ตอนที่ 1251: โลกจิ๋วหยานหวง (1)
เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าตรวจสอบหลุมดำ มันเป็นตาน้ำที่เกิดจากการถดถอยของโลก มันสงบมาก แต่ก็เต็มไปด้วยพลังลึกลับ แม้แต่วิญญาณของเจี้ยนเฉินที่เกินกว่าเซียนราชาขั้นสูงสุดก็ไม่อาจเข้าถึงมันได้
เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้ายืนอยู่ที่ขอบของหลุมดำสักครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าและกระโดดเข้าไป
เจียนเฉินรู้สึกว่าตัวเองร่วงลงอย่างกะทันหันเมื่อเขาเข้าไปในหลุมดำ แต่ความรู้สึกนั้นก็กินเวลาเพียงไม่กี่วินาที หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่ากำลังลอยอยู่กลางอากาศราวกับกับแรงดึงดูดของโลกได้หายไป พื้นที่รอบ ๆ สั่นไหวอย่างเป็นจังหวะ และเจี้ยนเฉินก็รู้สึกบางอย่างที่แตกต่างกันทุกครั้งราวกับว่าเขากำลังสัมผัสได้ถึงชีพจร
มันเป็นการเคลื่อนย้ายทางมิติใช่หรือไม่ ? ทันใดนั้นความคิดก็แว่บเข้ามาในใจของเจี้ยนเฉิน ทุกอย่างมืดสนิทและเขาก็ไม่เห็นอะไรเลย เมื่อตรวจสอบว่าเขายังปกติดีหรือไม่ สภาพแวดล้อมก็ปรากฏในสายตาของเขาทันที น่าเสียดายที่หลังจากที่เขาปรากฏตัว เขาก็ถูกจำกัดระดับทางด้านร่างกายของเขาทันที ด้วยพลังลึกลับทำให้เขาไม่อาจใช้อะไรได้มากไปกว่านี้
ไม่ต้องพูดถึงการถดถอยของโลก เจี้ยนเฉินไม่อาจรับรู้ได้ถึงสภาพแวดล้อมรอบ ๆ เขาในความมืดสนิท ความมืดดูเหมือนจะคงอยู่มาตั้งแต่ยุคต้นกำเนิด แต่ก็ดูเหมือว่าจะเป็นเวลาเพียงสั้น ๆ ไม่กี่วินาที ในที่สุดเจี้ยนเฉินก็สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ของต่างโลกได้ทั้งหมด
เจี้ยนเฉินยืนอยู่บนพื้นดินแข็ง ๆ และมองไปรอบ ๆ ทันที เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเถี่ยต้าก็ยืนอยู่ข้าง ๆ เขาโดยไม่ได้รับอันตรายใด ๆ เขาเดาว่าเขาอาจจะถูกเคลื่อนย้ายจากระยะทางไกล ๆ ผ่านความมืดสนิท การเคลื่อนย้ายผ่านหลุมดำเป็นอันตรายอย่างมาก เนื่องจากพวกเขาอาจจะหายไปกับความว่างเปล่าหากว่าเขาประมาทแม้เพียงเล็กน้อยหรือพวกเขาอาจจะถูกแยกออกจากกันหลังจากที่พวกเขาถูกเคลื่อนย้าย
มีมิติเอกเทศเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน พวกเขาไม่ได้มีความคิดเห็นใด ๆ กับมิติที่มีขนาดใหญ่ หากพวกเขาถูกแยกออกจากกันหลังจากที่ถูกเคลื่อนย้าย การมารวมกลุ่มกันอีกครั้งก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่โชคดีที่มันไม่ได้เกิดขึ้น
สายใยวิญญาณของข้าถูกเผาผลาญไปอย่างมากระหว่างที่ผ่านมาในอุโมงค์มิติ ตอนนี้มันอ่อนแรงอย่างมากและทนได้ไม่ถึง1 เค่อ เจี้ยนเฉิน ข้าจะทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อหาวัสดุที่ข้าต้องการก่อนที่สายใยวิญญาณของข้าจะสลายไป เมื่อข้าเจอข้าจะบอกเจ้าว่ามันอยู่ที่ไหน เทพเจ้าแห่งท้องทะเลกล่าว นางมาอยู่ด้านหน้าเจี้ยนเฉินและเถี่ยต้า แต่ตอนนี้ร่างของนางเลือนรางเป็นอย่างมาก ราวกับควันไฟที่พร้อมจะปลิวไปตามสายลม
มันจะเป็นการดีที่สุดที่เจ้าจะระบุตำแหน่งที่นี่เอาไว้ หากเจ้าเจอสิ่งเหล่านั้นและสามารถกลับมาที่นี่และก็จะสามารถกลับไปยังโลกเดิมของเราผ่านมิติด้านหลัง เทพเจ้าแห่งท้องทะเลพูดต่อ
เอาล่ะ ข้าจะทำแล้ว เจี้ยนเฉินกล่าว เขาได้ระบุตำแหน่งทันที การระบุดตำแหน่งของสถานที่นี้เป็นเรื่องง่ายที่สุดด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา เขาทำมันได้อย่างรวดเร็วและยังมีแผ่ขยายไปกว่าสามกิโลเมตรอีกด้วย
เทพเจ้าแห่งท้องทะเลจ้องไปที่เจี้ยนเฉินที่กำลังทำการระบุตำแหน่ง นางเข้าใจถึงความเร็วและวิธีของเจี้ยนเฉินในการทำการระบุตำแหน่ง นั่นหมายความว่าความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ในมิติเอกเทศ นั่นทำให้นางมีความสุขอย่างมาก
ยังมีเวลาอีก 3 เดือน นั่นควรจะมีเวลามากพอที่เจี้ยนเฉินจะสามารถรวบรวมสิ่งของให้ข้าที่นี่ บางทีเมื่อเจี้ยนเฉินออกไป ข้าจะสามารถสมความปรารถนาในการสร้างร่างกายใหม่ เทพเจ้าแห่งท้องทะเลคิด จากนั้นนางก็กระจายกลายเป็นควันเมื่อนางขยายพลังที่ถูกจำกัดของนาง ขณะที่นางหาวัสดุที่นางต้องการทุกทิศทาง
เจี้ยนเฉินมาด้านหน้าเถี่ยต้าและถามว่า เถี่ยต้า ความแข็งแกร่งของเจ้ายังปกติดีอยู่หรือไม่ ?
