดด้วยรอยยิ้ม: “ก่อนหน้าที่ปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข จะไม่สร้างปัญหาให้กับตระกูล อีกสามวัน ฉันค่อยกลับไป”
หานเฟิงพยักหน้าพูดว่า: “ดี ฟังจากน้ำเสียงที่นายพูด ทำไมยิ่งอยู่ยิ่งเหมือนศิษย์น้องลู่ฝานของฉัน”
หานหยวนหนิงยิ้มเล็กน้อย ในเวลานี้กลับเดินไปตรงหน้าของหลิงเหยาแล้วพูดว่า: “ลู่ฝานอยู่ไหน? เขาอยู่ไหน?”
หลิงเหยาตอบอย่างเฉยเมย: “ยังเที่ยวเร่ร่อนอยู่ข้างนอก”
หานหยวนหนิงขมวดคิ้วพูดว่า: “งั้นเขาจะไปการแข่งนานาประเทศหรือเปล่า?”
ในดวงตาของหลิงเหยาแฝงไปด้วยแสงสว่าง และพยักหน้าพูดว่า: “เขาจะไป”
หานหยวนหนิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ดีมาก”
หลังจากพูดจบ หานหยวนหนิงก้าวใหญ่เดินออกไป
ศิษย์พี่ใหญ่ตบไหล่ของฉู่สิงแล้วพูดว่า: “หานหยวนหนิงคนนี้เหมือนกับศิษย์น้องลู่ฝานจริงๆ”
ฉู่สิงพูดด้วยรอยยิ้ม: “แต่เขายังสู้ศิษย์น้องลู่ฝานไม่ได้ ไปกันเถอะ กลับไปเถอะ ฉันจะไขว่คว้าเวลาฝึกฝน ฉันยังรอเซอร์ไพรส์ให้กับศิษย์น้องลู่ฝานอยู่”
ฉู่สิง ฉู่เทียน ศิษย์พี่ใหญ่ หานเฟิงก็หัวเราะขึ้นมา
หลายคนเดินออกจากวังไปด้วยกัน หลิงเหยาเดินออกจากพระราชวังพร้อมกับพวกเขา แล้วพูดว่า: “พวกนายกลับไปก่อนเถอะ ฉันไปที่เจดีย์ยาหน่อย”
หานเฟิงพูดว่า: “ไหนว่าอาจารย์ของลู่ฝานไม่เป็นไรไง? เธอจะไปทำไม?”
หลิงเหยาพูดว่า: “ไปบอกลานะ จะเดินทางไกลอีกแล้ว”
“ไม่ต้องบอกลาแล้ว พวกเราจะไปด้วยกัน”
ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้น ทันทีที่พูดจบ หานเฟิงและคนอื่นๆก็เห็นชายชราหลายคนเดินเข้ามา
หวูเฉิน ไอ้หลิว ยัยแก่หยาง และเซวียนหยวนเดินมาด้วยกัน
หานเฟิงและคนอื่นๆเห็นพวกเขา รีบโค้งคำนับและพูดว่า: “อาจารย์!”
“สวัสดีครับอาจารย์!”
หวูเฉินมองดูหลิงเหยาพูดด้วยรอยยิ้ม: “งานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ พวกเราก็ต้องไปดู ยิ่งไปกว่านั้น ลู่ฝานสู้สุดชีวิตนำของต่ออายุกลับมาให้ฉัน ฉันต้องให้เขาเห็นว่าฉันปลอดภัยดี ฉันก็ต้องเห็นว่าเขาปลอดภัยดีเช่นกัน”
ในดวงตาของหลิงเหยามีม่านน้ำตาและพูดว่า: “แต่ว่า…….”
หวูเฉินยกมือขึ้นพูดว่า: “เขาเป็นลูกศิษย์ของฉัน ฉันมั่นใจในตัวของเขา เขาจะต้องอยู่”
หลิงเหยาพยักหน้าอย่างหนักและพูดว่า: “ใช่ เขาต้องอยู่”
ไอ้หลิวตบหัวหานเฟิงแล้วพูดว่า: “ถ้าพวกแกไปขายหน้า ฉันก็จะทำให้พวกแกกลับมาไม่ได้อีก”
หานเฟิงกุมหัวแล้วตอบรับครับ
อีกด้านหนึ่ง
สำนักวิญญาณม่วง เขตใจกลางประเทศของสำนัก
ค่ายกลกระแสน้ำวน ก่อตัวขึ้นมาในเขตใจกลางประเทศ
เจ้าสำนักของสำนักวิญญาณม่วงยืนอยู่หน้าค่ายกลกระแสน้ำวน มองดูทุกคนที่ฝึกวิชาชั่วร้ายจำนวนมากมายที่อยู่ตรงหน้าแล้วพูดว่า: “พวกนาย ก็เป็นผู้ยอดเยี่ยมแห่งสำนักวิญญาณของฉัน ตอนนี้เป็นตัวแทนสำนักวิญญาณของพวกเราไปเข้าร่วมฝึกวิชาชั่วร้ายในภารกิจสูงสุด เพื่ออนาคตของการฝึกวิชาชั่วร้าย ทุ่มเทกำลังส่วนหนึ่งของตัวเองออกมา ฉันหวังว่าจะไม่มีใครทำพลาด เข้าใจมั้ย?”
ทุกคนก็ตอบรับ ท่านกลางฝูงชน อู่คงหลิงยืนอยู่ด้านหน้า สายตามองดูค่ายกลอย่างสงบ
ข้างหลังของเธอ จางเยว่หานพูดเบาๆว่า: “อาจารย์ ขอบคุณท่านจริงๆ พาฉันมาเข้าร่วมภารกิจที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ฉันตื่นเต้นมากจริงๆ!”
อู่คงหลิงตอบอย่างเฉยเมย: “ตื่นเต้นแค่ไหนก็ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ จำไว้ นี่เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พบกับผู้ฝึกวิชาชั่วร้ายระดับสูงของจิตใจเต๋าสำนักมาร อนาคตของพวกเรา อาจมีการเปลี่ยนแปลงที่สั่นสะเทือนโลกเพราะภารกิจในครั้งนี้ เข้าใจมั้ย?”
จางเยว่หานพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่าและพูดว่า: “ฉันเข้าใจ”
อู่คงหลิงพูดด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย: “ไม่ เธอไม่ยังเข้าใจ”
เจ้าสำนักของสำนักวิญญาณม่วงออกคำสั่งอย่างกะทันหัน
“เข้าค่ายกล!”
ทันใดนั้น ผู้ฝึกชั่วร้ายทั้งหมดก็เดินไปที่กระแสน้ำวน