ตอนที่ 1796 สตรีชุดเกราะลึกลับ

Alchemy Emperor of the Divine Dao

สตรีชุดเกราะจ้องมองไปยังผู้อาวุโสตระกูลฟู่ด้วยแววตาเย็นชา ราวกับอีกฝ่ายไม่ใช่นิรันดร์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะ แต่เป็นเพียงหนอนแมลงไร้ค่า

ผู้อาวุโสตระกูลฟู่ผู้นี้มีชื่อว่าฟู่ตงเสวี่ย เขาคือจอมยุทธที่บ่มเพาะพลังมาเป็นเวลานานกว่าแสนล้านปี ถึงแม้เขาจะไม่ใช่ปรมาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในตระกูลฟู่ แต่ก็เป็นถึงตัวตนระดับขอบเขตตำหนักอมตะ

โดยปกติแล้ว หากมีใครจ้องมองเขาด้วยสีหน้าเหยียดหยามแบบนั้น เขาคงลงมือตบหน้าคนผู้นั้นไปแล้ว แต่สำหรับสตรีชุดเกราะผู้นี้เขาไม่กล้าผลีผลามลงมือทำอะไร

นั่นเพราะอีกฝ่ายก็เป็นตัวตนระดับขอบเขตตำหนักอมตะเช่นกัน

ในพลังบ่มเพาะระดับนี้ ตราบใดที่ไม่ปลดปล่อยออร่าออกมาให้ชัดเจน ก็ไม่มีทางรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายมีขั้นพลังที่สูงขนาดไหน เพราะงั้นฟู่ตงเสวี่ยจึงไม่กล้าลงมือโดยไม่ไตร่ตรอง

“หลิงฮันอยู่ที่ไหน?” สตรีชุดเกราะกล่าวด้วยน้ำเสียงหยิ่งยโส

หลิงฮัน? ใครคือหลิงฮันกัน?

ถึงแม้เมื่อไม่นานมานี้ ชื่อเสียงของหลิงฮันจะดังกระช่อนไปทั่วตระกูลฟู่ แต่เพียงแค่นิรันดร์ระดับโลกียนิพพานคนเดียว ย่อมไม่เพียงพอที่จะทำให้ตัวตนระดับขอบเขตตำหนักอมตะให้ความสนใจ

ครืนนน!

ในจังหวะนั่นเอง จู่ๆเรือรบลำหนึ่งก็ลอยมาด้วยความเร็วสูง เมื่อเรือรบหยุดเคลื่อนไหว ชายชราร่างผอมคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่หัวเรือ สายตาของเขากวาดมองไปทั่วบริเวณก่อนจะกล่าว “เฒ่าเสวี่ย ข้าต้องการให้เจ้าส่งตัวใครบางคนให้กับข้า!”

เสียงของชายชราผู้นี้ดังกึกก้องราวกับฟ้าผ่า

ดวงตาของฟู่ตงเสวี่ยหรี่ลงพร้อมกับกล่าว “หานลั่ว เจ้าหมายความว่าอย่างไร เหตุใดจู่ๆถึงมาตามหาคนในตระกูลฟู่ของข้า?”

หานลั่วคือหนึ่งในผู้อาวุโสของตระกูลหานซึ่งเป็นขุมอำนาจสามดาว อีกฝ่ายคือนิรันดร์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะเหมือนกับเขา ซึ่งพวกเขาทั้งสองเคยปะทะกันมาแล้วกว่าร้อยครั้ง ทำให้เข้าใจเบื้องลึกในพลังของกันและกันดี

“ฮึ่ม มีเจ้าหนูใจกล้าคนหนึ่ง บังอาจทำลายกายหยาบของผู้สืบทอดตระกูลหานของข้าในโลกบรรพกาล แถมยังกล้าบุกมาท้าทายพวกข้าถึงภายในตระกูลหานอีกด้วย ท่านประมุขมีคำสั่งให้ข้ามาสังหารเจ้าหนูผู้นั้น!” หานลั่วกล่าวอย่างโหดเหี้ยม

ฟู่ตงเสวี่ยขมวดคิ้ว แม้แต่ประมุขตระกูลหานยังถึงขนาดออกคำสั่งให้สังหาร นี่แสดงว่าตระกูลหานต้องการกำจัดศัตรูผู้นั้นอย่างแท้จริง

“คนที่เจ้าตามหามีชื่อว่าอะไร?” เขาเอ่ยถาม

“หลิงฮัน!”

