ตอนที่ 1258: การปรากฎตัวอีกครั้งของเมฆเก้าสี
เจี้ยนเฉินรวบรวมว่านฟื้นฟูทันที แม้ว่ามันจะเป็นสิ่งของธรรมดามากในโลกเก่าของจิตวิญญาณกระบี่ แต่มันก็ยังไม่เคยปรากฏขึ้นมาในทวีปเทียนหยวนมาก่อน
มันน่าเสียดายที่ว่านนี้มีขนาดเท่ากำปั้น มันยังไม่พอที่จะสร้างร่างของเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ข้าจะต้องรวบรวมว่านและแก่นแห่งน้ำพุชีวิตเหล่านี้ให้มากที่สุดในครั้งต่อไป เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเองและเดินทางต่อไปกับเถี่ยต้า
ย้อนกลับไปที่ทวีปเทียนหยวน เจียงหยางป้าและแม่ของเจี้ยนเฉินไป๋หยุนเทียนนั่งอยู่ในที่ประชุมของตระกูลเจียงหยางพร้อมกับชายชราหลายที่สวมชุดหรูหราและกำลังสนทนากันอยู่
เนื่องจากเจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนได้ให้กำเนิดลูกชายที่น่าประทับใจอย่างมากแก่พวกเขาและได้กลายเป็นบุคคลที่สามารถสร้างความรู้สึกที่ประทับใจได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะเทียบอะไรไม่ได้ในทวีปเทียนหยวนแต่ความเคารพที่เขาได้รับนั้นมากกว่าเซียนราชาชั้นสวรรค์ที่ 8 เสียอีก ก่อนหน้านี้พวกเขาทั้งสองแม้แต่เซียนราชาบรรพชนของตระกูลโบราณก็ยังต้องละความทิฐิของตนเองและแสดงความเคารพเพื่อผูกมิตร พวกเขาไม่กล้าที่จะล่วงเกินพวกเขา
ชายชราสุขุมคนหนึ่งที่พูดกับพวกตอนนี้คือเซียนผู้คุมกฎของตระกูลโบราณที่อยู่ใกล้ ๆ อาณาจักรเกอซุน พวกเขามาภายใต้คำสั่งของบรรพชนพร้อมกับของขวัญล้ำค่าเพื่อมาเยี่ยมหัวหน้าตระกูลและฮูหยินสี่
เป็นธรรมดาของเซียนผู้คุมกฏในทวีปเทียนหยวน ที่พวกเขาที่จะไม่ปรากฏออกมาภายในหนึ่งศตวรรษและบางคนก็ไปใช้ชีวิตอย่างสันโดษโดยไม่สนใจความรุ่งเรืองของตระกูล ไม่มีเซียนผู้คุมกฏคนไหนที่เฝ้าปกป้องอาณาจักรเกอซุนนอกเหนือจากเจียงหยางป้า หากก่อนหน้านี้เจียงหยางป้ายังต้องคำนับและระมัดระวังคำพูดของเขา เพราะว่าเขากลัวที่จะทำให้เซียนผู้คุมกฏเข้าใจผิดและทำให้ตระกูลของเขาต้องพินาศ
แต่ตอนนี้ ไม่เพียงแต่ทั้งสองจะยืนได้อย่างเท่าเทียมกับเซียนผู้คุมกฏของตระกูลโบราณ เขายังพูดคุยธรรมดา ๆ กับเซียนผู้คุมกฎได้อย่างไม่ต้องเกรงกลัวโดยที่พวกเขาไม่อาจแสดงความไม่พอใจของพวกเขาได้ นั่นคือสิ่งที่ทำให้พวกเขาได้ภาคภูมิใจ
มันหลายครั้งอย่างมากที่พวกเขารู้สึกภูมิใจในตัวลูกชายของพวกเขา เพราะพวกเขารู้ดีว่าสถานะของตระกูลและศักดิ์ศรีเหล่านี้ถูกนำมาโดยเจี้ยนเฉินลูกชายของพวกเขาเอง
ถ้าพวกเขาไม่มีเจี้ยนเฉิน ตระกูลเจียงหยางในตอนนี้ก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรมากและพวกเขาจะถูกเหยียบย่ำโดยสำนักหัวหยุนที่มีเซียนสวรรค์ 2 คน
หัวหน้า ฮูหยินไป๋ เราขออำลา บรรพชนของตระกูลหยุนเหอของเราได้บอกกับเราเป็นการส่วนตัวว่า ท่านหัวหน้าและฮูหยินสามารถมาเยี่ยมตระกูลของเราได้ตลอดเวลา เราจะต้อนรับท่านให้ดีที่สุดอย่างแน่นอน เราหวังว่าเราจะสามารถบรรลุข้อตกลงที่ดีกับตระกูลที่ยอดเยี่ยมของท่านและนายน้อยสี่ที่ถูกยกย่องให้เป็นสหายคนสำคัญของพวกเรา เซียนผู้คุมกฏจากตระกูลโบราณยืนขึ้นและป้องมือให้กับทั้งสองอย่างสุภาพ
เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนรีบป้องมือกลับ แต่พวกเขาสงบอย่างมากเพราะผู้เชี่ยวชาญของตระกูลโบราณและเหล่าคนสันโดษได้มาเยี่ยมพวกเขาตลอดเวลาในระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้ พวกเขาได้รับของขวัญจากเซียนผู้คุมกฏมาหลายครั้ง แม้กระทั่งเซียนราชาของบรรพชนตระกูลเทียนมู่ก็ยังมาหาเป็นการส่วนตัว
ในเวลานี้มีพลังงานกระเพื่อมออกมาจากลานด้านหลังของตระกูลเจียงหยาง ถึงแม้ว่ามันจะมีม่านพลังและค่ายกล แต่มันก็ไม่อาจขวางกั้นไว้ได้
เซียนผู้คุมกฏที่กำลังจะจากไปก็แปลกใจทันที พวกเขาตกตะลึงระลอกคลื่นพลังที่ทรงพลัง มันทรงพลังอย่างมาก ตามที่เขาเข้าใจ แม้กระทั่งเซียนผู้คุมกฎที่อยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 9 ก็ยังไม่อาจปลดปล่อยพลังเช่นนี้ออกมาได้
ท่านหัวหน้า ฮูหยินไป๋ ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่านี่คือ ? หนึ่งในชายชราคนหนึ่งถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เจียงหยางป้าและไป๋หยุนเทียนมองหน้ากัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็รู้สึกถึงระลอกคลื่นของพลังงานจากด้านหลัง แต่นั่นเป็นพื้นที่ต้องห้ามของตระกูลเจียงหยาง นอกจากลูกชายของเขาก็ไม่มีใครในตระกูลเจียงหยางที่จะสามารถเข้าไปได้ง่าย ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มองไปที่ท้องฟ้าด้านนอก ! ทันใดนั้นหนึ่งในเซียนผู้คุมกฏก็ตะโกนออกมาขณะที่เขาชี้ไปที่ท้องฟ้าด้านนอกของห้องโถง
ทุกคนเบนสายตาออกไปและเห็นเมฆสีสันสดใสหลายชั้น ทำให้ท้องฟ้าสีครามหายไป มันมีทั้งหมด 7 สี
พวกมันคือเมฆรุ้งเจ็ดสี มันเป็นสัญญาณของคนที่ก้าวไปถึงเซียนราชา มีบางคนตัดผ่านไปเป็นเซียนราชา !
มีใครตัดผ่านเป็นเซียนราชาในตระกูลเจียงหยางอีก ?
เซียนผู้คุมกฏของตระกูลหยุนเหอทั้งหมดตะโกนออกมาด้วยความชื่นชมพร้อมกับแสดงใบหน้าที่ประหลาดใจปรากฏขึ้นอยู่บนใบหน้าของเขา ในยุคที่ขาดแคลนเซียนจักรพรรดิ เซียนราชาได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปเทียนหยวนที่ยืนอยู่สุดปลายห่วงโซ่
แม้ว่าเขาจะเพิ่งทะลวงไปยังเซียนราชา เพียงแค่เอาชนะช่องว่างระหว่างเซียนผู้คุมกฏชั้นสวรรค์ที่ 9 ไปยังเซียนราชา เขาก็ยืนอยู่บนสุดช่วงโซ่ของทวีป
รุ้งเจ็ดสีปรากฏเงียบ ๆ และครอบคลุมไปหลายกิโลเมตร แม้แต่เซียนราชาในเมืองทหารรับจ้างที่อยู่ห่างออกไป 1 ล้านกิโลเมตรก็ยังสามารถสัมผัสมันได้
ผู้อาวุโสสูงสุดคนใหม่ของเมืองทหารรับจ้างบินอยู่เหนือดินแดนขณะที่เขาต้องไปทางอาณาจักรเกอซุน เขาพูดพึมพำว่า ตั้งแต่วันนี้ไป เซียนราชาอีกคนได้ปรากฏในทวีปเทียนหยวน ข้าสงสัยจริงว่าเขาเป็นใครกัน ?
