ตอนที่ 1262: รวมตัวที่เมืองทหารรับจ้าง
ดูเหมือนว่าเราจะไม่อาจทำอะไรได้มากกว่านี้ ไปที่เมืองทหารรับจ้างกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น บรรดาผู้อาวุโสถึงได้รีบร้อนจากไป นอกจากนี้นี่คือคำเชิญส่วนตัวของผู้อาวุโสสูงสุดเทียนเจี้ยน ทุกคนต้องเคารพเขา ท่านไม่คิดอย่างนั้นรึ ? เซียนราชาคนหนึ่งจากนิกายโพเทียนหนึ่งในสิบตระกูลผู้พิทักษ์พูดเสียงดัง ขณะที่เขามองไปที่เซียนราชาอิสระที่อยู่รอบ ๆ ตัวของเขา แม้กระทั่งก่อนที่พวกเขาจะได้เป็นเซียนจักรพรรดิ เมืองทหารรับจ้างก็อยู่ในจุดสูงสุดเหนือตระกูลผู้พิทักษ์ ตอนนี้พวกเขามีเซียนจักรพรรดิแล้ว พวกเขาเปรียบเทียบไม่ได้กับอดีต แม้แต่ตระกูลผู้พิทักษ์ก็ยังต้องทำตัวนอบน้อม
ฮ่าฮ่า แน่นอน ผู้อาวุโสสูงสุดเทียนเจี้ยนเคยเป็นบุคคลที่น่านับถือในทวีปเทียนหยวน ข้าไม่คิดว่าพวกเราคนใดในปัจจุบันจะปฏิเสธคำเชิญของผู้อาวุโสสูงสุดเทียนเจี้ยน และเนื่องจากที่ว่าเขามีเรื่องสำคัญที่ต้องจัดการก่อนที่จะพูด มันจะต้องเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก สุดท้ายข้าก็เชื่อว่าเขาไม่ใช่คนโกหก เจ้าอาจจะไม่รู้เรื่องสำคัญที่ผู้อาวุโสสูงสุดเทียนเจี้ยนต้องการพูดคุยกับเรา อาจจะเป็นแค่ประสบการณ์ความรู้ของเขาในการเลื่อนระดับเป็นเซียนจักรพรรดิ ชายชราหน้าแดงหัวเราะเสียงดัง เขาเป็นหนึ่งในผู้อาวุโสสูงสุดจากสำนักธูปสวรรค์ นอกจากนี้เขายังจ้องมองผู้บ่มเพาะอิสระทุกคน ขณะที่เขาพูดอย่างชัดเจน
ในทวีปเทียนหยวนโดยไม่ต้องคิดถึงตระกูลผู้พิทักษ์,ตระกูลโบราณหรือจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาทั้งหมดไม่มีวันปฏิเสธคำเชิญของเมืองทหารรับจ้าง ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาเป็นคนที่มีองค์กรใหญ่หนุนหลังและไม่มีใครต้องการที่จะล่วงเกินเมืองทหารรับจ้างที่อยู่จุดสูงสุด อย่างไรก็ตามสิ่งนี้แตกต่างกันไปสำหรับผู้บ่มเพาะอิสระที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มใด ๆ และไม่มีข้อจำกัดหรือผูกมัด ในหมู่พวกเขามีคนที่ภูมิใจตัวเองและโอหังพอที่จะไม่กลัวเมืองทหารรับจ้าง
หลายคนในตอนนี้เข้าใจว่าเซียนราชาทั้งสองได้ก้าวมาด้านหน้าเพื่อแสดงจุดยืนของพวกเขาต่อเมืองทหารรับจ้างผ่านคำพูดที่พวกเขาเพิ่งพูดออกมา
ต่อจากนั้นบรรดาเซียนราชาจากตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งสิบ, ตระกูลโบราณ, สามจักรวรรดิและกลุ่มอื่น ๆ ก็เปิดประตูมิติและรีบจากไป พวกเขาทั้งหมดมุ่งหน้าไปที่เมืองทหารรับจ้าง
