ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1186 ฆาตกร
เขาอยากจะไปจัดการเรื่องศพของสองสามีภรรยาคู่นี้ ความจริงแล้วนอกจากพิธีเผาศพของพวกเขา ยังมีอีกหนึ่งเหตุผลสำคัญ
เขาได้ยินมาว่าก่อนที่สองสามีภรรยาจะเสียชีวิต ความจริงแล้วมีคนมาช่วยพวกเขาเอาไว้แล้ว เพียงแต่ว่าท้ายที่สุดได้ล้มเหลว สองสามีภรรยาคู่นี้ถูกทิ้งลงไปในทะเล งั้นคนที่มาช่วยพวกเขาคนนี้เป็นใครกันล่ะ?
คนที่จับตัวสองสามีภรรยาคู่นี้ แน่นอนว่าต้องเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังของวาริช
แต่คนคนนี้ยังกล้าที่จะเข้าไปช่วย งั้นเขาอยู่ในสถานะไหนกันล่ะ? หรือว่า จะเป็นคนของวาริช?
ดังนั้น ม็อกโกจำเป็นต้องไปดู เพราะว่าการตายของวาริช ทำให้เบาะแสต่อไปขาดหายไปแล้ว ทว่าคนด้านนอกต่างไปรู้ เดอะวิวซีด้านโน้นได้ทำลายเหรียญเกียรติยศลง5เหรียญแล้ว อีก5เหรียญที่เหลือ ในมือก็ไม่ได้มีหลักฐานอะไรใดๆแล้ว
“ไม่ต้องหรอก ผมไปเองดีกว่า คุณอยู่ที่นี่ดูแลพี่สาวให้ดีเถอะ”
“อืม”
คณาธิปรับปากอย่างง่ายดาย
ม็อกโกออกจากโรงพยาบาลไป พุ่งตรงไปที่สถานีตำรวจแล้ว
“สวัสดีครับ ผมมารับศพสองศพที่ถูกทิ้งลงทะเล ขอถามหน่อยว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน?
“คุณคือ?”
คนในสถานีตำรวจได้เห็นเขาแล้ว ปรากฏว่าก็เกิดความสงสัยขึ้นมา
ม็อกโกก็เลยเผยรอยยิ้มออกมา ตอบกลับไปว่า:“ผมเป็นเพื่อนสนิทของคุณชายวาริช ก่อนหน้านี้รู้จักกันที่ต่างประเทศ ครั้งนี้ได้ยินว่าที่บ้านของพวกเขาเกิดเรื่องขึ้นแล้ว ตั้งใจรีบมาโดยเฉพาะ นี่คือนามบัตรของผม”
พูดจบ เขาจึงเอานามบัตรอันหนึ่งยื่นมาแล้ว
นามบัตรอันนี้ ความจริงแล้วเป็นนามบัตรชนิดพิเศษ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขาอยู่ในหน่วยรบพิเศษได้ออกแบบขึ้นมา เผื่อว่าจะเจอสถานการณ์ที่จำเป็นต้องใช้สิ่งนี้ในอีกสถานะหนึ่ง เขายื่นออกมา ทันใดนั้น เพียงแค่อีกฝ่ายสงสัยแล้วเข้าไปตรวจสอบ ฐานข้อมูลที่แข็งแกร่งที่อยู่เบื้องหลังหน่วยรบพิเศษก็จะปล่อยข้อมูลออกมาอย่างอัตโนมัติเพื่อตอบรับกับข้อมูลที่มี ทำให้พวกเขาไม่มีทางแกะรอยเจอได้
ม็อกโกมองตำรวจสองคนนี้อย่างสงบ
แต่ว่า สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังคือ คนที่เป็นถึงนายตำรวจชั้นสูง รับนามบัตรของเขามาแล้ว กลับมองดูแวบเดียวเท่านั้น
“โอเค คุณมากับผม!”