ผู้พิทักษ์จักรพรรดิทั้งสี่ของอาณาจักรฉินหวงบินอยู่เหนือพระราชวังสวรรค์ฉิน พวกเขาทั้งสี่ยืนอย่างเงียบ ๆ ขณะที่พวกเขาจ้องไปไปยังทิศทางของอาณาจักรเกอซุน มีความชื่นชมอยู่ในสายตาของเขา
เซียนผู้คุมกฏทุกคนปรารถนาให้เขาสามารถกลายเป็นเซียนราชาได้ในสักวันหนึ่งและยืนอยู่บนจุดสูงสุดของทวีปได้อย่างแท้จริง น่าเสียดายที่หลายคนต่างก็ติดอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ 9 และมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ตัดผ่านเป็นเซียนราชาได้สำเร็จ
นอกเหนือจากพวกเขาแล้ว เซียนผู้คุมกฏทุกคนรู้สึกว่ามีใครบางคนกำลังจะกลายเป็นเซียนราชาต่างก็บินขึ้นสูงไปบนอากาศในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วทั้งทวีป พวกเขาจ้องมองขอบฟ้าไปอย่างเหม่อลอย
มีเสียงหวีดยาวจากลานด้านหลังของตระกูลเจียงหยาง มีร่างหนึ่งพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้าและส่องสว่างอย่างเหลือแสน มันเป็นภาพที่น่าประทับใจอย่างมาก
ร่างของหญิงสาวที่งดงาม แม้ว่านางจะดูเหมือนอยู่ในวัยกลางคน แต่นางก็ยังสวยงามอย่างมาก นางคือเจียงหยางซูอวี้หยวน
นางติดอยู่ที่ขั้นเซียนผู้คุมกฏชั้นสวรรค์ที่ 9 มาหลายปีแล้ว สภาพจิตใจของนางไม่สมบูรณ์เพราะนางมักคิดกังวลเกี่ยวลูกชายของนาง เจียงหยางซูหยุนคง ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้นางไม่อาจทะลวงผ่านได้ ไม่เพียงแต่ลูกชายของนางจะกลับมาอย่างปลอดภัย แม้กระทั่งตราผนึกที่อยู่บนหัวของเขาก็ถูกลบออกไป ดังนั้นเมื่อความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนางได้กลายเป็นความจริง ปมในจิตใจของนางก็ถูกขจัดออกไปและกลายเป็นเซียนราชาในที่สุด
ในเวลานั้น ประตูมิติก็ปรากฏขึ้นทันที เจียงหยางซูหยวนเซียวผู้ได้รับมอบหมายให้ดูแลพระราชวังอาณาจักรเกอซุนก็รีบกลับมาโดยเร็วที่สุด เขาจ้องมองไปยังเจียงหยางซูอวี้หยวนด้วยความตื่นเต้นเต็มสายตาของเขา การเป็นเซียนราชาไม่เพียงแต่จะเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น มันยังเพิ่มอายุขัยอีกด้วย เซียนราชามีอายุขัยยาวนานมากขึ้น
มีเซียนราชาอีกคนปรากฏอยู่ในตระกูลเจียงหยาง เซียนผู้คุมกฏจากตระกูลหยุนเหอพูดพลางถอนหายใจยาว
อย่างไรก็ตามเพียงครู่เดียวหลังจากที่เมฆรุ้งเจ็ดสีปรากฏขึ้นเมื่อตอนที่เจียงหยางซูอวี้หยวนเป็นเซียนราชาก็กระจายหายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานเมฆรุ้งที่สว่างกว่าเดิมก็เกิดขึ้นเต็มท้องฟ้า คราวนี้เมฆได้ปกคลุมไปทั้งทวีปและพวกมันก็เพิ่มเป็นเก้าสีจากเจ็ดสีก่อนหน้านี้ เมื่อเมฆเก้าสีรวมเข้าด้วยกันก็กลายเป็นฉากที่สวยงามที่สุดเท่าที่เคยมา เมฆได้ย้อมโลกทั้งใบและบดบังแสงจากดวงอาทิตย์
ความสุขที่อยู่บนใบหน้าของเจียงหยางซูอวี้หยวนและใบหน้าของเจียงหยางซูหยวนเซียวกลายเป็นแข็งค้างทันที พวกเขาจ้องมองไปที่เมฆเก้าสีอย่างว่างเปล่าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
เจียงหยางซูเซียวปรากฏตัวเงียบ ๆ บนท้องฟ้า เขาจ้องมองอย่างตกใจและไม่อยากเชื่อบนใบหน้าของเขา