หลังจากนั้นไม่นานมีเพียงเซียนราชาอิสระไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าร่วม แน่นอนว่าพวกเขาไม่เต็มใจที่จะทำตามคำเชิญของเทียนเจี้ยน พวกเขาเคยชินกับความอิสระและทำอะไรก็ได้ตามที่พวกเขาต้องการ โดยไม่ต้องแก่งแย่งกับองค์กรใหญ่ ๆ แม้ว่าเทียนเจี้ยนจะบอกว่ามีเรื่องสำคัญที่จะต้องพูดคุย แต่หลายคนก็เชื่อว่ามันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา
อย่างไรก็ตามหลังจากสิ่งที่เซียนราชาสองคนจากนิกายโพเทียนและสำนักธูปสวรรค์ได้กล่าวหลายคนก็เปลี่ยนใจทันที พวกเขาไม่กลัวที่เมืองทหารรับจ้างจะโจมตีพวกเขาเนื่องเขาพวกเขาเป็นเมืองมหาอำนาจที่โด่งดังและจะไม่โกรธพวกเขาในเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ สิ่งที่พวกเขาเปลี่ยนใจจริง ๆ คือสิ่งที่คนจากสำนักธูปสวรรค์กล่าว
แม้ว่าพวกเขาหลายคนจะเข้าใจว่าเทียนเจี้ยนจะไม่บอกถึงประสบการณ์ของเขาตอนที่ได้เลื่อนระดับเป็นเซียนจักรพรรดิของเขา แต่การล่อลวงถึงการที่ได้กลายเป็นเซียนจักรพรรดิก็ยากที่จะต่อต้าน แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่พวกเขาก็ยังคงหวังเล็ก ๆ
เป็นเหตุให้เซียนราชาอิสระลังเลก่อนที่จะเปิดประตูมิติและมุ่งหน้าไปยังเมืองทหารรับจ้าง
เทียนเจี้ยนและเซียนราชาของเมืองทหารรับจ้างได้กลับมาที่เมือง พวกเขาทั้งหมดจ้องมองไปที่พื้นดินซึ่งแตกระแหงด้วยใบหน้าที่ไม่น่ามอง
ม่านพลังป้องกันเมืองได้หายไปและแม้แต่พลังงานที่น่าสะพรึงกลัวที่อยู่บนพื้นดินก็หายไป ทำให้พื้นดินนั้นบอบบางอย่างยิ่ง ตอนนี้เนื่องจากการสั่นไหวอย่างรุนแรงพื้นดินจึงแตกออก มองจากความสูงมันราวทำให้เห็นว่าเมืองตกอยู่บนใยแมงมุมขนาดใหญ่ สิ่งก่อสร้างที่สร้างขึ้นก็ถูกทำลายและเมืองที่สวยงามก็หายไปกลายมาเป็นเมืองที่ตกอยู่ในหายนะ
ในขณะนั้นเซียนราชาจากตระกูลผู้พิทักษ์, สามจักรวรรดิและตระกูลโบราณทั้งหมดก็มาถึงเมืองทหารรับจ้าง ทันทีที่พวกเขาโผล่ออกมาจากประตูมิติ พวกเขาก็ตะลึงกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในครั้งนี้ ใบหน้าของพวกเขาที่ดูเหมือนพยายามข่มความรู้สึกของพวกเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะสงบลงได้
สุดท้ายเซียนราชาจากตระกูลผู้พิทักษ์ที่พยายามเก็บความรู้สึกได้ก่อนคนอื่นก็อ้าปากค้างและมาถึงด้านข้างของเทียนเจี้ยนก่อนที่จะป้องมือถามว่า ผู้อาวุโสสูงสุดเทียนเจี้ยน มันเกิดอะไรขึ้น ? ทำไมเมืองทหารรับจ้างถึงได้กลายมาเป็นอย่างนี้ ?
