บทที่ 1190 เกลียด

ยัยหมอวายร้ายที่รัก

ยัยหมอวายร้ายที่รัก บทที่ 1190 เกลียด

“ฉบับสุดท้าย คือบอกว่าเธอได้คลอดลูกแล้วเป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่ง คุณรู้ไหม? ในตอนที่ฉันได้รับจดหมายฉบับนี้ ในตอนนั้นสำนักข่าวต่างๆในประเทศต่างกำลังออกอากาศว่าไอ้ผู้ชายชั่วคนนั้นกำลังจัดงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่กับลูกสาวของขุนนางระดับสูง แต่ว่าพี่สาวของฉัน ในจดหมายกลับไม่ได้เขียนถึงเรื่องนี้!เธอเป็นคนโง่คนหนึ่ง เป็นคนโง่ที่แม้แต่ตัวเองจะตายแล้วยังปกป้องไอ้เดรัจฉานคนนั้นเอาไว้อีก!!”

เธอพูดพร้อมทั้งน้ำตา ต่อให้ถึงวันนี้แล้ว ในตอนที่พูดถึงเรื่องนี้ เธอยังคงเกลียดจนทั้งร่างสั่นเทา

เจ็บปวดจนแทบจะหายใจไม่ออก

ใช่สิ เรื่องแบบนี้ ต่อให้เป็นวันนี้ ไอ้ผู้ชายเดรัจฉานคนนั้น ก็มีเพียงต้องถูกสับให้เป็นหมื่นเป็นพันชิ้นเท่านั้น

ครีพัตราคลอดลูกชายออกมาในวันเวลานั้น เธอผ่านแต่ละวันไปอย่างไร ไม่มีใครรู้ แต่เธอน่าจะสิ้นหวัง เพราะว่าไม่นาน ลูกชายของเธอก็ถูกส่งตัวออกไปแล้ว

ทารกน้อยๆ เดิมทีเป็นความหวังเดียวของการมีชีวิตอยู่ของเธอ สุดท้าย กลายเป็นลูกชายคนเล็กของสมรมณ์วัลย์ในตระกูลเทวเทพ

ครีพัตราคนนี้ต่อมาก็ไม่ได้ปรากฏตัวอีกเลย

ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

มีเพียงพิมเจ้าน้องสาวของเธอในตอนนั้นได้ตามมาถึงเมืองหลวง ได้พบเจอว่าที่พี่เขยคนนั้น เธอถามเขาอย่างสงสัย เขาตอบมาเพียงหนึ่งประโยคว่า:“เธอไปแล้ว”

ไปแล้ว?

ผู้หญิงคนหนึ่งที่อุ้มท้องหกเดือนมาหาคุณ สุดท้าย กลับอธิบายกลับมาเพียงว่า “ไปแล้ว”?

พิมเจ้าไม่มีทางเชื่อ เธอเอาจดหมายที่พี่สาวเขียนถึงเธอในตอนนั้น มาเผชิญหน้ากับเขา เธอเตือนกับเขา ถ้าเขาไม่นำตัวพี่สาวกับหลานชายส่งมอบออกมา เธอจะนำเอาเรื่องน่าเกลียดของเขาออกมาเปิดโปงให้โลกได้รู้!

พึ่งจะได้เข้ารับตำแหน่งทางการเมือง

อีกทั้งพึ่งจะเกี่ยวดองกับครอบครัวที่จะทำให้เขาพัฒนาไปได้ไกลในอนาคต

ประพิศจากความอับอายและความรำคาญก็กลายเป็นความโมโหแล้ว

เขาควบคุมน้าสาวคนคนนี้เอาไว้ ได้ไม่นาน ก็ส่งคนไปที่ไซโกวางยาพิษพ่อของเธอทำให้กลายเป็นอัมพาต หลังจากนั้นเขาข่มขู่พิมเจ้า ถ้าเธอนำเรื่องนี้พูดออกไป งั้นต่อไปครอบครัวของพวกเขาทั้งสามต่างต้องตาย

ช่างน่าสงสารในตอนนั้นวีรบุรุษของไซโกที่มีคุณธรรมสูงส่งแม้แต่ไชยันต์ต่างยังชื่นชมและนับถืออย่างมาก สุดท้าย ก็ถูกผู้น้อยทำให้ร่วงลงมาแบบนี้แล้ว

สุดท้ายแล้วพิมเจ้าจึงทำได้เพียงกลืนเรื่องนี้ลงไปด้วยหยาดน้ำตาที่เป็นสายเลือดแล้ว

เธอออกจากเมืองหลวงไป กลับมามือเปล่าที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นและความอัดอั้นตันใจกลับมายังไซโก

ได้ไม่นาน เพราะว่าแรงโจมตี พ่อแม่ของเธอก็ได้ล้มหายตายจากไปแล้ว

พิมเจ้าโศกเศร้าและสิ้นหวัง ทว่าหลังจากได้ฝังศพของพ่อแม่ตัวเองแล้ว ความเคียดแค้นที่อยู่ภายในใจก็ได้ระเบิดออกมา จากนั้น หลังจากผ่านไปหกปี เธอกลับมาที่เมืองหลวงอีกครั้ง

ทว่าในตอนนั้น ประพิศได้ไปอยู่ที่ไวท์ พาเลซแล้ว

พิมเจ้ารู้ความแล้ว ครั้งนี้ หลังจากเธอมาแล้ว ไม่ได้ไปหาเขาอีก ทว่าหลังจากนั้นก็แอบสืบอย่างเงียบๆ สายตาเล็งไปอย่างแม่นยำในตอนนั้นตระกูลเทวเทพเป็นเพียงตระกูลเดียวที่สามารถต้านทานกับไวท์ พาเลซได้