พรวด!

ฟู่ตงเสวี่ยสำลักและสีหน้าเปลี่ยนเป็นปั้นยาก

หลิงฮัน… หลิงฮันอีกแล้ว!

เจ้าหนูคนนี้คือใครกัน เหตุใดเขาถึงกล้าล่วงเกินขุมอำนาจระดับขอบเขตตำหนักอมตะถึงสองแห่ง?

ถ้าหากฟู่ตงเสวี่ยรู้ว่าหลิงฮันกล้าล่วงเกินแม้กระทั่งผู้สืบทอดตระกูลจื่อเหอ เขาคงสำลักออกมาเป็นโลหิตแน่นอน

“แม่นาง หลิงฮันเองก็ล่วงเกินตระกูลเจ้าด้วยงั้นรึ?” ฟู่ตงเสวี่ยมองไปยังสตรีชุดเกราะ

ในเมื่อหลิงฮันไม่ใช่คนของตระกูลฟู่ หรือผู้สืบทอดของขุมอำนาจใดภายใต้การปกครองของตระกูลฟู่ ฟู่ตงเสวี่ยจึงตัดสินใจมอบตัวหลิงฮันให้อย่างไม่ลังเล

แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาคิดไม่ตกคือเรื่องที่ว่า ทั้งหานลั่วและสตรีชุดเกราะต่างต้องการตัวหลิงฮันด้วยกันทั้งคู่ เพราะงั้นเขาควรจะส่งตัวหลิงฮันให้ใครดีล่ะ?

แววตาเย็นชาของสตรีชุดเกราะแสดงออกถึงความรู้สึกเบื่อหน่าย “แค่ส่งคนมาให้ก็พอ เจ้าจะมัวพล่ามไร้สาระให้เสียเวลาทำไม?”

ฟู่ตงเสวี่ยแทบจะระเบิดโทสะ ข้าเองก็เป็นนิรันดร์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะเหมือนกับเจ้าแท้ๆ แต่ท่าทีเช่นนั้นของเจ้ามันอะไร? ยิ่งกว่านั้นคือเจ้าเป็นฝ่ายมาขอความช่วยเหลือแท้ๆ แต่เหตุใดถึงได้ทำตัวหยิ่งยโสนัก?

“แม่นาง หลิงฮันต้องถูกส่งให้กับตระกูลหานของข้า!” หานลั่วที่ได้ยินก็รีบกล่าวกับสตรีเกราะด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ตระกูลหานจะต้องนำตัวหลิงฮันมาให้ได้ เพราะพวกเขาไม่ได้แค่อยากแก้แค้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องการความลับที่อยู่ในตัวหลิงฮันด้วย

“เจ้ากำลังข่มขู่ข้ารึ?” สตรีชุดเกราะมองไปยังหานลั่วด้วยแววตาเย็นชาและไร้สีหน้า

หานลั่วที่ถูกสายตาของอีกฝ่ายจ้องมองก็ชะงักแข็งค้างทันที หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับจะกระเด็นออกมาทางลำคอ

เขาตกตะลึงเป็นอย่างมาก สตรีผู้นี้เป็นนิรันดร์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะเหมือนกับเขาแท้ๆ แต่เหตุใดแรงกดดันถึงได้หนักหน่วงนัก?