เซียนราชาได้ถามคำถามแทนคำถามในใจของทุกคน ทันใดนั้นทุกคนก็มองดูเทียนเจี้ยน
เทียนเจี้ยนไม่ได้พูดอะไร เขาจ้องมองไปที่พื้นอย่างดุดันพร้อมกับมีแสงวาบในสายตาของเขา
ตูมม ! ในเวลานั้นเสียงดังกังวาลใต้เมืองทหารรับจ้างก็ดังขึ้นพร้อมกับพื้นดินที่สั่นสะเทือนมากยิ่งขึ้น พลังงานที่น่าหวาดหวั่นได้พวยพุ่งออกมาจากผืนดินทำให้เซียนราชาสั่นไหว แม้ว่ามันจะออกมาเพียงเล็กน้อย แต่มันก็ยังเหนือกว่าระดับของเซียนจักรพรรดิ
ช่างน่ากลัวเหลือเกิน ! มีอะไรอยู่ใต้ดินกัน ? เซียนราชาคนหนึ่งจากตระกูลโบราณถามด้วยใบหน้าที่ซีดขาว เขารู้สึกว่าเขาไม่มีพลังพอราวกับมดที่อยู่ต่อหน้าคลื่นพลังอันนี้ มันทำให้เขาตัวสั่นอยู่ภายใน
ในขณะเดียวกันพลังงานที่ทรงพลังก็ระเบิดขึ้นจากใต้เมือง หลุมกว้างกว่าสามเมตรก็ปรากฏขึ้นทันทีพร้อมกับพื้นที่แตกกระจายและหลังจากนั้นร่างทั้งสี่ก็ลอยขึ้นมาอย่างรวดเร็วพร้อมกับพลังงานที่ทรงพลังอย่างมาก ในที่สุดพวกเขาก็ถูกลอยเข้าหาเทียนเจี้ยนและพลังงานที่อยู่รอบ ๆ ตัวของพวกเขาก็หายไปอย่างเงียบ ๆ
พวกเขาทั้งสี่คือ หมิงตง, หยางหลิง,เจียงหยางซูหยุนคงและหวงเทียนป้า ผู้ที่ซึ่งบ่มเพาะอยู่ใต้เมือง
เซียนราชาทั้งหมดจ้องมองไปที่พวกเขาทั้งสี่ด้วยความประหลาดใจราวกับว่าพวกเขาเพิ่งเห็นผี ไม่มีใครนอกจากเทียนเจี้ยนจะคิดว่าเซียนผู้คุมกฏ 3 คนและเซียนสวรรค์จะอยู่ใต้เมือง
จะ-เจ้าเป็นใคร ? ทำไมเจ้าถึงอยู่ใต้เมือง ? พูดออกมาเจ้าทำอะไรด้านล่างนั่น ? เซียนราชาของเมืองทหารรับจ้างถามออกมาตามความรู้สึกและจ้องมองพวกเขาด้วยสายตาที่วาวโรจน์
เทียนเจี้ยนยกมือขึ้นหยุดผู้เชี่ยวชาญที่ต้องการจับกุมทั้งสี่ เขาจ้องมองพวกเขาและถามว่า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ?
หมิงตง, หยางหลิง, เจียงหยางซูหยุนคงและหวงเทียนป้าต่างก็สับสนเช่นกัน พวกเขาบ่มเพาะอยู่ใต้ดินดี ๆ แต่พวกเขาก็ถูกเสี่ยวหลิงปลุกขึ้น ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ พวกเขาก็ถูกส่งขึ้นมาบนพื้นดินโดยที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ผู้อาวุโสสูงสุด พวกเขาทั้งสี่อยู่ใต้เมืองด้วยเหตุผลบางอย่าง เราไม่รู้ว่าเขาทำเพื่ออะไรและทำได้อย่างไง ข้าคิดว่าการเปลี่ยนแปลงที่ฉับพลันของเมืองจะต้องเกี่ยวกับพวกเขาโดยตรง ขอผู้อาวุโสสูงสุดตัดสินใจ เซียนราชาจากเมืองทหารรับจ้างพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ขณะที่จ้องมองพวกเขาทั้งสี่ด้วยความเป็นศัตรูอย่างเห็นได้ชัด
เทียนเจี้ยนส่ายหน้า นี่ไม่เกี่ยวกับพวกเขา ข้ารู้บ้างเล็กน้อยว่าทำไมถึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ขึ้น
ห๊ะ ? ผู้อาวุโสสูงสุด ท่านรู้งั้นหรือ ? เซียนราชาอีกคนจ้องมองเทียนเจี้ยนด้วยความประหลาดใจ
ในเวลานี้ก็มีเซียนราชาอีกหลายคนปรากฏขึ้น เซียนราชาอิสระได้มาถึงแล้วและทุกคนก็ตกตะลึงเมื่อเห็นเมืองถูกทำลาย ทุกคนจ้องมองไปด้วยใบหน้าตื่นตกใจ
เทียนเจี้ยนจ้องมองทุกคนในตระกูลผู้พิทักษ์และถามอย่างหนักแน่น ทุกคนยังจำเรื่องที่ข้าคุยกับทุกคนได้หรือไม่ เมื่อตอนที่ข้าได้เชิญทุกคนมาที่เมืองหทารรับจ้างเมื่อหลายปีก่อน ?