หลังจากนั้น เธอจึงคิดหาวิธีเข้าใกล้ลำธารณีณพ่อของสุกฤต

บิดาของสุกฤต อยู่ในตระกูลเทวเทพความจริงแล้วไม่ได้เรื่องอะไรเลย ลำธารณีเดิมก็เป็นเพียงสายเลือดรอง ไม่ได้ถูกให้ความสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น ในตอนนั้นคนคนนี้ก็อายุยังน้อย พึ่งจะยี่สิบกว่า เป็นธรรมดาว่ายิ่งไม่ได้มีอำนาจอะไรแล้ว

แต่สุดท้ายแล้วพิมเจ้าก็ยังเลือกเขาแล้ว

ไม่ได้เพื่อสิ่งอื่นใด ในขณะเดียวกันเธอได้รับข้อมูลจากยุทธภพว่าในเมืองหลวงมีสมาคมลึกลับแห่งหนึ่ง——โรงน้ำชา สมาคมแห่งนี้กำลังสรรหาผู้มีศิลปะวิชาการต่อสู้ที่มีชื่อเสียงของยุทธภพ เธอต้องการจะเข้าไป

อีกทั้งบิดาของสุกฤต อยู่ค่อนข้างห่างไกลตระกูลเทวเทพ นี่จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด

หลังจากนั้น ทั้งสองเรื่องนี้ก็ต่างเป็นไปตามความปรารถนาของเธอแล้ว

หลังจากนั้นสองปี เธอให้กำเนิดลูกชายก็คือสุกฤต ทว่าเธออยู่ในโรงน้ำชา ก็เป็นเงาที่มีฝีมือคนหนึ่ง เธอก็ได้รับข้อมูลที่มากขึ้น

หนึ่งในนั้น ก็รวมถึงการขายจิตวิญญาณให้กับประพิศ!

“ดังนั้น ในตอนนั้นคุณจึงตรวจสอบเจอว่าลูกชายของพี่สาวอยู่ที่สมรมณ์วัลย์?”

“ใช่ ในตอนนั้นโรงน้ำชาทำงานให้กับประพิศจริงๆ แต่ว่า เขาไม่รู้ว่า ข้อมูลของเขาทุกอย่าง ก็อยู่ในโรงน้ำชา ฉันทำมาเป็นเวลานานแล้ว เพราะว่าหนักแน่นและเก็บความลับอยู่ ต่อมา ภารกิจสอดแนมเขาจึงตกมาอยู่กับฉัน แน่นอนว่า ก็ได้รู้แล้วว่าทุกๆสามเดือนเขาจะไปแอบดูวัฒน์หนึ่งครั้ง”

ในตอนที่พิมเจ้าพูดถึงเรื่องนี้ บนใบหน้าเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

ความจริงแล้วก็น่าเย้ยหยันอย่างมาก

เดิมทีนึกว่าตัวเองเป็นคนใหญ่คนโตยืนอยู่บนจุดสูงสุดของยอด แต่คาดไม่ถึงว่า สมาคมที่ขายจิตวิญญาณให้กับเขาแห่งนี้ ในขณะเดียวกันก็ปลิดชีวิตของเขา

ม็อกโกไม่ได้ถามอะไรอีกแล้ว

เพราะว่าเรื่องราวต่อไป เธอไม่พูดแล้ว เขาก็พอจะสามารถเดาออกได้แล้ว

โรงน้ำชาเป็นหน่วยข่าวกรองที่มีข้อมูลมากที่สุดแล้ว เมื่อผู้หญิงคนนี้ได้กลายเป็นคนสำคัญของที่นี่ เมื่อเธอได้ทำงานอยู่เป็นเวลานาน แน่นอนว่าก็ต้องรู้ว่าวัฒน์เดิมทีไม่ใช่ลูกชายของพี่สาว

ทว่าวาริชคนคนนี้ เวลาผ่านไปเนิ่นนาน เธอก็สามารถตรวจสอบออกมาได้

จากนั้นพี่สาวของเธอ!

ม็อกโกหรี่ตาลง ในสมองคิดทบทวนดูสุดท้ายก็เข้าไปในโรงน้ำชา อีกทั้งเพราะว่าเรื่องนี้สุดท้ายปาเวซตายอย่างน่าเวทนา อีกทั้งในเวลาสำคัญประพิศยังถูกพวกคนเหล่านั้นที่เป็นตัวตายตัวแทนทอดทิ้งอย่างไร้ความปรานี

เขาก็เข้าใจอย่างพอประมาณแล้ว งั้นการกระทำทุกอย่างก็เกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้

“ตี๊ดตี๊ดตี๊ดตี๊ด——”

ในตอนที่ทั้งสองยังอยู่ในห้องรับแขกแห่งนั้น ทันใดนั้น ในวิลล่าแห่งนี้ก็มีเสียงสัญญาณเตือนแหลมๆดังขึ้นมาแล้ว

“เสียงอะไร?”

ม็อกโกได้ยินแล้ว รีบเงยหน้าขึ้นไปมองทันที

ในตอนที่เขายังไม่ทันได้มองอย่างชัดเจน ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้สีหน้าก็ได้เปลี่ยนไปอย่างมาก:“ไม่ดีแล้ว พวกเขากำลังเข้ามาแล้ว คนคนนี้เป็นคนสำคัญของที่นี่ เขาต้องส่งสัญญาณเตือนออกไปแล้วอย่างแน่นอน!”