เถี่ยต้าหลับตาและสัมผัสถึงความแข็งแกร่งของเขาก่อนที่จะตอบว่า ข้าสามารถใช้ได้ตามปกติและแม้แต่ความลึกลับของสงครามก็ยังไม่ได้รับผลกระทบ ข้าสามารถใช้พลังได้ตามปกติที่นี่ เจี้ยนเฉิน แล้วเจ้าล่ะ ?
วิญญาณของข้าถูกจำกัดถึงหกในสิบส่วน ข้าไม่อาจสัมผัสความลึกลับของโลกได้เลย ข้าไม่อาจใช้พลังได้แม้แต่ระดับเซียนผู้คุมกฏ แต่ข้าสามารถใช้พลังบรรพกาลของข้าได้ตามปกติ เจี้ยนเฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่หนัก ๆ ก่อนที่จะปล่อยนูบิสออกมาจากวัตถุมิติ อย่างไรก็ตามจากการปรากฏตัวของเขาก็เริ่มอ่อนแอลงด้วยความเร็วไม่น่าเชื่อขณะที่เขาถูกปล่อย ไม่ถึงหนึ่งนาทีพลังงานของนูบิสก็ถูกจำกัดโดยพลังลึกลับ เขาไม่อาจแม้แต่จะใช้ความสามารถของเซียนราชาได้ เขาถูกลดระดับให้เท่ากับคนธรรมดา
นูบิสพลันซีดเซียวทันที เขาตะโกนออกมาว่า พระเจ้าช่วย สถานที่สีเลือดนี่คือที่ไหน ? ความแข็งแกร่งของข้าถูกจำกัดให้เหลือเพียงคนธรรมดาจริง ๆ เมื่อคิดถึงตอนที่ข้าแข็งแกร่งที่สุดแล้ว ข้า นูบิสผู้ยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอาชนะสัตว์อสูรระดับ 6 ที่นี่ได้ สถานที่แห่งนี้น่ากลัวเกินไปแล้ว เจี้ยนเฉินเอาข้ากลับไปยังวัตถุเซียนที นูบิสไม่เต็มใจที่จะอยู่ข้างนอกเพียงชั่วเวลาเดียวและกลับไปยังวัตถุเซียนทันที
ในบรรดาทั้งสามคน เจี้ยนเฉินใช้พลังบรรพกาลได้แม้ว่าพลังบรรพกาลของจริงจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับหนึ่งในหมื่นของความแข็งแกร่งของมันจริง ๆ แต่มันก็ยังมีคำว่า บรรพกาล อยู่ภายใน ดังนั้นข้อจำกัดของพลังปกติไม่อาจยับยั้งมันได้ สำหรับเถี่ยต้าเขาเป็นผู้รับมรดกของเทพเจ้าสงคราม เขามีต้นกำเนิดมาจากพลังงานของโลก ดังนั้นจึงไม่อาจเทียบเขากับกฏเกณฑ์ทั่วไปได้ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ว่าเขาถึงไม่ถูกจำกัดด้วยพลังจากมิติลึกลับ มีเพียงนูบิสเท่านั้นที่เดินตามเส้นทางการบ่มเพาะปกติ ดังนั้นเขาจึงได้รับผลกระทบจากข้อจำกัดเต็ม ๆ
เจี้ยนเฉินและเถี่ยต้าก็ออกจากตรงนั้น พวกเขาเลือกทิศทางหนึ่งก่อนที่จะมุ่งหน้าออกไปพร้อมกับมองรอบ ๆ อย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้พวกเขาได้อยู่บนพื้นที่ราบไร้สัญญาณชีพ ท้องฟ้ามีสีเหลืองซึ่งหายากมากและไม่มีพลังงานโลกและพลังลึกลับของโลก เจี้ยนเฉินไม่อาจสัมผัสกับพลังเซียนธาตุแสงได้
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินรู้สึกว่าพลังงานที่เขาไม่เคยเห็นหรือได้ยินมาก่อนจากพื้นที่นี้ แม้ว่าพลังงานมันจะเบาบางมาก แต่เขาก็รู้สึกได้ว่ามันไม่อ่อนด้อยไปกว่าพลังบรรพกาลของเขาได้
หลังจากนั้น เจี้ยนเฉินพยายามที่จะดูดซํบพลังงานลึกลับที่ทรงพลังนี้ แต่ความประหลาดใจก็เกิดขึ้นเพราะว่าเขาไม่อาจดูดซับพลังงานนี้ได้