แน่นอน พวกเราจำได้ ผู้อาวุโสสูงสุด มันเป็นเรื่องจริงงั้นหรือ ? มีอุโมงค์ไปต่างโลกอยู่ใต้เมืองจริง ๆ ? และคนจากต่างโลกก็มีพลังเทียบเท่ากับเซียนจักรพรรดิมากกว่าสิบคน ? เซียนราชาคนหนึ่งจากตระกูลผู้พิทักษ์ถามด้วยน้ำเสียงที่หนักอึ้ง ใบหน้าของเขาแย่มาก คนในตระกูลผู้พิทักษ์ทั้งหมดเคยได้ยินเกี่ยวกับผนึกใต้เมือง อย่างไรก็ตามเรื่องเหล่านี้มันเหลือเชื่อเกินไป พวกเขาเลือกที่จะไม่เชื่อในตอนก่อนหน้าจนกว่าจะได้เห็นมันด้วยตาตนเอง มันก็ราวกับข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง
อย่างไรก็ตามพวกเขาอดไม่ได้ที่มันออกจากเหลือเชื่อเล็กน้อย เพราะเมืองทหารรับจ้างเป็นเมืองที่ทรงอิทธิพลที่สุดในทวีปนี้ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
ว่าไงนะ ? มีผนึกอยู่ใต้เมืองทหารรับจ้าง….
มีคนที่อยู่ในระดับเดียวกับเซียนจักรพรรดิหลายสิบคน ? เป็นไปได้อย่างไร…
เซียนราชาสองสามคนที่ไม่เคยได้ยินเรื่องเหล่านี้มาก่อน เผยให้เห็นการแสดงออกที่แตกต่างกันทันที พวกเขาทุกคนหวาดกลัวพลังของโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้ง ในตอนนี้ทวีปเทียนหยวนมีเซียนจักรพรรดิอยู่ 3 คนเท่านั้น พวกเขาจะขับไล่คนจากโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งได้อย่างไร หากพวกเขามีพลังอย่างนั้นจริง ๆ ? แม้กระทั่งสี่เผ่าพันธุ์ใหญ่มารวมกันก็ยังทำได้แค่รอโดนสังหาร
ในเวลานี้พลังงานภายในอุโมงค์สีดำที่นำทางไปต่างโลกก็ปั่นป่วนอยู่ใต้เมือง มันทำให้พื้นที่รอบ ๆ สั่นอย่างไม่แน่นอน รูปแบบผนึกได้กลายเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาทุกคนและทุก ๆ เกลียวก็ส่องแสงแพรวพราว พลังงานที่น่ากลัวเต็มไปทั่วพื้นที่ มันเป็นเหมือนกับตาข่ายขนาดใหญ่ตรงข้ามกับทางเข้า
เสี่ยวหลิงอยู่ตรงกลางค่ายกล ขณะที่ดวงตาที่สุดใสของนางกระพริบ นางจ้องเขม็งไปยังค่ายกลที่อยู่ด้านหน้าของนาง ขณะที่ใบหน้าที่เหมือนเด็กแสดงสีหน้าที่หวาดกลัวออกมา นางดูน่าสงสารอย่างมาก
โอ้ ไม่ ไม่นะ ! ผนึกของนายท่านใกล้จะพังแล้ว ข้าจะทำอย่างไรดี ข้าไม่อาจยื้อไว้ได้นานกว่านี้อีกแล้ว พี่ใหญ่ ท่านอยู่ไหน ? ข้ากลัวมาก เสี่ยวหลิงโฉบไปมาใต้ดินพร้อมกับส่งเสียงสะอึกสะอื้น
พี่ใหญ่อ่อนแอเกินไป แม้ว่าเขาจะอยู่ที่นี่ข้าก็ไม่อาจช่วยข้าได้ นายท่าน นายท่านอยู่ไหน ? นายท่านออกมาช่วยข้าเร็ว ข้าไม่อาจยื้อผนึกนี้ไว้ได้อีกแล้ว คนผู้นี้มีพลังมากเกินไป โฮโฮ~ นายท่านอยู่ไหน ? อย่าทิ้งข้าไว้… เสี่ยวหลิงไม่อาจทำอะไรได้นอกจากร้องไห้ออกมาทันทีที่พูดถึงนายท่านของนาง ความสามารถของนางกับโมเทียนหยุนนั้นก็เหมือนกับลูกสาวกับพ่อ โมเทียนหยุนนั้นหายไป นางเหมือนกับเด็กอายุสามขวบที่สูญเสียทั้งพ่อและแม่