“ไม่ว่าอย่างไรหลิงฮันก็ต้องถูกตระกูลหานของข้าจัดการ! แม่นาง ต่อให้หลิงฮันล่วงเกินอะไรพวกเจ้าไป แต่เขาจะตายด้วยเงื้อมมือพวกเจ้าหรือเงื้อมมือพวกข้า มันก็เหมือนกันไม่ใช่รึ?” หานลั่วกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เบาลงกว่าเดิม

สตรีชุดเกราะขมวดคิ้วอย่างหมดความอดทนและกล่าว “ไสหัวไปซะ ไม่เช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าทิ้งที่นี่!” ดวงตาของนางเปลี่ยนเป็นขึงขังและระเบิดจิตสังหารออกมา จนทำให้ท้องฟ้าสั่นไหว

“ถ้าไม่แสดงพลังให้เห็น เจ้าคงคิดว่าข้าอ่อนแอและยอมถูกรังแกได้ง่ายๆสินะ?” น้ำเสียงของหานลั่วแปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยม วิธีจะกำราบสตรีที่หยิงผยองเช่นนี้ มีทางเดียวคือต้องใช้กำลัง

สตรีชุดเกราะกวาดสายตามองอย่างไม่แย นางยื่นมือขวาออกไปและผลักเข้าใส่หานลั่ว “เจ้ารนหาที่ตายเอง!”

“โอหัง!” หานลั่วคำรามเสียงดัง สตรีผู้นี้มีนิสัยบ้าบิ่นเกินไป

เพียงแต่ว่าหลังจากนั้น หานลั่วก็ต้องอ้าปากค้างด้วยความตะลึง ดวงตาของเขาเบิกกว้างจนแทบถลนออกจากเบ้า การโจมตีด้วยฝ่ามือของสตรีชุดเกราะ ได้ควบแน่นตราประทับแห่งเต๋าให้กลายเป็นแท่งเสาขนาดมหึมาขึ้นบนท้องฟ้าและพุ่งทะลวงเข้าใส่เขา

แข็งแกร่ง… เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวอะไรเยี่ยงนี้!

“ห้ารากฐาน!” ฟู่ตงเสวี่ยอุทานด้วยเสียงหวาดผวาและมือทั้งสองข้างสั่นสะท้านเล็กน้อย

ระดับขอบเขตตำหนักอมตะคืออะไร?

ในความเป็นจริงระดับขอบเขตตำหนักอมตะนั้น สมควรจะถูกเรียกว่าระดับสร้างรากฐานอวัยวะภายใน เนื่องจากในระดับพลังนี้ จอมยุทธจำเป็นที่จะต้องขัดเกลาอวัยวะภายในด้วยพลังระดับขอบเขตตำหนักอมตะ โดยเรียงลำดับจากหัวใจไปยังตับ ม้าม ปอด และไต

กล่าวคือในระดับขอบเขตตำหนักอมตะ จะมีขั้นพลังอยู่ทั้งหมดห้าขั้น

ฟู่ตงเสวี่ยที่ขัดเกลารากฐานอวัยวะภายในด้วยพลังระดับขอบเขตตำหนักอมตะได้เพียงหนึ่งส่วน จึงถูกเรียกว่านิรันดร์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะหนึ่งรากฐาน แต่จากการโจมตีของสตรีชุดเกราะ เขาสามารถคาดเดาได้เลยว่าอีกฝ่ายนั้น มีพลังอยู่ในระดับของห้ารากฐาน!

‘ตูมมม’ อำนาจแห่งกฎเกณฑ์แพร่กระจายไปทั่วท้องฟ้า พริบตาเดียวร่างของหานลั่วก็หายไปอย่างไร้ร่องลอย

ฟู่ตงเสวียหวาดกลัวจนขาสั่น ปรมาจารย์ระดับขอบเขตตำหนักอมตะที่ไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็ล้วนแต่เป็นที่น่ายำเกรงถูกสังหารภายในหนึ่งกระบวนท่า โดยที่กายหยาบและดวงวิญญาณถูกทำลายไปพร้อมกันอย่างไม่เหลือซาก

สตรีชุดเกราะผู้นี้… มีขุมอำนาจระดับใดอยู่เบื้องหลังกันแน่!