หลังจากนั้น พวกเขาก็เดินเข้าไปแล้ว
ม็อกโกได้เห็นแล้ว ก็ขมวดคิ้วเป็นปม นำนามบัตรใส่กลับเข้าไปในกระเป๋าของตัวเอง แล้วเดินตามพวกเขาทั้งสองเข้าไป
แต่ว่า หลังจากเข้ามา เขาเข้าใจแล้วว่านายตำรวจสองคนนี้ทำไมถึงได้ไม่ดูนามบัตรของเขาอย่างจริงจัง เพราะว่าในสถานีตำรวจแห่งนี้ ยุ่งเหยิงมากจริงๆ
คงเป็นเพราะว่าเหตุการณ์การระเบิดของตระกูลโชคสกุล ในสถานีตำรวจจึงวุ่นวายกันไปหมด สายโทรศัพท์ก็ดังไม่หยุด เจ้าหน้าที่ภายในก็วิ่งวุ่นกันไม่หยุด ตะโกนพูดกันไปมาอยู่ตลอด แม้แต่ตัวเขาเองก็เกือบจะถูกตำรวจเหล่านั้นที่กำลังหัวหมุนกันไปหมดเกือบจะชนเข้าแล้วตั้งหลายครั้ง
“คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ต้องขอโทษด้วย วันนี้ที่สถานีวุ่นวายมาก เพราะว่าที่บ้านของเพื่อคุณเกิดเรื่องนี้ขึ้น ทางการตำรวจต่างก็เละเป็นโจ๊ก”
“ไม่เป็นไร”
สีหน้าของม็อกโกไม่ได้ดูไม่ดีอย่างในเมื่อสักครู่ เขาตอบกลับไปอย่างใจกว้างหนึ่งประโยค
นี่น่าจะเป็นสิ่งที่ทหารควรจะมี
ม็อกโกมาถึงห้องเย็น
“ถึงแล้ว พวกเขาอยู่ที่นี่แหละ แต่ว่า คุณยังไม่สามารถรับตัวพวกเขากลับไปได้ พวกเรายังต้องหาเบาะแสของคนร้ายจากร่างกายของพวกเขา ดังนั้น คุณทำได้เพียงเข้าไปดูสักหน่อยเท่านั้น”
คาดไม่ถึง ตำรวจสองคนนี้พาเขาเข้ามาที่นี่แล้ว กลับบอกกล่าวกับเขาอย่างนี้
ม็อกโกมองไปที่พวกเขาอีกครั้งแล้ว
เท่าที่ตนทราบ คนของอิสริยาภรณ์สิบดาว ได้แทรกซึมไปทั่วประเทศแล้ว เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น แน่นอนว่าร่างศพยิ่งรีบจัดการยิ่งดี จะไม่เกิดเรื่องยุ่งยากอะไรอีก
แต่ตอนนี้ ทางการตำรวจกลับพูดว่ายังต้องสืบหาฆาตกร?
ในตอนนี้ม็อกโกไม่รู้ว่าจะอธิบายความรู้สึกของตัวเองอย่างไรดี
แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่เขารู้ นั่นคือความภาคภูมิใจ ในประเทศที่ทุกพื้นที่แทบจะเต็มไปด้วยพวกคนชั่วร้ายและสารเสพติดแล้ว ยังมีที่ที่สะอาดแบบนี้อยู่
เขาดีใจเป็นอย่างมาก
ม็อกโกปิดประตูลงแล้ว เริ่มที่จะดูศพของทั้งสองไปด้วย พร้อมทั้งต่อสายโทรศัพท์ไปยังเมืองหลวงด้านโน้นด้วย
“ตืด……ตืดตืด……”
“ฮัลโหล?”
น้ำเสียงห้วนๆของผู้ชายดังออกมาจากสายโทรศัพท์ จากระยะไกล ต่างยังสามารถรู้สึกได้ว่าความโมโหของเขาที่ยังไม่ได้มลายหายไป
ม็อกโกได้ยินแล้ว ทำได้เพียงพูดออกไปเสียงเบาๆอย่างไม่มีทางเลือก:“ตอนนี้ผมอยู่ที่สถานีตำรวจ ได้เห็นศพของพ่อแม่บุญธรรมของวาริชแล้ว ศพของพวกเขาเสียชีวิตจากการจมน้ำจริงๆ แต่ว่า บนแขนของแม่บุญธรรมของเขา มีรอยบาดแผลอันหนึ่ง”
“หมายความว่าอย่างไร?”
ได้ยินสิ่งนี้ ถือว่า คนในสายโทรศัพท์อารมณ์ดีขึ้นมาบ้างแล้ว
ม็อกโกวางโทรศัพท์ลง นำมาถ่ายรูปที่ร่างของศพหนึ่งรูปแล้วส่งออกไป
ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น……
“ความหมายของคุณคือ ในตอนนั้นที่ผู้หญิงคนนี้ถูกมัดเอาไว้ เคยมีคนมาช่วยชีวิตเธอ?”
“ใช่!”
ม็อกโกถอนหายใจออกมา ปรากฏว่าพูดคุยกับคนที่ฉลาดหลักแหลม แม้แต่น้ำลายของตัวเองยังประหยัดลงได้มาก
“เป็นไปได้ว่าในตอนที่คนคนนี้กำลังช่วยชีวิตพวกเขาทั้งสอง คงคิดอยากจะใช้ของมีคมตัดเชือกที่มัดเอาไว้บนร่างกายของพวกเขา แต่สุดท้าย เขาล้มเหลวแล้ว สองสามีภรรยานี้จึงถูกโยนลงทะเล”
ม็อกโกวิเคราะห์จากร่างศพของผู้หญิงคนนี้ที่บริเวณใกล้ๆกับรอยเชือกมัดมีรอบบาดแผลของของมีคม
คำพูดนี้พูดออกมา ในสายโทรศัพท์เงียบไปหลายวินาที
เขากำลังคิดอะไรอยู่?
ม็อกโกได้เห็นสถานการณ์แล้ว จึงไม่ได้รบกวนเขา จึงนำโทรศัพท์เปิดสปีกเกอร์แล้ววางไว้ที่ด้านข้าง หลังจากนั้นเขาก็สวมถุงมือยางสีขาว เตรียมที่จะเริ่มสำรวจศพสองร่างนี้อย่างละเอียด
“นี่เป็นรอยบาดแผลจากมีดผ่าตัด”
“อะไรนะ?”
ม็อกโกที่กำลังก้มหน้าก้มตาอยู่ด้านข้างของศพอึ้งไปสักพัก